Eternal Martial Sovereign - ตอนที่ 48 – อัจฉริยะ
Chapter 48 – อัจฉริยะ
หลังจากกลั่นสกัดเม็ดยาเม็ดแรกของเขา เซี่ยวหยุนก็ไม่ได้หลงระเริงไปกับความภาคภูมิใจ แต่กลับกลั่นสกัดเม็ดยาต่อด้วยประสบการณ์ที่เขาเพิ่งจะได้รับมา
“เพียงแค่เมื่อตอนนั้นข้ากำลังกลั่นสกัดหญ้าจันทราละลาย เปลวไฟของข้าก็รุนแรงเกินไป ทำให้มันสูญเสียคุณสมบัติทางยา เป็นผลให้เกิดสิ่งเจือปนเหล่านี้ ข้าจำเป็นต้องพักให้สงบลงก่อนในเวลานี้และอย่าปล่อยให้ไอ้นกบัดซบนั่นส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของข้า ข้าต้องปฏิบัติตามหลักเม็ดยาเปลวไฟสีม่วงแล้วค่อยปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างช้าๆ” เซี่ยวหยุนพึมพำกับตัวเอง เขาใช้เวลากับผสมสมุนไพรอันแรกและครั้งนี้มันทำให้เขารู้สึกสงบลง มันนุ่มนวลมาก เมื่อมันเห็นความพยายามครั้งแรกของเซี่ยวหยุนในการกลั่นสกัดเม็ดยาได้ประสบความสำเร็จ นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ก็ไม่ได้จู้จี้เขาอีกต่อไป
2 วันผ่านไปในพริบตา และเซี่ยวหยุนก็ได้กลั่นสกัดส่วนผสมสมุนไพรทั้งหมดแล้ว ในตอนนี้ บนโต๊ะมีขวดของเม็ดยาวางอยู่
“อัจฉริยะ อัจฉริยะของจริง” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ประหลาดใจขณะที่มันเกือบจะเริ่มน้ำลายสอออกมา “หยุนน้อย ทำงานหนักต่อไป ชีวิตข้าอยู่ในมือเจ้าแล้ว ฮ่าฮ่า ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวันที่เจ้าได้กลายเป็นปรมาจารย์กลั่นสกัดจะมาถึง!”
“ชีวิตของเจ้าอยู่ในมือข้า?” เซี่ยวหยุนกลอกตาของเขา “มันไม่เหมือนว่าเจ้าเป็นสาวงามหรืออะไรเลย”
“สหายคนนี้เห็นความรักมากกว่าเพื่อน” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์กล่าวอย่างเหยียดหยัน
เซี่ยวหยุนยักไหล่ขณะที่เขาหยิบขวดของเม็ดยาขึ้นแล้วจากไป มันยังคงมีส่วนผสมสมุนไพรบางส่วนสำหรับเม็ดยาแก่นแท้บริสุทธิ์ แต่เขาก็ไม่ได้เร่งรีบกลั่นสกัดพวกมัน นี่เป็นเพราะว่าเม็ดยาแก่นแท้บริสุทธิ์ยากกว่าการกลั่นสกัดเม็ดยาต้นกำเนิดอย่างมาก และเขาก็ต้องทำมันอย่างช้าๆด้วย เฉพาะเมื่อเขามีประสบการณ์เพียงพอแล้วเท่านั้น เขาจึงจะพยายามกลั่นสกัดพวกมัน มิฉะนั้นมันจะเป็นการสูญเสียส่วนผสมสมุนไพรไปเปล่าๆ
