Eternal Martial Sovereign - ตอนที่ 90 สร้างความกลัวให้กับผู้อื่น
ตอนที่ 90 สร้างความกลัวให้กับผู้อื่น
อย่างที่กล่าวไว้ ชายคนหนึ่งมีทองอยู่ใต้เข่าของเขา จะให้เซี่ยวหยุนจะคุกเข่าเพื่ออะไรกัน? พวกตระกูลชิวทุกคนต้องการที่จะทำให้เซี่ยวหยุนขายหน้าในที่สาธารณะก็แค่นั้น!
“เจ้าต้องการให้ข้าคุกเข่าลงไปงั้นหรือ? งั้น…ข้าก็จะทำให้เจ้าคุกเข่าก่อนละกัน!!!”
เซี่ยวหยุนไม่ได้แสดงความกลัวใด ๆออกมาเพื่อตอบสนองต่อชิวเฉิน เขากลับแสดงออกท่าทีมาอย่างเย็นชา และการจ้องมองของเขาก็เย็นลงเมื่อระลอกคลื่นลึกลับเล็ดลอดออกมาจากเขา
ความเย่อหยิ่งของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณของตระกูลชิว ทำให้ความตั้งใจในการฆ่าของเซี่ยวหยุนมีมากขึ้นไปอีก
แต่แล้วเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นผู้ฝึกฝนที่อยู่ใกล้ ๆ ทุกคนก็ต่างตกตะลึง น้ำเสียงของเด็กหนุ่มคนนี้ดูเย่อหยิ่งและโอ้อวดมากขึ้น คู่ต่อสู้ของเขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แท้จริง เด็กหนุ่มคนนี้จะทำให้เขาคุกเข่าได้อย่างไรกัน?
“เด็กโง่เอ๋ย” บรรยากาศรอบตัวของชิวเฉินมืดลงในขณะที่เขายื่นฝ่ามือของเขาไปในอากาศและพลังวิญญาณที่โหดร้ายก็พัดออกมาราวกับพายุ พลังที่ออกไปทำให้ทุกคนที่อยู่รอบ ๆนั้นรู้สึกหนาวจนสั่นไปทั้งตัว
“นั่น! ชิวเฉินกำลังจะใช้ฝ่ามืออสูรมืดของเขา!”
“แม้แต่ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณก็ยังไม่สามารถหลบหรือปิดกั้นการโจมตีนี้ได้เลยสักคน!” ผู้ฝึกฝนคนอื่น ๆ ต่างเฝ้าดูอย่างตั้งใจ แม้เซี่ยวหยุนจะกล้าหาญมาก แต่เด็กหนุ่มคนนี้ก็มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นเหยื่อผู้แพ้แน่ ๆ
ฝ่ามืออสูรมายาแห่งความมืด!
ดวงตาของชิวเฉินเปล่งประกายขึ้นอย่างน่ากลัว ในขณะที่เขากวาดมือไปรอบ ๆตัวอย่างช้า ๆ ออร่าที่โหดร้ายรวมตัวกันเหมือนหมอกที่กำลังจะยิงเข้าใส่เซี่ยวหยุนในไม่ช้า!
“จิตวิญญาณแห่งการทำลายล้าง!” เช่นเดียวกับที่ชิวเฉินกำลังจะปลดปล่อยพลังการโจมตีของเขาออกมา ดวงตาของเซี่ยวหยุนก็เปล่งประกายขึ้นในขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปด้านข้างราวกับงูไฟและคลื่นพลังวิญญาณอันยิ่งใหญ่ก็กวาดออกจากหว่างคิ้วของเขาไปยังหัวของชิวเฉนอย่างรวดเร็ว!
จากความรู้สึกเฉียบพลันของเขา เซี่ยวหยุนรู้ดีว่าพลังวิญญาณของชิวเฉินนั้นแข็งแกร่งเพียงใด การโจมตีของเขาทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ และถึงแม้ว่าเซี่ยวหยุนต้องการใช้พลังวิญญาณเพื่อส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาแค่ไหน เขาก็จะได้รับการต่อต้านออกมามากแค่นั้น! ถึงอย่างนั้นในขณะที่ชิวเฉินกำลังรวบรวมพลังวิญญาณฉีเพื่อจะปลดปล่อยทักษะของเขานั้น เซี่ยวหยุนก็ได้ย้ายไปอยู่ด้านข้างแล้ว!
ฟรึ่บ!
พลังวิญญาณถูกควบแน่นให้เป็นเหมือนเส้นด้าย และเจาะเข้าไปในจิตใจของชิวเฉิน ทำให้จิตวิญญาณของเขารู้สึกสั่นสะท้าน
“อ๊ากกกก!!!!” ชิวเฉินร้องออกมาเสียงดังลั่น เขารู้สึกเหมือนว่าวิญญาณของเขากำลังถูกเข็มแหลมทิ่มแทงอยู่ และศีรษะของเขาก็กำลังถูกคุกคามจากความเจ็บปวด
ในขณะนี้เซี่ยวหยุนก็ขยับตัวออกมา เขาเดินวนไปมาที่ด้านหลังของชิวเฉิน จากนั้นเขาก็พลิกฝ่ามือของเขาขึ้นมา และดาบอ่อนของเขาปรากฏขึ้นในมือของเขา!
ฉึบ! ฉึบ!
ดาบของเซี่ยวหยุนช่างนั้นรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ และมันก็สามารถแทงทะลุเมฆเพื่อทำลายล้างศัตรูได้ด้วย แสงดาบของเขากระพริบและขาของชิวเฉินยับยหัก จึงทำให้ตอนนี้เขานั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น
เสียงอู้อี้ดังออกมาอย่างกึกก้อง และทุกคนต่างก็จ้องมองด้วยความตดตะลึง ในตอนนี้ชิวเฉินกำลังคุกเข่าลงบนพื้นและร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด พวกเขาเห็นว่าเส้นเลือดที่หลังเข่าของเขาถูกตัดขาดอย่างน่ากลัวและเลือดสีสดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าขาของเขาจะพิการจนเขาไม่มีทางสู้ได้อีกแล้ว!
กลิ่นนองเลือดฟุ้งไปทั่วอณูในอากาศ ทำให้จมูกของทุกคนรอบ ๆนั้นระคายเคืองขึ้นมาก!
“นะ…นี่มัน! ตาของข้าต้องฝาดไปแล้วแน่ ๆ! ชิวเฉินตอนนี้คุกเข่าอยู่บนพื้น?!”
“พระเจ้า! ไม่ใช่ว่าชิวเฉินกำลังคิดจะทำร้ายเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ใช่หรือ? ละ…แล้วเขาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” ไม่ไกลนักคนที่สงสัยว่าชิวเฉินจะจัดการกับเด็กหนุ่มหน้าด้านคนนี้ได้อย่างไร ก็ต้องตาเบิกกว้างเผยให้เห็นถึงความตกใจ ฉากก่อนหน้าทำให้พวกเขาน่าตกใจเกินไป ซึ่งทำให้เกิดการถกเถียงกันอยู่รอบ ๆตัวพวกเขา
ผู้ฝึกฝนคนอื่นจากตระกูลใหญ่ต่างก็รู้สึกล้มเหลวเช่นกัน ผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ในตอนนี้กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
หวืดดดด!!
ทันใดนั้นทุกในรอบ ๆก็ต่างหันไปมองที่เซี่ยวหยุนเป็นตาเดียว
“เด็กคนนั้นมีพลังแบบไหนกันแน่!”
“เขาเป็นคนทำให้ขาของชิวเฉินพิการงั้นเหรอ?” ทุกคนต่างพึมพำเสียงอื้ออึง พวกเขารู้สึกว่าหัวใจของพวกเขากำลังจะกระโดดออกจากอกของพวกเขา เด็กหนุ่มคนนี้อายุเพียงสิบหกปีเขาจะรับพลังเช่นนี้มาได้อย่างไรกัน?
คนที่ตกใจมากที่สุดคือคนในตระกูลชิว ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างรอคอยอย่างใจเย็นให้เซี่ยวหยุนเป็นฝ่ายโดนจัดการ แต่แล้วในชั่วพริบตาผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณจากครอบครัวของพวกเขาก็คุกเข่าลงบนพื้นโดยนึกถึงสิ่งที่เด็กหนุ่มคนนั้นเพิ่งพูดเมื่อไม่นานมานี้ เหล่าคนในตระกูลชิวตอนนี้หัวใจของพวกเขาสั่นสะท้าน พวกเขารู้สึกกลัวอย่างแปลกประหลาด!
“จะเป็นไปได้ไหมว่าเขาแข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับพลังแห่งอาณาจักรวิญญาณอันร้ายกาจ?”
มิฉะนั้นเด็กหนุ่มคนนี้จะทำให้ชิวเฉินคุกเข่าได้อย่างไร?
