Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2657 ถือโอกาส
ตอนที่ 2657 ถือโอกาส
ตูม ตูม ตูม…เสียงดังตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสาย เหมือนโลกทั้งโลกค่อยๆ ถูกลากขึ้นมาอย่างนั้น ต้นกำเนิดสัจธรรมลอยขึ้นมาช้าๆ ด้วยมือของหลี่ชิเย่
ต้นกำเนิดสัจธรรมคือรากเหง้าของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่ง สร้างขึ้นมาโดยปฐมบรรพบุรุษที่บรรลุสัจธรรม ภายในต้นกำเนิดสัจธรรมหนึ่งๆ นั้น ปฐมบรรพบุรุษได้ฝากสุดยอดอภินิหารสูงสุดเอาไว้ เรียกได้ว่านอกเหนือจากตัวของปฐมบรรพเองแล้ว คนอื่นคิดจะสั่นคลอนต่อต้นกำเนิดสัจธรรม และหรือยกเอาต้นกำเนิดสัจธรรมขึ้นมานั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
จะอย่างไรเสีย หากผู้นั้นสามารถยกเอาต้นกำเนิดสัจธรรมขึ้นมาได้ ทำการสั่นคลอนต่อต้นกำเนิดสัจธรรมทั้งหมดได้ ย่อมบ่งบอกว่าสามารถทำลายล้างระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมได้ ช่างเป็นเรื่องที่สยองขวัญเช่นใด เป็นกำลังความสามารถที่น่ากลัวเพียงใด
แต่ว่า เรื่องทุกเรื่องเมื่อถึงมือของหลี่ชิเย่แล้วไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ภายใต้การดึงและลากของหลี่ชิเย่ ต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นค่อยๆ ลอยขึ้น
สุดท้าย ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น ภายใต้การลากและดึงอย่างช้าๆ ของหลี่ชิเย่ ต้นกำเนิดสัจธรรมทั้งหมดถูกหลี่ชิเย่ยกขึ้นมาจากอ่างหินในที่สุด
หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ยกเอาต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นขึ้นมาได้แล้ว ได้กล่าวเรียบเฉยขึ้นมาว่า “มาจากที่ไหนก็กลับไปที่นั่นก็แล้วกัน นี่ก็ได้เวลาที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นจะได้ตื่นขึ้นมาแล้ว”
กล่าวพลาง หลี่ชิเย่ได้จัดการนำเอาต้นกำเนิดสัจธรรมที่ลากขึ้นมาได้นั้นค่อยๆ ปล่อยลงไปในแม่น้ำลำคลอง จังหวะที่นำเอาต้นกำเนิดสัจธรรมถูกปล่อยลงไปในแม่น้ำลำคลองนั้น ได้ยินเสียงตูมดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ทั่วทั้งโลกภายในสะเทือนหวั่นไหวทีหนึ่ง
ในพริบตาเดียวนั่นเอง เสมือนหนึ่งมีสิ่งของบางอย่างที่มีน้ำหนักหาที่สุดไม่ได้จมและกดทับลงมายังโลกภายในอย่างนั้น
ความจริงแล้ว ชั่วพริบตาเดียวกันกับจังหวะที่ต้นกำเนิดสัจธรรมจมลงสู่แม่น้ำลำคลองนั้น ใช่เพียงเหมือนโลกภายในจมลง แม้แต่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นทั้งหมดก็จมลง ทุกคนต่างได้ยินเสียงที่อึดอัดดังตูมขึ้นมาเสียงหนึ่ง
หากจะกล่าวว่า “ก่อนหน้านั้น ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นเปรียบเสมือนหนึ่งเรือลำหนึ่งที่แล่นอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร เช่นนั้นแล้ว ก่อนหน้านั้นเนื่องจากเรือลำนี้บรรทุกน้ำหนักมาไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงมีความรู้สึกเหมือนเบาหวิวอย่างนั้น ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิลักษณะเช่นนี้ มีความรู้สึกเหมือนหนึ่งว่าพร้อมที่จะพลิกคว่ำอย่างนั้น”