เซี่ยวหยุนออกมาเพื่อไปพบลุงสองของเขาและมอบเม็ดยาเหล่านี้ให้
“อะไรนะ?! เม็ดยาต้นกำเนิดทั้งหมดเหล่านี้ถูกกลั่นสกัดโดยเจ้า?” เซี่ยวไห่ตกตะลึงงัน
“อืม” เซี่ยวหยุนพยักหน้าของเขา กล่าวว่า “ท่านสามารถขายอันที่มีคุณภาพธรรมดาและเก็บอันที่ดีกว่าเพื่อคนของตระกูลเราได้ ด้วยวิธีนี้ พวกเราจะสามารถพัฒนาผู้ฝึกตกขอบเขตต้นกำเนิดได้เยอะพอสมควรเพื่อที่รุ่นในอนาคตจะได้สนับสนุนตระกูล”
“อืม” เซี่ยวไห่พยักหน้า “พวกเขาจะทำงานอย่างดีในการประมูลของเมืองใกล้เคียงแน่นอน”
เซี่ยวไห่ส่งคนแอบนำเม็ดยาเหล่านี้ไปประมูลและซื้อส่วนผสมสมุนไพรเพิ่มเติมทันที
แล้วเซี่ยวหยุนก็ไปที่ศาลาทักษะการต่อสู้เพื่อค้นหาทักษะใหม่สำหรับการเรียนรู้
“ฝ่ามือเมฆาปราพก?” เมื่อเขาเห็นทักษะการต่อสู้นี้ ดวงตาของเซี่ยวหยุนก็สว่างขึ้น “ข้าหลอมรวมกับจิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วง ดันั้นมันจึงสมบูรณ์แบบสำหรับข้าที่จะเรียนรู้ทักษะฝ่ามืออันนี้ ด้วยวิธีนี้ ข้าจะมีทักษะการต่อสู้อื่นที่ข้าสามารถใช้ได้” เซี่ยวหยุนไม่ได้ลังเลแล้วนำคู่มือของทักษะการต่อสู้นี้ไปกับเขา (คำว่าปราพกเป็นคำไวพจน์แปลว่า ไฟ ครับ)
นี่คือระดับสีดำ ทักษะการต่อสู้ระดับกลาง
ทักษะฝ่ามือเมฆาปราพกทำให้ฝ่ามือเป็นเหมือนกับเมฆที่ร้อนเป็นไฟ ปกคลุมทุกสิ่งภายใต้สวรรค์!
นี่เป็นบทสรุปของทักษะฝ่ามือ ปกคลุมทุกสิ่งภายใต้สวรรค์ด้วยฝ่ามือ – เป็นคำพูดที่สูงส่งซะไม่มี
เพื่อที่จะเรียนรู้ทักษะฝ่ามือนี้ ผู้ที่จะเรียนจำเป็นต้องเปิดเส้นลมปราณไฟของพวกเขาเพื่อให้แก่นแท้ปราณแห่งไฟหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซี่ยวหยุนทำตามขั้นตอนในคู่มือและเปิดเส้นลมปราณไฟของเขาได้อย่างง่ายดาย
หลังจากที่ฟื้นคืนความเร็วการฝึกตนของเขาได้ ความเข้าใจของเซี่ยวหยุนต่อทักษะการต่อสู้ก็ยังเร็วมากอีกด้วย
ในเวลาอันใกล้ เซี่ยวหยุนสามารถควบคุมเปลวไฟสีม่วงได้ง่ายมาก
ยืนอยู่ในลานบ้านของเขา เซี่ยวหยุนเหยียดฝ่ามือขณะที่เมฆของเปลวไฟสีม่วงถูกยิงออกมา ดูเหมือนจะปกคลุมไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี
หวือ!