“นี่! ไอ้ตัวเล็กเจ้าเป็นใคร? เจ้ากล้าทำร้ายคนในตระกูลชิวของเราได้อย่างไร?” ใกล้กับขอบเขตของปล่องไฟผู้ฝึกฝนอีกคนหนึ่งในดินแดนอาณาจักรวิญญาณของตระกูลชิวได้เดินผ่านไป สายตาของเขานั้นเป็นน้ำแข็ง และเขาก็ส่งเสียงคำรามออกมาหลังจากมองไปที่ชิวเฉินที่กำลังคุกเข่าอยู่!
ชายคนนี้อายุประมาณสี่สิบปีและพลังที่ทะลุออกมาจากตัวเขาก็เป็นพลังที่แข็งแกร่ง เมื่อเห็นคน ๆ นี้เดินผ่านไปผู้บ่มเพาะของตระกูลชิวทั้งหมดก็รวมตัวกันจ้องมองไปที่เซี่ยวหยุนอย่างเย็นชา
“ก็เขาอยากจะทำให้ข้าพิการ แล้วข้าควรจะยอมให้เขาทำงั้นหรือ?” เซี่ยวหยุนเลิกคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่เหล่าผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณของตระกูลชิวอย่างใจเย็น
“แล้วเจ้าคิดว่าตระกูลชิวของเราจะยอมให้เจ้าประพฤติชั่วในดินแดนของเราได้อย่างไรกัน?” การแสดงออกของชายคนนั้นมืดลงทันที และเขาก็ตะโกน “ล้อมรอบมันไว้!!”
“ขอรับ!” เมื่อรับคำเสร็จ เหล่าคนของตระกูลชิวก็ทำการล้อมรอบเซี่ยวหยุนทันที!
พรึ่บ! ในตอนนี้แสงรูนสว่างวาบขึ้นภายในช่องไฟ และวังนภาเพลิงก็ได้เปิดขึ้น
“ดูนั่น! วังผู้สืบทอดเปิดแล้ว!”
“ผู้อาวุโสชิวซวงเฟิงได้เข้าไปแล้ว!”
“ผู้อาวุโสของเราได้เข้าไปแล้ว!” เหล่าผู้ฝึกฝนจากหลายครอบครัวร้องอุทานกันอย่างตื่นเต้น
“วังนภาเพลิงเปิดแล้วงั้ยหรือ?” เซี่ยวหยุนหรี่ตาลงและมองไปที่คนในตระกูลชิวที่ล้อมรอบตัวเขาอยู่ สำหรับเขาวังนภาเพลิงแห่งนี้เป็นโอกาสที่หายากมากสำหรับเขา เพราะสุดท้ายมันจะเกี่ยวข้องกับการฝึกฝน และการเติมโตขึ้นของเขาในอนาคต
“เจ้าอยากเข้าไปด้วยงั้นหรือ?” ชายจากตระกูลชิวถามอย่างเย็นชา “แต่ฝันไปเถอะ! เพราะข้าจะฆ่าเจ้าแล้วโยนลงไปในเปลวเพลิงซะ!”
หลังจากนั้นสายตาของเขาก็มืดลง และเขาก็พุ่งโจมตีทันที!
มือตะวันสวรรค์!
มือของเขาเปล่งแสงสีทองเป็นประกายทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน มือขนาดมหึมาก่อตัวขึ้นราวกับดวงอาทิตย์จากนั้นก็กระแทกลงไปที่เซี่ยวหยุนอย่างแรง!
นี่เป็นการโจมตีเต็มรูปแบบจากผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณอันแข็งแกร่ง ดังนั้นมันจึงทำให้เกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่ไปทั่วทั้งอากาศ
ในบริเวณใกล้เคียงนั้น ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณทั้งหมดก็เตรียมพร้อมที่จะโจมตีและฆ่าเซี่ยวหยุนด้วย!
“เพราะมันเป็นแบบนี้ไง ก็อย่าโทษว่าข้าไม่ปราณีละกัน!!” เซี่ยวหยุนจ้องมองพวกเขาและนำหอกทำลายวิญญาณออกมา!
ฟึ่บ!
เกิดแสงกระพริบขึ้นภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของเซี่ยวหยุน เมื่อหอกทำลายวิญญาณปรากฏขึ้นมาและนำคลื่นพลังวิญญาณที่น่ากลัวออกมาด้วยนั้น ดูเหมือนจะทำให้อากาศโดยรอบเย็นลง จิตใจของผู้บ่มเพาะทั้งหลายได้กระหึ่มหายไปในความกลัวและความหวาดกลัวนั้น!