แต่ว่า เมื่อนำต้นกำเนิดสัจธรรมปล่อยลงไปในแม่น้ำลำคลอง ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงเสียงตูมที่หนักอึ้งที่กดทับลงน้ำ ลำเรือเฉกเช่นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นก็คล้ายพลันนำเอาหินลูกหนึ่งที่มีน้ำหนักเพียงพอมาถ่วงเอาไว้อย่างนั้น ทำให้เรือลำนี้สามารถแล่นไปในมหาสมุทรอย่างมั่นคง ต่อให้ต้องพบกับคลื่นลมที่แรงกว่านี้ก็ไม่กลัว
หลังจากที่ต้นกำเนิดสัจธรรมถูกปล่อยลงไปในแม่น้ำลำคลองแล้ว น้ำแก่นสัจธรรมพลันหลอมรวมเข้าไปอยู่ในแม่น้ำลำคลองทันที
เสียงตูม…ดังสนั่น ในพริบตาเดียวนั่นเอง หลังจากที่น้ำแก่นสัจธรรมได้หลอมรวมเข้าไปในแม่น้ำลำคลองแล้ว ได้อาศัยความไวที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมกระจายออกไป มองเห็นบริเวณที่หลี่ชิเย่ ยืนอยู่เป็นศูนย์กลาง ประกายเซียนพลันพุ่งตัวออกไป และกระจายตัวไปยังระบบทางน้ำที่เป็นแม่น้ำลำคลองทั้งหมด กระจายตัวไปทั่วทั้งโลกภายใน
ในขณะเดียวกัน หลักกฎเกณฑ์ทั้งหมดที่อยู่ภายในต้นกำเนิดสัจธรรมพลันแผ่ขยายออกไป ต้นกำเนิดสัจธรรมพลันกลับกลายเป็นขนาดใหญ่โตมโหฬารภายในระยะเวลาอันสั้น หาใช่เป็นลักษณะขณะที่ถูกบรรจุอยู่ในอ่างหินอีกต่อไป
เมื่อหลักกฎเกณฑ์สัจธรรมทั้งหมดได้ทำการแผ่ขยายออกไปแล้ว ต้นกำเนิดสัจธรรมก็พลันขยายใหญ่ขึ้น กลายเป็นวังวนที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร วังวนนี้คล้ายดั่งมีแสงของดวงดาวที่วูบวาบ เหมือนเป็นวังวนขนาดยักษ์ที่มีสุริยันจันทราและดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ในครอบครองอย่างนั้น ท่ามกลางวังวนที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้เหมือนได้บ่มฟักพลังที่ไม่มีสิ้นสุดเอาไว้ บ่มฟักพลังสัจธรรมที่ไม่ขาดสายเอาไว้อย่างนั้น
ตูม ตูม ตูมขณะที่วังวนขนาดยักษ์หมุนเคลื่อนไปนั้น ได้นำเอาน้ำแก่นสัจธรรมกระจายไปยังทุกซอกทุกมุมของโลกภายในอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเอง ทั่วทั้งโลกภายในเปี่ยมด้วยพลังชีวิตไม่มีสิ้นสุดที่น่าเกรงขาม พลันปรากฏพลังสัจธรรมที่ไม่มีสิ้นสุดตลบอบอวล
แม้จะกล่าวว่า ขณะที่ปฐมบรรพบุรุษสร้างระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นนั้น ได้สร้างเป็นโลกภายในและโลกภายนอก แต่เนื้อแท้เป็นเนื้อเดียวกัน ในเวลานี้เอง ขณะที่น้ำแก่นสัจธรรมถูกส่งไปยังทั่วทุกซอกทุกมุมภายในโลกภายในนั้น เท่ากับว่าในพริบตาเดียวกันนี้ น้ำแก่นสัจธรรมทั้งหมดก็ได้ถูกส่งไปยังทุกซอกทุกมุมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น
ตูม ตูม ตูมนาทีนี้เอง ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นปรากฎเสียงตูมตามดังขึ้นมาเป็นระลอก ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นปรากฎแรงสั่นสะเทือนแผ่วเบาถูกถ่ายทอดส่งมาจากใต้พื้นดิน เหมือนใต้พื้นดินได้ส่งพลังที่ไม่มีสิ้นสุดขึ้นมาสู่เหนือพื้นดินอย่างนั้น
ท่ามกลางเสียงสั่นสะเทือนที่ดังตูม ตูม ตูมเป็นระลอกนั้น นาทีนี้มองเห็นประกายที่แผ่ออกมาทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น ประกายแต่ละสายถูกส่งขึ้นมาจากใต้พื้นดินของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น และประกายทุกๆ สายเหมือนได้ท่วมผืนแผ่นดินทุกตารางนิ้วของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นจนเปียกอย่างนั้น
