Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2775 ท้ารบ
ตอนที่ 2775 ท้ารบ
จานเซียนอมตะลอยอยู่เหนือท้องฟ้าสูงของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ครั้นจานเซียนอมตะถูกจุดติดห้าในสิบแปดแล้ว ภายในใจของทุกคนถึงกับรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกเหมือนมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มหนึ่งที่แขวนอยู่เหนือหัวใจของตนสูงขึ้นไป กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้มีความเป็นไปได้ที่จะไหลลงมา และตัดเอาศีรษะของตนได้ทุกเมื่อ
“นี่เป็นการริเริ่มที่ไม่ดีเอามากๆ เลยทีเดียวนะเนี่ย” ระดับบรรพบุรุษเก่ากะลาบางส่วนอดที่จะเป็นกังวลต่อสิ่งนี้ไม่ได้
“เมื่อใดที่มีการเปิดศักราชเช่นนี้แล้ว ต่อไปนี้จานเซียนอมตะก็จะกลายเป็นอาวุธที่อาศัยส่วนรวมแก้แค้นส่วนตัว เท่ากับว่าผู้ที่กุมจานเซียนอมตะจะสามารถทำได้ทุกอย่างตามอำเภอใจ สามารถตั้งตนเป็นจ้าวใต้หล้าได้ตามอารมณ์ อาละวาดเป็นทุกแห่งหน” ระดับบรรพบุรุษที่เก่ากะลายิ่งถึงกับกล่าวด้วยความกังวล
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเช่นนี้ไร้ประโยชน์ เวลานี้ผู้ที่ควบคุมสถานการณ์ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทั้งหมดก็คือพวกแคว้นโบราณยันต์แปดทิศซึ่งเป็นสำนักที่มีกำลังกล้าแข็งเหล่านั้น
ตึง ตึง ตึงเสียงคำรามดังขึ้นเป็นระลอก ขณะที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยเป็นกังวลกับสิ่งนี้อยู่นั้น บนท้องฟ้าปรากฏประกายที่สว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง มองเห็นจานเซียนอมตะที่อยู่บนท้องฟ้ามีอักขระยันต์ที่ถูกจุดติดขึ้นมาอีกแล้ว
“หกในสิบแปด! เท่ากับจำนวนหนึ่งในสามของจานเซียนอมตะแล้ว” มีผู้ที่ร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อเห็นอักขระยันต์ที่ถูกจุดติดขึ้นมา
“เป็นสำนักไหนกันนะที่นำเอาอักขระยันต์ของจานตนเองใส่ลงไป?” ถูกคนต่างตระหนักได้ว่า มีสำนักที่นำเอาอักขระยันต์ที่ตนมีอยู่ใส่ลงไป เมื่อเห็นจานเซียนอมตะได้สว่างไสวขึ้นอีกครั้งด้วยจำนวนอักขระยันต์หนึ่งในสามจากสิบแปด
แต่ว่า สำนักที่นำอักขระยันต์ของตนใส่ลงไปไม่ได้แสดงตัว และไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ ออกมา เพื่อแค่นำอักขระยันต์ใส่ลงไปเท่านั้น เพื่อกระตุ้นจานเซียนอมตะในส่วนที่เป็นของพวกเขาเท่านั้น ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าสำนักนี้ได้ขานรับการร้องขอของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางแล้ว
“เกรงว่าสำนักแห่งนี้คงมีการบรรลุข้อตกลงเป็นการลับกับแคว้นโบราณยันต์แปดทิศและดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางแล้ว ไม่แน่นัก อาจได้รับผลประโยชน์แล้วล่ะ” หลังจากที่สำนักเจ้าลัทธิและแคว้นโบราณจำนวนไม่น้อยเห็นว่ามีสำนักที่นำเอาอักขระยันต์ของตนใส่ลงไปแล้ว กลับไม่ได้มีการแสดงตน ทำให้พวกเขารู้แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“สิ่งนี้นับเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีแลย เป็นการทำให้กฎที่ยอมรับกันมาเป็นพันล้านปีของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารต้องสับสนวุ่นวาย” มีระดับบรรพบุรุษไม่อาจไม่กังวลกับสิ่งนี้
เดิมที่จานเซียนอมตะมีไว้สำหรับต่อต้านกับศัตรูภายนอก สังหารมารผดุงคุณธรรม แต่ไม่ใช่นำมาเข่นฆ่ากันเอง ยิ่งไม่ควรจะเป็นเหมือนเช่นเวลานี้ ถึงกับไม่มีคำแถลงการณ์ใดๆ ด้วยการปิดบังฐานะของตนแล้วนำอักขระยันต์ที่ตนมีอยู่ใส่ลงไป ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง นี่เป็นการอาศัยอำนาจแอบดำเนินการทางลับ หากการกระทำเช่นนี้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ดีไม่ดีอนาคตทุกคนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อยู่ไม่เป็นสุข
เสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้นมา ในเวลานี้จานเซียนอมตะที่อยู่บนท้องฟ้ามีอักขระยันต์ที่ถูกจุดติดขึ้นมาอีก
เจ็ดในสิบแปด ไม่สิ แปดในสิบแปด…มีผู้ที่ร้องเสียงดังขึ้นมา
“แย่แล้วมีผู้ที่เอาอักขระยันต์ใส่ลงไปอีกแล้ว เก้าในสิบแปดแล้ว…” เวลานี้ จิตใจของผู้คนภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารหวั่นไหว สำนักเจ้าลัทธิแคว้นโบราณจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกกังวลขึ้นมา โดยเฉพาะบรรดาสำนักที่ไม่สามารถมีอักขระยันต์ไว้ในครอบครองยิ่งรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากนี้เป็นการเริ่มต้นที่เลวร้ายยิ่ง และจะนำพาลักษณะประเพณีที่เลวร้ายอย่างยิ่งมาให้กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร
“เป็นสำนักใดกันนะที่เอาอักขระยันต์ของตนใส่ลงไป” ผู้คนจำนวนมากต่างติดตามถามหาเมื่อเห็นว่าเพียงแค่เวลาสั้นๆ ก็มีอักขระยันต์ถูกใส่ลงไปอีกสาม
แต่ว่า ไม่มีใครทราบ ทุกคนต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน บรรดาผู้ที่มีอักขระยันต์อยู่ในครอบครองไม่ประกาศหรือแถลงใดๆ ทั้งสิ้น ใส่ลงไปโดยการปกปิดชื่อของตน
ในเวลานี้ บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน และสำนักเจ้าลัทธิแคว้นโบราณทั้งหมดจึงได้ตระหนักแล้วว่า มาถึงวันนี้ ทางแคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้บรรลุข้อตกลงกับบรรดาสำนักที่มีอักขระยันต์ในครอบครองเรียบร้อยแล้ว
“ในครั้งนี้ แคว้นโบราณยันต์แปดทิศไม่เพียงต้องการแก้แค้นเท่านั้น พวกเขาก็ต้องการยืนยันฐานะในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารของตน! แคว้นโบราณยันต์แปดทิศต้องการเป็นผู้นำใต้หล้า” ผู้มีปัญญามองออกถึงความนัยดังกล่าว
“มาคราวนี้ แคว้นโบราณยันต์แปดทิศต้องการฉวยโอกาสเกี่ยวกับวิธีการเปิดใช้จานเซียนอมตะมาบัญชาการใต้หล้า ทำให้บรรดาแคว้นเจ้าลัทธิใต้หล้าล้วนแล้วแต่ต้องฟังคำบัญชาของเขา เมื่อใดที่ทำได้สำเร็จ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าแคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะได้เป็นผู้ครองอำนาจปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร” ผู้มีปัญญาผู้นี้อดที่จะรู้สึกกลัดกลุ้มใจยิ่งนัก
ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกตระหนกในใจ หลังจากที่เข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งในการกระทำของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศแล้ว สำนักของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารที่มีอักขระยันต์อยู่ในครอบครองล้วนแล้วแต่เป็นสำนักที่มีกำลังแข็งแกร่งมากที่สุดทั้งสิ้น
ถ้าหากว่าบรรดาสำนักที่มีอักขระยันต์อยู่ในครอบครองล้วนแล้วแต่ฟังคำบัญชาของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ นั่นย่อมบ่งบอกว่าบรรดาสำนักเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สนับสนุนฐานะของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะเป็นการสร้างฐานะของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้อย่างมั่นคง หลังจากนี้แคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะต้องได้ครองอำนาจการปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารแน่นอน
เมื่อถึงขั้นนั้นแล้ว แคว้นโบราณยันต์แปดทิศแค่ส่งเสียงร้องขอออกมา ก็ต้องมีผู้ที่ติดตามมาทันที
ตึง ตึง ตึงเพียงไม่นานนักตามติดด้วยเสียงที่ดังขึ้น และจานเซียนอมตะบนท้องฟ้าก็ได้สว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง จานเซียนอมตะได้ปรากฏอักขระยันต์ที่ถูกจุดติดไปแล้วกว่าครึ่ง
“สิบในสิบแปด สิบเอ็ดในสิบแปด สิบสองในสิบแปด!” สุดท้าย เมื่ออักขระยันต์ถูกสลักเอาไว้บนท้องฟ้าแล้ว แม้แต่ระดับบรรพบุรุษยังต้องใจหายใจคว่ำอยู่ในใจ
“นี่คือกำลังความสามารถสองในสามแล้ว” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกหวั่นไหวในใจ เมื่อมองเห็นผลเช่นนี้
“จนกระทั่งถึงตอนนี้ นอกเหนือจากวิหารอมตะแล้ว ยังมีสำนักเจ้าลัทธิแคว้นโบราณอีกสองแห่งที่ไม่ได้นำอักขระยันต์ของตนใส่ลงไป สำนักเจ้าลัทธิแคว้นโบราณทั้งสองแห่งเป็นใครกันเล่า?” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะร้องเสียงหลงในใจ
วิหารอมตะมีอักขระยันต์อยู่สี่ตัว เวลานี้หักลบอักขระยันต์ทั้งสี่ของวิหารอมตะไปก็จะเหลือสำนักเจ้าลัทธิอีกสองแห่งที่ไม่ได้นำอักขระยันต์ของตนใส่ลงไปแล้ว
“มีการวางสิบสองอักขระยันต์ลงไปแล้ว” เฉินเหวยเจิ้งมีสีหน้าที่ขาวซีด เมื่อเห็นภาพที่อยู่บนท้องฟ้า และกล่าวว่า “ท่านปรมาจารย์ ถ้าหากแคว้นโบราณยันต์แปดทิศโจมตีลงมา แม้ว่าจะไม่ใช่การโจมตีที่ปราศจากผู้ต่อกรมากที่สุดของปฐมบรรพบุรุษ แต่นั่นมันก็คือการโจมตีที่ปราศจากผู้ต่อกรของปฐมบรรพบุรุษแล้ว มันคือหนึ่งการโจมตีที่ทำลายฟ้าดินให้พินาศย่อยยับนะเนี่ย”
ในขณะนี้ เฉินเหวยเจิ้งเองอดที่จะเป็นกังวลต่อผู้เป็นปรมาจารย์ เป็นกังวลต่อความปลอดภัยของนิกายหู้ซานจงโดยรวมแล้ว ถ้าหากมีการโจมตีด้วยลักษณะเช่นนี้จริงๆ ความรุนแรงในการทำลายล้างไม่สามารถจินตนาการได้อยู่แล้ว
“ก็ให้พวกเขาทำต่อไปเถอะ” หลี่ชิเย่เพียงมองดูแวบหนึ่ง ท่าทีอย่างไรก็ได้อย่างสิ้นเชิง ยังคงเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เฉินเหวยเจิ้งถึงกับทอดถอนใจขึ้นมาเบาๆ มองไปบนท้องฟ้า ในเวลานี้เขาได้แต่อธิฐานอยู่ในใจและอดที่จะหัวเราะเจื่อนๆ ไม่ได้ และเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า ”ในครั้งนั้นขณะที่นิกายหู้ซานจงพวกเรายังมีความเจริญรุ่งเรืองก็เคยมีอักขระยันต์สี่ตัวเหมือนเช่นวิหารอมตะ ภายหลังพวกเราเสื่อมลง อักขระยันต์ทั้งสี่ล้วนออกไปจนหมดสิ้น”
ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว เขาถึงกับทอดถอนใจขึ้นมาด้วยความผิดหวัง
เมื่ออักขระยันต์สิบสองตัวในสิบแปดตัวสว่างไสวขึ้นมาแล้ว ทั่วฟ้าดินเสมือนดั่งแข็งตัวไปแล้วอย่างนั้น ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ขณะที่ในเวลานี้ ไม่มีอักขระยันต์ใดสว่างไสวขึ้นมาอีกเลย
“ยกเว้นแคว้นเจ้าลัทธิอีกสองแคว้นสุดท้าย และวิหารอมตะแล้ว สำนักและแคว้นโบราณที่มีอักขระยันต์ในมือต่างให้การสนับสนุนต่อแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ ล้วนแล้วแต่ยืนอยู่ข้างฝ่ายของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ ดูท่าแคว้นโบราณยันต์แปดทิศต้องการตั้งตนขึ้นสู่ตำแหน่งใหญ่แล้ว หากไม่มีใครขัดขวางอีก แคว้นโบราณยันต์แปดทิศก็จะครองอำนาจการปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารแล้ว” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะถึงกับหวั่นไหวในใจ
ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากต่างก็เข้าใจได้ว่า แคว้นโบราณยันต์แปดทิศไม่เพียงต้องการสังหารหลี่ชิเย่ ทำลายล้างนิกายหู้ซานจงเท่านั้น พวกเขายังต้องการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสุงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ในสายตาของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศมองว่า จะเป็นหลี่ชิเย่ก็ดี นิกายหู้ซานจงก็ช่าง เป็นเพียงฐานที่จะให้พวกเขาเหยียบเพื่อก้าวขึ้นสู่บัลลังก์เท่านั้นเอง
“แคว้นโบราณยันต์แปดทิศไม่ใช่แคว้นที่แข็งแกร่งมากที่สุดแล้วรึ?” มีศิษย์ที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้
“อย่าลืมไปสิ ยังมีวิหารอมตะ ขอเพียงวิหารอมตะยังคงอยู่ แคว้นโบราณยันต์แปดทิศก็ยากที่จะทำให้ความทะเยอทะเยานของตนเป็นจริงได้ แต่ว่า เวลานี้แคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้ก้าวออกไปอีกหนึ่งก้าวแล้ว” เทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้กล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจังว่า “แคว้นโบราณยันต์แปดทิศเกี่ยวดองสมรสกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางใช่จะไม่มีเหตุผล เวลานี้พวกเขาสองสำนักเกี่ยวดองสมรสกัน ทำให้มีอักขระยันต์อยู่ในมือห้าตัว ขณะที่วิหารอมตะมีอักขระยันต์อยู่สี่ตัว เมื่อสองสำนักเกี่ยวดองสมรส พวกเขาเริ่มจะมีความได้เปรียบขึ้นมาแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับวิหารอมตะ”
“แคว้นโบราณยันต์แปดทิศมีความทะเยอทะยานโดยแท้” ภายในใจของศิษย์จำนวนมากทะลุปรุโปร่งในเรื่องนี้ เมื่อได้รับการชี้แนะของผู้อาวุโส
“มารร้ายหมื่นยุค ทุกคนสามารถกำจัดได้!” หลังจากที่สิบสองอักขระยันต์ได้จุดติดจานอมตะสวรรค์จนสว่างไสวแล้ว อีจ้าวเหว่ย รัชทายาทแคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้เผยโฉม และกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “นิกายหู้ซานจงได้กลายเป็นรังมารแล้ว พึ่งพาอาศัยคนโหดหลี่ชิเย่ สมควรเข่นฆ่าเสีย มาวันนี้ใต้หล้าต่างสนับสนุนงานใหญ่เช่นนี้ ซึ่งจะต้องถูกบันทึกเอาไว้…”
“เอาล่ะ ไม่ต้องคุยโม้อยู่ตรงนั้นแล้ว” ขณะที่รัชทายาทแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ อีจ้าวเหว่ยพูดยังไม่ทันจบ เสียงที่เอ้อระเหยของหลี่ชิเย่ได้ดังขึ้น และกล่าวว่า “พรุ่งนี้ข้าจะไปที่เมืองจู่เฉิง สังหารสิ้นพวกไร้สมองอย่างพวกเจ้า จะเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลอะไร ผู้ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรอะไรนั่น ล้วนแล้วแต่รีบๆ มากัน ข้าจะได้สังหารพวกเจ้าทั้งหมดในคราเดียว เพื่อไม่ให้ข้าต้องลงมือมาก”
ร้องเอ็ดตะโรท้าทายต่อยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และเฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลาง ท่าทางที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ของหลี่ชิเย่ทำให้ผู้คนจำนวนมากตาค้างพูดอะไรไม่ออกในเวลานี้
“พาลอย่างบ้าระห่ำ คนโหดอันดับหนึ่งไม่เสียทีที่เป็นอันดับหนึ่ง” ยอดฝีมือถึงกับยกนิ้วโป้งให้เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่
“พรุ่งนี้ ณ เมืองจู่เฉิง ไม่ตายไม่เลิกรา!” ในเวลานี้บนท้องฟ้าได้ปรากฏคาถาที่ทิ้งตัวลงมา ขณะที่คาถาดังกล่าวทิ้งตัวลงมาเสมือนดั่งฟ้าร้องระเบิดขึ้นกลางใจของทุกคน นี่เป็นเสียงของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตนั่นเอง
“ตกลง พรุ่งนี้แหละ พวกเจ้าล้างคอให้สะอาด เพื่อสะดวกต่อข้าที่จะตัดหัวพวกเจ้า” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวด้วยท่าทีตามอารมณ์ยิ่ง
ฮึ…ฮึ…บนท้องฟ้าปรากฎเสียงฮึน่าเกรงขามขึ้นสองคำ เสมือนหนึ่งฟ้าผ่าที่ระเบิดขึ้นมา
ย่อมไม่ต้องสงสัย ทั้งสองเสียงเป็นของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และเฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางนั่นเอง จากเสียงที่เปล่งออกมา ทำให้รับรู้ได้ถึงอารมณ์โกรธของพวกเขาได้
“สุดยอดศึกใหญ่แห่งยุคอยู่ที่พรุ่งนี้แล้ว” ในเวลานี้ สร้างความฮือฮาไปทั่วเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขา ข่าวที่สะเทือนเลื่อนลั่นพลันแพร่สะพัดไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร
“ศึกวันพรุ่งนี้ ใครชนะใครแพ้?” ในเวลานี้เอง กระทั่งมีผู้เปิดรับแทงเดิมพันขึ้นมา
“พวกเราพนันว่าแคว้นโบราณยันต์แปดทิศเป็นฝ่ายชนะ” หลังจากเกมพนันได้เปิดขึ้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มั่นใจในแคว้นโบราณยันต์แปดทิศทยอยกันเดิมพันทรัพย์สินข้างฝ่ายแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ
“เป็นความจริงที่แคว้นโบราณยันต์แปดทิศมีโอกาสชนะสูง เทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลสองคน บวกกับจานอมตะสวรรค์ โอกาสที่นิกายหู้ซานจงจะชนะนั้นริบรี่ นิกายหู้ซานจงมีเพียงคนโหดอันดับหนึ่งเพียงคนเดียว นี่มันเสาต้นเดียวหรือจะค้ำยันตึกหลังใหญ่ได้” มีผู้ที่เอ่ยขึ้นด้วยความเสียใจ
…………………………………………………………..