Chapter 46 – ข้าอยากไปกับเขา
“อะไรนะ?! เจ้าต้องการไปกับเขา?” การแสดงออกของความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของท่านหญิงหยานแล้วก็ตามด้วยความโกรธขณะที่นางกล่าว “เฟยเอ๋อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังพูดอะไรอยู่?”
ข้างๆนาง ดยุคหยานก็จ้องมองด้วยความประหลาดใจเช่นกัน มันดูเหมือนว่าลูกสาวของเขาไม่ได้ล้อเล่น! แต่ว่าเซี่ยวหยุนเพิ่งจะอายุแค่ 16 ปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อดยุคหยานมองไปที่เซี่ยวหยุนก็พบว่าเขานั้นไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าเซี่ยวหยุนจะยังคงมีบรรยากาศอ่อนนุ่มเล็กน้อยกับตัวเขา แต่เขาก็เกือบจะสูงเท่าดยุคหยานแล้ว เมื่อถึงวัยดังกล่าว ไม่ว่าใครก็ต้องแต่งงานในราชอาณาจักรจันทราวายุ แต่สิ่งนี้กะทันหันเกินไป ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เด็กหนุ่มคนนี้ขโมยหัวใจของลูกสาวเขาไป?
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าอยากไปกับเซี่ยวหยุน” หยานซือเฟยค่อยๆเม้มริมฝีปากขณะที่กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว
ดวงตาของท่านหญิงส่องประกายด้วยความเย็นชาขณะที่นางโต้กลับว่า “เจ้าตกหลุมรักไอ้เด็กนี้?”
ข้างๆพวกเขา หยานซือหยันจ้องไปที่พี่สาวใหญ่ของนางเท่านั้น
พี่สาวใหญ่ชอบพี่ใหญ่เซี่ยวหยุนได้อย่างไร? มันไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคู่กันหรอกหรือ?
หยานซือหยันส่ายหัวของนาง ความคิดหมุนอยู่รอบนาางขณะที่นางคิดถึงสถานการณ์ที่ซับซ้อนมาก
“ถูกต้อง” หยานซือเฟยตอบกลับ
“เจ้าตกหลุมรักเขาได้อย่างไรกัน?” ท่านหญิงหยานขมวดคิ้วลึก
“เฮ้อ” ดยุคหยานถอนหายใจหนักหน่วงอย่างช่วยไม่ได้
“เหตุใดข้าถึงตกหลุมรักเขาไม่ได้กัน?” น้ำเสียงของหยานซือเฟยนั้นเด็ดเดี่ยว “ในตอนนั้น มีลูกชายของตระกูลสูงศักดิ์จำนวนมากคอยไล่ตามข้า แต่หลังจากพบว่าข้าต้องทุกข์ทรมานจากพิษร้ายแรง พวกเขาก็โยนข้าทิ้งไป หลังจากนั้น มันมีพวกเขากี่คนที่มาหาข้า? มีเพียงแค่เซี่ยวหยุนเท่านั้นที่เต็มใจจะเสี่ยงชีวิตตัวเองใช้จิตวิญญาณการต่อสู้เพื่อสกัดพิษให้ข้า”
“พิษนั้นเป็นบางสิ่งที่สามารถทำให้คนธรรมดาตายได้ทันที แต่เซี่ยวหยุนก็ยังเสี่ยงชีวิตของเขาเพื่อดูว่าเขาสามารถสกัดมันเพื่อช่วยข้าได้ไหม สำหรับบางคนที่ให้ความสำคัญกับข้อผูกมัดและความยุติธรรมเป็นอย่างมาก เขาไม่คู่ควรที่ข้าจะตกหลุมรักหรือ? จะมีใครในโลกนี้อีกที่จะทำสิ่งเช่นนี้ให้กับข้า?” คำพูดของหญิงสาวดังราวกับฟ้าผ่า เสียงของนางรุนแรงด้วยอารมณ์
หลายปีมานี้ นางได้ฝั่งสิ่งเหล่านี้ไว้ในหัวใจนางนานเกินไป
ดยุคหยานรู้สึกเจ็บปวดภายในหัวใจของเขา พวกเขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของหยานซือเฟยอย่างชัดเจนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก
เด็กหญิงผู้น่ารักและมีชีวิตชีวากลายเป็นเงียบและพูดน้อยลง แล้วยังอยู่แต่ในห้องของนางตลอดทั้งวัน ไม่เต็มใจที่จะได้พบกับใคน นี่ทำให้นางรู้สึกผิดหวังและหมดศรัทธาในตัวทุกคนรอบตัวนาง ทำให้นางสูญเสียความหวังในตัวผู้คนไป
เมื่อได้ยินลูกสาวของพวกเขากล่าวเช่นนี้ ดยุคหลานและท่านหญิงหยานก็รู้สึกเจ็บปวดภายในหัวใจด้วยกันทั้งคู่
“งั้นพี่สาวใหญ่ก็ชอบพี่ใหญ่เซี่ยวหยุนเช่นกัน” ด้านข้าง หยานซือหยันยังคงรู้สึกไม่พอใจ แต่หลังจากที่ได้ยินพี่สาวใหญ่ของนางพูดทั้งหมดนั้นออกมา หัวใจของนางก็สั่นไหวและความทุกข์ก็ค่อยๆหายไป
พี่สาวใหญ่ได้รับความเลวร้ายยิ่งกว่าข้า!
“แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แล้วเซี่ยวหยุนดีพอสำหรับเจ้าแล้วหรือ?”
การแสดงออกของท่านหญิงหยานหนาวเย็นขณะที่นางพูดว่า “ถึงแม้ว่าเขาจะช่วยผู้คนได้ แต่ในท้ายที่สุด เขาก็แค่ผู้ฝึกตนชั้นต่ำและไม่ได้มีศักยภาพมากนัก มองไปที่นายน้อยฉินสิ – เขาเป็นถึงศิษย์ของผู้อาวุโสจากนิกายต้นกำเนิดสวรรค์และยังสามารถเอาเม็ดยาแก้พิษระดับ 2 ออกมาได้เรื่อยๆ ถ้าเจ้าติดตามเขา เจ้าจะได้รับการยกย่องจากผู้คนนับไม่ถ้วนและยังสามารถเข้าสู่นิกายต้นกำเนิดสวรรค์เพื่อกลายเป็นเซียนซึ่งไร้ผู้เทียบได้ เข้าสู่โลกแห่งการต่อสู้อันไร้ขีดจำกัด”
“อนาคตประเภทใดกันที่เจ้าจะมีกับเซี่ยวหยุน?”
คำพูดของท่านหญิงหยานนั้นหนาวเย็นอย่างมากขณะนางกล่าว “ซ้ำร้าย ตระกูลฝางกำลังต่อต้านตระกูลเซี่ยว ถ้าเจ้าติดตามเซี่ยวหยุน จะเกิดอะไรกับเจ้ากัน?”
“ท่านแม่ ท่านกล่าวเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?” หยานซือเฟยขมวดคิ้วลึกขณะที่นางกล่าวว่า “ข้าชอบเซี่ยวหยุนเพราะว่าเขาดีกับข้า มันจะเกี่ยวอะไรกับศักยภาพของเขา? แล้วจะยังไงคนอื่นมีศักยภาพอันไร้ขีดจำกัด? พวกเขาจะรักข้าอย่างแท้จริงเช่นเดียวกันหรือไม่?”
ท่านหญิงหยานตอบกลับ “รักที่แท้จริง? เจ้ามันเด็กสาวผู้โง่เขลา ในอนาคตเจ้าจะพบว่า ‘รักที่แท้จริง’ ก็เป็นแค่จินตนาการที่เต็มไปด้วยความสุขของหนุ่มสาว ถ้าเจ้าต้องอยู่อย่างหวาดกลัวและไร้ซึ่งความปลอดภัย เจ้ามี ‘รักที่แท้จริง’แล้วไง? ฟังแม่แล้วแต่งงานกับนายน้อมฉินและเข้าสู่นิกายต้นกำเนิดสวรรค์กับเขา”
“ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงทำแบบนี้?” หยานซือหยันไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไปขณะที่นางบุ้ยปาก “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าพี่ใหญ่เซี่ยวหยุนจะไม่มีอนาคต? เขาสามารถยับยั้งพิษของพี่สาวใหญ่ลงได้ เขาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน มันก็แค่เขาไม่มีเวลาเพียงพอที่จะเติบโต”
“ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อก่อนพี่ใหญ่เซี่ยวหยุนเป็นอัจฉริยะของเขตเมฆาม่วงของพวกเรา แม้แต่ฝางเฮ่าก็ไม่มีค่าพอที่จะเก็บรองเท้าให้เขา”
เด็กหญิงรู้ไม่พอใจมากเมื่อนางเห็นท่าทีของมารดา