ขณะที่ความร้อนไหม้เกรียมแผ่ออกมา เกือบทั้งหมดของใบไม้ภายในลานบานได้เหี่ยวเฉาไป โชคดีที่เซี่ยวหยุนได้เล็งฝ่ามือนี้ไปบนท้องฟ้า มิฉะนั้น มันจะทำให้เกิดการทำลายอันใหญ่หลวง
“เซี่ยวหยุน เจ้าสามารถควบคุมเปลวไฟแปรผันได้แล้ว?” เมื่อนางได้ยินเสียงอึกทึกจากข้างนอก หยานซือเฟยก็เดินออกมา การแสดงออกที่ประหลาดใจอยู่บนใบหน้าของนาง
“อืม” เซี่ยวหยุนมองไปที่หญิงสาวผู้มากเสน่ห์ขณะที่เขากล่าวว่า “ข้าได้รับเปลวไฟแปรผันบางส่วนในภูเขาเมฆาม่วง ซึ่งกลายเป็นมาอีกหนึ่งจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ข้าสามารถใช้เพื่อกลั่นสกัดเม็ดยาได้ ไม่ต้องกังวล ข้าใกล้จะสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาแก้พิษให้เจ้าได้แล้ว”
“จริงรึ?” หยานซือเฟยดูมีความสุขมาก “เจ้าได้รับจิตวิญญาณการต่อสู้ไฟ?” หญิงสาวตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่สำหรับตัวนางเอง แต่เป็นสำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ นางรู้ว่ามันหมายถึงอะไรกับการได้จิตวิญญาณการต่อสู้อื่นอีก! เพราะว่าด้วยสิ่งนี้ เซี่ยวหยุนจะกลายเป็นแข็งแกร่งยิ่งกว่าคนอื่นมาก
“อืม” เซี่ยวหยุนพยักหน้าขณะที่เขาจับมือของหยานซือเฟย “พี่สาวใหญ่ซือเฟย ไม่ใช่แค่ข้าได้รับจิตวิญญาณการต่อสู้ไฟเท่านั้น แต่ยังได้รับวิญญาณของเถาวัลย์ม่วงสำหรับท่านด้วยเช่นกัน ในอนาคต ท่านสามารถมีจิตวิญญาณการต่อสู้ของตัวเองได้ ม่วงน้อย ออกมา”
“เถาวัลย์ม่วง?” หัวใจของหยานซือเฟยกระโจนไปมาและนางก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างเหลื่อเชื่อ สิ่งนี้เป็นจิตวิญญาณการต่อสู้ที่นางต้องการตลอดมา!
“เอ๋ พี่ใหญ่เรียกข้าด้วยเหตุใดกัน?” ภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของเซี่ยวหยุน สหายตัวน้อยลืมตาขึ้นอย่างเฉื่อยชาขณะที่มันพูด
“พี่ใหญ่จะแนะนำเจ้าให้กับพี่สาวใหญ่ เจ้าต้องไปอยู่กับนางนับแต่นี้ไป ไม่เป็นไรนะ?”
ม่วงน้อยแสดงออกทางสีหน้าขณะที่มันกล่าวอย่างโศกเศร้าว่า “ข้าไม่อยากไป ข้าอยู่ที่นี่กับพี่ใหญ่ พี่ใหญ่มีนมอยู่ที่นี่ ข้าไม่อยากออกไป”
“เป็นเด็กดีม่วงน้อย” เซี่ยวหยุนกล่าว “เจ้ายังเด็กและเจ้าก็ยังมีโอกาสที่จะเติบโต ถ้าเจ้าหลอมรวมเข้ากับดวงวิญญาณของพี่สาวใหญ่ นางจะแข็งแกร่งขึ้นพร้อมกับเจ้าเรื่อยๆ บางทีเจ้าอาจจะวิวัฒนาการก็ได้”
เซี่ยวหยุนพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหลอกล่อสหายตัวน้อยคนนี้ พยายามที่จะมอบมันออกไป มันเป็นเพียงตะกละมากจนเกินไป และก็มักจะพยายามกินหยดน้ำจากจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาอยู่เสมอ เขาไม่สามารถเก็บมันไว้ได้นานจนเกินไป
ภายใต้การชักจูงของเซี่ยวหยุน สหายตัวน้อยสุดท้ายก็ยอมแพ้ด้วยความเสียใจ