เหล่าคนที่มองอยู่ก็เห็นแสงวาบผ่านอากาศ และทะลุผ่านมือตะวันสวรรค์ของฝึกฝนพลังวิญญาณไป!
ปัง!
เสียงระเบิดดังออกมาและแสงสีทองสลายไป ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณขณะจ้องมองไปข้างหน้าอย่างงุนงง และในที่สุดเขาก็ล้มลงกับพื้นและผู้ที่สังเกตอย่างใกล้ชิดก็จะเห็นว่าศีรษะของเขาทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกแทงทะลุออกไป!
หลังจากเสร็จกับเการโจมเพียงตีครั้งเดียวแล้ว เซี่ยวหยุนก็นำหอกทำลายวิญญาณกลับเข้าสู่ห้วงสำนึกของเขา ตอนนี้เขาใช้พลังวิญญาณไปมากแล้ว โชคดีที่ตอนนี้ตระกูลชิวไม่มีผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งอีกแล้ว เขาจึงไม่ต้องใช้พลังวิญญาณมากเกินไปอีก!
“นะ… นั้น! เขาตายแล้วหรือ?” หลังจากที่เซี่ยวหยุนได้เก็บหอกทำลายวิญญาณแล้ว ความกดดันของวิญญาณอันยิ่งใหญ่ก็หายไป ผู้ฝึกฝนจากตระกูลต่าง ๆ มองข้ามไปและเห็นผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณได้นอนอยู่บนพื้นอยู่
“โอ้ สวรรค์เอ๋ย เจ้าคนนั้นมันฆ่าผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณของเราไปแล้ว!”
“เขามีพลังวิญญาณแบบไหนกันแน่?!”
“ทะ ทำไมข้าจึงไม่เห็นการโจมตีของเขาเลยละ?”
“ข้าเองก็ด้วย ข้ารู้สึกราวกับว่าจิตใจของข้าสั่นราวกับว่าข้าถูกฟ้าผ่า แล้วเมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งมันก็เป็นเช่นนี้แล้ว” ผู้คนในฝูงชนมองไปรอบ ๆ พร้อมกับอธิบายถึงความตกใจของพวกเขา แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเชื่อว่าคนที่ดูอ่อนเยาว์ เหมือนไม่มีพิษมีภัยจะมีความแข็งแกร่งมากมายขนาดนี้!
“เขามาจากที่ไหนกัน?” ผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณบางส่วนของตระกูลอื่น ๆ ถามเมื่อพวกเขามองมาที่เซี่ยวหยุ่นอย่างจริงจัง
พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณทั้งสองของตระกูลชิวนั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่ไม่ได้เห็นว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างไร หากพวกเขาเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มคนนี้พวกเขาจะพบชะตากรรมเดียวกันกับทั้งสองคนหรือไม่? เป็นเรื่องยากที่จะหาเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ด้านพลังวิญญาณที่ร้ายกาจเช่นนี้ในอาณาจักรแห่งสายลมจันทรา!
“เป็นไปได้ไหมที่เขาไม่ได้มาจากอาณาจักรแห่งสายลมจันทราของเรา” บางคนสงสัยขึ้นมา พวกเขาไม่มีคำอธิบายอื่นแล้วจริง ๆ
“ตระกูลชิวนี้ค่อนข้างโชคร้ายเสียจริงที่ได้พบกับอัจฉริยะเช่นนี้” บรรดาผู้ที่สงสารเซียวหยุนหรือดูถูกเขาในตอนแรก ก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและเริ่มล้อเลียนตระกูลชิวทันที ทำไมพวกเขาถึงยืนกรานที่จะทำร้ายเด็กหนุ่มคนนี้กัน? ทั้งหมดนี้จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้หากพวกเขาปล่อยเขาลงไปอย่างงั้นหรือ?
ในตอนนี้พวกเขาได้สูญเสียผู้บ่มเพาะพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งไปถึงสองคน สำหรับตระกูลชิวแล้ว นี่นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่เลยทีเดียว!
