Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 3130 มนุษย์ทองแดงยักษ์
ตอนที่ 3130 มนุษย์ทองแดงยักษ์
หลังจากที่หลี่ชิเย่เข้าไปแล้ว ฟ้าดินมีแต่ความเงียบสงัด เหมือนว่าฟ้าดินคงเหลือไว้เพียงเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาเท่านั้น
กาลเวลากำลังเคลื่อนที่ไป ทุกคนไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่ได้เข้าไปนานเท่าใดแล้ว และไม่มีใครใส่ใจกับกาลเวลาที่เคลื่อนที่ไป
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดแล้ว ได้ยินเสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง ผืนแผ่นดินทั้งผืนพลันแตกละเอียด พริบตาเดียวนั่นเองผืนแผ่นดินทั้งผืนกำลังแตกและแยกตัวออก
นี่มัน…เจ๋อหลงถึงกับตื่นตระหนก เมื่อมองเห็นผืนแผ่นดินผืนนี้พลันแตกและแยกตัวออก เนื่องจากเขาเองก็เคยทดลองมาก่อน แต่ว่า ผืนแผ่นดินผืนนี้ดูเหมือนจะอยู่เหนือความคาดคิดของผู้คน
แต่ทว่า เมื่อนึกถึงคนที่ลงมือในขณะนี้คือคนโหดอันดับหนึ่ง แม้แต่สิบสามลัคนาก็สามารถบุกเบิกขึ้นมาได้ การที่จะให้ผืนแผ่นดินผืนนี้แตกและแยกออก มันจะไปมีอะไรคู่ควรให้ต้องตระหนกระคนกับแปลกใจกันเล่า เรื่องเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ปรกติยิ่งกว่าอะไรเสียอีกเมื่อมาจากการลงมือของคนโหดอันดับหนึ่ง
แต่ว่า ในพริบตาเดียวที่ผืนแผ่นดินผืนนี้แตกและแยกตัวออกนั้น ผู้คนจำนวนมากล้วนมองออกว่า การแตกละเอียดของผืนแผ่นดินผืนนี้ไม่เหมือนเป็นการเกิดขึ้นโดยทั่วไป มันไม่ใช่ว่าหลี่ชิเย่ที่ปราศจากผู้ต่อกรอาศัยหนึ่งหมัดซัดเข้าไป แล้วทำให้ผืนแผ่นดินทั้งผืนพลันแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วน
ผืนแผ่นดินทั้งผืนแตกละเอียดแยกตัวออก โดยแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วน แต่ทว่า ชิ้นส่วนที่แตกละเอียดแต่ละชิ้นมีความพิถีพิถันยิ่ง เหมือนว่าผืนแผ่นดินทั้งผืนนี้เกิดจากการต่อจิ๊กซอขึ้นมาอย่างนั้น เวลานี้การที่ผืนแผ่นดินผืนนี้แตกละเอียดขึ้นมานั้น มันก็แค่เป็นการกลับคืนสู่ชิ้นส่วนเล็กๆ แต่ละชิ้นเท่านั้นเอง
กระทั่งสามารถกล่าวได้ว่า ชิ้นส่วนที่แตกละเอียดทุกชิ้นต่างก็มีกฎเกณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเอง ชิ้นส่วนแตกละเอียดทุกชิ้นล้วนมีจังหวะของตน เสมือนหนึ่งผืนแผ่นดินผืนนี้ก็คืองานศิลปะที่สมบูรณ์แบบชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีความประณีตละเอียดอ่อน
นั่น นั่นมันคือะไร…ครั้นเศษชิ้นส่วนทั้งหมดของผืนแผ่นดินผืนนี้จางหายไปแล้ว ปรากฎสิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารสิ่งหนึ่งขึ้นที่ตรงนั้น มันลอยอยู่เฉยๆ ท่ามกลางท้องฟ้า
เมื่อทุกคนมองออกไป สิ่งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารสิ่งนี้ก็คือมนุษย์ทองแดงที่มีขนาดใหญ่โตมหึมาคนหนึ่ง โดยที่มนุษย์ทองแดงที่ใหญ่โตมหึมาคนนี้มีขนาดใหญ่โตมากกว่ามนุษย์ยักษ์ หรือรูปแกะสลักใดๆ ในหล้า
แต่ว่า มนุษย์ทองแดงขนาดใหญ่โตมโหฬารนี้หาใช่เป็นรูปแกะสลัก เขาเป็นมนุษย์ทองแดงคนหนึ่ง ไม่ว่าใครต่างมองออกได้ว่า เขาเคยเป็นมนุษย์ทองแดงที่มีชีวิต เหมือนว่ามันจะมีชีวิตอยู่ในยุคที่ดึกดำบรรพ์อย่างยิ่ง ผ่านการชำระชะล้างด้วยกาลเวลามานับไม่ถ้วน
ในขณะนี้ ด้วยมนุษย์ทองแดงลักษณะเช่นนี้แหละ เขาได้หลับตาลงเหมือนนอนหลับสนิทไปแล้วอย่างนั้น ท่าทางดูเงียบสงบอย่างยิ่ง บนตัวของเขาได้แผ่ประกายที่จางๆ ขึ้นมา
มนุษย์ทองแดงคนหนึ่งที่มีลักษณะเช่นนี้แหละ ดูเหมือนว่าเขาได้หลับใหลมาเป็นเวลาล้านล้านปีแล้ว ดุจดั่งมันสามารถหลับไปจนชั่วฟ้าดินสลาย
ในใจของทุกคนต่างรู้สึกหวั่นไหวเมื่อมองเห็นมนุษย์ทองแดงคนนี้ ด้วยมนุษย์ทองแดงที่ใหญ่โตถึงเพียงนี้ทุกคนเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่อ้าปากกว้างมากขณะมองดูมนุษย์ทองแดงคนนี้ ทุกคนล้วนไม่รู้ว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงสิ่งใด
เวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรมองไปที่พระอาจารย์จินกวง ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรมองไปที่ศิษย์ของเขาเซียนถงซาน
เผ่าเซียนถงก็คือมนุษย์ทองแดง พลันที่คนของเผ่าเซียนถงถือกำเนิดเกิดมานั้น ทั้งตัวเสมือนดั่งหล่อด้วยทองแดงอย่างนั้น พวกเขาไม่มีร่างกายที่เป็นเลือดเป็นเนื้อ ร่างกายของพวกเขาคือร่างทองแดง
เพียงแต่จากการฝึกในภายหลังก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง เฉกเช่นพระอาจาร์จินกวงเขาฝึกจนสำเร็จเป็นร่างที่เป็นเลือดเป็นเนื้อ แน่นอน เผ่าเซียนถงยังมีอีกหนึ่งทางเลือก สามารถรักษาความเป็นร่างทองแดงตลอดไป
เวลานี้ มนุษย์ทองแดงที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารปรากฏตัวขึ้นที่ตรงนี้ อันดับแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คือ มนุษย์ทองแดงคนนี้มีชาติกำเนิดมาจากเผ่าเซียนถงหรือไม่?
แต่ทว่า ระดับบรรพบุรุษที่มีความรู้กว้างขวางนึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่า เผ่าเซียนถงเคยกำเนิดมนุษย์ทองแดงที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ความจริงแล้ว แม้แต่บรรพบุรุษผู้ที่มีความเข้าใจในประวัติศาสตร์เผ่าเซียนถงของตนเองก็นึกไม่ออก ว่าเผ่าของตนเองเคยกำเนิดมนุษย์ทองแดงที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้ อย่างน้อยที่สุดไม่ได้มีอยู่ในบันทึก ไม่มีในตำนาน!
