Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1755 ข่าวฉาวของราชันเซียน
ตอนที่ 1755 ข่าวฉาวของราชันเซียน
“ทำเรื่องอะไรบ้างหละ?” หลี่ชิเย่เพียงหัวเราะเฉยเมยทีหนึ่งเท่านั้น
“ก็เรื่องที่ว่าราชันเซียนหวานซื่อเคยเป็นคนมากรัก ล่อลวงผู้หญิงของสามเผ่า” เถี่ยซู่องถึงกับหัวเราะแห้งๆ อันที่จริงการเอ่ยถามเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่อึดอัดวางตัวไม่ถูก ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวของจอมราชันและเซียนหวังเป็นเรื่องที่ผู้คนต้องให้ความระมัดระวังและเป็นกังวลในการพูดถึง
เถี่ยซู่องถึงกับหันมองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เมื่อเห็นว่าปลอดคน จึงยังคงอดทนต่อเพลิงแห่งความสอดรู้สอดเห็นที่โหมลุกไหม้ในใจไม่ได้ เอ่ยถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ก็ตามที่ท่านพูด เช่นเรื่องน้องเมียของราชันสวรรค์จ้านหวังเรื่องนั้น”
“เรื่องนี้ไม่เห็นจะต้องทำลับๆ ล่อๆ อะไร” เมื่อหลี่ชิเย่มองเห็นท่าทีของเถี่ยซู่องที่ทำลึกลับและตื่นเต้นยิ่ง หัวเราะส่ายหน้าและกล่าวว่า “เป็นเพราะราชันเซียนหวานซื่อได้ล่อลวงน้องเมียของราชันสวรรค์จ้านหวัง ทำให้ราชันสวรรค์จ้านหวังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ สาบานว่าจะต้องสังหารราชันเซียนหวานซื่อให้จงได้”
หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มออกมา เมื่อบอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีต โดยกล่าวว่า “หลังจากที่ราชันเซียนหวานซื่อมาถึงแดนที่สิบแล้ว เรื่องเช่นนี้ใช่ว่าจะเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก เรื่องราวในลักษณะเช่นนี้ราชันเซียนหวานซื่อทำมาแล้วไม่รู้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ใช่ว่าเขาจะมากรักไปทุกทีเท่านั้น เขาล่อลวงหญิงสาวไปทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่า ภรรยาของเจ้าสำนัก ราชินีของแคว้น…เขาล่อลวงเมียของผู้อื่นจนนับไม่ถ้วน แม้แต่ลูกเมียของจอมเทพก็ถูกล่อลวงไปตามระเบียบไม่มีละเว้น”
“แม้แต่ลูกเมียของจอมเทพยังกล้าล่อลวง?” เมื่อเถี่ยซู่องได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่แล้วถึงกับอ้าปากค้าง และเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดจึงมีคำเล่าลือต่างๆ มากมายเกี่ยวกับราชันเซียนหวานซื่อในสิบสามทวีปแล้ว
“ชั่วชีวิตของราชันเซียนหวานซื่อไม่ยึดถือจารีตประเพณี มันจะไปแปลกอะไรที่เขาทำเรื่องเช่นนี้เล่า” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมย
“ยอดเยี่ยมมาก มิน่าเล่ามีผู้คนเล่าว่า ในบรรดาสามเผ่านั้น มีสายเลือดของราชันเซียนหวานซื่อหลั่งรินอยู่ในกายจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว” เถี่ยซู่องถึงกับบ่นพึมพำออกมา ในเวลานี้เขาถึงกับบังเกิดอารมณ์ความภูมิใจในตนเองเล็กๆ ขึ้นในใจ ถึงกับกล่าวชมว่า “ราชันเซียนย่อมเป็นราชันเซียน เสน่ห์ไม่มีสิ้นสุด เล่าลือกันว่าฐานะของร้อยชาติพันธุ์ในครั้งนั้นต่ำต้อย แต่ ราชันเซียนหวานซื่อยังคงมากรักอยู่ท่ามกลางเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าได้ สุดยอดมาก!”
