Eternal Martial Sovereign - ตอนที่ 80 ความหวังของตระกูลไท
Chapter 80 – ความหวังของตระกูลไท
ทั้งหมดของผู้อาวุโสภายในโถงมองไปยังเด็กหนุ่มด้วยความกังขา
แต่อย่างไรก็ตาม เซี่ยวหยุนนั้นดูสงบและเป็นอิสระอย่างเหลือเชื่อ โดยไร้ซึ่งร่องรอยของอารมณ์บนใบหน้าของเขาด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะถูกทุกคนกังขา แต่เขาก็ไม่ได้ดูไม่พอใจเลย และคงเงียบสงบที่เขาแสดงออกมาก็ได้ปล่อยบรรยากาศลึกซึ้งและลึกล้ำออกมา จากนั้นผู้คนก็มองไปยังผู้นำที่สองของตระกูลไทด้วยความสับสน
“ถูกต้อง” ผู้นำที่สองของตระกูลไทตอบกลับ “เมื่อเราอยู่ในป่าหมอกลวงตา เราได้ถูกลอบโจมตีโดยฉีจงและฉีหมิง ข้าถูกพิษและไม่สามารถสู้ได้ เจ้ารู้ไหมว่าใครมาเปลี่ยนโชคชะตาของทุกคนในตอนที่เรากำลังจะถูกสังหาร?”
“ใครกัน?” ได้ยินสิ่งนี้ ทุกคนก็ต้องตกใจอย่างเหลือเชื่อและมองไปยังเด็กหนุ่มผู้สงบนิ่งอีกครั้ง
“เป็นเขาหรือ?”
ขณะที่ความคิดนี้เกิดขึ้นมาในจิตใจพวกเขา ทุกคนก็พากันส่ายหัว มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเชื่อได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะมีแบบพลังดังที่กล่าวมา
“แท้จริงแล้วเป็นนายน้อยเซี่ยวหยุนที่สังหารไปทั้งฉีจงและฉีหมิง ทำให้พวกเราสามารถพลิกสถานการณ์และกลับมายังเมืองหมอกเหนือได้” ผู้นำที่สองของตระกูลไทยกคิ้วขึ้นขณะที่เขามองไปรอบๆ ด้วยร่องรอยของความภูมิใจในน้ำเสียงของเขา
มันราวกับว่าเขากำลังพูดถึงความสำเร็จของตัวเองในสนามรบ ทุกคนจะรู้สึกภูมิใจกับเด็กหนุ่มคนดังกล่าว
“เขาสังหารฉีจงและฉีหมิง?” ได้ยินสิ่งนี่ ผู้อาวุโสของตระกูลไททั้งหมดก็เหยียบตาปลาตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งต้องตกตะลึงไปเพราะข่าวนี้โดยสมบูรณ์ พวกเขามองไปยังเซี่ยวหยุนอย่างจริงจัง – มันยากมากที่จินตนาการได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้สามารถสังหารสองผู้ฝึกตนของเขตแก่นแท้ที่แท้จริงไปได้
“ไม่เพียงแค่นั้น แต่หรงเอ๋อก็ถูกพิษของตระกูลฉีและก็เป็นนายน้อยเซี่ยวหยุนคนนี้ที่สกัดพิษช่วยนางเอาไว้ได้” ผู้นำที่สองของตระกูลไทพูดต่อ
“เรื่องนี้มันเป็นความจริงหรือ?” ผู้นำอาวุโสของตระกูลไทถามขณะที่เขามองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้างเขา
“ใช่” ร่องรอยความเขินอายเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไทหรงเอ๋อขณะที่นางพยักหน้า “ชีวิตของลูกสาวท่านแท้จริงแล้วถูกช่วยไว้โดยนายน้อยเซี่ยวหยุน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาลงมืออย่างชอบธรรมและโจมตีคนของตระกูลฉีแล้ว ลูกสาวของท่านก็คงไม่อาจสามารถกลับมาเจอหน้าท่านได้อีกครั้ง”
“เหลือเชื่อ!” ได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของผู้นำอาวุโสตระกูลไทสว่างขึ้นและดวงตาของผู้อาวุโสคนอื่นทั้งหมดก็มีแสงวูบผ่านไปด้วยความมุ่งหวัง
ถ้าเด็กหนุ่มคนนี้สกัดพิษได้จริงๆ ล่ะก็ มันก็จะดูเหมือนกับแสงสว่างที่ส่องประกายในความมืดมิด!