“ซือหยัน เจ้ายังเป็นเด็กอย่ามายุ่งกับเรื่องนี้” ท่านหญิงหยานตำหนิ
“ท่านแม่ ข้าไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว” หยานซือหยันกล่าว แล้วขมวดคิ้วลึกขณะที่นางยื่นหน้าอกของนางออกมา ราวกับว่านางกำลังพยายามพิสูจน์ว่านั้นไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ท่านหญิงหยานเมินเฉยนาง
“เซี่ยวหยุน ตระกูลหยานของพวกเราต้องขอบคุณเจ้าสำหรับการรักษาเฟยเอ๋อตลอดลหลายปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าต้องการจะแต่งงานกับเฟยเอ๋อของพวกเราเพราะเหตุนั้นละก็ มันก็เป็นได้แค่ความคิดปรารถนา ตระกูลเซี่ยวของเจ้ายืนอยู่บนพื้นที่สั่นคลอน แต่ถึงกระนั้นเจ้าก็ยังมีเวลาออกมาเจ้าชู้ได้? มันจะดีกว่าถ้าเจ้าเริ่มวางแผนหนีด้วยตนเองและอย่าเป็นภาระให้กับเฟยเอ๋อของเรา” ท่านหญิงหยานกล่าวอย่างเย็นชา
“ฮ่าฮ่า ดังนั้นในท่านที่สุด มันก็เป็นเพราะว่าท่านหญิงหยานคิดว่าเช่นนั้น ข้าเซี่ยวหยุนคนนี้ไร้ประโยชน์? เพราะว่าข้าคือขยะ” เซี่ยวหยุนยิ้มเย้ยหยันตัวเอง
“เจ้าก็พูดมันได้สินะ” ท่านหญิงหยานตอบกลับ
“ท่านแม่!” หยานซือเฟยขมวดคิ้ว รู้สึกเจ็บปวดภายในหัวใจขณะที่นางกล่าว “ท่านพูดเช่นนั้นกับเซี่ยวหยุนได้อย่างไร?”
เซี่ยวหยุนโบกมือให้สัญญาณกับหยานซือเฟยไม่ต้องพูดอะไรอีกขณะที่เขาตอบกลับ “ท่านหญิงหยานอย่าได้กังวล ถ้าหากซือเฟยมากับข้า ข้ารับรองกับท่านได้เลยว่านางจะไม่ได้ประสบความทุกข์ นอกจากนี้ตระกูลเซี่ยวของข้าจะไม่ถูกทำลาย และข้าจะล้มฝางเฮ่าในอีกหนึ่งเดือนที่ศึกประลองยุทธ์”
“เจ้าคิดว่าจะสามารถเอาชนะฝางเฮ่าได้?” ความดูถูกปรากฏขึ้นบนใบหน้าของท่านหญิงหยาน ส่วนดยุคหยานมีความอยากรู้บนใบหน้าของเขา สงสัยว่าความมั่นใจนี้ของเด็กหนุ่มมาจากไหนกัน
“ข้าได้ยินมาว่าเขาทะลวงผ่านไปเมื่อ 2 เดือนก่อน บางมันอาจจะ…” ดยุคหยานส่งสัมผัสของเขาไปที่เซี่ยวหยุน ต้องการจะรู้ถึงการบ่มเพาะของเซี่ยวหยุน หลังจากที่รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของเด็กหนุ่ม คิ้วของเขาก็กระตุก “กลิ่นอายนี้ – ดูเหมือนว่าเขาจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตต้นกำเนิดแล้ว”
การแสดงของดยุคหยานกลายเป็นแปลกเล็กน้อยขณะที่เขาคิดว่า “เป็นไปได้ว่าพรสวรรค์ของเด็กนี้กลับมาแล้ว?”
