Eternal Martial Sovereign - ตอนที่ 47 – การกลั่นสกัดเม็ดยา
Chapter 47 – การกลั่นสกัดเม็ดยา
“สวัสดีตอนเช้า นายน้อยเซี่ยวหยุน” เซี่ยวหยุนที่จับมือของหยานซือเฟยมาขณะที่เขาเดินเข้าไปเขตที่พักอาศัยตระกูลเซี่ยว บางส่วนของสมาชิกในตระกูลคนอื่นๆทักทายเขา แล้วมองไปด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกับความยกย่อง
“นั้นไม่ใช่ท่านหญิงคนโตหยาน? เหตุใดนายน้อยเซี่ยวหยุนพานางมาที่?”
หลังจากที่เซี่ยวเดินห่างออกไป บางคนของสมาชิกตระกูลก็เริ่มพูดคุยกัน
“เป็นไปได้ว่านายน้อยเซี่ยวหยุนได้ทำให้ท่านหญิงคนโตหยานเป็นของเขาแล้ว”
“ท่านหญิงหยานคนนี้น่ารักมาก คาดว่าจะไม่ด้อยกว่าสาวงามอันดับ 1 ของเขตเมฆาม่วงของพวกเรา!”
“นายน้อยเซี่ยวหยุนได้รับความสุขจริงๆ ถ้าข้าได้จับมือของท่านหญิงคนโตหยาน ข้ายินดียอมสละชีวิต 1 ปีของข้าเลย!”
“ถ้าข้าได้จูบนาง ข้ายินดียอมสละชีวิตข้า 10 ปีเลย!”
ขณะที่เสียงของการพูดคุยโพล่งออกมา เซี่ยวหยุนก็พาหยานซือเฟยเข้าไปในลานบ้านของตัวเอง
“มองสิว่าผู้คนตระกูลเซี่ยวชอบเจ้ามากแค่ไหน!” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่ยิ้ม
“นั่นก็จริง” หลังจากมาที่พักอาศัยตระกูลเซี่ยว อารมณ์ของหยานซือเฟยก็กลายเป็นดีขึ้นมากและนางก็ปิดปากแล้วหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้
“ฟังสิ พวกเขาพูดว่าเจ้ามีข้าก็เหมือนกับมอบอัญมณีให้กับหมู ฮิฮิฮิ ถึงแม้ว่าสำหรับข้าแล้ว เจ้าจะดูไม่เหมือนหมูก็ตาม”
“อะไรคือเหมือนกับการมอบอัญมณีให้กับหมู? สารเลวขี้อิจฉาคนไหนกันที่อิจฉานายน้อยคนนี้มากขนาดนั้น?” ดวงตาของเซี่ยวหยุนกระพริบขณะที่เขามองไปรอบๆอย่างโกรธ เห็นเซี่ยวหยุนเป็นเช่นนี้ หยานซือเฟยก็ขำอย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่นางลืมความกังวลทั้งหมดไป
“ก็เห็นกันชัดๆอยู่ว่าพวกเขาพูดว่าเรานั้นเป็นคู่ที่เหมาะสมกันใช่ไหมล่ะ?” เซี่ยวหยุนกลอกตาของเขาขณะที่มองไปรอบๆ
“ข้าไม่คิดว่ามันถูก” หยานซือเฟยหัวเราะ เมื่อใดก็ตามที่นางอยู่กับเด็กหนุ่มคนนี้ นางก็มักจะหัวเราะอย่างมีความสุขและผ่อนคลายเสมอ
พวกเขาทั้งสองเดินไปหัวเราะไป ลืมเกี่ยวกับปัญหาของพวกเขาในพริบตาแล้วเดินไปที่ลานบ้านที่เซี่ยวหยุนอาศัยอยู่
“พี่ใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว” เซี่ยวหลิงเอ๋อที่เล่นอยู่คู่ของจิ้งจองม่วง เมื่อนางได้ยินเสียงก้าวเท้าก็เงยหน้าขึ้นไป ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสุข อย่างไรก็ตามแต่ เมื่อนางเห็นสาวงามข้างกายพี่ใหญ่ของนาง ใบหน้าของนางก็สลดลงและนางก็ดูเหมือนไม่มีความสุขเล็กน้อย
“ทำไมพี่ใหญ่จึงพี่สาวใหญ่ซือเฟยมาที่นี่?” เซี่ยวหลิงเอ๋อกัดริมฝีปากของนาง มีความไม่พอใจในดวงตาของนางเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางไม่พอใจหลังจากที่สังเกตเห็นว่าพวกเขาดูรักใคร่ซึ่งกันและกันขนาดไหน นางรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างของนางถูกขโมยไปจากนาง
หยานซือเฟยยิ้มขณะที่นางเดินเข้ามาอย่างงดงามแล้วกล่าวว่า “ว่ายังไงน้องสาวหลิงเอ๋อ ไม่ได้เจอกันนานแล้วเลย น้องสาวหลิงเอ๋อเนี่ยดูเหมือนจะสวยมากขึ้นเรื่อยๆเลย ใน 1 หรือ 2 ปี ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะกลายเป็นสาวงามล้มเมืองได้”
“ไม่มีทาง พี่สาวใหญ่ซือเฟยนั้นเป็นสาวงามที่แท้จริง” เมื่อนางได้รับเยินยอเช่นนี้ เซี่ยวหลิงเอ๋อก็ไม่สามารถเก็บใบหน้าไร้อารมณ์ของนางได้แล้วนางจึงยิ้มขัดเขิน นางเงยหน้ามองหญิงสาวแล้วถามว่า “พี่สาวใหญ่ซือเฟยมาที่บ้านของพวกเราเพราะเหตุใดหรือ?”