“พี่ใหญ่ ท่านยังจะต้องมอบนมให้ข้าในอนาคต” สหายตัวน้อยกล่าวอย่างน่าสงสาร
หลังจากนั้น สหายตัวน้อยก็ออกมาจากทะเลแห่งจิตสำนึกของเซี่ยวหยุนอย่างไม่เต็มใจ
มีเส้นทางที่แตกต่างในการหลอมรวมกับจิตวิญญาณการต่อสู้ บางตัวถูกบังคับ ขณะที่ตัวอื่นเต็มใจ ซึ่งอาจส่งผลในการหลอมรวมวิญญาณของพวกเขา
ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่หลอมรวมกับจิตวิญญาณการต่อสู้อย่างบังคับรุนแรง แต่ถ้าจิตวิญญาณการต่อสู้ตอบโต้ มันจะทำให้กระบวนการนี้ค่อนข้างยาก แต่โดยวิธีใดก็ตาม การที่ต้องการให้จิตวิญญาณการต่อสู้เต็มใจหลอมรวมมันเกือบจะเป็นความเพ้อฝันไปแล้ว
จิตวิญญาณการต่อสู้โดยปกติหยิ่งจองหองมาก และไม่ยอมรับการหลอมรวมกับใครก็ตามง่ายๆ อย่างไรก็ตาม ม่วงน้อยนั้นต่างไป – นางสูญเสียบ้านและยังเป็นแค่เด็ก ความคิดของนางนั้นบริสุทธิ์ และจะไม่ตอบโต้ง่ายๆ
“เถาวัลย์ม่วงน่ารักมากๆเลย” หลังจากเห็นม่วงน้อย หยานซือเฟยยิ้มสดใส
ม่วงน้อยรีบกระโดดลงบนไหล่ของเซี่ยวหยุนทันที แล้วร้องออกมา “พี่สาวใหญ่ ท่านก็งดงามเช่นกัน!” ดวงตาของม่วงน้อยประกายขณะที่มันพูดว่า “ท่านก็งดงามเช่นเดียวกันกับพี่สาวใหญ่ผู้ที่อยู่กับพี่ใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม พี่สาวใหญ่คนนั้นดุร้ายมาก และก็ทำร้ายพี่ใหญ่ และยัง ‘ทำศึก’ กับเขาทั้งกลางวันและกลางคืนด้วย”
“พี่สาวใหญ่คนไหน?” หยานซือเฟยรู้สึกค่อนข้างสับสน
“อ่ะแฮ่ม ม่วงน้อยอย่าพูดอะไรไร้สาระ” เซี่ยวหยุนรู้สึกค่อนข้างติดขัด “มิฉะนั้นพี่ใหญ่จะไม่มอบนมให้เจ้าอีกต่อไป”
“โอ้” เมื่อได้ยินแบบนี้ สหายตัวน้อยก็หุบปากลงทันที
“เจ้าต้องการอยู่กับพี่สาวใหญ่ไหม?” หยานซือเฟยมองไปที่เซี่ยวหยุนและไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม นางเปลี่ยนสายตาไปที่สหายตัวน้อยน่ารักแทน จากช่วงเวลาที่นางได้เห็นมัน นางชอบมันอย่างลึกล้ำ มันจะดีขนาดไหนถ้ามีจิตวิญญาณการต่อสู้แบบนี้?
สหายตัวน้อยกล่าวว่า “อืม แต่ท่านต้องอยู่กับพี่ใหญ่ด้วย เพราะว่าข้าต้องการนม”
“นม?” หยานซือเฟยรู้สึกสับสนมาก
เซี่ยวหยุนรีบอธิบายอย่างรวดเร็วเพื่อให้หยานซือเฟยเข้าใจ หลังจากนั้น พวกนางก็เริ่มการหลอมรวมวิญญาณ
นี่เป็นขั้นตอนที่อันตรายมาก – หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเจตนากระทำผิด มันอาจส่งผลกระทบถึงพวกเขาทั้งคู่ และกระทั่งทำให้วิญญาณของฝ่ายที่อ่อนแอกระจัดกระจายไป แล้วสังหารพวกเขาทันที
อย่างไรก็ตาม ม่วงน้อยบริสุทธิ์มากและหยานซือเฟยก็ใจดีมากด้วย ทั้งสองคนไม่มีเจตนตาที่จะครอบงำอีกฝ่าย พวกนางหลอมรวมกันอย่างรวดเร็ว และสร้างการเชื่อมต่อขึ้น
“พี่สาวใหญ่ ข้าเข้ามาแล้ว” สหายตัวน้อยกล่าว
“อืม” หยานซือเฟยพยักหน้า นางดูจริงจังทีเดียว
หวือ!
ทันใดนั้น สหายตัวน้อยก็กระพริบด้วยแสงสีม่วงและบินเข้าไปตรงกลางหน้าผากของหยานซือเฟย พวกนางกำลังจะเปิดทะเลแห่งจิตสำนึกของหยานซือเฟย
นี่เป็นขั้นตอนที่ยากลำบาก –ถ้านางไม่สามารถอดทนต่อมันได้ มันจะทำให้ผลที่ตามมาอาจรุนแรงสาหัส ผลกระทบที่เบาสุดจะรวมถึงการที่จิตใจของนางได้รับผลกระทบ ในขณะที่ผลกระทบที่รุนแรงสาหัสมากขึ้นจะส่งผลให้วิญญาณของนางกระจัดกระจายไป
โชคดีที่หยานซือเฟยได้ประสบกับความเจ็บปวดอันมหาศาลจากพิษในอดีต และจิตตานุภาพของนางก็แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งช่วยเหลือให้นางอดทนได้
ฟู่ว!
เสียงฟู่วดังออกมาขณะที่หยานซือเฟยรู้สึกสั่นสะเทือนในจิตใจของนาง ราวกับว่าสวรรค์และปฐพีแห่งใหม่ได้ถูกเปิดขึ้น
ขณะที่เสียงฟู่วดังออกมา นางก็รู้สึกวิงเวียนและจิตใจของนางก็หายไปกะทันหัน ขณะที่นางดูเหมือนจะมาที่ดินแดนไม่มีที่สิ้นสุดและกว้างใหญ่ นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นทะเลแห่งจิตสำนึกของหยานซือเฟย
หวือ!
หลังจากนั้น แสงสีม่วงก็เปล่งประกายขณะที่วิญญาณของเถาวัลย์ม่วงก็ได้เข้าสู่ทะเลแห่งจิตสำนึกของนางเช่นกัน
“นี่คือทะเลแห่งจิตสำนึกของข้า” หยานซือเฟยกล่าวด้วยความตื่นเต้น
เถาวัลย์ม่วงได้เข้าสถานที่แห่งนี้นั้นหมายความว่ามันได้เข้าสู่ตัวนางแล้ว หลังจากวิญญาณของพวกนางหลอมรวมกัน พวกนางก็อาศัยอยู่ในร่างเดียวกัน
ในอนาคต ถ้าการบ่มเพาะของหยานซือเฟยเพิ่มขึ้น ความแข็งแกร่งของม่วงน้อยก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ในทำนองเดียวกัน ถ้าหยานซือเฟยได้รับอันตราย ม่วงน้อยก็จะได้รับเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องอันมหัศจรรย์ของการหลอมรวมวิญญาณ – มันราวกับว่าชีวิตของพวกนางได้ถูกผูกมัดเข้าด้วยกัน
เพราะเช่นนี้ เหตุใดจิตวิญญาณการต่อสู้และวิญญาณอื่นต้องเต็มใจผูกมัดเข้ากับมนุษย์ด้วยเล่า? เช่นนี้ จิตวิญญาณการต่อสู้ส่วนใหญ่จะตอบโต้เมื่อผู้ฝึกตนพยายามหลอมรวมกับพวกมัน หยานซือเฟยโชคดีมากที่ม่วงน้อยไม่ได้พยายามต่อต้านเลย
“เจ้าทำสำเร็จ?” เห็นว่าหยานซือเฟยดูผ่อนคลายขนาดไหน เซี่ยวหยุนก็เปิดเผยร้อยยิ้มกว้างเช่นกัน ซึ่งรู้สึกมีความสุขสำหรับนาง ในที่สุดเขาก็ได้ช่วยเหลือเติมเต็มความปรารถนา!
“ข้ารู้สึกเหมือนกับมีชีวิตอันล้นเหลือ” หลังจากหลอมรวมกับหยานซือเฟย ภายในทะเลแห่งจิตสำนึก ดวงตาของน้องสาวม่วงสว่างขึ้นขณะที่มันรู้สึกตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อ มันรู้สึกเหมือนมีร่างกายใหม่ ซึ่งเป็นความรู้สึกอันน่าอัศจรรย์
เพราะว่าวิญญาณของพวกนางเชื่อมโยงกัน นางจึงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหยานซือเฟย
“ถ้างั้นพี่สาวใหญ่ก็ชอบพี่ใหญ่” ม่วงน้อยพึมพำ
ในทำนองเดียวกัน ดวงตาของหยานซือเฟยสว่างขึ้นขณะที่นางก็รู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับม่วงน้อยด้วยเช่นกัน
“หลิงซี? ถ้างั้นเขาก็มีประสบการณ์ทั้งหมดนั้นในภูเขาเมฆาม่วง” หยานซือเฟยกล่าวกับตัวนางเอง
หลังจากนั้น ความสั่นเทาก็ได้ไหลผ่านหัวใจของนางขณะที่ความรู้สึกหึงหวงได้อุบัติขึ้น อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกนี้ก็มั่นคงลงอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณ เซี่ยวหยุน” หยานซือเฟยมอบรอยยิ้มอันสวยงามขณะที่นางเดินไปหาเซี่ยวหยุน
“ทั้งหมดล้วนคุ้มค่าหากเจ้ามีความสุข” เซี่ยวหยุนตอบกลับ
“แค่ความรู้สึกเหล่านี้ก็เพียงพอสำหรับข้าแล้ว” หยานซือเฟยมองไปที่เด็กหนุ่มขณะที่นางกล่าวด้วยเสียงนุ่มๆ นางกล่าวคำพูดเหล่านี้กับแต่เด็กหนุ่ม แต่มันก็สำหรับนางเองเช่นกัน
หลังจากกล่าวเช่นนี้ นางก็เอนกายไปหาเด็กหนุ่มและจูบเขาอย่างช่วยไม่ได้
“สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงหรือ?” เซี่ยวรู้สึกตื่นตกใจมาก พร้อมรู้สึกตื่นเต้นอย่างเหลื่อเชื่อ พี่สาวใหญ่ซือเฟยได้ริเริ่มเอาจูบของข้า?
เขามองไปที่หยานซือเฟย ซึ่งเขามีอารมณ์อันท่วมท้นมากมาย
“เจ้าต้องปฏิบัติกับข้าดีๆในอนาคต” หยานซือเฟยกล่าว
“แน่นอน” เซี่ยวหยุนยิ้ม “หยานซือเฟยเป็นคนดีเช่นนี้ ข้าจะไปทำได้อย่างไรกัน?”
“เอาล่ะ ข้าจะไม่ขัดขวางการฝึกซ้อมของเจ้าแล้ว” หยานซือเฟยยิ้มและออกไปที่อีกด้านหนึ่งและเฝ้าดูเด็กหนุ่มฝึกฝน
ปัง! ปัง!
เซี่ยวหยุนฝึกฝ่ามือเมฆาปราพกอย่างต่อเนื่อง
หลังจากการฝึกฝนต่อเนื่องถึง 2 วัน เขาก็ได้คว้าแก่นแท้ของชุดทักษะฝ่ามือนี้
หยานซือเฟยอยู่ข้างเซี่ยวหยุนเงียบๆตลอดเวลา จึงทำให้ธุระของเด็กหนุ่ม ดูอ่อนโยนและมีเสน่ห์หามาก
อย่างไรก็ตาม เซี่ยวหลิงเอ๋อหดหู่ใจมากที่พี่ใหญ่ของนางไม่ได้ดูเหมือนจะให้ความสนใจมากนัก
เด็กสาวกล่าวกับตัวเองว่า “มันจะดีกว่านี้ถ้าพี่ใหญ่ไม่ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น!” อย่างไรก็ตาม นางเข้าใจว่านางนั้นไม่สามารถเก็บพี่ใหญ่ไว้เพื่อตัวเองไปได้ตลอดชีวิต