Eternal Martial Sovereign - ตอนที่ 60 – ฆ่าไอ้เด็กสารเลวนั่น
Chapter 60 – ฆ่าไอ้เด็กสารเลวนั่น
“เจ้าไม่กล้าหรอก!” เห็นเซี่ยวกำลังจะทำอะไรกับฝางเฮ่าอย่างแท้จริง การแสดงออกที่ตื่นตระหนกก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฝางซุนขณะที่เขาเตรียมตัวจะจู่โจมขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง
“หยุนเอ๋อฆ่าไอ้เด็กสารเลวนั่น!” เซี่ยวไห่และเซี่ยวหงคำรามขณะที่พวกเขารีบไปหยุดฝางซุน
“อย่าขยับ!” การแสดงออกของผู้นำคนก่อนตระกูลฝางคล้ำลงขณะที่แก่นแท้แห่งปราณหมุนวนอยู่ในมือของเขา เตรียมพร้อมที่จะโจมตี
“ฮึ่ม ศัตรูของเจ้าคือชายชราคนนี้” ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวอยู่เหนือกว่ามากและไปปิดกั้นเส้นทางข้างหน้าของผู้นำคนก่อนตระกูลฝาง ชกออกไปด้วยมือของเขาเช่นกัน
ในตอนนี้เอง เซี่ยวหยุนก็ได้โจมตีและฆ่าฝางเฮ่าโดยตรง เสียงหักดังกร๊อบดังออกมาขณะที่คอของฝางเฮ่าห้อยอยู่ด้วยมุมโค้งขณะที่เขาตายอยู่ที่จุดนั้น
“ฮ่าวเอ๋อ!” ดวงตาของฝางซุนกลายเป็นสีแดงเลือด เขารู้สึกเสียใจและมิอาจสงบลงได้และยังต้องการขึ้นไปบนเวลาเพื่อสังหารเซี่ยวหยุน
“ฮึ่ม ไปตายซะฝางซุน!” ข้างหลังเขา เซี่ยวไห่ส่งหมัดออกมาฉับพลันเพื่อโจมตีอย่างรุนแรง
หวือ!
ลำธารอันหนาแน่นของแก่นแท้แห่งปราณก็พุ่งออกมาเหมือนกับมังกรขนาดมหึมา ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทำให้มันดูเหมือนจะกวาดผ่านไปทั่วทั้งโลกได้
มังกรนาคาคู่พเนจรของตระกูลเซี่ยวดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งปานกลาง แต่ถ้าผู้ที่มีการบ่มเพาะสูงได้ใช้ออกมา อำนาจที่มากขึ้นก็จะแสดงออกมา
มังกรแห่งแก่นแท้ปราณได้เดินทางไปได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ และปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของฝางซุน
“บัดซบ!” ฝางซุนขมวดคิ้วและรีบกลับมาพร้อมกับการโจมตีจากตัวเขาเอง
“ฮึ่ม ไม่ใช่ว่าตระกูลฝางของเจ้าต้องการจะทำลายตระกูลเซี่ยวของพวกเรารึ? ท่านปู่ของเจ้าอยากจะเห็นว่าตระกูลของเจ้าแข็งแกร่งขนาดไหนกัน” เซี่ยวไห่แค่นเสียงเย็นชาขณะที่เขาโจมตีด้วยความแข็งแกร่งเต็มที่ไปยังฝางซุน ข้างหลังเขา เซี่ยวหงก็มารวดเร็วเช่นกันขณะที่ทั้งสองโจมตีเข้าด้วยกัน
ปัง
พลังจากการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงช่างน่ากลัว และแก่นแท้แห่งปราณอันไม่มีที่สิ้นสุดได้กวาดออกไปเหมือนกับคลื่นยักษ์ ผู้ฝึกตนที่อยู่ใกล้ๆทั้งหมดต่างก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสแห่ความกลัวภายในหัวใจของพวกเขาและรีบถอยกลับไป ในเวลาเดียวกัน ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวก็กำลังสู้อยู่กับผู้นำคนก่อนของตระกูลาฝาง
ปัง!
ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวได้บรรยากาศอันยิ่งใหญ่ออกมาขณะที่เขาควบคุมแก่นแท้แห่งปราณด้วยมือทั้งคู่ของเขา ข้างหนึ่งดูเหมือนกันกำลังถือมังกรตัวสูงใหญ่ขณะที่อีกมือดูเหมือนกำลังถืองูยักษ์ไว้ มือของเขาชี้นำพวกมันอย่างต่อเนื่อง และพวกมันก็ถักทอเข้ารอบๆซึ่งกันและกัน ปลดปล่อยความรู้สึกของกฎแห่งสวรรค์และปฐพีออกมา มันทำให้ทักษะการต่อสู้นี้รู้สึกแข็งแกร่งและลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
คำราม!!
มังกรและนาคาคำรามเสียงดังออกมาราวกับว่าพวกมันเป็นของจริง
“มันก่อร่างเป็นมังกรได้จริงรึ?” สายตาของผู้นำคนก่อนตระกูลฝางกลายเป็นรุนแรง เขารู้สึกได้ถึงสัมผัสแห่งชีวิตจากมังกร
มันดูเหมือนว่ามังกรนาคาคู่พเนจรจะไม่ใช่แค่ทักษะการต่อสู้ระดับสีดำธรรมดาๆ วันนี้อำนาจของมันได้รับการเปิดเผยออกมาอย่างเต็มที่แล้ว
ปัง!
แม้ว่าจะใส่ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาลงไปในตราประทับภูเขาหนัก แต่ผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีที่ดุร้ายของมังกรและนาคาได้เลย
ภายใต้ผลกระทบจากคลื่นขนาดยักษ์ของพลัง ผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางได้ก้าวถอยหลังไปหลายก้าวและเริ่มหายใจติดขัด
“ฮ่าฮ่า ไอ้ผีเฒ่าฝางคุน ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่พร้อมรับสิ่งนี้!” ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวหัวเราะเสียงดัง ยิ่งพวกเขาต่อสู้นานเท่าไหร่ การโจมตีของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น แก่นแท้แห่งปราณที่มาจากร่างกายของเขาให้ความรู้สึกเหมือนกับทะเล ซึ่งดูเหมือนจะมีมังกรและนาคาหลบซ่อนอยู่ภายในพวกมัน เตรียมตัวที่โจมตีอย่างบ้าระห่ำได้ในทุกช่วงเวลา
มังกรนาคาคู่พเนจรเป็นทักษะการต่อสู้โบราณซึ่งบรรพบุรุษของตระกูลเซี่ยวได้เหลือทิ้งไว้ให้พวกเขา แต่อย่างไรก็ตามในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา มีคนจากตระกูลเซี่ยวน้อยมากที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ได้ ดังนั้นมันจึงเกือบจะไม่มีใครหยั่งรู้ได้ถึงพลังที่แท้จริงของทักษะการต่อสู้นี้แล้ว
ตอนนี้ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้แล้ว ในขณะที่เขาได้ใช้ทักษะการต่อสู้ เขาก็ได้ค่อยๆเข้าใจว่ามันลึกซึ้งมากขนาดไหน
บนเวที ผู้ฝึกตนจากตระกูลต่างๆเริ่มลงและออกไปกันแล้ว โดยไม่กล้าที่จะอยู่ต่ออีกต่อไป
พลังของผู้ฝึกตนขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ทรงพลังมากเกินไปและเกือบจะไม่สามารถป้องกันได้
แม้แต่คลื่นกระแทกจากการต่อสู้เช่นนี้ก็อาจเป็นอันตรายต่อผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงได้ เมื่อเห็นสถานะปัจจุบันของเรื่องนี้แล้ว เหล่าผู้ที่กำลังจะเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยความลังเลได้เห็นว่าตอนนี้ฝางเฮ่าได้ตกตายลงไปแล้ว ถ้าพวกเขาโจมตี พวกเขาจะได้อะไรจากมันกัน?
“ตระกูลเซี่ยวได้กระทำบาปร้ายแรงและกล้าที่จะสังหารผู้ที่จะเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสจากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ อาชญากรรมของพวกเขาไม่อาจให้อภัยได้ และถ้าใครสังหารสมาชิกจากตระกูลเซี่ยวได้ก็จะได้รับการปฏิบัติด้วยการดูแลเป็นอย่างดีและได้รับรางวัลจากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ของข้า” สายตาของฉินหยูเฉินมืดและน่ากลัวขณะที่เขามองไปรอบๆแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าทุกคนจะลงมือเมื่อไหร่ ถ้าหากมิใช่ตอนนี้?”