“พี่สาวใหญ่ซือเฟยจะมาอยู่ที่บ้านของเรา ในอนาคตเจ้าจะได้มีคนคอยดูแลเจ้ายังไงล่ะ” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่เขายิ้ม
“โอ้” เซี่ยวหลิงเอ๋อตอบกลับอย่างสุภาพ อารมณ์ของนางตกดิ่งลงไปราวกับว่านางได้ค้นพบบางสิ่ง
“ฮ๋วนเอ๋อ ไปนำเครื่องนอนใหม่สำหรับพี่สาวใหญ่ซือเฟยมา” เซี่ยวหยุนกล่าวกับฮ๋วนเอ๋อผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“เจ้าค่ะ” ฮ๋วนเอ๋อตอบกลับขณะที่นางออกไป
แล้วเซี่ยวหยุนจึงนำหยานซือเฟยไปที่ลานบ้านขนาดเล็ก เซี่ยวหยุนอาศัยอยู่ในลานบ้านใหญ่ซึ่งบรรจุไปด้วยลานบ้านขนาดเล็กหลายที่ และสามารถรองรับผู้คนจำนวนมากได้ มันช่างน่าเสียดายที่พ่อแม่ของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย เนื่องจากมันทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนค่อนข้างถูกทิ้งร้าง
“พี่สาวใหญ่ซือเฟยสามารถอยู่ที่นี่ได้” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่เขาพาหยานซือเฟยไปที่ห้อง
มาถึงสถานที่แห่งนี้ที่ไม่คุ้นเคยแล้วมองไปที่รอบๆห้อง หยานซือเฟยรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย
“ถ้าพี่สาวใหญ่ซือเฟยไม่ชอบที่นี่ ท่านสามารถอยู่ที่ห้องกับข้าได้เสมอ” เซี่ยวหยุนยิ้มซุกซน
“เจ้าปรารถนา” หยานซือเฟยกลอกตาของนาง “เจ้ามักจะพยายามหาผลประโยชน์จากพี่สาวใหญ่ของเจ้าเสมอ”
“ฮ่าฮ่า แล้วจะให้ข้าหาผลประโยชน์จากใครถ้าไม่ใช่จากพี่สาวใหญ่ซือเฟย?” เซี่ยวหยุนหัวเราะ
ในเวลานี้ได้มีเสียงอื่นดังออกมา “ฮึ่ม ข้าต้องการอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน”
“น้องสาวซือหยัน” เซี่ยวหยุนขมวดคิ้ว
เมื่อเขามองไปยังที่มาของเสีย เขาก็เห็นเด็กหญิงน่ารักยืนอยู่ขณะที่นางบุ้นปาก มองดูหึงหวงอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่นางเดินเข้ามา นางก็จ้องมองที่เซี่ยวหยุน ซึ่งมีความหมายชัดเจนว่า: คนเสียนิสัย
“น้องสาวซือหยัน เหตุใดเจ้ามาอยู่ที่นี่?” เซี่ยวรู้สึกค่อนข้างพูดไม่ออก
“เหตุใดข้าจะมาไม่ได้?” หยานซือหยันตอบกลับอย่างโกรธเกรี้ยว ริมฝีปากของนางเม้มแน้น มองดูไม่ชอบใจมาก
เซี่ยวหยุนเหยียดฝ่ามือของเขาออกมา รู้สึกค่อนข้างหมดหนทาง ด้วยเด็กหญิงคนนี้อยู่ที่นี่ แล้วเขาจะสนุกกับโลกของสองคนกับพี่สาวใหญ่ซือเฟยได้อย่างไร?