แม้ว่าเถี่ยซู่องจะเป็นเผ่ามนุษย์ไม่ใช่เผ่ามนุษย์ศิลา แต่ ราชันเซียนหวานซื่อมาจากเก้าแดน ทั้งยังเป็นราชันเซียนของร้อยชาติพันธุ์ ในอดีต ร้อยเผ่าพันธุ์เป็นปฏิปักษ์กับเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่า กระทั่งอยู่ภายใต้การปกครองและเป็นทาสของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่า
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราชันเซียนหวานซื่อกลับทำเรื่องที่ล่อลวงองค์หญิง ราชินี ภรรยาของเจ้าสำนักต่างๆ ที่เป็นเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าเป็นต้น อย่างน้อยก็ได้สร้างความภูมิใจเล็กๆ ภายในใจให้กับประชาชนของร้อยชาติพันธุ์ ทำใหผู้คนจำนวนมากรู้สึกสะใจลึกๆ ในใจ
“เจ้าดูถูกราชันเซียนหวานซื่อมากเกินไปเสียแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มและส่ายหน้าเบาๆ กับท่าทีของเถี่ยซู่องที่รู้สึกภูมิใจและแอบสะใจเช่นนี้ กล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าคิดว่าราชันเซียนหวานซื่อลักลอบเป็นชู้ไปทั่ว ล่อลวงผู้หญิงของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าเพียงเพราะเรื่องของความรักและตัณหาล่ะก็ แสดงว่าเจ้ามีความเข้าใจที่ตื้นเขินมาก กล่าวสำหรับราชันเซียนแล้วพวกเขาไม่จำเป็นต้องอาศัยสิ่งนี้แสดงถึงเสน่ห์ของตน ยิ่งไม่ต้องอาศัยความรักและตัณหามาสร้างความพึงพอใจให้กับตน”
“ท่านสอนสั่งได้ถูกต้อง” เถี่ยซู่องหัวเราะเจื่อนๆ ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ข้ามันโง่เขลา ไม่ทราบว่าการกระทำของราชันเซียนหวานซื่อมีความหมายที่ลึกซึ้งเพียงใด?
การกระทำของราชันเซียนหวานซื่อนอกจากคิดจะทำให้ภายในเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าวุ่นวายอลม่านแล้ว ยังมีเหตุผลสำคัญอยู่สองประการ คือ หนึ่ง ทิ้งทายาทเอาไว้ให้กับตนเอง ทำให้สายเลือดที่แข็งแกร่งของตนได้ขยายพันธุ์อยู่ในเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่า และทำให้เผ่ามนุษย์ศิลาของเขาเข้มแข็งขึ้น สอง ทำให้สายเลือดของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าต้องแปดเปื้อน เนื่องจากสายเลือดของเขาเป็นสายเลือดราชันเซียน อีกทั้งยังเป็นราชันเซียนองค์แรกของเผ่ามนุษย์ศิลา สายเลือดของเขาจะมีความแข็งแกร่งมาก…”
“….ขอเพียงสายเลือดของเขาสามารถหยั่งรากลงในเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่า ก็จะไปสยบสายเลือดของพวกเขา และนี่ก็คือเหตุผลที่เพราะอะไรหลังจากกาลเวลาผ่านไปเนิ่นนานมาก สายเลือดของราชันเซียนหวานซื่อยังคงสามารถหยั่งรากอยู่ในสายเลือดของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าได้อย่างเหนียวแน่น!”