“ถูกต้อง สังหารคนตระกูลเซี่ยว!” ดวงตาของผู้นำคนก่อนตระกูลโจวเผาไหม้ขณะที่เขายิงไปยังเซี่ยวไห่
ด้วยการลงมือของผู้นำคนก่อนตระกูลโจว ฝางซุนก็สามารถพักหายใจได้อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกตนจากตระกูลอื่นๆยังคงดูลังเลอยู่
ผู้นำคนก่อนของตระกูลเซี่ยวได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้แล้ว ซึ่งนั้นทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนไป ถ้าพวกเขาโจมตีโดยไม่ไตร่ตรอง ผลที่ตามมามันมิอาจจะจินตนาการได้เลย – ถ้าผู้นำคนก่อนของตระกูลฝางพ่ายแพ้ ใครจะต้านทานอำนาจของผู้นำคนก่อนตระกูลเซี่ยวได้กัน?
แม้ว่านิกายต้นกำเนิดสวรรค์จะทรงพลัง แต่ก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาจากหายนะอันใกล้นี้ได้!
เมื่อเห็นว่าเมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสของตระกูลอื่นๆดูลังเลขนาดไหน ฉินหยูเฉินขมวดคิ้วแน่น รู้ว่าพวกเขายังคงไม่เต็มใจที่จะลงมือ
สายตาของฉินหยูเฉินเริ่มรุนแรงขณะที่เขาคิดว่า “เมื่อเซี่ยวหยุนตายและตระกูลเซี่ยวสิ้นซึ่งความหวัง บางทีผู้คนเหล่านี้คงลงมือ” หลังจากคิดถึงสิ่งนี้ ร่างของฉินหยูเฉินก็กระพริบขณะที่เขาพุ่งไปหาเซี่ยวหยุน
“เขาต้องการฆ่าเซี่ยวหยุนจริงรึ?” ทุกคนรู้สึกตกใจมาก
ดยุคหยานขมวดคิ้วลึก อย่างไรก็ตาม ฉินหยูเฉินก็เป็นศิษย์ของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์และมิอาจล่วงเกินอย่างซี้ซั้วได้!
หวือ!
ฉินหยูเฉินบินเบาๆและชดช้อยเหมือนกับนกกระจอกบนเวที เซี่ยวหยุนเพิ่งฆ่าฝางเฮ่าไปและเฝ้ามองสถานการณ์คลี่คลายลง แต่เมื่อเห็นว่าฉินหยูเฉินได้เข้ามา ดวงตาของเขาก็กลายเป็นหนาวเย็น
คนๆนี้พยายามปลุกปั่นให้ตระกูลอื่นทำลายตระกูลเซี่ยวอยู่ร่ำไป ทำให้เซี่ยวหยุนเต็มไปด้วยเจตนาสังหารต่อเขา
“เซี่ยวหยุน เจ้ากล้าที่จะฆ่าผู้ที่กำลังจะเป็นศิษย์แห่งนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ของข้าในอีกช้าและสมควรจะเป็นนับหมื่นครั้ง รีบมายอมจำนนได้แล้ว!” ฉินหยูเฉินลงบนเวทีและเดินไปยังเซี่ยวหยุนขณะที่กลิ่นอายอันทรงพลังปะทุออกมาจากร่างกายของเขา เขาพูดอย่างเย็นชาและมองไปที่เด็กหนุ่ม
“นี่คือพลังแห่งขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริง?” เซี่ยวหยุนขมวดคิ้วแน่นในขณะที่เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของฉินหยูเฉิน
“ฮึ่ม ข้าควรปล่อยให้ฝางเฮ่าสังหารข้ารึ?” เซี่ยวหยุนทำใหตัวเองสงบลงขณะที่ถามอย่างเย็นชา แม้กระทั่งกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริง เขาก็ไม่มีแผนที่จะถอยกลับ
“ย่อมเป็นตามนั้น” ฉินหยูเฉินกล่าวขณะที่เขายิ้มเย้ย “เบื้องหน้านิกายต้นกำเนิดสวรรค์ของข้า แม้ว่าเจ้าจะเป็นมังกร เจ้าก็ต้องยอมจำนน”
มีความภูมิใจอยู่บนใบหน้าของฉินหยูเฉิน ราวกับว่าเขาเป็นเซียนที่หาผู้ใดเปรียบมิได้ที่กำลังดูถูกเซี่ยวหยุนอยู่
“นิกายต้นกำเนิดสวรรค์?” เซี่ยวหยุนหัวเราะเย็นชา “เจ้าคิดว่าตัวเองสามารถเป็นตัวแทนของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ได้รึ?”
“ที่นี่ มันแน่นอนว่าข้าสามารถเป็นตัวแทนของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ได้” ดวงตาของฉินหยูเฉินประกายด้วยแสงสว่างเย็นชาขณะที่เขาพูดว่า “ถ้าเจ้ายอมจำนนตอนนี้ ตระกูลของเจ้าสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ มิฉะนั้น ถ้าหากเจ้าโกรธผู้เชี่ยวชาญนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ของข้า ทั้งตระกูลของเจ้าจะถูกอาบไปด้วยเลือด การสังหารคนจากนิกายของเขาเป็นอาชญากรรมที่มิอาจให้อภัยได้”
“ต้องการให้ข้ายอมจำนนก็เป็นแค่ความเชื่อที่อยู่เหนือเหตุผล ถ้าเจ้ามีความสามารถก็จงแสดงมันออกมาให้ข้าดู” สายตาของเซี่ยวหยุนกลายเป็นจริงจังขณะที่เขารวบรวมจิตวิญญาณการต่อสู้และเตรียมพร้อมที่จะโจมตีแบบสายฟ้าฟาด เขาจำเป็นต้องจับฉินหยูเฉินแบบไม่ทันรู้ตัว เพราะเขาไม่กำลังพอที่จะไปสู้ตรงๆกับคนที่อยู่ในขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริง
ฉินหยูเฉินหัวเราะเย็นชา “ช่างเป็นการต่อต้านที่ไร้ประโยชน์ เนื่องมันเป็นเช่นนั้นแล้ว อย่าโทษข้าที่มิอาจอดกลั้นไว้ได้ แม้ว่าจะเป็นทูตของนครหลวงแห่งราชอาณาจักรก็มิอาจะทำอะไรข้าสำหรับการที่สังหารเจ้าได้ นี่คือการแก้แค้น เช่นเดียวกันกับการเปิดเผยอำนาจของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์เพื่อเป็นคำสั่งในการปกป้องความเรียบร้อยของราชอาณาจักรจันทราวายุ”
“ท่านพ่อ ได้โปรดช่วยเซี่ยวหยุน” ในสนาม หยานซือเฟยมองไปที่เซี่ยวหยุนด้วยการแสดงออกที่กังเวลและความเลือนรางในดวงตาของนาง
นางเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเซี่ยวหยุน แต่กับการโจมตีของฉินหยูเฉิน เซี่ยวหยุนจะไปปกป้องตนเองจากเขาได้อย่างไรกัน? เนื่องจากฉินหยูเฉินได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงแล้ว!