“ซือหยัน ท่านพ่อท่านแม่รู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่?” หยานซือเฟยถาม
“ข้าบอกพวกเขาไปแล้ว” หยานซือหยันตอบ
หยานซือเฟยขมวดคิ้ว ราวกับนางรู้ว่าน้องสาวกำลังคิดอะไร
“พี่สาวใหญ่ ข้าสามารถอยู่ที่นี่กับท่านได้ใช่ไหม?” หยานซือหยันถามขณะที่นางกระพริบด้วยดวงตาที่ชื้นแฉะ
“เรื่องนี้…” หยานซือเฟยลังเล “ท่านพ่อและท่านแม่อาจจะโกรธถ้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่!”
หยานซือหยันยิ้มขณะกล่าว “ข้าไม่สนเรื่องนั้น พี่สาวใหญ่ปล่อยให้ข้าอยู่ที่นี่ก็พอ ถ้าข้าอยู่ที่นี่ พี่ใหญ่เซี่ยวหยุนจะไม่สามารถหาผลประโยชน์จากท่านได้!” นางคว้าแขนของพี่สาวใหญ่ไว้ขณะที่นางอ้อนวอน
หยานซือเฟยรู้สึกค่อนข้างหมดหนทางและกล่าวว่าว “เอาล่ะ แต่เจ้าต้องให้ท่านพ่อและท่านรู้”
“อื้อ ได้เลย” รอยยิ้มร่าเริงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยานซือหยัน
“โธ่” เซี่ยวหยุนมองไปที่เด็กสาวแล้วส่ายหัว
“ฮึ่ย เซี่ยวหยุน การแสดงออกของเจ้ามันหมายถึงอะไรกัน?” หยานซือหยันพูดด้วยความโมโห
เซี่ยวหยุนเหยียดมือของเขาอย่างหมดหนทางและทำได้เพียงอนุญาตให้หยานซือหยันอยู่ที่นี่ด้วยเท่านั้น
“ฮึ่ม มันต้องอย่างนี้สิ” การแสดงออกของผู้มีชัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยานซือหยัน ดวงตาที่เฉลียวฉลาดของนางมองไปรอบๆ แต่เซี่ยวหยุนคิดไม่ออกว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ เขาทำได้เพียงส่ายหัวแล้วออกไปเท่านั้น ด้วย ‘ล้อที่สาม’ นี้ได้ทำลายอารมณ์ เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะออกไป (ล้อที่สาม = ส่วนเกิน)
“โอ้ เจ้า!” หยานซือเฟยหัวเราะ รู้ว่าน้องสาวของนางกำลังคิดอะไร อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นอีก ดังนั้นหยานซือหยันจึงไม่ได้รู้สึกงุ่มง่าม
หลังจากที่เซี่ยวหยุนเดินออกไปแล้ว หยานซือหยันก็เม้มริมฝีปากของนางขณะที่ถามว่า “พี่สาวใหญ่ ท่านกำลังจะแต่งงานกับพี่ใหญ่เซี่ยวหยุนจริงๆ?”
“เจ้าไม่ต้องการให้พี่สาวใหญ่กับพี่ใหญ่เซี่ยวหยุนอยู่ด้วยกันรึ?” หยานซือเฟยยิ้มขณะที่นางถาม
“ข้าอยาก แต่…” เด็กสาวหยุดตัวนางเอง หลังจากที่ได้ยินคำตอบของพี่สาวใหญ่ นางรู้ว่านางไม่อาจแยกพี่สาวใหญ่ของนางออกจากเซี่ยวหยุนได้ อย่างไรก็ตาม นางคิดกับตัวเอง นางรู้สึกผิดปกติมาก – เหตุใดพี่ใหญ่เซี่ยวหยุนจึงไม่ได้ชอบนาง?
หยานซือเฟยไม่กล่าวอะไรอื่นอีกและอนุญาตให้หยานซือเฟยอยู่ที่นี่ได้
สำหรับเซี่ยวหยุน เขาตัดสินใจจะไปเรียนรู้การกลั่นสกัดเม็ดยา เขายังไม่มีส่วนผสมทั้งหมดสำหรับเม็ดยาต้นกำเนิด แต่เขามีส่วนผสมสำหรับผงยา
เซี่ยวหยุนไม่ได้รีบร้อน – เขาจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อเพิ่มการควบคุมเปลวไฟและส่วนผสมสมุนไพร หลังจากทดลองไม่กี่ครั้ง การควบคุมของเขาก็กลายเป็นชำนาญมากยิ่งขึ้น ในความเป็นจริง เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาสามารถสร้างเม็ดยาได้
“ไม่เลว พลังวิญญาณของเจ้าทรงพลังผิดปกติ เจ้าถูกกำหนดมาให้เหนือกว่านักกลั่นสกัดเม็ดยาทั่วไป บางทีวันหนึ่งเจ้าอาจจะกลายเป็นปรมาจารย์แห่งการกลั่นสกัดเม็ดยาก็ได้ และนายท่านผู้นี้ก็จะมีกายเนื้ออีกครั้ง” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อ ทุกครั้งที่มันเห็นเซี่ยวหยุนเก่งขึ้น มันก็จะรู้สึกว่าได้เข้าใกล้การฟื้นคืนกายเนื้อมาอีกขั้น
“มันช่างน่าเสียดายที่ข้าไม่มีส่วนผสมสมุนไพรเพียงพอ” เซี่ยวหยุนส่ายหัว
“หยุนเอ๋อ” ทันใดนั้นเสียงของใครบางคนก็เรียกเขาจากระยะไกล
“นั่นเป็นลุงสอง” ดวงตาของเซี่ยวหยุนสว่างขึ้นขณะที่เขาเปิดประตูแล้วออกมา ที่ด้านนอก หยุนไห่ได้มาพร้อมกับคนอื่นอีกสองสามคนจากตระกูลเซี่ยวหยุน ซึ่งทุกคนกำลังขนส่วนผสมสมุนไพรมาด้วย
“เหล่านี่เป็นส่วนผสมสมุนไพรที่เจ้าต้องการ นอกเหนือจากส่วนของเม็ดยาระบายลึกลับแล้ว ทั้งหมดได้อยู่ที่นี่ นี่อาจจะเพียงพอสำหรับแบ่งทำเม็ดยาต้นกำเนิดได้ 10 เม็ด ซึ่งข้าคิดว่ามันเพียงพอแล้วสำหรับที่เจ้าจะเรียนรู้ ถ้าพวกมันไม่เพียงพอ ลุงสองจะไปซื้อเพิ่มอีกจนกว่าเจ้าจะกลั่นสกัดเม็ดยาได้” เซี่ยวไห่ดูตื่นเต้นอย่างน่าเหลือเชื่อขณะที่เขากล่าวว่า “ข้าได้ขายผงยาทั้งหมดของเจ้าไปอย่างลับๆแล้ว ฮ่าฮ่า มันเยี่ยมยอดมาก!”
“ดีแล้ว” เซี่ยวหยุนมองไปที่ส่วนผสมสมุนไพรขณะที่เขาพูดว่า “ลุงสอง ท่านสามารถช่วยข้าซื้อส่วนผสมสมุนไพรบางส่วนได้หรือไม่?”
“เจ้าต้องการอะไร?” เซี่ยวไห่ถาม
เซี่ยวหยุนเอาแผ่นหนังที่มีรายชื่อเขียนไว้บนมันขณะที่เขากล่าวว่า “ได้โปรดช่วยข้ารวบรวมสิ่งเหล่านี้”
“ไม่มีปัญหา” เซี่ยวไห่ไม่ได้ถามอะไรที่ไม่จำเป็นอีกแล้วตกลงทันที ถ้าเซี่ยวหยุนจำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านี้ แล้วจะทำไมถ้าเขาต้องขายแม้กระทั่งโชคลาภของตระกูล? การพัฒนานักกลั่นสกัดเม็ดยามีความสำคัญยิ่ง!