“นั้นถูกแล้ว ข้าจะเอาชนะฝางเฮ่าและข้าจะรักษาพิษของซือเฟยอย่างสมบูรณ์” เซี่ยวหยุนกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว
“ซือเฟย ไปกันเถอะ” เซี่ยวหยุนไม่เสียคำพูดใดๆอีกต่อไปขณะที่เขาจับมือของหยานซือเฟยแล้วหันตัวจากไป
“ท่านพ่อ ท่านแม่ แม้ว่าข้าจะต้องตาย ข้าก็จะไม่แต่งกับฉินหยูเฉิน” หยานซือเฟยกล่าวกับพ่อแม่ของนางแล้วหันตัวจากไป
“เฟยเอ๋อ หยุดเดี๋ยวนี้” ท่านหญิงหยานตะโกน
หยานซือเฟยไม่ได้หันกลับมามองขณะที่นางจากไปกับเด็กหนุ่ม นางกังวลถ้านางอยู่ที่นี่ต่อ นางจะไม่ได้สามารถไล่ตามความสุขของตัวเองได้อีกต่อไป โชคชะตาของนางจะอยู่ในกำมือของพ่อแม่นาง อย่างไรก็ตาม นางไม่ต้องการแต่งงานกับใครก็ตามที่นางไม่ได้รัก ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะจากไปชั่วคราว
“ภรรยา ไม่จำเป็นต้องโกรธไปหรอก” ดยุคหยานกล่าวขณะที่เขาโบกมือ
ท่านหญิงหยานตอบกลับ “เพราะเหตุใด? เป็นไปได้ไหมว่าท่านต้องการอนุญาตให้นางกับอยู่ไอ้ขยะเซี่ยวหยุนคนนั้น? ท่านควรรู้ว่าตระกูลฝางกำลังจะกระทำการอะไรกับตระกูลเซี่ยว หลังจากที่เซี่ยวหยุนตาย เฟยเอ๋อควรทำอย่างไร?” ใบหน้าของท่านหญิงหยานเต็มไปด้วยความกังวล
“แล้วเราจะใช้อะไรหยุดเฟยเอ๋อล่ะ?” ดยุคหยานขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขาพูดว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้านางไม่สามารถคิดและใช้ชีวิตของตัวนางเองได้? เพราะนางชอบเขา งั้นก็แค่ปล่อยนางไปและหวังว่านางจะไม่เสียใจกับตัดสินใจในอนาคต”
“เฮ้อ” ท่านหญิงหยานถอนหายใจ “เหตุใดเด็กนั่นถึงชอบไอ้เด็กเซี่ยวหยุนกันนะ?”
“แล้วมันมีอะไรไม่ดีเกี่ยวกับพี่ใหญ่เซี่ยวหยุน?” หยานซือหยันพึมพำ
เมื่อนางเห็นว่าลูกสาวของนางทำตัวผิดแปลกไป ท่านหญิงก็ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าในวันนี้กัน? ซือหยัน เจ้าห้ามไปพบกับเซี่ยวหยุนอีกในอนาคต”
หยานซือหยันบุ้ยปากขณะกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการฟังท่านแล้ว ข้าจะจากไป ข้าต้องการจะดูว่าเซี่ยวหยุนเอาพี่สาวออกไปจริงๆรึเปล่า” หลังจากกล่าวเช่นนี้ เด็กหญิงก็วิ่งออกจากลานบ้านและหายไปในชั่วพริบตา
“ดูสิ พี่ใหญ่หรง ลูกสาวทั้งสองคนนี้ถูกทำให้นิสัยเสียโดยท่าน” ท่านหญิงหยานโกรธมากจนหน้านางเกือบจะเป็นสีเขียว
“ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นเจ้าหรอกหรือ?” ดยุคหยานยิ้มอย่างสงบขณะที่เขามองไปยังระยะไกลด้วยความโหยหาบนใบหน้าของเขา “ถ้าเด็กคนนั้นก้าวสู่ขอบเขตต้นกำเนิดที่แท้จริงแล้ว บางทีเขาอาจจะมีอนาคตก็ได้!” เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเขาจำได้ถึงพรสวรรค์ของเด็กหนุ่มจากตอนนั้น
ขณะที่เซี่ยวหยุนเดินออกมากับหยานซือเฟย มีเด็กหนุ่มสองคนที่อยู่บนหอคอยสูงภายในที่พักอาศัยตระกูลหยานที่ปัจจุบันกำลังมองมาอยู่
“ฮ่าฮ่า พี่ใหญ่ฉิน ดูเหมือนว่าหยานซือเฟยจะปฏิเสธที่จะแต่งงานกับท่านเพราะว่านางชอบไอ้ขยะเซี่ยวหยุน!” รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฝางเฮ่าขณะที่เขามองไปยังเด็กหนุ่มตัวสูงที่อยู่ข้างๆเขาที่สวมเสื้อผ้าลายปัก
“เซี่ยวหยุน?” ฉินหยูเฉินยกขึ้นของเขาขึ้นขณะที่หัวเราะอย่างเย็นชา “ทำไมหญิงสาวที่ข้ายกหัวใจให้นั้นเป็นที่ปรารถนาโดยเขา? ข้าจะทำให้เขาเสียใจสำหรับเรื่องนี้” ฉินหยูเฉินมีรูปลักษณ์
ผ่าเผยและดูหล่อเหลาพร้อมกับดูฉลาด ดวงตาที่เหมือนดวงดาวของเขาจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มที่กำลังออกจากลานบ้านด้วยความเย็นชา มีความมุ่งร้ายปรากฏขึ้นภายในพวกมันซึ่งทำให้บรรยากาศของเขาเหมือนกับของอสูร
“แน่นอน แน่นอน ในฐานะอัจฉริยะท่ามกลางผู้คน ไอ้ขยะนั้นจะมาเปรียบเทียบกับพี่ใหญ่ฉินได้อย่างไรกัน” เมื่อเขาเห็นความมุ่งร้ายบนหน้าของฉินหยูเฉิน ฝางเฮ่าก็ยิ้มขณะที่เขากล่าวว่า “แต่อย่างไรก็ตาม มันเห็นได้ชัดว่าเขาได้เอาชนะใจหญิงงามไปแล้ว – ข้าสงสัยว่าพี่ใหญ่ฉินจะทำอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?”