“นายน้อยเซี่ยวหยุนท่านสามารถรักษาพิษของพี่ใหญ่ข้าและของคนอื่นได้ไหม?” ผู้นำที่สองของตระกูลไทถาม
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่สุภาพของผู้นำที่สอง ทุกคนในตระกูลไทก็รู้สึกไว้วางใจในตัวเซี่ยวหยุน มิฉะนั้นด้วยสถานะของเขา ทำไมผู้นำที่สองต้องกระทำตัวนอบน้อมกับคนที่อายุน้อยกว่าเขาอย่างมากล่ะ?
เซี่ยวหยุนยักไหล่และยืนขึ้นขณะที่เดินไปยังผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้าของเขา นอกเหนือจากผู้นำที่สองของตระกูลไทแล้ว ก็ยังมีผู้อาวุโสอีกเก้าคนอยู่ที่นี่ ในพวกเขาทั้งเก้าแล้ว มีสี่คนไปถึงขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงและที่เหลืออีกห้าคนทั้งหมดต่างก็อยู่ที่ขั้นสมบูรณ์ของขอบเขตต้นกำเนิด จากผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงแล้ว มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ถูกพิษ
ผู้ที่อยู่ในสภาพที่ร้ายแรงที่สุดคือผู้นำอาวุโสของตระกูลไท ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาใช้การบ่มเพาะที่สูงพอสมควรของเขาเพื่อสะกดข่มพิษแล้ว พิษก็อาจจะแสดงอาการออกมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม สภาพของเขาก็ยังคงค่อนข้างน่ากลัวและเร็วๆ นี้เขาก็คงจะไม่สามารถสะกดข่มพิษได้อีกต่อไปแล้ว
เซี่ยวหยุนแค่มองไปยังผู้คนรอบกายเขาก็สามารถบอกได้ถึงสภาพของพวกเขาแล้ว ตราบเท่าที่ผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงสะกดข่มพิษของพวกเขาไว้ เขาก็จะสกัดมันออกมาได้
“เป็นอย่างไรบ้าง?” ผู้นำที่สองของตระกูลไทถามอย่างกระวนกระวาย
“พิษสามารถชะลออาการได้ แต่มันไม่ง่ายที่จะกำจัดออกไปโดยสมบูรณ์” เซี่ยวหยุนตอบกลับ
“โอ้?” ผู้นำที่สองของตระกูลไทขมวดคิ้วขณะที่เขาถาม “นายน้อยเซี่ยวหยุนสามารถช่วยพี่ใหญ่ของข้าและคนอื่นสกัดพิษของพวกเขาได้ใช่หรือไม่?”