หลังจากนั้น เซี่ยวหยุนก็เริ่มกลั่นสกัดส่วนผสมสมุนไพรเหล่านี้
“อุณหภูมิของเจ้าจำเป็นต้องอ่อนลงสำหรับสำหรับหญ้าจันทราละลายอันนี้ มิฉะนั้นคุณสมบัติสมุนไพรของมันจะสูญหายไปหลังจากการกลั่นสกัด” (หญ้าจันทราละลาย ทาง eng ใช้คำว่าซอยเซีย ผมไม่รู้ว่าชื่อไทยใช้อะไรแต่มันเป็นคำนาม เพราะงั้นใครรู้บอกผมหน่อยนะครับ)
“เจ้าจำเป็นต้องเพิ่มความสนใจไปที่หญ้าเก้าวิภาต้นนี้มากขึ้น อ่า,มันเกือบจะถูกเผาไปแล้ว”
ภายในห้องฝึกต่อสู้ของเซี่ยวหยุน เขามุ่งเน้นความพยายามทั้งหมดของเขาไปที่การกลั่นสกัดเม็ดยา และจิตใจทั้งหมดของเขาก็อยู่ในหม้อปรุงเม็ดยา
มันเป็นเพียงนกกระจอกกลืนกินสวรรค์ที่จู้จี้เขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เซี่ยวหยุนรู้สึกร้อนใจพอดู
“บ้าเอ้ย ไอ้นกน่ารำคาญ เจ้าเงียบสักทีได้ไหม?” เซี่ยวหยุนรู้สึกท้อแท้มาก “ถ้าเจ้ายังทำตัวเอะอะอีก ข้าจะผนึกเจ้าทิ้งซะ”
“เฮ้ ข้าก็แค่พยายามจะช่วยเจ้าเอง” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์หดตัวแล้วตกลงสู่ความเงียบ อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงส่งสัมผัสออกมา ซึ่งรู้สึกหงุดหงิดอยู่ทีเดียว
ไม่นานหลังจากนั้น ส่วนผสมสมุนไพรทั้งหมดก็ได้ถูกกลั่นสกัดเป็นเหมือนกับแป้งเปียกสมุนไพรแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการขึ้นรูปเม็ดยา
เซี่ยวหยุนใช้พลังวิญญาณของเขาเพื่อควบคุมเปลวไฟสีม่วงภายในหม้อปรุงเม็ดยา ทำหารหลอมแป้งเปียกสมุนไพร
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เม็ดยาก็เริ่มมีรูปร่างขึ้นมา
ฟู่ว
เสียงฟู่วดังออกมาขณะที่ทั่วทั้งหม้อปรุงเม็ดยาได้สั่นเทา
“เกิดอะไรขึ้น หม้อปรุงยากำลังจะระเบิด?” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์รู้สึกประหลาดใจขณะที่มันส่งสัมผัสออกไปที่หม้อ
“นั้นมันในแง่ร้าย” เซี่ยวหยุนกลอกตาของเขาขณะที่รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้า
ในขณะนี้ได้มีเม็ดยาแสงสีเหลืองนอนอยู่ในหม้อ
เมื่อมันเห็นเม็ดยาภายในหม้อปรุงยา นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ก็แปลกใจและตกใจอย่างมาก “จ-เจ้ากลั่นสกัดเม็ดยาได้สำเร็จ?”
เซี่ยวหยุนดึงเปลวไฟสีม่วงกลับมาขณะที่คลื่นของแก่นแท้ปราณกวาดออกมาและพาเม็ดยาออกมาจากหม้อปรุงยา
หลังจากที่มันตกลงในมือของเขา เซี่ยวหยุนก็รู้สึกได้ถึงคลื่นของแก่นแท้ปราณแห่งสวรรค์และปฐพีอันหนาแน่นเล็ดลอดออกมาจากเม็ดยา
นี่ไม่ได้แค่บงบอกแค่ว่าเขาได้กลั่นสกัดเม็ดยาเม็ดแรกได้แล้ว – มันยังหมายถึงว่าเขาได้กลายเป็นนักกลั่นสกัดเม็ดยาแล้ว
“ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งเจือปนอยู่ในเม็ดยาเม็ดนี้อยู่บ้างและคุณภาพทางยาของมันก็ไม่ได้ดีนัก แต่มันก็ยังเป็นเม็ดยาที่ต่ำกว่าระดับ 1” นกระจอกกลืนกินสวรรค์กล่าวด้วยความตกใจขณะที่มันไปที่เม็ดยา “ไอ้หนู เจ้ากลั่นสกัดเม็ดยาได้ในความพยายามครั้งแรก เจ้ายังเป็นมนุษย์อีกหรือ”
“นายน้อยผู้นี่เป็นมนุษย์โดยธรรมชาติอยู่แล้ว แถมข้าก็ยังหล่อกว่าคนอื่นนิดๆด้วย”
เซี่ยวหยุนพูดติดตลกขณะที่เขาเหยียดมือ และกลั่นสกัดเม็ดยาต่อ เม็ดยาที่ต่ำกว่าระดับ 1 เม็ดนี้มันขี้ประติ๋วแล้วยังไม่ได้มีประโยชน์ต่อผู้ฝึกตนมากนักด้วย แล้วเขาก็จำเป็นต้องปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
**
เปลี่ยนจากแก่นแท้ปราณแห่งสวรรค์และโลก เปลี่ยนโลกเป็นปฐพีครับ