Eternal Martial Sovereign - ตอนที่ 64 – ล้างบางตระกูลฝาง
Chapter 64 – ล้างบางตระกูลฝาง
ผู้อาวุโสจากต่างตระกูลทั้งหมดเห็นพ้องต้องกัน “ถูกแล้ว ถ้าหากนายน้อยเซี่ยวหยุนได้รับความโปรดปรานจากบุคคลสำคัญในนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ แล้วจะต้องไปกลัวตระกูลฉินเพื่ออะไรอีก? ถึงแม้ว่าตระกูลฉินจะทรงพลัง แต่นั่นมันก็เป็นเพราะว่าพวกเขามีบางคนที่อยู่ในนิกายต้นกำเนิดสวรรค์”
“ไม่มีทางที่ผู้อาวุโสแค่คนเดียวจะสามารถปกคลุมท้องฟ้าได้ด้วยมือของเขา” คนอื่นเห็นด้วย ส่วนคนที่เหลือก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เซี่ยวหยุนพยักหน้า แต่เขาก็รู้ดีว่าตัวเองจำเป็นต้องมีความแข็งแกร่งที่เพียงพอ มันจะไปได้รับความโปรดปรานจากคนของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ได้ง่ายๆ ยังไงกัน?
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลฉินก็ไม่น่าจะปล่อยเขาไปง่ายๆ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถปล่อยการป้องกันให้ตกลงไปได้ ไม่ใช่แค่เซี่ยวหยุนเท่านั้น แต่สมาชิกตระกูลเซี่ยวคนก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
“อย่ากังเลยท่านปู่ ข้าจะทำให้ดีที่สุด” เมื่อเขาเห็นสมาชิกตระกูลของเขายังค่อนข้างกังวล สายตาของเซี่ยวหยุนก็กลายเป็นจริงจังขณะที่เขามองไปยังชายชราข้างๆ เขา “จะต้องการเป็นศิษย์ของนิกายต้นกำเนิดสวรรค์อย่างแน่นอน” แม้ว่ามันจะเพื่อครอบครัวของเขา แต่เขาก็ต้องการที่จะกลายเป็นศิษย์หลัก
“ปู่เชื่อในตัวเจ้า แต่จงอย่ารู้สึกกดดันจนมากเกินไป เพียงแค่ปล่อยให้ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นไปตามธรรมชาติก็พอ” ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนกล่าว
“ถูกแล้ว” เซี่ยวไห่กล่าว “หลังจากที่ประสบกับคลื่นลูกใหญ่ แล้วมันจะยังมีอะไรให้กลัวอีก?”
บางคนจากสมาชิกตระกูลเซี่ยวกล่าวเสริมว่า “ถูกต้อง มันจะมีอะไรดีเกี่ยวกับตระกูลฉินกัน? พวกเขาก็มีแค่ผู้ฝึกตนขอบเขตแกนกลางแก่นแท้เอง”
ตอนนี้ผู้นำคนก่อนได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้แล้ว ความวางใจของพวกเขาจึงถูกเกื้อหนุนอย่างมาก
“ค่อนข้างถูก” ดยุคหยานกล่าว “ตอนนี้ท่านผู้นำคนก่อนได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้แล้ว ถ้าเจ้าได้รับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นเพิ่มอีก แม้แต่ตระกูลฉินก็ยังต้องแสดงความเคารพต่อเจ้า สำหรับนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ พวกเขาจะไม่กล้าส่งคนมาอย่างผลีผลาม เนื่องจากพวกเขาถูกจำคัดไว้แค่อาณาเขตนี้”
หลังจากสนทนาต่อสักเล็กน้อย ทุกคนก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น
“ฮ่าฮ่า ข้าสงสัยว่าเมื่อใดกันที่นายน้อยเซี่ยวหยุนวาแผงจะกลั่นสกัดเม็ดยา” มีคนถามขณะที่เขาหัวเราะ คนอื่นก็มองมาเช่นกัน ในที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนกังวล
ดวงตาเซี่ยวหยุนสว่างขึ้น บางทีการกลั่นสกัดเม็ดยาอาจจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้
เซี่ยวหยุนตอบว่า “ข้าจะเตรียมส่วนผสมสมุนไพรในพรุ่งนี้เช้า และพวกเจ้าสามารถมารับเม็ดยาได้จากที่พักอาศัยตระกูลเซี่ยวเมื่อถึงเวลาแล้ว ตราบเท่าที่ข้ามีส่วนผสมสมุนไพรเพียงพอ ข้าสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาได้ตลอดเวลา ถ้าทุกคนสามารถช่วยข้ารวบรวมส่วนผสมสมุนไพร บางทีสามารถให้เม็ดยาแก่นแท้บริสุทธิ์เป็นการแลกเปลี่ยนได้”
การตัดสินใจนี้ทำให้ทุกคนเริ่มพิจารณาว่าพวกเขาสามารถรวบรวมส่วนผสมสำหรับเม็ดยาระบายลึกลับมาได้ไหม ถ้าคนอื่นก้าวเข้าสู่ขอบเขตแกนกลางแก่นแท้ พวกเขาก็จะได้รับประกันอย่างน้อยสุดว่าพวกเขาจะไม่ถูกรังแกโดยตระกูลฉิน
สำหรับนิกายต้นกำเนิดสวรรค์ พวกเขาจะไม่กล้าทำลายล้างทั้งตระกูลอย่างเปิดเภย ภายในอาณาเขตนี้ มีกฎที่ชัดเจนซึ่งระบุไว้ว่าผู้เชี่ยวชาญจากนิกายจะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างตระกูล
ยิ่งมีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังมากขึ้น ก็จะยิ่งมีการจำกัดพวกเขาไว้มากตาม ถ้าสถานการณ์หลุดการควบคุม ทูตของอาณาจักรเมืองหลวงแห่งสวรรค์จะก้าวเข้ามาทำลายทั่วทั้งนิกายให้สิ้นซาก
“ได้เลย ไม่ว่าจะส่วนผสมสมุนไพรอะไรก็ตาม พวกเราจะนำมันมาให้ท่าน” เมื่อพวกเขาได้ยินชื่อ ‘เม็ดยาแก่นแท้บริสุทธิ์’ ดวงตาของผู้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ ก็สว่างขึ้น
หลังจากนั้น ฝูงชนก็เริ่มแยกย้ายกันไป ตอนนี้ ศึกประลองยุทธ์ก็ได้ผลสรุปที่แท้จริงแล้ว
“ท่านพ่อ ตอนนี้เราควรทำอะไรดี?” เซี่ยวไห่ถาม
“ส่งคนไปเก็บกวาดตระกูลฝางส่วนที่เหลือ” ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนกล่าวด้วยความท่าทางจริงจัง เนื่องจากความเกลียดชังที่ไม่อาจระงับได้ระหว่าง 2 ตระกูล พวกเขาจะไม่ให้ตระกูลฝางได้มีโอกาสแก้แค้น
“ข้าสามารถส่งคนไปช่วยได้” ดยุคหยานตัดสินใจปิดเมืองและช่วยเหลือตระกูลเซี่ยว เนื่องจากพวกเขามีความเป็นพันธมิตรกันเองที่ชัดเจน เขาจะลงมือโดยไร้ซึ่งข้อจำกัด
เซี่ยวไห่กลับไปรวบรวมคนเพื่อโจมตีตระกูลฝางทันที
วันนั้นได้ถูกกำหนดให้เป็นวันที่มิอาจลืมเลือนไปได้
วันนั้น เซี่ยวหยุนเอาชนะฝางเฮ่า ทำให้ทุกคนจดจำได้ถึงชื่อของเขาและทำให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งสูงขึ้น
วันนั้น เซี่ยวหยุนได้พลิกโต๊ะของผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริง ฉินหยูเฉิน และก็ได้สังหารเขาลงไปทำให้ทุกคนต้องตกใจ (พลิกโต๊ะ = พลิกสถานการณ์ครับ)
วันนั้น ตระกูลฝางได้ถูกตระกูลเซี่ยวล้างบางไปโดยสิ้นเชิง ประทับความหวาดกลับเข้าไปในหัวใจของทุกคนและทำให้ทุกคนต้องจดจำชื่อของตระกูลเซี่ยว
“ตระกูลเซี่ยวตระกูลนี้มิอาจล่วงเกินได้!” ผู้คนนับไม่ถ้วนถอนหายใจด้วยความอัศจรรย์ใจ ตระกูลนี้ที่ไม่สามารถแตะต้องได้มีอำนาจเหนือความเคารพจากทุกคน