“นายน้อยเซี่ยวหยุน ถ้าท่านสามารถรักษาพิษของพ่อข้าได้ ข้าเต็มใจที่จะมอบชีวิตของข้าแก่ท่าน” ไทหรงเอ๋อมองไปยังเซี่ยวหยุนด้วยท่าทีอ้อนวอน เมื่อเห็นพ่อของนางถูกพิษอย่างสาหัสแล้ว นางก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของนางถูกเฉือนไปด้วยมีด
“ถูกต้อง ไม่ว่าท่าจะต้องการอะไรก็ตาม ตระกูลไทของเราก็จะทำให้ดีที่สุดเพื่อเติมเต็มมัน” ผู้อาวุโสคนอื่นกล่าว
“พิษของผู้นำอาวุโสของตระกูลไทนั้นรุนแรงเกินไป ถ้าข้าช่วยเขา ข้าก็จะไม่สามารถช่วยคนอื่นไปได้สักพักหนึ่ง” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่เขาขมวดคิ้ว
“ไม่เป็นไร ตราบเท่าที่ท่านสามารถช่วยผู้นำตระกูลของเราได้ก็เพียงพอแล้ว” ผู้อาวุโสคนอื่นพยักหน้า
“ดีมาก” เซี่ยวหยุนไม่ได้คัดค้าน
“ท่านสามารถสกัดพิษของข้าได้จริงๆ รึ?” ผู้นำอาวุโสของตระกูลไทถามอย่างจริงจัง
“ใช่” เซี่ยวหยุนกล่าว “มันไม่ได้ยากลำบากที่จะสกัดพิษ แต่มันต้องใช้แก่นแท้สำคัญของข้าไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นข้าจึงจำเป็นต้องทำมันช้าๆ”
“งั้นช่วยสกัดพิษของลูกชายข้าก่อน” ผู้อาวุโสของตระกูลไทกล่าวออกมากะทันหัน
“สกัดพิษของลูกชายท่าน?” เซี่ยวหยุนยกคิ้วขณะที่เขามองไปรอบๆ แต่เขาก็ไม่ได้เห็นคนรุ่นเยาว์คนอื่นอยู่ที่นี่เลย
“ลูกชายของข้าตกอยู่ในสภาพหมดสติและอาจจะผ่านวันนี้ไปไม่ได้” ผู้นำอาวุโสของตระกูลไทกล่าวอย่างทุกข์ใจ “ข้ามีชีวิตมาหลายสองสามทศวรรษแล้วและข้าก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจมากมาย ข้าก็แค่ไม่อยากเห็นลูกชายตายก่อนตัวเอง ดังนั้นได้โปรดช่วยเขาก่อน”
“น้องชายหยาน?” หัวใจของไทหรงเอ๋อสั่นขณะที่ท่าทีกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง นางได้ยินว่าน้องชายของนางถูกพิษมาตั้งนานแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม นางพึ่งกลับมาจึงยังไม่ได้มีโอกาสไปพบเขา เมื่อได้ยินพ่อของนางกล่าวเช่นนี้ นางก็รู้สึกกระวนกระวายอย่างเหลือเชื่อ
พ่อของนางเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงและสามารถสะกดข่มพิษของเขาได้ชั่วคราว แต่ตันเถียนของน้องชายนางถูกทำลายไปแล้ว – เขาจะไปมีชีวิตรอดได้อย่างไรกัน?