จังหวะที่ประกายแต่ละสายได้แผ่กระจายออกมานั้น ปรากฏเสียงตูมดังขึ้น พลังสัจธรรมที่น่าเกรงขามมากมายมหาศาลได้ถ่ายทอดส่งขึ้นมาจากใต้พื้นดิน พลันกระจายไปยังทุกซอกทุกมุมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น ในขณะนี้ ท่ามกลางพื้นดินที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นไม่เพียงเปี่ยมด้วยพลังชีวิต และพลังสัจธรรมน่าเกรงขามไม่หยุด
“ฟื้นขึ้นมาแล้ว…” นาทีนี้ คนแรกที่มีปฏิกิริยาภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นก็คือหวูโหย่วเจิ้น เขาถึงกับร้องเสียงแหลมขึ้นมา และร้องด้วยเสียงอันดังขึ้นมาว่า “ต้นกำเนิดสัจธรรมของพวกเราฟื้นขึ้นมาแล้ว”
“ต้นกำเนิดสัจธรรม เป็นต้นกำเนิดสัจธรรมของพวกเรา ต้นกำเนิดสัจธรรมของพวกเรา…” ในเวลานี้ ศิษย์ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นมีปฏิกิริยาขึ้นมา พวกเขาต่างทยอยกันร้องเสียงแหลมขึ้นมา ภายในระยะเวลาอันสั้น เสียงร้องที่แหลมดังขึ้นไม่ขาดสาย
“พวกเรารอดแล้ว ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นของพวกเรารอดแล้ว!” ในเวลานี้ ภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นไม่รู้ว่ามีศิษย์ผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่คุกเข่าอยู่กับพื้น ร้องเสียงแหลมขึ้นมาไม่หยุด ในเวลานี้พวกเขาถึงกับน้ำตานองหน้า
แม้จะกล่าวว่า กล่าวสำหรับศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นจำนวนมากแล้ว พวกเขาไม่รู้ว่าได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่ว่า นาทีนี้พวกเขาต่างรับรู้ได้ว่าต้นกำเนิดสัจธรรมของตนยังคงอยู่ รับรู้ถึงพลังสัจธรรมที่น่าเกรงขามที่ถูกส่งไปยังทุกซอกทุกมุมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น
ในเวลานี้มีศิษย์จำนวนมากที่คุกเข่ากับพื้นน้ำตานองหน้า หายใจเอาพลังสัจธรรมที่เข้มข้นอย่างยิ่งเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า หายใจเอาพลังชีวิตที่คึกคักเข้าไป
“คุณชาย…” ในเวลานี้หวูโหย่วเจิ้นพาหลินยี่เสวี่ยคุกเข่าอยู่กับพื้นถึงกับน้ำตานองหน้า พวกเขาได้นำพาศิษย์จำนวนมากล้วนแล้วแต่คุกเข่าอยู่กับพื้น ถึงกับแสดงคารวะสูงสุด โขกศีรษะขึ้น
“คุณชายฝีมือยอดเยี่ยมปราศจากผู้ต่อกร…” ในเวลานี้ พวกของหลินยี่เสวี่ยก็อดที่จะน้ำตานองหน้าเช่นกัน
ศิษย์ที่อยู่สถานที่อื่นในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นอาจจะยังไม่รู้ว่าได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ว่า ในขณะนี้พวกของหวูโหย่วเจิ้นกลับเข้าใจแล้วว่า ต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นฟื้นขึ้นมานั้น เป็นเพราะการลงมือของหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่ไม่เพียงแต่ลงมือช่วยพวกเขาเอาไว้ ช่วยเมืองหมิงลั่วเฉิงเอาไว้เท่านั้น ยิ่งกว่านั้นยังช่วยระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นเอาไว้ แล้วจะไม่ให้พวกหวูโหย่วเจิ้นซาบซึ้งในบุญคุณได้อย่างไรเล่า?
หากในเวลานี้ยืนอยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแล้วมองลงมาที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นจากระยะห่างไกล สามารถมองเห็นประกายที่แผ่กระจายออกมาของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น และกลับกลายเป็นม่านแสงที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของม่านแสงดังกล่าวกลายเป็นว่าเปี่ยมด้วยพลังชีวิต สัจธรรมดั่งคลื่นที่โหมสาดซัด
“ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นรอดแล้ว บางทีอนาคตอาจจะมีโอกาสได้ต้อนรับยุคที่เจริญรุ่งเรือง” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะถึงกับกล่าวทอดถอนใจขึ้นเมื่อมองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า
ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นได้ตกต่ำมานานเท่าใดแล้ว ได้เสื่อมลงมากี่ยุคกี่สมัยมาแล้ว ท่ามกลางกาลเวลาอันยาวนาน ผู้คนบนโลกใบนี้ต่างคิดว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นจะต้องล่มสลายอย่างแน่นอน
ไม่นึกเลยว่า มาวันนี้ต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นได้เปล่งความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทำให้ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นเต็มไปด้วยธาตุแท้ภายในที่ไม่มีสิ้นสุด
คนโหดอันดับหนึ่งลงมือยังจะมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้เล่า? เขาใช่เพียงแค่พยายามเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ดีขึ้นอย่างสุดความสามารถเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นยังเป็นการทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ระดับบรรพบุรุษถึงกับกล่าวด้วยความจนด้วยเกล้า
เจอะเจอกับคนโหดอันดับหนึ่ง ทุกอย่างที่เป็นไปไม่ได้ก็จะกลับกลายเป็นเป็นไปได้ แม้แต่ระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นที่กำลังจะแห้งตายอยู่แล้วก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ด้วยน้ำมือของเขา
ทุกคนทำได้แค่มองดูภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสะเทือนหวั่นไหว ไม่มีใครกล้าคิดวางแผนอะไรอีก และหรือบังเกิดความคิดที่ไม่ดีขึ้นมา
หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ปล่อยต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นลงในแม่น้ำลำคลองแล้วก็ไม่ได้มองดู และให้ความสนใจอีกเลย ในเวลานี้สายตาของเขาไปอยู่ที่อ่างหิน และยื่นมือไปลูบคลำมัน
อ่างหินเมื่ออยู่ในมือแล้วรู้สึกพื้นผิวหยาบมาก กระทั่งเม็ดหินที่อยู่บนพื้นผิวนั้นบาดมือได้ ตัวของอ่างหินโดยรวมเมื่อลูบคลำแล้วรู้สึกได้ถึงความเย็นสายหนึ่ง แต่ ความเย็นดังกล่าวไม่รู้สึกหนาวเย็นและไม่รู้สึกเย็นจนสะท้านเข้ากระดูก เป็นความเย็นที่ทำให้รู้สึกสบายอย่างยิ่ง
หลี่ชิเย่ลูบคลำอ่างหินอย่างแผ่วเบาและหลับตาลง ซาบซึ้งถึงอ่างหินใบนี้ การได้ลูบคลำอ่างหินใบนี้ทำให้รู้สึกถึงความมากมายมหาศาลอย่างหนึ่ง ความกว้างใหญ่ไพศาลอย่างหนึ่ง ความไร้ขอบเขตอย่างหนึ่ง…
ภายใต้ความกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต ไม่ว่าจะเป็นโลกอะไร ท้องฟ้าที่เต็มได้ด้วยดวงดาวเช่นใด ล้วนแล้วแต่ดูจะเล็กจิ๋วอะไรอย่างนั้น
“เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ กำเนิดจากแรกเริ่มก่อตั้ง นับว่าประเมินค่าไม่ได้” สุดท้าย หลี่ชิเย่ได้หดมือกลับมา และกล่าวทอดถอนใจขึ้นมา
ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ได้นำสิ่งของสิ่งหนึ่งออกมา เป็นต้นสามเซียนนั่นเอง เพียงแต่เวลานี้มันเจริญเติบโตอยู่บนดินสีดำ
ดินสีดำนั้นเป็นสิ่งที่หลี่ชิเย่ได้มาจากคุกหลวงดึกดำบรรพ์
ในขณะนี้ หลี่ชิเย่นำต้นไม้พร้อมดินใส่ลงไปในอ่างดิน ว่าไปแล้วก็เรียกว่าเป็นความบังเอิญ ขณะที่ต้นสามเซียนพร้อมดินถูกวางลงไปในอ่างหินนั้น มันวางได้พอดิบพอดีเลย
สิ่งนี้ดูไปแล้วก็เหมือนเป็นบอนไซกระถางหนึ่ง เมื่อถอนเอาต้นขึ้นมาทั้งรากและดิน จากนั้น วางมันกลับไปยังอ่างเหมือนเดิม โดยขั้นตอนทั้งหมดกระทำได้พอดิบพอดี
อ่างหินนี้ก็เช่นกัน เหมือนว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดินสีดำและต้นสามเซียนอย่างนั้น
ความจริงแล้ว ในอดีตที่ยาวนานมากๆ ต้นสามเซียนก็เจริญเติมโตขึ้นที่ดินสีดำ และอยู่ในอ่างหินใบนี้
แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่ต้นสามเซียนและดินสีดำได้ถูกปลูกลงไปในอ่างหินนั้น มองเห็นอ่างหินพลันสว่างไสวขึ้นมาทันที และอ่างหินได้เปลี่ยนไป มันไม่ใช่อ่างหินที่มีสีเทาดำใบนั้นอีกแล้ว นาทีนี้เหมือนว่าอ่างหินกำลังวิวัฒนาการกลายเป็นโลกๆ หนึ่งอย่างนั้น
นี่เป็นโลกที่เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ ต้นสามเซียนกำลังเจริญเติบโตอยู่บนโลกใบนี้ และต้นสามเซียนที่แบกรับแดนสามเซียนเอาไว้
พูดง่ายๆ ก็คือ อ่างหินคือรากเหง้าดั้งเดิมของแดนสามเซียน ขณะที่ดินสีดำก็คือแหล่งต้นกำเนิดของแดนสามเซียน ต้นสามเซียนวิวัฒนาการจนกลายเป็นแดนสามเซียน ทำให้ทั่วทั้งแดนสามเซียนเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ทำให้แดนสามเซียนสรรสร้างฟ้าดินและสรรพสิ่งขึ้นมา
มองดูอ่างหิน ดินสีดำ ต้นสามเซียนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว เหมือนว่าแดนสามเซียนก็อยู่ตรงหน้านี้เอง สามารถได้แดนสามเซียนทั้งหมดมาครอบครองอย่างง่ายดาย
……………………………………………