มันไม่ยากที่จะจินตนาการว่าเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าเซี่ยวหยุนนั้นจะทรงพลังขนาดไหนหลังจากที่เขาได้เติบโตขึ้น
ไม่ใช่แค่ผู้ฝึกตนปกติเท่านั้นที่ไม่สามารถหลับได้ในคืนนั้น แม้แต่ผู้ฝึกตนจากตระกูลใหญ่ก็พบว่ามันช่างยากลำบากยิ่งนักที่จะนอนหลับ
ถ้าเด็กหนุ่มคนนั้นสามารถกลั่นสกัดเม็ดยาระบายลึกลับได้อย่างแท้จริง นั่นมันหมายความว่าอะไร? มันหมายความว่าเด็กหนุ่มมีพรสวรรค์ที่จะกลายเป็นปรมาจารย์เม็ดยา! ปรมาจารย์เม็ดยา
คือการดำรงอยู่ที่แม้กระทั่งนิกายใหญ่ๆ ก็ต้องการที่จะประจบประแจง!
ด้วยการลงมือเป็นการส่วนตัวของผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนแล้ว ตระกูลเซี่ยวจะสามารถล้างบางตระกูลฝางไปได้อย่างง่ายดาย ในเวลาเดียวกัน ด้วยความช่วยเหลือจากผู้นำตระกูลหลินคนก่อนและดยุคหยาน ก็ไม่มีใครที่จะสามารถหนีไปได้
ขณะที่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น เซี่ยวหยุนก็อยู่ในห้องเพื่อฟื้นคืนกลิ่นอายของเขา เขาใช้พลังวิญญาณมากจนเกินไปและต้องรีบฟื้นตัวให้เร็ว มิฉะนั้นมันจะเป็นเรื่องยากสำหรับการที่เขาจะกลั่นสกัดเม็ดยา
เซี่ยวหยุนเปิดใช้งานทักษะศักดิ์สิทธิ์ทำลายจิตวิญญาณ (engบอกมางี้ครับ) เพื่อช่วยฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่นี้เท่านั้น แก่นแท้สำคัญแห่งชีวิตจากจิตวิญญาณการต่อสู้ก็ช่วยให้เขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
หลังจากฟื้นฟูทั้งคืนแล้ว เซี่ยวหยุนก็เรียกคืนพลังวิญญาณกลับมาได้ในที่สุด ในตอนท้าย เขารู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย มันราวกับว่าพลังวิญญาณของเขาได้รับการขัดเกลาจากต่อสู้อันเข้มข้น
“ในที่สุดข้าก็ฟื้นคืนพลังวิญญาณของข้าได้” เซี่ยวหยุนปล่อยลมหายใจออกมา พลังวิญญาณของเขาเท่าที่ฟื้นฟูมานั้นทำให้เขาสามารถใช้หอกทำลายวิญญาณได้อีกครั้งหนึ่ง นั่นหมายถึงทักษะสังหารเพิ่มเติม ซึ่งสามารถช่วยเขาได้ในช่วงเวลาสำคัญ
หลังจากฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขาแล้ว เซี่ยวหยุนก็ส่งความคิดไปยังหอคอยกลืนกินสวรรค์ ยังมีจารึกอยู่บนชั้นแรกของหอคอยกลืนกินสวรรค์อยู่ จารึกดูเหมือนจะเป็นอุโมงค์ลึกที่เชื่อมต่อกับยมโลก และมันยังมีหอกสั้นอยู่ภายในซึ่งกำลังปลดปล่อยกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวออกมา กลิ่นอายทำให้มันดูราวกับว่าสามารถสังหารเทพเจ้าและพระพุทธเจ้าได้อย่างแท้จริง
“น่าเสียดายที่หอกทำลายวิญญาณต้องการพลังวิญญาณมากเกินไป มิฉะนั้นข้าจะสามารถใช้มันในการต่อสู้กับผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริงได้” เซี่ยวหยุนถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามองขึ้นไปที่ชั้นสอง เขาก็รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ
ถ้าชั้นแรกมีอาวุธวิญญาณเหมือนกับหอกทำลายวิญญาณอยู่ แล้วอาวุธทรงพลังแบบไหนกันที่อยู่บนชั้นสอง?
หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ จิตใจของเซี่ยวหยุนก็ออกมาจากหอคอยกลืนกินสวรรค์ เนื่องจากเขาในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไป และยังจำเป็นต้องเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของเขาให้รวดเร็ว
“เฮ้ย หยุนน้อย” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์กล่าวออกมากะทันหัน
“มีอะไร?” เซี่ยวหยุนถาม
นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ถามด้วยรอยยิ้ม “ฮ่าฮ่า เจ้ามีสูตรยาสำหรับเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณของปีศาจบ้างรึไม่?”
“ส่วนผสมสำหรับเม็ดยาเหล่านี้รวบรวมมาได้ยากลำบากอย่างไม่น่าเชื่อ!” เซี่ยวหยุนตอบ
วิญญาณปีศาจเป็นประเภทของจิตวิญญาณ และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณปีศาจเทียบเท่ากับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพลังวิญญาณ เม็ดยาชนิดนี้ก็เป็นสิ่งที่เซี่ยวหยุนต้องการเช่นกัน
“จงจำไว้ว่าให้เก็บรวบรวมพวกมันไว้” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์กล่าว “ตราบเท่าที่นายท่านผู้นี้ฟื้นฟูความแข็งแกร่งได้บางส่วน ข้าก็จะสามารถช่วยเจ้าสังหารศัตรูได้และวิกฤติเช่นนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ด้วยการมีข้าอยู่ข้างเจ้า มันมีอะไรที่ต้องกลัว? เราจะสามารถครองแผ่นดินนี้ได้ด้วยกัน”
“อย่ากังวล ข้าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณปีศาจของเจ้า” เซี่ยวหยุนตอบ
หลังจากผ่านประสบการณ์เหล่านี้ เซี่ยวหยุนก็รู้ว่าความแข็งแกร่งของเขามันยังขาดแคลนอยู่มหาศาล
ถ้าวิญญาณปีศาจของนกกระจอกกลืนกินสวรรค์ได้รับความแข็งแกร่ง บางทีมันอาจจะสามารถช่วยเซี่ยวหยุนได้จริงๆ
“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจ้าสูญเสียกายเนื้อไปแล้ว วิญญาณปีศาจของเจ้าจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร?” เซี่ยวหยุนถามโดยกะทันหัน
“อย่าได้กังวล ข้าคือนกกระจอกกลืนกินสวรรค์ และเป็นสิ่งพิเศษมากโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ข้าสามารถกลืนกืนแก่นแท้สำคัญแห่งทุกสรรพสิ่งได้ และแม้แต่ในฐานวิญญาณปีศาจ ข้าก็สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อข้าไปถึงจุดหนึ่ง ข้าจะสามารถแสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แห่งสายเลือดกลืนกินสวรรค์ของข้าและครอบงำเหนือทุกสรรพสิ่งภายใต้สวรรค์นี้ได้” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์มีท่าทีภูมิใจบนใบหน้าของมันและส่งมันดังละล่ำละลักไปทุกที่ขณะที่มันพูด ถึงแม้ว่ามันจะสูญเสียกายเนื้อไปแล้ว แต่มันก็ยังหยิ่งมาก
