Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 3022 ท้องฟ้าด้านทิศเหนือ
ตอนที่ 3022 ท้องฟ้าด้านทิศเหนือ
หลี่ชิเย่แค่มองดูกระบือดำขนาดใหญ่แวบหนี่งเท่านั้นโดยไม่ได้พูดอะไรอีก จากนั้น มองดูเมืองยักษ์ที่แตกหักเสียหาย และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ไปเถอะ ที่นี่ก็ควรจบสิ้นได้แล้ว”
กระบือดำขนาดใหญ่พยักหน้า รู้ว่าที่ตรงนี้ก็คือศูนย์กลางของเรือปราบปรามไกลแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องเดินไปข้างหน้าอีกต่อไป
ก่อนจาก ราชันแท้จริงเซิ่นซวงอดที่จะจ้องมองดูถ้ำยักษ์อีกครั้งหนึ่ง หน้าตาแสดงออกถึงความกังวล และบังเกิดเงาทมิฬในใจที่ไม่อาจลบเลือนไป เนื่องจากนางรู้ว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงอะไร
ขณะที่หลี่ชิเย่ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย และไม่ได้ไปมองมันอีก และเขาก็ไม่ได้ใส่ใจว่าร่างเงานั้นจะเป็นหรือตาย หันหลังจากไปทันที
ตอนที่พวกของหลี่ชิเย่ออกมาจากโลกใบเล็กแห่งนี้ ทั่วทั้งโลกใบเล็กอยู่ในสภาพเงียบสงัดแล้ว ทั่วทั้งโลกใบเล็กเงียบสงบอย่างยิ่ง กระทั่งกล่าวได้ว่าไร้ซุ่มไร้เสียงใดๆ
ก่อนหน้านั้น มียอดฝีมือ ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยที่ทะลักเข้ามายังโลกใบเล็กแห่งนี้ นับว่าเป็นภาพที่มีความคึกคักอย่างยิ่ง การศึกเมื่อครู่นั่นเอง ทำเอาบรรดายอดฝีมือ ผู้ยิ่งใหญ่ต่างขวัญหนีดีฝ่อ ต่างทยอยกันล่าถอยออกจากโลกใบเล็กแห่งนี้ ส่งผลให้โลกใบเล็กแห่งนี้สงบเงียบขึ้นมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะที่พวกของหลี่ชิเย่ได้ก้าวเดินออกมานั้น ทหารอเวจีที่เคยเดินทัพก็อันตรธานหายไป ไม่รู้ว่าพวกมันล้วนกระโดดลงไปในหม้อน้ำทองแดงจนหมดสิ้น หรือว่าพวกมันได้ไปยังสถานที่อื่นแล้ว
ขณะที่ขบวนของหลี่ชิเย่ก้าวเดินออกมานั้น ทั่วทั้งบริเวณโลกใบเล็กเงียบสงบจนดูน่ากลัว เหมือนว่าทั่วทั้งโลกใบเล็กเหลือเพียงพวกเขาเท่านั้นเอง นาทีนี้เวลานี้ ท่ามกลางโลกใบเล็กแห่งนี้ นอกเหนือจากพวกเขาแล้ว อย่าว่าแต่เงาคนสักคนเลยแม้แต่เงาผีก็ไม่มีให้เห็น
เหมือนว่าบรรดาสิ่งปราศจากชีวิตที่อยู่ในโลกใบเล็กล้วนแล้วแต่หลบซ่อนตัว และไม่เผยโฉมออกมาให้เห็นอีกแล้ว
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเข้าใจ การที่โลกใบเล็กพลันกลายเป็นเงียบสงบเป็นเพราะเกี่ยวเนื่องกับการศึกเมื่อครู่ สืบเนื่องจากร่างเงานั้นที่หลบหนีไป ทำให้บรรดาสิ่งปราศจากชีวิตที่อยู่ในโลกใบเล็กล้วนแล้วแต่อันตรธานหายไป
สิ่งนี้หาใช่บอกว่าสิ่งปราศจากชีวิตทั้งหมดล้วนแล้วแต่ตายไปหมดแล้ว พวกมันแค่หลบซ่อนตัวเท่านั้นเอง เกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว พวกเขาก็จะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
นี่แหละคือสิ่งที่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงกังวลมากที่สุด สิ่งปราศจากชีวิตที่อยู่ภายในโลกใบเล็กทั้งหมด และหรือสามารถเรียกมันว่ากองทัพคนตาย เกรงว่าจะมีขนาดที่ใหญ่มาก เฉกเช่นฮ่องเต้รถศักดิ์สิทธิ์ เจ้าอิทธิพลอาชาศึกต่างก็เคยเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงร่างเงาคนนั้นที่อยู่ในเตาหงส์เลย
พวกเขาที่เป็นกองทัพคนตายที่น่าสยองขวัญและล่องลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่เช่นนี้ เกรงว่าใช่จะไม่มีเหตุผลอยู่ในนั้น บางทีพวกมันอาจกำลังเดินทางปราบปรามไกลอยู่
ส่วนที่ว่าเดินทางปราบปรามไกลอะไรนั้นนางไม่ชัดเจน บางทีอาจมีความเป็นไปได้ว่า กองทัพคนตายทัพลักษณะเช่นนี้ต้องเป็นทัพปราบปรามไกลต่อแดนลัทธิเซียนทั้งหมด
เมื่อพวกของหลี่ชิเย่ได้ออกจากโลกใบเล็กนี้แล้ว และยืนอยู่บนกาบเรือของเรือปราบปรามไกลจึงพบว่า เรือปราบปรามไกลกำลังแล่นไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่สูงมาก
นาทีนี้เวลานี้เรือปราบปรามไกลมีความเร็วที่รวดเร็วมาก เสมือนดั่งประกายที่เคลื่อนไหววิ่งผ่านท้องฟ้าที่ว่างเปล่า ทั้งยังไร้ซุ่มไร้เสียงอีกด้วย คล้ายเป็นเรือวิญญาณที่มาจากนรกอเวจีอย่างแท้จริง
ขณะที่เรือปราบปรามไกลกำลังวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงนั้น ขณะที่ก่อนหน้านั้นเรือแตกหัก และหรือเศษชิ้นส่วนเรือจำนวนมากที่ล่องลอยออกมาก่อนใครกลับค่อยๆ หยุดลงอย่างช้าๆ
เรือชำรุดแตกหัก และหรือเศษชิ้นส่วนที่ล่องลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ หลังจากที่พวกมันได้ลอยเข้าไปยังท้องฟ้าด้านทิศเหนือแล้ว พวกมันได้ค่อยๆ ช้าลง กระทั่งหยุดไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป เหมือนว่าพวกมันได้สูญเสียพลังที่จะล่องลอยต่อไปอีกแล้ว
ขณะที่เรือปราบปรามไกลกลับตรงกันข้าม เมื่อเรือชำรุดแตกหัก และหรือเศษชิ้นส่วนต่างลดความเร็วลง กระทั่งหยุดนิ่ง เรือปราปรามไกลกลับเพิ่มความเร็วมากขึ้น เสมือนดั่งเป็นวาฬยักษ์ที่กระโจนบินร่อนอยู่ที่ท้องฟ้าด้านทิศเหนือที่กว้างขวางไร้ขอบเขตแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เรือปราบปรามไกลเร่งความเร็วไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มันไม่ได้เดินทางอ้อมแต่อย่างใด ดูจากลักษณะท่าทางของการบินด้วยความเร็วสูงนั้น มันมีที่หมายที่ชัดเจนมาก มันบินอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ตนต้องการไปให้ถึงอย่างแม่นยำ
ย่อมไม่ต้องสงสัย เรือปราบปรามไกลมีพลังที่แข็งแกร่งมากปราศจากผู้ต่อกรสายหนึ่งที่ขับเคลื่อนให้พวกมันแล่นไปข้างหน้า บางทีอาจมีบางสิ่งบางอย่างในท้องฟ้าด้านทิศเหนือที่ดึงดูดพวกมันเอาไว้ ให้พวกมันมุ่งหน้าแล่นไปอย่างรวดเร็วในทิศทางที่แน่นอน
“มาด้วยความตั้งใจ” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่มองดูเรือปราบปรามไกลแล่นไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่แน่นอนแล้วก็เข้าใจได้ว่า การล่องลอยออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ของเรือชำรุดแตกหัก และหรือเศษชิ้นส่วนอื่นๆ มีความเป็นไปได้อาจมาจากสาเหตุต่างๆ นานา
แต่ทว่า เรือปราบปรามไกลแตกต่างกัน พวกมันขับเคลื่อนออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งนัก พวกมันไปจากทะเลปุ๊ตู้ไห่เรียกว่ามีเป้าหมายที่ชัดเจนอย่างยิ่ง
แม้ว่าระยะทางจากทะเลปุ๊ตู้ไห่กับท้องฟ้าด้านทิศเหนือห่างไกลจนสุดจะคาดเดา แต่เรือปราบปรามไกลยังคงแล่นอย่างรวดเร็วไปยังทิศทางนี้ด้วยความแม่นยำยิ่ง ตลอดขั้นตอนทั้งหมดไม่ได้มีการวิ่งอ้อม กระทั่งไม่เคยปรากฏข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น
ภายในใจของราชันแท้จริงเซิ่นซวงไม่กล้ายืนยันว่า มันเป็นเพราะพลังอะไรที่ส่งผลให้เรือปราบปรามไกลแล่นออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ และมุ่งหน้าตรงไปยังท้องฟ้าด้านทิศเหนือกันแน่
“สวยมาก…” จังหวะที่เรือปราบปรามไกลกำลังเดินทางด้วยความรวดเร็วนั้น หลิ่วเยี่ยนไป๋ที่นั่งอยู่บนหลังกระบือร้องเสียงหลงขึ้นมา และชี้ไปยังข้างหน้า
เมื่อมองไปข้างหน้า เห็นด้านหน้าที่ห่างไกลออกไป มีดวงดาวขนาดใหญ่โตมโหฬารดวงหนึ่ง โดยที่ดวงดาวขนาดใหญ่โตมโหฬารดวงนี้มีความพิเศษและแปลกมาก ดวงดาวขนาดใหญ่โตมโหฬารดวงนี้แบ่งออกเป็นสองซีกซ้ายขวาอย่างชัดเจน ซีกด้านขวาของดวงดาวดวงนี้พวยพุ่งเป็นเปลวไฟร้อนแรงที่ไม่ขาดสายออกมาเหมือนดั่งดวงตะวันอย่างนั้น
เปลวไฟที่ร้อนแผดเผายิ่งได้พวยพุ่งขึ้นไปสูงมาก และพวยพุ่งไปยังท้องฟ้าว่างเปล่าเป็นหมื่นพันลี้ ดูอลังการเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่ด้านซ้ายของดวงดาวกลับเย็นยะเยือกยิ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง ภายในดวงดาวได้พวยพุ่งกลิ่นอายที่เยือกเย็นอย่างยิ่ง เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดที่ดังขึ้น ท้องฟ้าว่างเปล่าทางด้านนี้ของดวงดาวพลันถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง เสมือนดั่งเป็นกระจกคริสตัลบานหนึ่ง มหัศจรรย์อย่างยิ่ง
ดวงดาวลักษณะเช่นนี้ไม่ได้หยุดอยู่กับที่อยู่ตรงนั้นไม่เคลื่อนไหว ตรงกันข้าม มันเคลื่อนที่ไปตามวงโคจรที่แน่นอน ดูไปแล้วเหมือนว่าเป็นการเคลื่อนที่ที่ช้ามาก ความจริงแล้ว มันได้ก้าวข้ามท้องฟ้าด้านทิศเหนือที่กว้างขวางใหญ่โตของท้องฟ้าด้านทิศเหนือไปภายในระยะเวลาอันสั้น และเข้าสู่ด้านอีกด้านหนึ่ง
มองดูดวงดาวที่พวยพุ่งเป็นเปลวไฟร้อนแรงเป็นระยะ ขณะที่อีกด้านก็ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งนับพันนับหมื่นลี้ ลากหางที่สลับกันด้วยน้ำแข็งและไฟหายไปในท้องฟ้าด้านทิศเหนือ ทำให้ผู้คนมองดูจนเหม่อลอย
“พวกเราได้เข้าสู่เท้องฟ้าด้านทิศเหนือเราได้เข้าสู่ท้องฟ้าด้านทิศเหนือแล้ว” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะและกล่าวว่า “ที่ตรงนี้มีปรากฎการณ์ที่อลังการยิ่งนัก ไม่ว่าจะมองเห็นเรื่องราวที่อัศจรรย์ใดๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ เนื่องจากที่นี้คือท้องฟ้าด้านทิศเหนือ”
“ท้องฟ้าด้านทิศเหนือ…” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่มองเห็นท้องฟ้าว่างเปล่าที่กว้างไกลไร้ขอบเขตตรงหน้าก็อดพึมพำขึ้นมาไม่ได้ และรู้สึกปลงอนิจจัง
ท้องฟ้าด้านทิศเหนือ ทะเลปุ๊ตู้ไห่อาศัยเทียนเชี่ยนเป็นเขตแดน พวกมันต่างอยู่ด้านนอกของแดนลัทธิเซียน อีกทั้งท้องฟ้าด้านทิศเหนือกับทะเลปุ๊ตู้ไห่มองเห็นกันลิบๆ เหมือนว่าพวกมันทั้งสองต่างก็กลายเป็นที่สุดของการดำรงอยู่ของโลกใบนี้
ท้องฟ้าด้านทิศเหนือเหมือนเช่นทะเลปุ๊ตู้ไห่ ต่างก็เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยปริศนา ล้วนแล้วแต่ เปี่ยมด้วยสถานที่ที่ยังคงไม่เป็นที่รู้จักเป็นจำนวนมาก ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่คู่ควรไปสำรวจ
แต่ว่า ท้องฟ้าด้านทิศเหนือมันก็จะแตกต่างจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ ทะเลปุ๊ตู้ไห่นั้นจัดเป็นสถานที่ที่ไปแล้วไปลับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งเพียงใด เป็นระดับปฐมบรรพบุรุษที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งเช่นใดก็ตาม หลังจากเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้วก็จะปราศจากข่าวคราวอีกนับจากนั้นเป็นต้นมา
ขณะที่ท้องฟ้าด้านทิศเหนือแตกต่าง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนใดๆ ก็ตาม ขอเพียงสามารถมั่นใจในตนเองว่าสามารถควบคุมในเรื่องความเสี่ยงของตนได้ ล้วนแล้วแต่ยังคงมีโอกาสเอาชีวิตรอดกลับมาได้
อย่างไรก็ตาม ท้องฟ้าด้านทิศเหนือไม่เหมือนดั่งเช่นทะเลปุ๊ตู้ไห่อย่างนั้น ที่มีเพียงระดับปฐมบรรพบุรุษ และผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกร จึงสามารถมีโอกาสเข้าไปได้อย่างแท้จริง กล่าวสำหรับท้องฟ้าด้านทิศเหนือแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็มีโอกาสมาถึงที่นี่ได้
ต่อให้เจ้ามีกำลังความสามารถไม่แข็งแกร่งมากพอ ไม่สามารถบินข้ามระยะทางที่ห่างไกลถึงเพียงนี้ เช่นนั้นแล้ว ขอเพียงสามารถมีเงินพอที่จะจ่ายได้ ก็มีผู้ที่สามารถส่งตัวเจ้ามายังท้องฟ้าด้านทิศเหนือได้
เป็นต้นว่าห้างเจียวเหิง พวกเขาก็มีธุรกิจลักษณะเช่นนี้ ให้บริการส่งตัวยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนไปยังท้องฟ้าด้านทิศเหนือโดยเฉพาะ
อีกทั้ง การมาที่ท้องฟ้าด้านทิศเหนือใช่ว่ามีเพียงราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกร หรือระดับคงความอมตะตลอดกาลเท่านั้นที่สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ ถ้าหากมีวาสนา ต่อให้เป็นเพียงผู้บำเพ็ญตนตัวน้อยๆ ไม่แน่นักก็อาจได้พานพบเรื่องประหลาดมหัศจรรย์ยิ่งใหญ่ก็เป็นได้
ด้วยเหตุที่ท้องฟ้าด้านทิศเหนือและทะเลปุ๊ตู้ไห่ที่แตกต่างกับผู้อื่น ทำให้ท้องฟ้าด้านทิศเหนือและทะเลปุ๊ตู้ไห่กลายเป็นสถานสองแห่งที่ที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดในแดนลัทธิเซียนแล้ว ท้องฟ้าด้านทิศเหนือคือสวนสนุกของผู้สำรวจ ที่ตรงนี้เต็มไปด้วยความอันตราย และเต็มไปด้วยเรื่องประหลาดมหัศจรรย์ที่จะได้พบเจอ ขณะที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่คือเส้นทางของการปราบปราม เป็นที่พักพิงสุดท้ายของระดับปฐมบรรพบุรุษ
ด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่เข้าสู่ท้องฟ้าด้านทิศเหนือในทุกๆ ปี ในจำนวนพวกเขามีราชันแท้จริงที่ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า และผู้ไม่มีความสำคัญที่ไร้ชื่อเสียงบารมี
จุดประสงค์ของการเข้าสู่ท้องฟ้าด้านทิศเหนือก็มีหลากหลาย มีผู้ที่เข้าสู่ท้องฟ้าด้านทิศเหนือก็เพื่อหวังได้พบเรื่องราวประหลาดมหัศจรรย์ มีผู้ที่เข้าสู่ท้องฟ้าด้านทิศเหนือเพียงเพื่อต้องการเปิดหูเปิดตา ได้เห็นสิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์เท่านั้น
ตูม…ตูม…ตูม…จังหวะที่หลิ่วเยี่ยนไป๋กำลังเหม่อลอยนั้น เสียงที่ฟังดูอึดอัดเสียงหนึ่งดังขึ้น ท่ามกลางเสียงอึดอัดดังขึ้นมาเป็นระลอก เหมือนช่องว่างทั้งหมดได้สั่นไหวโคลงเคลงทีหนึ่ง
ขณะที่หลิ่วเยี่ยนไป๋มองไปยังทิศทางที่เสียงดังตูมตามส่งเข้ามา เห็นเพียงภูเขาที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารปรากฎตัวขึ้นบนท้องฟ้าว่างเปล่า ภูเขาลูกนี้ส่งประกายสีเงินแวบวับ ภูเขาลูกนี้มีขนาดสูงใหญ่มาก มันเหมือนหลอมสร้างขึ้นมาด้วยเงินจำนวนนับไม่ถ้วน และบนภูเขาสีเงินลูกนี้ได้สลักอักขระยันต์ที่แปลกประหลาดยิ่งนัก ขณะที่อักขระยันต์เหล่านี้ส่งประกายแวบวับนั้น เหมือนเป็นดวงตาแต่ละข้างที่กำลังกะพริบหนังตาอย่างนั้น แปลกมา และประหลาดมาก
ภูเขาสีเงินที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารลูกนี้กำลังเคลื่อนที่ มันหาใช่เป็นการเคลื่อนที่เอง ด้านหน้าของภูเขาสีเงินลูกนี้ถึงกับมีช้างขนาดยักษ์แต่ละเชือกที่ลากให้มันเคลื่อนไป
ช้างขนาดยักษ์แต่ละเชือกหาใช่สิ่งมีชีวิต แต่เป็นช้างหินแต่ละตัว ลักษณะของช้างหินแต่ละตัว ไม่รู้ว่ามันคือหินแกะสลัก หรือว่าตัวของมันเองก็เกิดจากหินโดยธรรมชาติ สรุปก็คือ ดูไม่ออกว่ามันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือสร้างขึ้นภายหลัง ช้างทุกตัวล้วนแล้วแต่เหมือนมีชีวิต
บนหลังของช้างหินแต่ละตัวถูกคล้องเอาไว้ด้วยโซ่เหล็กที่ทั้งยาวและมีขนาดใหญ่ และโซ่เหล็กพันธนาการไว้กับภูเขา ด้วยเหตุนี้ ช้างหินแต่ละตัวเหล่านี้จึงลากภูเขาสีเงินลูกนี้ก้าวเดินไปข้างหน้าท่ามกลางท้องฟ้าด้านทิศเหนือ
เมื่อช้างหินแต่ละตัวก้าวเท้าออกไปพร้อมกับลากเอาภูเขาสีเงินไปข้างหน้า ก็จะสามารถได้ยินเสียงเคลื่อนที่ดังตูม ตูม ตูมที่เป็นเสียงเคลื่อนที่ และเสียงฝีเท้าของช้าง
แม้ช้างหินจะงุ่มง่าม แต่ว่า ความเร็วที่ลากภูเขาสีเงินเคลื่อนที่นั้นรวดเร็วอย่างยิ่ง อาศัยคำว่าห้อตะบึงมาเปรียบเปรยก็ไม่นับว่าเกินเลย
“หนึ่งตัว สองตัว สามตัว…เก้าตัว ทั้งหมดมีเก้าตัว” หลิ่วเยี่ยนไป๋ได้นับจำนวนช้างหินแต่ละตัวเหล่านี้
‘ช้างนพเก้าลากบรรพต’ กระบือดำขนาดใหญ่ไม่รู้สึกแปลกใจ ขณะมองดูภาพที่อยู่ตรงหน้า
……………………………………………..