ทุกคนต่างเข้าใจได้ว่า เพราะอะไรก่อนหน้านี้พระอาจารย์จินกวงจึงได้บอกว่าผืนแผ่นดินผืนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าเซียนถงของพวกเขาเป็นอันมาก ดูไปแล้ว เมื่อเห็นมนุษย์ทองแดงขนาดยักษ์ที่นอนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ในเวลานี้ มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
สามารถกล่าวด้วยความมั่นใจว่า ต่อให้มนุษย์ทองแดงคนนี้ไม่ได้กำเนิดมาจากเผ่าเซียนถง เกรงว่าก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องมากทีเดียวกับเผ่าเซียนถงของพวกเขา เพียงแต่เกี่ยวข้องอย่างใดนั้น ผู้คนไม่อาจทราบได้
“นับว่าเป็นความอัศจรรย์ยิ่ง” เจ๋อหลงเองก็รู้สึกประทับใจบนใบหน้า และหวั่นไหวยิ่งนัก ขณะมองดูมนุษย์ทองแดงคนนี้
ในขณะนี้ ไม่รู้ว่ามีศิษย์เซียนถงซานจำนวนเท่าไรที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้น โดยเคารพกราบไหว้ในระดับสูงสุดต่อมนุษย์ทองแดงนั่น แม้ว่าพวกเขาไม่รู้ว่ามนุษย์ทองแดงนี้มีประวัติความเป็นมาเช่นใด และพวกเขาไม่รู้ว่ามนุษย์ทองแดงคนนี้จะมีชาติกำเนิดมาจากเผ่าเซียนถงของพวกเขาหรือไม่
แต่ว่า โดยสัญชาตญาณของตนเองที่มาจากเผ่าเซียนถง พวกเขาต่างคุกเข่ากราบลงกับพื้น กระทั่งมีผู้บำเพ็ญตนที่มีน้ำตานองหน้า
เวลานี้ ดวงตาทั้งสองของพระอาจารย์จินกวงพวยพุ่งเป็นประกายขึ้นมาในพริบตาเดียว ประกายของเขาได้ยิงตรงไปที่มนุษย์ทองแดงคนนี้ เขาต้องการมองให้ออกถึงร่องรอยเบาะแสเกี่ยวกับมนุษย์ทองแดงคนนี้
“พี่ท่าน ข้าขึ้นไปได้หรือไม่? ” เวลานี้ พระอาจารย์จินกวงได้ถามความเห็นต่อหลี่ชิเย่ จะอย่างไรเสีย ในขณะนี้มนุษย์ทองแดงคนนี้เป็นของหลี่ชิเย่ไปแล้ว
“มีอะไรไม่ได้” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย และกล่าวว่า “สามารถได้อะไรไปหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของเจ้าแล้ว”
“ขอบคุณท่านพี่” พระอาจารย์จินกวงแสดงคารวะหลี่ชิเย่เป็นการใหญ่ จากนั้นขึ้นไปอยู่บนมนุษย์ทองแดง ภายในใจของเขาบังเกิดความซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูกขณะยืนอยู่บนตัวของมนุษย์ทองแดง อดที่จะยื่นมือไปลูบคลำมนุษย์ทองแดง
การกระทำของพระอาจารย์จินกวงดูช่างนุ่มนวล และละเอียดอะไรอย่างนั้น คล้ายกำลังลูบไล้อยู่บนตัวของคนรักอย่างนั้น
หลี่ชิเย่ไม่ได้ไปพินิจพิเคราะห์มนุษย์ทองแดงคนนี้มากมายนัก แต่เดินไปยังบริเวณอกของมนุษย์ทองแดง เขามีความเข้าใจในมนุษย์ทองแดงคนนี้ ความจริงแล้ว ก่อนหน้านี้หลี่ชิเย่ก็เคยเห็นมนุษย์ทองแดงคนนี้มาแล้ว
เขาเคยเห็นมนุษย์ทองแดงคนนี้มาก่อนขณะอยู่เก้าแดน กฎเกณฑ์สิบสองข้อของชะตาดั้งเดิมโลกยุคดึกดำบรรพ์ของเขาก็ได้มาจากหีบที่อยู่ในอ้อมกอดของมนุษย์ทองแดงนั่นเอง
“นั่นคืออะไร” ในขณะนี้ มีผู้สังเกตเห็นมือทั้งสองข้างของมนุษย์ทองแดง
มือทั้งสองข้างของมนุษย์ทองแดงวางซ้อนกันบนอก นอนได้สงบนิ่งมาก แต่ว่าเมื่อมองดูให้ละเอียดจะเห็นได้ว่ามือทั้งสองได้กอดขวดทองแดงไว้ใบหนึ่ง
ความจริงแล้วขวดใบนี้มีขนาดไม่เล็กเลย เพียงแต่มือทั้งสองของมนุษย์ทองแดงนี้มีขนาดใหญ่มากเกินไป ดังนั้น มองไปแล้วขวดใบนี้จึงดูมีขนาดเล็กมากเท่านั้นเอง กระทั่งมักจะถูกผู้คนมองข้ามไปอยู่เสมอๆ
เมื่อมองเห็นขวดทองแดงใบนี้ สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คือ หรือว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในขวดทองแดงใบนี้ก็คือสุดยอดของวิเศษเซียนสูงสุดที่พวกพระอาจารย์จินกวงเอ่ยถึง?
“เกรงว่าคงจะเป็นสุดยอดของวิเศษเซียนสูงสุดแล้วล่ะ” เวลานี้ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจไว้ เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ที่มุ่งหน้าไปยังขวดทองแดงใบนั้น
ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรเต้นระทึกในใจทีหนึ่ง เมื่อมองเห็นขวดทองแดงใบนั้น และรู้ว่าภายในต้องบรรจุสุดยอดของวิเศษเซียนสูงสุดเอาไว้ แต่ ก็ได้เพียงใจเต้นระทึกเท่านั้น ไม่มีใครกล้าวางแผนกับมัน
จะอย่างไรเสีย การวางแผนต่อคนโหดอันดับหนึ่ง เป็นการเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้ว
พระอาจารย์จินกวงกลับไม่ได้มองดูขวดทองแดงใบนั้น เขาให้ความสนใจอย่างใจจดใจจ่อ ด้วยการทุ่มเทกำลังทั้งหมดอยู่บนตัวของมนุษย์ทองแดงคนนี้
เวลานี้หลี่ชิเย่เดินเข้าไปใกล้ มองดูขวดทองแดงที่อยู่ระหว่างมือทั้งสองของมนุษย์ทองแดง อดที่จะทอดถอนในขึ้นมา หัวเราะและกล่าวว่า “นับเป็นพระสุธนกุมารโดยแท้ เช่นนั้นแล้วข้าก็จะรับเอาไว้ไม่เกรงใจแล้วนะ” กล่าวพลาง มือขนาดใหญ่ได้คว้านับขวดทองแดงใบนี้เอาไว้
แต่ว่า คิดจะหยิบเอาขวดทองแดงใบนี้ไปนั้นไหนเลยจะง่ายดายเช่นนั้น เพียงแต่หลี่ชิเย่ในเวลานี้มีความปราศจากผู้ต่อกรเพียงใด เขาได้ก้าวเข้าสู่ระดับสูงสุดแล้ว
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว สิบสามลัคนาพุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรง สยบเหล่าชั้นฟ้า สยบนิรันดร์ ก้าวข้ามทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ล้วนกลับกลายเป็นความเป็นไปได้ในพริบตา
ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนล้วนรับรู้ได้ว่าอานุภาพสวรรค์สุดคาดเดา ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่หมอบกราบบนพื้น แสดงคารวะระดับสูงสุดไม่อาจลุกขึ้นมา ภายใต้อานุภาพของสิบสามลัคนา
สิบสามลัคนาคือตัวแทนของทุกสิ่งทุกอย่าง ก้าวข้ามทุกสิ่ง เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ นี่แหละคือสิบสามลัคนา อดีตไม่เคยมี อนาคตไร้ผู้เทียบเทียม
ตูม ตูม ตูมในเวลานี้เอง ฟ้าดินสั่นไหวทีหนึ่ง เหมือนว่าทั่วทั้งฟ้าดินล้วนถูกมือข้างเดียวของหลี่ชิเย่ถอนขึ้นมาอย่างนั้น
หากจะกล่าวว่า ฟ้าดินทั้งหมดมีห่วงจับล่ะก็ ทุกคนล้วนเชื่อว่าอาศัยมือข้างเดียวของคนโหดอันดับหนึ่งก็สามารถจัดการหิ้วฟ้าดิน หรือโลกทั้งโลกขึ้นมาได้
แม้ว่าฟ้าดินจะไม่ได้ถูกหิ้วขึ้นมา แต่ว่า ทุกคนต่างรู้สึกได้ว่าร่างกายของตนเหมือนลอยขึ้นบนฟ้าอย่างนั้น เหมือนว่าตนเองถูกหิ้วขึ้นมาโดยที่ไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่ทุกคนยังไม่ได้สติกลับมา ขวดทองแดงที่อยู่ในมือทั้งสองของมนุษย์ทองแดงถูกหลี่ชิเย่เอามาได้แล้ว
“ถูกเอามาได้แล้ว” มีผู้ร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อมองเห็นขวดทองแดงใบนั้นตกไปอยู่ในมือของหลี่ชิเย่
เวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกอิจฉา ขณะมองดูขวดทองแดงใบนั้นที่อยู่ในมือหลี่ชิเย่ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่บังเกิดความคิดผุดขึ้นมามากมายอย่างไม่ขาดสาย หากตนเองสามารถครอบครองขวดทองแดงใบนี้ล่ะก็ มันช่างเป็นเรื่องที่ดีเพียงใด นับจากนี้ไปก็จะได้ก้าวขึ้นสู่ตะดับสูงโดยไม่เปลืองแรงแล้ว
“ของดี” หลี่ชิเย่ถึงกับกล่าวชื่นชมทีหนึ่ง เมื่อมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในขวดทองแดง
เวลานี้ ทุกคนล้วนอดที่จะยืดคอยาวออกไป ทุกคนล้วนต้องการดูว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในขวดทองแดงคืออะไร เสียดาย แม้ว่าพวกเขาจะยืดคอให้ยาวมากกว่านี้ ก็มองไม่เห็นว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในนั้นคืออะไรกันแน่
มีผู้คนจำนวนมากอยากจะถามหลี่ชิเย่ว่า ในนั้นคือสุดยอดของวิเศษเซียนสูงสุดอะไรกันแน่ แต่ว่า ทุกคนล้วนไม่กล้าถาม ต่อให้ถามก็ไม่แน่ว่าคนโหดอันดับหนึ่งจะยอมบอกพวกเขา
ตูม ตูม ตูม…ในเวลานี้เอง มนุษย์ทองแดงคนนี้เปล่งประกายขึ้นมา ร่างกายที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารสั่นไหวขึ้นมา และมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หลี่ชิเย่เก็บขวดทองแดงในมือให้เรียบร้อย มองดูพระอาจารย์จินกวงทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ควรไปได้แล้ว” กล่าวพลางก้าวเท้าออกไปและไปจากมนุษย์ทองแดงโดยพลัน
พระอาจารย์จินกวงถึงกับลูบไล้มนุษย์ทองแดงไม่อยากจากไป กล่าวสำหรับเขาแล้วเวลาช่างสั้นเหลือเกิน แต่ว่า นาทีนี้เขาไม่อาจไม่ละทิ้ง
ตูม ตูม ตูมในเวลานี้เอง มนุษย์ทองแดงยิ่งสั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆ และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พระอาจารย์จินกวงไม่อาจไม่ไปจาก เขาเหินฟ้าพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง มนุษย์ทองแดงได้พุ่งทะลุท้องฟ้า และก้าวข้ามอาณาจักรนับไม่ถ้วน มนุษย์ทองแดงพลันหายตัวไปท่ามกลางช่องว่างแต่ละช่อง ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้สติกลับมา
………………………………………………………………………………….