หลังจากฆ่าหนึ่งในนั้นเรียบร้อยแล้ว เซี่ยวหยุนก็ไม่อยู่อย่างนิ่งเฉยเขาเดินต่อไปเรื่อย ๆ ตอนนี้วังนภาเพลิงถูกเปิดออกแล้ว และมีผู้อาวุโสหลายคนเข้ามาเขาไม่สามารถตกอยู่ข้างหลังได้ ท้ายที่สุดไม่มีใครรู้ว่าในนั้นมันมีสมบัติหรือมรดกประเภทใดอยู่
“คุณต้องการออกไปหลังจากฆ่าสมาชิกในครอบครัวของเราหรือไม่” เมื่อเห็นว่าเซี่ยวหยุนยังคงเดินต่อไปยังช่องว่างไฟ ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณเพียงไม่กี่คนก็วิ่งเข้าหาเขา ทั้งหมดมีสิบคนหรือมากกว่านั้นและแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีพลังมาก แต่พวกเขาก็อยู่ในช่วงปลายของการฝึกฝนดังนั้นพวกเขาจะแตกต่างกันที่จะจัดการร่วมกัน
แสงจากดาบของพวกเขาเปล่งประกายออกมา และเสียงของอากาศที่ถูกฉีกก็ดังขึ้น!
“พวกเจ้านี่ชอบรนหาที่ตายกันเสียจริง!” การจ้องมองของเซี่ยวหยุนเริ่มเย็นชาขณะที่เขาผลักฝ่ามือออกและแสงสีม่วงก็เปล่งประกายออกมา
ฝ่ามือเมฆาเพลิง!
เปลวไฟระเบิดออกทำให้อากาศเกิดการบิดเบือนและเปลี่ยนเป็นไฟสีม่วงคล้ายเมฆที่ก่อตัวต่อหน้าของเซี่ยวหยุน!
แม้ว่าฝ่ามือเมฆาเพลิงของเซี่ยวหยุนนั้นจะยังไม่ถึงระดับที่สามารถทำลายทุกสิ่งได้ในชั่วอึดใจ แต่พวกเขาก็ไม่ควรละเลยไป!
นี่ไม่ใช่แค่เพราะเซี่ยวหยุนมาถึงขั้นปลายของอาณาจักรวิญญาณ แต่เนื่องจากจิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วงนั้นค่อนข้างพิเศษและไม่สามารถเทียบได้กับพลังปกติของพลังฉีเลย!
ปัง!
กลุ่มเมฆาเพลิงปะทะกับแสงดาบทำให้ปล่อยคลื่นความร้อนที่น่าสะพรึงกลัว และส่งคนสองคนบินขึ้นไป
“เปลวไฟพวกนี้หรือเปล่า?” ผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงจ้องมองด้วยความไม่เชื่อ แม้แต่คนของตระกูลชิวที่อยู่ด้านหลังที่กำลังเร่งรีบก็ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง!
เซี่ยวหยุนไม่ได้สนใจว่าคนเหล่านี้จะเป็นอย่างไร เขามองไปที่คนของตระกูลชิวอย่างใจเย็นขณะที่ดวงตาของเขาก็ได้เปล่งประกายขึ้น และมีแสงกระพริบตรงหว่างคิ้วของเขาขณะที่หมอกสีเขียวออกมาเป็นละลอกคลื่นและพุ่งไปยังที่ของคนในตระกูลชิว!
“นี่คืออะไร?” เมื่อเห็นหมอกมาหาพวกเขาคนในตระกูลชิวก็ค่อนข้างสับสนกัน
“อึก! นะ นี่มันคือหมอกพิษ!”
“เร็วเข้า! รีบกลั้นหายใจ!” หลังจากหายใจเข้าสองครั้ง คนในตระกูลชิวบางคนก็รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติและรีบเตือนคนอื่น ๆ ทันที!
“อะไรนะมันคือหมอกพิษงั้นหรือ?” ผู้ฝึกฝนคนอื่น ๆ นั้นก็ตื่นตัวและรีบกลั้นหายใจอย่างรวดเร็ว!
การจ้องมองของฝูงชนที่มีต่อเซี่ยวหยุนได้แปลกไปแล้ว ในตอนนั้นเด็กหนุ่มคนนี้ได้ใช้ทักษะการต่อสู้ด้วยไฟและตอนนี้เขาใช้พิษ เขารู้ทักษะที่หลากหลายเช่นนี้ได้อย่างไรกันแน่?
ในตอนนี้ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณจากตระกูลอื่น ๆ ก็เริ่มที่จะกลัวเด็กเซี่ยวหยุนขึ้นมา และตอนนี้พวกเขาก็เห็นเซี่ยวหยุนเป็นตัวอันตรายไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังแอบดีใจที่ไม่ใช่พวกเขาที่ยืนขวางทางของเซี่ยวหยุน มิฉะนั้นผลลัพธ์ของพวกเขาจะเป็นเหมือนตระกูลชิวเป็นแน่!