ครั้นหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วก็ได้หยุดนิดหนึ่ง จากนั้น ได้กล่าวต่อไปว่า “การที่ราชันเซียนหวานซื่อเที่ยวลักลอบมีอะไรกับใครต่อใครนั้น ไม่ได้ทำเพื่อความรักและตัณหาของตน แต่ทำเพื่อเผ่ามนุษย์ศิลาของเขา มิฉะนั้นล่ะก็ เพราะเหตุใดภายหลังถึงได้มีจอมราชันของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าจำนวนมากไล่ล่าเขา? เจ้าคิดว่าเป็นเรื่องจริงรึ ที่บรรดาเหล่าจอมราชันถึงกับยอมเสี่ยงอันตรายจากสวรรค์ลงทัณฑ์ไปตามล่าเขาเพียงเพราะเรื่องการลักลอบมีอะไรกันระหว่างชายหญิงที่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นรึ…
“…กล่าวสำหรับเหล่าจอมราชันแล้ว เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงพวกเขาขี้คร้านจะไปถามถึง เพียงแต่สายเลือดของราชันเซียนหวานซื่อแข็งแกร่งเหลือเกิน ซึ่งจะไปหยั่งรากและเกาะอยู่กับเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าอย่างเหนียวแน่น ซึ่งจอมราชันของทั้งสามเผ่าไม่ต้องการให้เผ่ามนุษย์ศิลาอาศัยเหตุนี้แข็งแกร่งขึ้น และเนื่องเพราะสาเหตุนี้เอง จึงทำให้จอมราชันของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าต้องตามไล่ล่าราชันเซียนหวานซื่อ”
ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ถึงกับเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มบนใบหน้า ภาพเหตุการณ์เมื่อครั้งราชันเซียนหวานซื่อถูกตามล่าสังหารเรียกได้ว่าตื่นเต้นคึกครื้นยิ่งนัก
ความจริงแล้ว เฉกเช่นระดับจอมราชันขี้คร้านจะไปยุ่งกับเรื่องลักลอบมีความสัมพันธ์กันระหว่างชายหญิงอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การปรากฎตัวของพวกเขาเสี่ยงอันตรายต่อการถูกสวรรค์ลงทัณฑ์อย่างยิ่ง
แต่ทว่า สายเลือดของราชันเซียนหวานซื่อแข็งแกร่งมากเหลือเกิน มันจะส่งผลแปดเปื้อนต่อสายเลือดของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าโดยตรง ถ้าหากขืนปล่อยให้ราชันเซียนหวานซื่อทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้สายเลือดของราชันเซียนหวานซื่อเบ่งบานไปทั่ว
ด้วยเหตุนี้เอง จอมราชันของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าจึงได้เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ ด้วยการออกหน้าตามล่าสังหารราชันเซียนหวานซื่อด้วยตนเอง
“ราชันเซียนย่อมเป็นราชันเซียน ความคิดที่มองการณ์ไกลของเขาใช่ว่ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาเช่นพวกเราจะเทียบเคียงกันได้” หลังจากที่เถี่ยซู่องได้ฟังจากหลี่ชิเย่แล้ว ถึงกับกล่าวด้วยความรู้สึกเคารพเลื่อมใสขึ้นมา
ยุคหลังมีคำเล่าลือเกี่ยวกับราชันเซียนหวานซื่อลักลอบมีชู้ไปทั่ว แต่ผู้คนจำนวนมากจะมีความคิดหยุดอยู่แค่ความรู้สึกสะใจ ที่ได้รู้เห็นเรื่องราวความลับระหว่างสัมพันธ์ชายหญิงเชิงชู้สาวเท่านั้น น้อยคนที่จะไปพิจารณาถึงระดับที่ลึกซึ้งกว่า และจุดประสงค์ที่แท้จริงของราชันเซียนหวานซื่อที่ได้กระทำลงไป
ลองนึกดู ขณะที่ราชันเซียนหวานซื่อก้าวขึ้นมาแดนที่สิบในขณะนั้น ร้อยชาติพันธุ์ล้วนแล้วแต่อ่อนแอ ต้องพึ่งพาอยู่กับเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่า อยู่ภายใต้การปกครองของสามเผ่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราชันเซียนหวานซื่อกลับทิ้งสายเลือดของตนเอาไว้มากมายในเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่า ให้สายเลือดของตนหยั่งรากเกาะอยู่กับเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าอย่างเหนียวแน่น หรือสิ่งนี้ไม่ใช่การอาศัยวิธีการอีกแบบไปทำให้เผ่ามนุษย์ศิลาของตนแข็งแกร่งขึ้นรึ?