“ท่านพ่อรีบไปสั่งสอนบทเรียนให้ฉินหยูเฉินเถอะ” ข้างพวกเขา หยานซือหยันก็มีกังวลบนใบหน้าของนางอย่างมากเช่นกัน และเกือบที่จะร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา
ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันเกินไปจนพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร
“นายน้อยฉินเป็นศิษย์ของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ เราจะไม่สุภาพกับเขาได้อย่างไรกัน?” ท่านหญิงหยานกล่าว
“ถูกแล้ว เรามิอาจทำการล่วงเกินนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ได้” ดยุคหยานขมวดคิ้วขณะที่เขาถอนหายใจ
“ได้โปรดเถิดท่านพ่อ” หยานซือเฟยดึงแขนเสื้อของพ่อตัวเองขณะที่นางเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น
“นายน้อยฉิน มันมีความเป็นไปได้ไหมสำหรับการที่จะหยุดมือก่อน? เนื่องจากเซี่ยวหยุนได้รับสิทธิ์เข้ารับการตรวจสอบของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์และสามารถนับได้ว่าเป็นศิษย์ครึ่งหนึ่งของนิกายต้นกำเนิดแล้ว” การแสดงออกของดยุคหยานกลายเป็นหนักอึ้งขณะที่เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพูดกับบุรุษบนเวทีคนนั้น
“ครึ่งศิษย์?” ฉินหยูเฉินหัวเราะเย็นชา “ฝางเฮ่าก็เป็นคนที่ลุงของข้าตัดสินใจจะให้เป็นศิษย์เช่นกัน เซี่ยวหยุนมันจะไปสามารถเปรียบกับเขาได้อย่างไร? ถ้าข้าไม่สังหารมันทิ้งในวันนี้ ผู้คนก็จะไม่ยึดถือกับนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ของ้ขาอีกต่อไป” ท่าทีของฉินหยูเฉินหนาวเย็นและหัวแข็งขณะที่เขากล่าวว่า “ดยุคหยาน แม้ว่าตระกูลหยานของท่านจะทรงพลังมากก็ตาม แต่ท่านก็ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของนิกายเรา ถ้าท่านล่วงเกินนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ของเรา บางทีทั้งตระกูลของท่านก็จะลากเข้ามาสู่เรื่องนี้ด้วย”
การแสดงออกของดยุคหยานหมองคล้ำลงขณะที่เปิดเผยการแสดงออกถึงความลังเลใจออกมา
“ฮึ่ม มีอะไรยอดเยี่ยมเกี่ยวกับฝางเฮ่ากัน?” หยานซือหยันเม้มริมฝีปากของนาง หลังจากแค่นเสียงเย็นชา นางก็คว้าแขนเสื้อของพ่อนางอีกครั้งหนึ่งขณะที่นางอ้อนวอนว่า “ท่านพ่อ รีบไปช่วยพี่ใหญ่เซี่ยวหยุนเร็วเข้า เขากระทั่งรักษาพิษของพี่สาวใหญ่ ท่านจะสามารถปล่อยให้คนอื่นมาแกล้งเขาได้อย่างไรกัน?”
“อะไรนะ? เขารักษาพิษของพี่สาวใหญ่เจ้าได้?” ดยุคหยานจ้องมองไปด้วยความตกใจ “เป็นไปได้อย่างไร?”
“ซือเฟย จริงหรือ?” ท่านหญิงหยานมองไปด้วยความตกใจ
“อืม” หยานซือเฟยพยักหน้าขณะที่นางตอบ
“ดีแล้ว ดีแล้ว” ท่านหญิงหยานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“มันเกิดอะไรขึ้น?” ดยุคหยานถาม
หยานซือหยันยิ้มขณะที่ตอบกลับ “พี่ใหญ่เซี่ยวหยุนเป็นนักกลั่นสกัดเม็ดยาและยังน่าอัศจรรย์มากด้วย”
“นักกลั่นสกัดเม็ดยา” ดวงตาของดยุคหยานสว่างขึ้นขณะที่เขามองไปยังหยานซือเฟย
“อืม” หยานซือเฟยพยักหน้า “นั้นเป็นวิธีที่ลุงเซี่ยวไห่และคนอื่นก้าวเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงได้”
“ท่านพ่อ รีบไปช่วยเขาเร็วเข้า” หยานซือหยันอ้อนวอน “มันจะดีที่สุดถ้าหากท่านทุบตีฉินหยูเฉินได้เช่นกัน”
“ดีมาก” ดยุคหยานได้ตัดสินใจขณะที่เขาปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังออกไป
ขณะที่ดยุคหยานก้าวออกมา เขามองไปฉินหยูเฉินขณะที่เขากล่าวว่า “นายน้อยฉิน ได้โปรดวางมือของท่านหรือจะให้ดยุคคนนี้ลงมือกับท่านแทน”
“ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่มีความสามารถพอที่จะช่วยเขาได้” สายตาของฉินหยูเฉินกลายเป็นหนาวเย็นขณะที่เขาเมินเฉิยดยุคหยาน
“ใครจะไปคิดกันว่าเจ้าสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้ มันแน่นอนแล้วว่าข้าจะต้องไม่ปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป” ฉินหยูเฉินจ้องเขม็งไปที่เซี่ยวหยุนด้วยความน่ากลัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
ถ้าเด็กหนุ่มคนนี้เข้าร่วมนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ ทุกสิ่งจะจบลง นักกลั่นสกัดเม็ดยาแน่นอนว่าจะเป็นถูกดูแลเอาใจใส่ให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับนิกายต้นกำเนิดสวรรค์! (รู้ล่ะว่าจะเข้าทำไม )
“ถ้าเจ้าต้องการจะตำหนิใครสักคน ก็จงตำหนิตัวเองที่กล้าขโมยผู้หญิงของนายน้อยคนนี้ นั่นล่ะเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าถึงต้องตาย” ฉินหยูเฉินกล่าวขณะที่เขาโจมตีไปด้วยอำนาจอันทรงพลังของเขา
ฉินหยูเฉินส่งฝ่ามือออกไปซึ่งดูเหมือนจะปกคลุมท้อฟง้าขณะที่มันได้ลดลงไปยังเซี่ยวหยุน
หวือ!
ขณะที่ฝ่ามือยักษ์ตกลงมา ทุกคนก็รู้สึกได้แก่นแท้แห่งปราณอันดุร้ายที่มันมีอยู่ ซึ่งกระจายจนดูเหมือนหมอกในทุกทิศทาง
เซี่ยวหยุนรู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาสั่นสะเทือนขณะที่เส้นเลือดทุกเส้นของเขาเกือบระเบิดออกภายใต้แรงกดดัน
ฝ่ามือเมฆาปราพก!
เซี่ยวหยุนขมวดคิ้วแน่นขณะที่เขารีบส่งฝ่ามือของตนเองไปยังฉินหยูเฉิน ในเวลาเดียวกัน เขาก็เปิดใช้งานทักษะศักดิ์สิทธิ์กลืนกินสวรรค์อย่างรวดเร็ว พยายามที่จะดูดซับแก่นแท้แห่งปราณอันทรงพลังไปอย่างรวดเร็ว
“กลอันกระจ้อยร่อย” ฉินหยูเฉินหัวเราะเย็นชาขณะที่ฝ่ามือยักษ์ได้ลดลงไป มันระเบิดเมฆสีม่วงเห็นเปลวไฟทิ้งไปราวกับว่าเป็นไม้เน่าเสีย พลังแห่งขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงสามารถสะกดข่มเซี่ยวหยุนได้โดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเพียงผู้ที่ขอบเขตต้นกำเนิดเท่านั้น มันยากลำบากอย่างเหลือเชื่อที่จะลดช่องว่างระหว่างพวกเขาลง
ปัง!
เซี่ยวหยุนส่งบินไปด้วยกำลังที่ทรงพลังพลัง
ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด เขาได้ใช้งานกระแสน้ำวนของหอคอยกลืนกินสวรรค์เพื่อป้องกันตนเองจากคลื่นขนาดยักษ์ของพลังที่เข้ามาในร่างกายของเขา แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เมื่อเขาลงบนพื้นเขาก็กระอักเลือดสดๆออกมาคำโต
ขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงทรงพลังจนเกินไป และเซี่ยวหยุนไม่มีหนทางที่จะสู้กับฉินหยูเฉินได้เลย
“เบื้องหน้าข้า แล้วจะมีอะไรถ้าหากเจ้ามีเปลวไฟแปรผัน?” ฉินหยูเฉินเดินมาขณะที่เขายิ้มเหี้ยมโหด “ต่อหน้าพลังอันเด็ดขาด ไม่มีอะไรที่สามารถใช้โจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว วันนี้เจ้าจะถึงคราวตายและเจ้ายังคิดว่าขโมยผู้หญิงของข้าไปได้? ฮ่าฮ่า อบ่าได้กังวล ข้าจะดูแลหยานซือเฟยให้เจ้าเอง” หลังจากกล่าวเช่นนี้ ฉินหยูเฉินก็เตรียมตัวลงพื้นเพื่อที่จะโจมตีเพื่อสังหาร
“ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่มีความสามารถพอที่จะสังหารข้าได้”
ดวงตาของเซี่ยวส่องประกาย ถึงแม้ว่าเขาจะนอนแผ่อยู่บนพื้น แต่คลื่นอันทรงพลังแห่งพลังวิญญาณได้ก็ถูกยิงออกมาจากจิตใจของเขา
พลังวิญญาณนี้ถูกควบแน่นเป็นเส้นใย และยิงไปที่หัวของฉินหยูเฉิน