“พวกเจ้าทั้งหมดคิดเห็นเช่นไร?” เซี่ยวหยุนถาม “ตอนนี้สถานการณ์ของตระกูลไทพวกเจ้าไม่ได้ดูดีมากนัก ด้วยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงเพิ่มขึ้นมา พวกเจ้าก็จะมีโล่เพิ่มขึ้น ถ้าข้าช่วยลูกชายของท่านในวันนี้ ข้าก็จะสามารถรักษาท่านได้ในวันพรุ่งนี้เท่านั้น มิฉะนั้นข้าจะไม่สามารถต้านทานพิษได้อีกเลย”
“โปรดช่วยลูกชายข้า” ผู้นำอาวุโสของตระกูลกล่าวโดยไม่ต้องคิด
ก่อนหน้านี้ เขาจะมองไปยังภาพที่ใหญ่กว่าเสมอ แต่หลังจากที่ทุกสิ่งเกิดขึ้น เขาก็ได้ผ่านประตูแห่งความตายไปครึ่งทางแล้ว เขาไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องอื่นอีกต่อไปแล้วและต้องการให้ลูกชายและลูกสาวของเขายังมีชีวิตต่อไปได้ แม้ว่าเขาจะต้องตายก็ตาม
ผู้อาวุโสคนอื่นก็ยังคงเงียบและไม่ได้คอยโต้เถียง พวกเขาจำนวนมากสูญเสียญาติผ่านอุปสรรคนี้และก็เข้าใจว่าผู้นำอาวุโสรู้สึกอย่างไร
“แม้ว่าจะเป็นพรุ่งนี้ มันก็ยังไม่สายเกินไป ตระกูลฉีมีผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงไม่กี่คนเท่านั้น และไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีหนทางป้องกันตนเองจากพวกเขาเลย” ผู้นำที่สองของตระกูลไทกล่าวหลังจากที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของเซี่ยวหยุน เขารู้สึกมั่นใจมากขึ้น ด้วยการมีเด็กหนุ่มคอยช่วยเหลือพวกเขา พวกเขาก็จะไม่ต้องกังวลมากนัก
“ดีมาก” เซี่ยวหุยนกล่าว “พาข้าไปดูอาการของลูกชายท่าน”
ด้วยการมีคนของตระกูลไทคอยนำทาง พวกเขาก็มาถึงลานบ้านของไทหยานในไม่ช้า ไทหยานอายุยังน้อยและอายุก็ใกล้เคียงกับเซี่ยวหยุน เขาได้กลายเป็นผู้ชนะเลิศของศึกประลองยุทธ์เมืองหมอกเหนือและได้สิทธิ์ไปเข้ารับการตรวจสอบของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ ตระกูลไทได้รับเหรียญนภาอัคคีมาก็เพื่อเขาโดยเฉพาะ
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่เขาไม่ได้มีโอกาสใช้มันเท่านั้น แต่เขายังต้องทนทรมานจากพิษและกลายเป็นคนพิการไปอีก
เมื่อเซี่ยวหยุนเห็นไทหยาน เขาก็ขมวดคิ้วลึกอย่างช่วยไม่ได้ พิษภายในร่างกายของไทหยานได้เข้าสู่เส้นลมปราณของเขาและฝั่งรากลึกลงไปในกระดูกแล้ว ถ้าพวกเขามาช้ากว่านี้อีกครึ่งชั่วโมง พิษก็จะไปถึงหัวใจและสังหารเขาไปแล้ว เมื่อเห็นสถานะของไทหยาน สมาชิกคนอื่นของตระกูลไทก็มองดูเศร้าหมองอย่างเหลือเชื่อ
อัจฉริยะที่พวกเขานำความหวังทั้งหมดใส่ไว้กลับต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
“นายน้อยเซี่ยวหยุน ยังมีความหวังสำหรับน้องชายข้าไหม?” ไทหรงเอ๋อขมวดคิ้วแน่น นางกำลังถูกแผดเผาด้วยความสิ้นหวัง หลังจากที่มองไปยังเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนกำลังจะหมดลมหายใจแล้ว นางก็มองไปยังเซี่ยวหยุนด้วยความหวัง มันเห็นได้ชัดว่านางเอาใจใส่ไทหยานขนาดไหน
“ตราบเท่าที่ท่านสามารถช่วยลูกชายข้าได้ ข้าจะเติมเต็มทุกคำขอของท่านโดยไม่เกี่ยงว่าเป็นเรื่องใด” ใบหน้าของผู้นำอาวุโสตระกูลไทถูกปกคลุมไปด้วยความเจ็บปวดและน้ำตาก็ส่องแสงแวววาวอยู่ในดวงตาของเขาขณะที่เขาอ้อนวอนเด็กหนุ่มที่อยู่ถัดไปจากเขา คนๆ นี้เป็นเพียงความหวังเดียวที่จะช่วยลูกชายของเขาได้!