“ดีแล้ว” เซี่ยวหยุนพยักหน้า หากเป็นกรณีนี้ มันก็อาจจะคุ้มค่าที่ช่วยนกกระจอกกลืนกินสวรรค์ เนื่องจาก ถ้านกระจอกกลืนกินสวรรค์ไม่สามารถเติบโตแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง มันก็จะไม่ไปถึงจุดนั้นมากนัก
หลังจากนั้นเซี่ยวหยุนก็พาจิตใจของเขาออกมาจากหอคอยกลืนกินสวรรค์และออกไปจากห้องของเขา ดวงอาทิตย์พึ่งขึ้น แต่ที่พักอาศัยของตระกูลเซี่ยวก็ค่อนข้างมีชีวิตชีวาแล้ว หลังจากที่เดินออกมาจากห้องของเขา เซี่ยวหยุนก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งค่อนข้างแปลก
เซี่ยวหยุนส่งพลังวิญญาณของเขาออกไป และรู้สึกได้ถึงผู้อาวุโสจำนวนมากจากตระกูลต่างๆ ได้เข้ามาเยี่ยมเยือน พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อจุดประสงค์เดียว คือเพื่อขอรายชื่อส่วนผสมสมุนไพรเพื่อช่วยเซี่ยวหยุนกลั่นสกัดเม็ดยา
“สหายเหล่านี้ขยันขันแข็งเมื่อมันเป็นสิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขา” เซี่ยวหยุนส่ายหัวของเขา หลังจากซักผ้าแล้ว เขาก็เดินไปที่โถงรับแขก สถานที่ที่มีผู้ฝึกตนจำนวนมากจากตระกูลต่างๆ มารวมตัวกันอยู่
ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนได้นั่งลงบตำแหน่งผู้นำ เพื่อเรียกความสนใจของทุกคน
“ฮ่าฮ่า นายน้อยเซี่ยวหยุนมาที่นี่แล้ว” เมื่อเซี่ยวหยุนปรากฏตัวขึ้น ทุกคนก็เผยให้เห็นสายตาที่กำลังเผาไหม้อยู่ขณะที่พวกเขาทั้งหมดลุกขึ้นเพื่อทักทายเขา
“สวัสดีทุกท่าน!” เซี่ยวหยุนป้องหมัดทักทาย
ผู้นำตระกูลเซี่ยวคนก่อนยิ้มขณะที่เขาโบกมือให้เซี่ยวหยุนมา “หยุนเอ๋อ มานั่งข้างปู่”
เซี่ยวหยุนไม่ได้ทำตัวสุภาพเกินไปและนั่งลงข้างๆ ท่านปู่ของเขา
“ข้ามั่นใจว่าทุกท่านมาที่นี่เพื่อรายชื่อของส่วนผสมสมุนไพรใช่รึไม่?” หลังจากนั่งลง เซี่ยวหยุนก็ไม่ได้ทำให้ตัวเองยุ่งยากด้วยการพูดมากเกินต้องการและตรงเข้าประเด็นเลย
“ถูกแล้ว” ทุกคนตอบกลับขณะที่พวกเขายิ้ม “ฮ่าฮ่า พวกเราค่อนข้างกระตือร้นที่จะได้เห็นความสามารถของนายน้อยเซี่ยวหยุน”
“นี่คือรายชื่อ พยายามรวบรวมส่วนผสมสมุนที่เขียนบนมันมาให้ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะตัวที่ทำเครื่องหมายสีแดงจะต้องถูกรวบรวมมา” เซี่ยวหยุนเอารายชื่อที่เขาเตรียมไว้ออกมาและมอบมันให้กับอีกคนเพื่อแสดงให้อาวุโสจากตระกูลต่างๆ ดู