“ราชันเซียนย่อมจะมีความคิดที่ประเสริฐของพวกเขาเอง” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยว่า “ไม่ว่าจะเป็นจอมราชันหรือเซียนหวัง หรือว่าราชันเซียนของเก้าแดนต่างก็มีวิสัยทัศน์กว้างไกลที่เป็นเอกลักษณ์ของตน บ่อยครั้งที่พวกเขาทำในสิ่งต่างๆ โดยคำนึงถึงเผ่าพันธุ์ของตน”
เถี่ยซู่องพยักหน้ากับคำพูดเช่นนี้ แน่นอนกล่าวสำหรับเขาแล้วจอมราชันหรือเซียนหวัง หรือราชันเซียนเก้าแดนนับว่าดำรงอยู่ในฐานะที่ห่างไกลเหลือเกิน เกรงว่าตลอดชีวิตของเขาก็ไม่มีโอกาสได้พบเห็นจอมราชันหรือเซียนหวัง และหรือราชันเซียนเก้าแดน ทำได้เพียงแค่ฟังคำเล่าลือเกี่ยวกับตำนานบางอย่างของจอมราชันหรือเซียนหวัง และหรือราชันเซียนจากเก้าแดน
สองวันหลังจากนั้น เถี่ยซู่องก็ได้ตระเตรียมทุกอย่างให้กับหลี่ชิเย่จนเรียบร้อย เนื่องจากการสอบคัดเลือกจัดให้มีขึ้นที่ตระกูลราชันฉีหลิน ดังนั้น พวกเขาจึงต้องออกเดินทางไปยังเมืองฉีหลิน
เถี่ยซู่องให้เสิ่นเสี่ยวซัน เฮ่อเฉินศิษย์ทั้งสองของตน และศิษย์น้องอีกคนของเขาติดตามหลี่ชิเย่ไปยังเมืองฉีหลินด้วยกัน
เสิ่นเสี่ยวซันติดตามหลี่ชิเย่ไปยังเมืองฉีหลินเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว จะอย่างไรเสียเสิ่นเสี่ยวซันต้องอยู่คอยปรนนิบัติข้างกายหลี่ชิเย่ สำหรับเฮ่อเฉินนั้น เถี่ยซู่องคาดหวังให้เขาสามารถถือโอกาสคครั้งนี้ไปเสริมสร้างประสบการณ์ในเมืองฉีหลิน จะได้มีหูตากว้างไกลขึ้น
“ท่าน ข้าจะต้องไปสมทบกับคนที่อยู่เบื้องบนเพื่อปรึกษาหารือถึงเรื่องนี้ ดังนั้น จึงไม่สามารถร่วมเดินทางไปด้วยกัน ขอท่านได้โปรดอภัย” เถี่ยซู่องกล่าวกับหลี่ชิเย่ว่า “ผู้นี้คือศิษย์น้องของข้า ระหว่างที่ข้าไม่อยู่เขาสามารถตัดสินใจแทนข้าได้ทุกเรื่อง หากท่านต้องการสิ่งใดสามารถแจ้งต่อศิษย์น้องของข้าได้ทุกเวลา”
เถี่ยซู่องได้แนะนำศิษย์น้องของตนให้หลี่ชิเย่ได้รู้จัก ศิษย์น้องของเถี่ยซู่องมีชื่อว่าสือโส่ว เป็นผู้ที่มีความหนักแน่นและระมัดระวัง เป็นคนที่ไม่พูดมาก หลังจากกล่าวทักทายกับหลี่ชิเย่แล้วก็ยืนอยู่ข้างๆ เงียบๆ ไม่พูดอะไรอีกเลย
จังหวะกำลังจะออกเดินทางไปยังเมืองฉีหลินอยู่แล้ว แม้แต่เฮ่อเฉินที่ไม่สบอารมณ์กับหลี่ชิเย่ตลอดมาก็อยากจะไปเต็มแก่ ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกดีใจเอาไว้ได้
เฮ่อเฉินเคยติดตามเถี่ยซู่องอาจารย์ของเขาไปที่เมืองฉีหลินมาแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงแวะไปอย่างรีบเร่งเท่านั่น ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้บำเพ็ญตนที่มีชาติกำเนิดมาจากสำนักขนาดเล็กแล้ว สามารถไปที่เมืองฉีหลินก็ดุจดั่งคนบ้านนอกเข้ากรุงอย่างนั้น สามารถให้เขาได้เปิดหูเปิดตา แล้วจะไม่ให้เฮ่อเฉินอยากจะไปสักครั้งได้อย่างไร
เมืองฉีหลินฐานที่มั่นของตระกูลราชันฉีหลิน และเป็นเมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลราชันฉีหลินโดยตรง แม้ว่าบนผืนแผ่นดินผืนนี้จะมีสำนักต่างๆ ที่ขึ้นตรงต่อตระกูลราชันฉีหลินถึงกว่าเจ็ดร้อยสำนัก และยังมีแคว้นต่างๆ อีกกว่าสามร้อยแห่งที่ขึ้นตรงต่อตระกูลราชันฉีหลิน เฉกเช่นสำนักขนาดเล็กอย่างสำนักต้นไม้เหล็กไม่มีคุณสมบัติพอกระทั่งขึ้นตรงต่อตระกูลราชันฉีหลิน