“พิษได้เข้าสู่กระดูกของเขาแล้ว จากตอนนี้ข้าสามารถทำได้แค่ชะลอพิษเท่านั้น ถ้าท่านอยากช่วยเขา พวกเราก็จะต้องใช้วิธีอื่น” เซี่ยวหยุนตอบกลับ
“วิธีอะไร?” ผู้นำอาวุโสของตระกูลไทถามอย่างจริงจัง
“ได้โปรด ได้โปรดเถิด ช่วยน้องชายของข้าด้วย” ไทหรงเอ๋อร้องไห้สะอึกสะอื้นขณะที่นางดึงแขนของเซี่ยวหยุน
“ข้าจะเขียนรายชื่อของส่วนผสมสมุนไพรไปให้ท่านรวบรวมมา” เซี่ยวหยุนตอบกลับ
“ตกลง ตกลง” ผู้คนของตระกูลไทเปิดเผยการแสดงออกแห่งความหวังออกมา หลังจากนั้นเซี่ยวหยุนก็มอบรายชื่อส่วนผสมสมุนไพรให้แก่พวกเขา
“พยายามจะรวบรวมส่วนผสมสมุนไพรเหล่านี้ให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ถ้าท่านสามารถทำแบบนั้นได้ ข้าก็จะสามารถช่วยสกัดพิษของไทหยานได้โดยสมบูรณ์” เซี่ยวหยุนส่งมอบรายชื่อให้กับผู้นำที่สองของตระกูลไท มันเป็นรายชื่อส่วนผสมสมุนไพรสำหรับเม็ดยาแก้พิษ เช่นเดียวกันกับส่วนผสมสมุนไพรบางตัวที่เขาต้องการนำมาให้ตัวเอง ด้วยวิธีนั้น คนอื่นก็จะไม่สามารถทำตามตำรับยาของเขาได้
“ท่านผู้นำที่สอง ส่วนผสมสมุนไพรของเม็ดยาแก้พิษได้ถูกผูกขาดไปโดยตระกูลฉีอย่างสมบูรณ์แล้ว มันจะเป็นเรื่องยากอย่างเหลือเชื่อที่เราจะรวบรวมพวกมันมาได้!” ผู้นำอาวุโสอธิบายหลังจากที่ได้มองรายชื่อ นับตั้งแต่ที่พวกเขาถูกลอบโจมตี ตระกูลไทก็ได้รวบรวมส่วนผสมสมุนไพรสำหรับเม็ดยาแก้พิษมาตลอด แต่อย่างไรก็ตาม มันช่างน่าเสียดายที่สินค้ามีอยู่อย่างจำกัด ขณะที่ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดได้ถูกซื้อไปโดยตระกูลฉี สิ่งนี้ทำให้ตระกูลไทรู้สึกจนปัญญา
“ท่านไม่สามารถรวบรวมส่วนผสมสมุนไพรได้?” เซี่ยวหยุนขมวดคิ้ว “งั้นมันก็จะเป็นปัญหาแล้วสำหรับการกำจัดพิษออกไป มีคนมากมายในตระกูลไทที่ถูกพิษ ถ้าท่านอยากช่วยพวกเขา ข้าก็จำเป็นต้องใช้ส่วนผสมสมุนไพรเหล่านี้ เนื่องจากข้าไม่สามารถสกัดพิษให้พวกท่านทั้งหมดทีละคนได้”
“ไม่มีหนทางแล้วจริงรึ?” ผู้คนของตระกูลไททั้งหมดดูหดหู่ เว้นแต่พวกเขาจะออกไปรวบรวมส่วนผสมสมุนไพรมาได้ มันก็คงจะไม่เป็นไปไม่ได้ที่จะหาของที่ถูกเซี่ยวหยุนเขียนรายชื่อไว้
“ท่านมีพันธมิตรผู้ค้าที่ขายส่วนผสมสมุนไพรไหม?” เซี่ยวหยุนถามขึ้นมากะทันหันหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่
“เรามี” ผู้นำที่สองของตระกูลไทตอบกลับ “เมืองหมอกเหนือของเรามีพันธมิตรผู้ค้าเมฆาสมุทรอยู่ แต่มันก็เป็นการยากที่จะขอให้พวกเขาช่วยรวบรวมส่วนผสมสมุนไพรมาให้พวกเรา ไม่เพียงแต่จะมีราคาที่แพงมากเท่านั้น แต่เรายังจำเป็นต้องซื้อในปริมาณมากอีกด้วย มิฉะนั้นพวกเขาก็ไม่เต็มใจที่จะช่วยเราหรอก”
“ถึงแม้ว่าตระกูลไทของเราจะไม่ได้อ่อนแอ แต่มันก็เป็นการยากที่จะขอให้พวกเขาช่วย” ผู้นำที่สองของตระกูลไทคร่ำครวญด้วยท่าทีขมขื่น พวกเขาหมดทางเมื่ออยู่ต่อหน้าพันธมิตรผู้ค้านี้โดยสมบูรณ์ – พวกเขาได้อยู่ไปทั่วทั้งราชอาณาจักรจันทราวายุ และตระกูลธรรมดาก็ทำได้แค่พยายามที่จะได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาเท่านั้น การที่จะขอให้พันธมิตรผู้ค้าเมฆาสมุทรช่วยพวกเขามันเป็นการยากลำบากเกินไปอย่างแท้จริง
“พันธมิตรผู้ค้าเมฆาสมุทร?” ดวงตาของเซี่ยวหยุนหดแคบลงเล็กน้อยขณะที่เขากล่าว “งั้นก็ไม่มีปัญหาแล้ว ข้ามีเหรียญจากพันธมิตรผู้ค้าเมฆาสมุทร นำมันไปให้พวกเขาและพวกเขาก็จะช่วยท่านเอง ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็มีเม็ดยาอยู่บ้าง ข้ามั่นใจว่าถ้าขายพวกมันให้กับพันธมิตรผู้ค้าเมฆาสมุทร พวกเขาจะไม่ต้องปฏิเสธมันแน่” หลังจากพูดเซี่ยวหยุนก็เอาเหรียญม่วงและทองที่ปรมาจารย์หยวนให้ออกมา เช่นเดียวกันกับขวดของเม็ดยาระบายปราณ
“นี่ไม่ใช่เหรียญ VIP ของพันธมิตรผู้ค้าเมฆาสมุทรหรือ?” หลังจากที่ได้รับเหรียญ ดวงตาผู้นำที่สองของตระกูลไทก็สว่างขึ้น ผู้อาวุโสทั้งหมดต่างก็จ้องไปยังมันด้วยสายตาที่กำลังเผาไหม้ มีเพียงแค่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังอย่างแท้จริงในราชอาณาจักรจันทราวายุเท่านั้นที่จะได้รับเหรียญเช่นนี้มา!
หลังจากนั้น ผู้นำที่สองของตระกูลไทก็รับขวดเม็ดยามา เขาเปิดฝาแล้วจากนั้นการแสดงออกของผู้อาวุโสคนอื่นก็เปลี่ยนไปทันที
“ช่างเป็นกลิ่นหอมเม็ดยาที่หนาแน่นยิ่งนัก!”
“ทั้งหมดนี้คือเม็ดยาระบายปราณของจริง!” ผู้อาวุโสทั้งหมดตกตะลึงงันไปโดยสมบูรณ์ แล้วก็มองไปยังเด็กหนุ่มด้วยความตกใจและความเคารพ
เด็กหนุ่มคนนี้เอาขมวดสมุนไพรออกมาอย่างลวกๆ เช่นเดียวกันกับเหรียญ VIP ของพันธมิตรผู้ค้าเมฆาสมุทร เป็นไปได้ว่าเขาเป็นนายน้อยของตระกูลใหญ่?