“เอาล่ะ เราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อรวบรวมพวกมันมา” ฝูงชนตอบกลับอย่างจริงจังหลังจากที่ได้ดูรายชื่อ
มีแต่ส่วนผสมสมุนไพรเขียนอยู่ในรายชื่อเท่านั้น ไม่มีคำอธิบายหรือชื่อของเม็ดยา ดังนั้งคนเหล่าที่มองไปยังมันต่างก็รู้สึกค่อนข้างสับสน
นี่เป็นเหตุผลที่เซี่ยวหยุนไม่ได้มอบสำเนาของรายชื่อให้พวกเขา ตำรับยาเป็นของมีค่ามาเกินไป และนักกลั่นสกัดเม็ดยาส่วนใหญ่ก็รู้ตำรับยาแค่ไม่กี่ชนิดเท่านั้น
บางครั้ง ตำรับเม็ดยาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นักกลั่นสกัดเม็ดยาต้องสู้จนกว่าพวกเขาจะเต็มไปด้วยเลือดและมีบาดแผลขนาดใหญ่
“ฮ่าฮ่า หยุนน้อย ข้าเห็นว่าเจ้าไม่ได้เด็กจนเกินไปอีกต่อไปแล้ว เจ้าไม่คิดว่ามันถึงเวลาที่จะต้องแต่งงานแล้วรึ?” หลังจากมองไปที่รายชื่อ ผู้นำตระกูลหลินคนก่อนก็หัวเราะขณะที่เขากล่าวด้วยรอยยิ้มขนาดใหญ่ “ข้าเห็นว่าเจ้าและหลินเสี่ยวเหมาของเราเข้าได้ค่อนข้างดี เนื่องจากเจ้าเป็นคู่รักในวัยเด็กกัน ข้าจะหมั้นให้เจ้ากับนางเป็นอย่างไร?”
“หลินเสี่ยวเหมา?” เซี่ยวหยุนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเลย
ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะมีรูปร่างที่เยี่ยมยอดซึ่งทำให้เหล่าบุรุษต้องน้ำลายไหล แต่นางก็ไม่ใช่แนวของเขา นางกดขี่กันเกินไป และเขาก็ไม่มีความรู้สึกต่อนางด้วย
“ฮ่าฮ่า อารมณ์ของเสี่ยวเหมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และนางก็ล่วงเกินเจ้าในอดีต แต่อย่างไรก็ตาม นางได้ตริตรองกระการทำของนางหลังจากที่กลับบ้านเมื่อวานแล้ว ถ้าเจ้าทั้งสองแต่งงานกัน แน่นอนว่านางจะต้องเป็นภรรยาที่ดีและเป็นมารดาผู้เปี่ยมรัก” ผู้นำตระกูลหลินคนก่อนกล่าว “เสี่ยวเหมาของตระกูลเรานั้นแน่นอนว่าเป็นหนึ่งในโฉมงามชั้นยอด!
ผู้ฝึกตนจากตระกูลต่างๆ ทั้งหมดต่างก็กลอกตาของพวกเขา “ชายชราคนนี้จะไร้ยางอายเกินไปแล้ว”
“ฮ่าฮ่า ท่านผู้เฒ่าหลิน นั่นไม่ได้เป็นคุณธรรมอันมากล้นของท่าน ซือเฟยของตระกูลเราได้หมั้นไว้กับหลานแสนดีเซี่ยวหยุนแล้ว!” ในตอนนี้ เสียงหัวเราะอันชัดเจนได้ดังออกมาจากดยุคหยานที่ก้าวเข้ามา เขาดูเหมือนจะมีอารมณ์ที่ยอดเยี่ยมเพราะรอยยิ้มอันใหญ่บนใบหน้าของเขา
ข้างดยุคหยานมีหยานซือเฟยและหยานซือหยัน เช่นเดียวกับชายชราตัวเล็ก