เจตนาสังหารเปล่งปลั่งอยู่ในดวงตาของฉินหยูเฉินขณะที่เขากล่าวว่า “เราจะทำตามแผนของเจ้า ข้าจะปล่อยให้เขารู้ว่ามันโง่มากแค่ไหนที่พยาพยามจะเอาผู้หญิงของข้าไป สำหรับสุนัขตัวเมียหยานซือเฟย ข้าจะทำให้นางต้องร้องขอความตายสำหรับการทำให้ข้าผิดหวัง”
“ฮ่าฮ่า เนื่องจากพี่ใหญ่ฉินกล่าวเช่นนั้น ทุกสิ่งก็สามารถจัดการได้!” ฝางเฮ่าหัวเราะขณะที่ดวงตาของเขาแคบลง ความพึงพอใจปรากฏขึ้นบนดวงตาของเขา
“ตระกูลเซี่ยว ข้าจะดูว่าเจ้าจะสู้กับข้าอย่างไร!”
ปัจจุบันเซี่ยวหยุนกำลังพาหยานซือเฟยไปยังที่พักอาศัยตระกูลเซี่ยว เมื่อนางเห็นประตูบานใหญ่ของที่พักอาศัยตระกูลหยาน หยานซือเฟยก็รู้สึกถึงร่องรอยของความโศกเศร้าภายในหัวใจของนาง – นางไม่เคยคิดว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนเป็นเช่นนี้
“เจ้าเสียใจที่ออกจากตระกูลหยาน?” เซี่ยวหยุนถาม ซึ่งรู้ว่าหญิงสาวกำลังรู้สึกอึดอัดมาก
“ตั้งแต่ที่ข้าตัดสินใจเช่นนี้ไปแล้ว ข้าก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียใจ” หยานซือเฟยมองไปที่เซี่ยวด้วยความเด็ดเดี่ยว เมื่อนางได้ตัดสินใจ นางก็จะทำการเตรียมการทั้งหมด และจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
“อย่าได้กังวล ข้าจะดูแลปัญหาใดๆก็ตาม” เซี่ยวหยุนกล่าว “เมื่อถึงเวลานั้น พ่อแม่ของเจ้าจะเปลี่ยนวิธีที่พวกเขามองมาที่ข้า ข้าเซี่ยวหยุนจะไม่เป็นขยะไปตลอดชีวิตของข้าและก็ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงของข้าต้องทนทุกข์ทรมาน”
เขารู้ว่าหยานซือเฟยรู้สึกกดดันอยากมากในการที่ออกมาจากตระกูลหยาน ดังนั้นเขาจึงต้องให้ความหวังนางในการแบกรับเรื่องนี้
“ข้าเชื่อในตัวเจ้า” ดวงตางดงามของหยานซือเฟยกระพริบ หัวใจของนางก็รู้สึกสั่นไหว เพียงแค่อารมณ์อ่อนไหวนี้จากเด็กหนุ่มมันก็เพียงพอแล้ว
ทั้งสองคนจ้องมองไปยังกันและกันขณะที่ความเสน่หาซึ่งกันและกันได้เติบโตแข็งแรงขึ้น แล้วจับมือกันไว้แน่น
MANGA DISCUSSION