สำหรับสำนักต่างๆ กว่าเจ็ดร้อยสำนัก และแคว้นต่างๆ กว่าสามร้อยแคว้น ทางตระกูลราชันฉีหลินไม่ไปก้าวก่ายกิจการภายในของพวกเขาอยู่แล้ว และตระกูลราชันฉีหลินก็ไม่ได้ปกครองพวกเขาโดยตรง เป็นเพียงการขึ้นตรงแต่ในนามเท่านั้น
ความจริงแล้ว ที่อยู่ภายใต้การปกครองอย่างแท้จริงบนผืนแผ่นดินแห่งนี้ก็คือเมืองฉีหลิน อีกทั้งกิจการของเมืองฉีหลินก็เป็นเพียงหนึ่งเดียวที่ตระกูลราชันฉีหลินเข้ามาบริหารโดยตรง
ตระกูลราชันฉีหลินมีอิทธิพลอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดต่อเมืองฉีหลินแห่งนี้ มีสิทธิในด้านการปกครอง ดังนั้น จึงไม่มีใครสามารถสั่นคลอนฐานะของตระกูลราชันฉีหลินในเมืองฉีหลินได้ ไม่ว่าจะเป็นสำนักใด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งจัดตั้งเพื่อการสืบทอดใด เมื่อมาถึงเมืองฉีหลินแล้วก็ต้องให้เกียรติตระกูลราชันฉีหลินสามส่วน
ตระกูลราชันฉีหลิน หนึ่งสำนักสามเซียนหวัง ประกอบด้วยเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นหลัก ก่อตั้งขึ้นโดยเซียนหวังฉีหลิน เมื่อเปรียบเทียบกับสายสำนักราชันเซียนดึกดำบรรพ์ของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าแล้ว การก่อตั้งขึ้นมาของตระกูลราชันฉีหลินนับว่าช้ากว่ากันมาก ถือว่าอ่อนเยาว์กว่า แต่จะอย่างไรก็ตาม แม้ว่าตระกูลราชันฉีหลินจะอ่อนเยาว์กว่า แต่พวกเขามีอิทธิพลอยู่ระดับหนึ่งในชิงโจว
ที่สำคัญก็คือ นอกเหนือจากเซียนหวังเย่หลินแห่งตระกูลราชันฉีหลินที่ได้เข้าร่วมการเดินทางไกลเพื่อปราบปรามเป็นครั้งสุดท้าย ครั้งที่หกแล้ว ลือกันว่าตระกูลราชันฉีหลินยังคงมีเซียนหวังอีกสององค์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่พวกเขาตัดขาดจากโลกภายนอกไม่ปรากฏตัวออกมาเท่านั้น
แม้ว่าเซียนหวังทั้งสององค์ของตระกูลราชันฉีหลินไม่เคยปรากฏตัวออกมาอีกเลย หลังจากสิ้นสุดยุคสมัยของพวกเขาไปแล้ว และชนรุ่นหลังก็ไม่เคยได้พบเห็นเซียนหวังทั้งสององค์ แต่ทว่า ไม่เคยมีผู้ใดไปสงสัยถึงความจริงเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ของเซียนหวังทั้งสององค์ของตระกูลราชันฉีหลิน
ด้วยเพราะเหตุตระกูลราชันฉีหลินยังคงมีเซียนหวังสององค์มีชีวิตอยู่นี้นี่เอง จึงทำให้ตระกูลราชันฉีหลินมีฐานะที่ยากจะสั่นคลอนได้ในชิงโจว!
แน่นอนที่สุด การที่ตระกูลราชันฉีหลินมีฐานะที่สูงส่งเป็นอันมากนั้น ย่อมเป็นผลเกี่ยวเนื่องอย่างยิ่งกับความปราศจากผู้ต่อกรของเซียนหวังเย่หลินในครั้งนั้น เซียนหวังเย่หลินมีสิบเอ็ดลัคนา และมีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายอยู่ในครอบครอง นับเป็นเซียนหวังที่เข้าใกล้ระดับสูงสุดของจอมราชันหรือเซียนหวังแล้ว
แม้ว่าในยุคสมัยของนางไม่ได้มีเพียงนางผู้เดียวที่สืบทอดชะตาฟ้าได้ แต่ว่า จอมราชันและเซียนหวังที่ถือกำเนิดขึ้นในยุคนั้นล้วนแล้วแต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง!
เนื่องเพราะความปราศจากผู้ต่อกรของเซียนหวังเย่หลินนั่นเอง จึงได้ดันให้ฐานะของตระกูลราชันฉีหลินในชิงโจวให้สูงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง