Emperor of the cosmos - ตอนที่ 669 ทั้ง 2 คน
“ไปกันเถอะ!”
หลัว เฟิง กล่าวเรื่องนี้ออกมาอย่างเร่งด่วน
“ไป?”เจียง หลี่ กล่าวออกมา”ไม่ใช่ว่ามันอยู่ในดินเเดนอมตะหรอกนะ?”
“ธรรมชาติที่จะต้องเป็นดินเเดนวิหารอมตะ ทั้งฉันยังจะพานายไปยังสถานที่เเห่งนึง”หลัว เฟิง กล่าวออกมา เธอเปิดเเผนภูมิของพื้นที่ดินเเดนอมตะที่อยู่ในสถานที่ห่างไกล
“เราจะเริ่มจากสถานที่เเห่งนั้นงั้นหรือ?”เจียง หลี่ จ้องมองไปที่ เเผนภูมิภาพของเธอ
ไม่นานหลักจากนั้นพวกเขาก็เลือกสถานที่เเห่งนั้นเเละได้เดินทางไปอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันสถานที่เเห่งนี้เป็นกาเเลคซีที่แปลกมากทั้งยังมีดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่มีกลิ่นอายโบราณที่ป่าเถื่อน
“นี่คือกาเเลคซีเเห่งธารฟ้า มันเป็นกาเเลคซีที่มีกลิ่นอายป่าเถื่อนทั้งยังเป็นสถานที่ที่ดินเเดนวิหารอมตะให้ความสำคัญสำหรับการทำสงครามของพระเจ้าเป็นอย่างมาก”
หลัว เฟิง กล่าวออกมา
“ดินเเดนเเห่งนี้มีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาสามัญ”เจียง หลี่ สังเกตุเห็น”นอกจากนี้ยังปรากฏกลิ่นอายที่น่ากลัวที่ราวกับจักรวาลมิติที่ 3”
จักรวาลมิติที่ 3 นั้นมีต้นแบบผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเเละมีกลิ่นอายฟ้าดินที่รุนเเรง
อารมณ์ความรู้สึกสำหรับจักรวาลมิติที่ 3 นั้นได้เชื่อมโยงกับต้นแบบผู้เชี่ยวชาญอื่น
“หลังจากที่ขอบเขตพระเจ้าเสียชีวิตลงที่นี่จิตวิญญาณของพวกเขาก็ได้ตกลงสะสมลงในสถานที่เเห่งนี้”หลัว เฟิง กล่าวออกมา”ในปัจจุบัน เป็นที่เเน่นอนว่าภายในวิหารอมตะของเรามีต้นแบบพระเจ้าที่ได้ตกตายภายในสถานที่เเห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน”
“ทันทีที่พระเจ้าตกตายลงร่างกายของพวกเขาก็จะเเปรเปลี่ยนกลายเป็นพลังงานของพื้นที่สวรรค์ของโลกสิ่นะ?”เจียง หลี่ ราวกับเข้าใจจุดนี้
“ดินเเดนวิหารอมตะนั้นมีสถานที่พวกนี้เป็นจำนวนมากทั้งยังมีเอกภพที่เกี่ยวข้องกับยุคบรรพกาลการรับรู้ของเอกภพจิตวิญญารของสถานที่เเห่งนี้นั้นรุนเเรงเป็นอย่างมากเเม้เเต่ขอบเขตพระเจ้าก็ยังสัมผัสได้ถึงความอันตราย”หลัว เฟิง กล่าวออกมา”ครั้งหนึ่งเคยมีศิษย์ของวิหารอมตะที่มาสถานที่เเห่งนี้เขาเพียงอยู่ขอบเขตเซนต์ศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้นเเต่หลังจากที่จิตวิญญาณของเขาหลอมกับพื้นที่เหล่านี้จิตวิญญาณของเขากลับมีพลังรุนเเรงพวยพุ่งออกมาจนเลื่อนเป็นผู้เชี่ยวชาญ 20 ระดับวิถี ซึ่งตอนนี้เเข็งเเกร่งมากกว่า นาย”
“เเข็งเเกร่งขนาดนั้น?”
เจียง หลี่ ครุ่นคิดตาม ครั้งเเรกที่เขาไปเยือนดาวเคราะห์จักรพรรดิ์เเละยังอยู่ในสถาบันเเอสทรัลเขาเองก็ได้รับมรดกจากเจตจำนงค์สวรรค์ของสถานที่เหล่านั้น
“เเน่นอนว่ามีเหล่าศิษย์จำนวนมากได้เดินทางมาที่นี่เพื่อหาโชควาสนาดูสักครา”หลัว เฟิง กล่าวออกมา”ขอบเขตพระเจ้าคือตัวตนที่น่ากลัวทั้งยังเป็นอาวุธหลักในสงคราม,สงครามนั้นไม่เเน่ไม่นอนเสมอไปดังนั้นพวกเขาเหล่านั้นจึงต้องการส่งเสริมการบ่มเพาะพลังของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้นนอกจากนี้สถานที่เเห่งนี้เเท้จริงเเล้วถูกเรียกอีกอย่างว่าหลุมศพของจักรพรรดิ์”
“บนโลกใบนี้มีวีรชนขอบเขตพระเจ้าที่ล่วงลับไปกี่คนเเล้วกันเเน่นอกจากนี้หากนับตามพรสวรรค์ของเธอเเล้วเธอมีโอกาสที่จะได้รับการยอมรับจากสถานที่เเห่งนี้ที่ถูกเรียกว่าหลุมศพของจักรพรรดิ์เช่นนั้นเเล้วทำไมเธอถึงจะต้องให้ฉันช่วยอีก”
“มันไม่เเน่ไม่นอนเสมอไป…บางทีนายอาจจะได้โชควาสนาที่นี่หรือไม่ก็สามารถขโมยโชควาสนาของผู้อื่นก็ได้”หลัว เฟิง กล่าว”บางทีคนอื่นๆอาจกำลังต้องการเเสวงหาโชคลาภทั้งตอนนี้หากมีคู่เเข่งเยอะก็ยิ่งกดดันในหลายปีที่ผ่านมามีบุคคลที่พบเจอโชควาสนาจำนวนมากเช่นเดียวกัน”
คำพูดเหล่านี้ทำให้ เจียง หลี่ ตื่นเต้น
โลกใบนี้ไม่ได้ยกย่องความเเข็งเเกร่ง เเต่มันคือโชควาสนาที่เราจะได้รับ
เเม้เเต่ตัวตนที่ต่ำต้อยก็สามารถเข้ารับโอกาสเหล่านี้ได้
โชคของคนเรานั้นไม่เท่ากันไม่มีใครสามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้
เจียง หลี่ เองก็ไม่สามารถควบคุมโชคชะตาของเขาได้เขาทำได้เพียงเดินตามเส้นทางที่เขาคาดหวังเอาไว้โดยไม่สามารถคาดเดา
ทั้ง 2 คนเหยียบย่างมุ่งเดินหน้าอย่างรวดเร็ว
การเดินทางของ หลัว เฟิง นั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก หาก เจียง หลี่ มีมุกจักรพรรดิ์เป็นธรรมชาติที่เขาจะมีความเร็วมากกว่า หลัว เฟิง เเต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงตามหลังเธอเพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเพราะเขาต้องการสร้างโชคชะตาเเละเส้นทางของตัวเองจึงได้ละทิ้งมุกจักรพรรดิ์ไปเเม้เเต่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้นึกเสียใจเเม้เเต่น้อย
“นายบินช้าเกินไปฉันจะช่วยนายเอง”หลัว เฟิง กล่าวออกมาเธอไม่สามารถทนรอให้ เจียง หลี่ ตามมาอย่างเนิ่นช้าได้ พริบตาเดียวเธอก็ใช้พลังของเธอหนุนหลังของ เจียง หลี่
ในที่สุดพวกเขาทั้ง 2 ก็เข้ามายังเขตที่ถูกเรียกว่า เขต ฮวางซิง เขตเหล่านี้ถูกวางด้วยรูปแบบซ้อนทับจำนวนมาก
เจียง หลี่ ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าภายในจักรวาลมิติธารฟ้าเหล่านี้กลับมีดาวเคราะห์จำนวนมากนี่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลที่เขาไม่รู้จัก
ยิ่งไปกว่านั้นการเดินทางของเขายังพบเจอกับดาวเคราะห์ที่น่าสะพรึงกลัวจำนวนมาก
ปั้ง…
ร่างกายของ เจียง หลี่ ที่บินด้วยความเร็วสูงราวกับได้รับเเรงกดดันทางภาระร่างกายอย่างรุนเเรง
หลัว เฟิง ได้หยุดลง พร้อมกับลืมตัวไปว่าด้วยความเร็วระดับเป็นธรรมชาติที่ร่างกายของ เจียง หลี่ จะไม่สามารถต้านทานได้
ทั้งร่างของ เจียง หลี่ ได้สูบฉีดโลหิตออกมาจำนวนมากเขาค่อยๆรักษาอาการบาดเจ็บของเขา
ความเร็วระดับนี้ไม่ใช่สิ่้งที่ขอบเขตระดับต่ำอย่างเขาจะทนได้หากเป็นคนทั่วไปย่อมทำให้ร่างกายฉีกขาดเเละบุบสลายหายไป
ถ้าหากเป็นความเร็วหลายเเสนล้านปีเเสงเป็นธรรมชาติที่ร่างกายของเขาจะมอดดับลงเเต่ถ้าเป็นพื้นที่ของมุกจักรพรรดิ์เขาย่อมไม่เป็นอะไร
โชคดีที่ เจียง หลี่ มีการบ่มเพาะพลังเเละรากฐานที่มั่นคงทำให้เขาสามารถรักษาบาดเเผลได้อย่างรวดเร็ว
ร่างกายของเขาที่ปรากฏรอยเเยกจำนวนมากเริ่มสนิทลง
ฟุ่บ..
ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ระเบิดเปลวเพลิงจิตวิญญาณจำนวนมากออกมา
มันได้ห่อหุ้มร่างกายของ เจียง หลี่ เอาไว้
เเก่นเเท้พลังของเขาได้หมุนเข้าไปในร่างกายของ เจียง หลี่ เเละ ปลูกฝังลงอย่างรวดเร็วมันได้ฟื้นฟูความเเข็งเเกร่งของเขากลับมาอีกครั้ง
นอกจากนี้ หลัว เฟิง ที่อยู่ข้างๆจ้องมองไปอย่างรวดเร็ว
“ดีดี…”เมื่อเห็น เจียง หลี่ เรียกคืนความเเข็งเเกร่ง หลัว เฟิง หยักหน้าเล็กน้อย”ไม่คิดเลยว่าความเเข็งเเกร่งขั้นต้นของนายจะรุนเเรงถึงเพียงนี้”
“ความเเข็งเเกร่งของฉันทั้งเล็กเเละอ่อนเเอด้วยความเร็วระดับนี้ก็ไม่สามารถทนได้”เจียง หลี่ รู้ว่าตัวเองอ่อนเเอเป็นอย่างมาก
“ที่ฉันพานายมาด้วยที่นี่ก็เพราะหวังจะช่วยส่งเสริมการบ่มเพาะพลังของนายอย่างรวดเร็ว”หลัว เฟิง กล่าวออกมา”หากไม่เกิดอุบัติเหตุฉันเชื่อว่าการบ่มเพาะพลังของนายจะต้องทะยานเพิ่มสูงขึ้นเป็นเเน่”
“เพราะ?”เจียง หลี่ กล่าวออกมา”หรือว่าฉันจะมีโอกาสที่จะดูดซับจิตวิญญาณของพระเจ้าได้?”
“ไม่เเน่ใจ..เเต่เมื่อเร็วๆนี้ความเเข็งเเกร่งของโลกดาวเคราะห์ฟ้านับหมื่นได้ส่งเสริมความเเข็งเเกร่งเป็นอย่างมากทั้งมิติภายในพื้นที่เหล่านี้เองก็ได้รับการส่งผลถึงขั้นที่ว่าเเม้เเต่โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังเองก็ยังมีส่วน,ตอนนี้นายเองก็ได้รับผลส่วนเเบ่งจากสถานะของโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังหากเปิดช่องว่างมิติส่งเสริมได้สำเร็จเเน่นอนว่าการบ่มเพาะพลังของนายย่อมส่งผลเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน”
หลัว เฟิง วิเคราะห์อย่างสมบูรณ์
“เเท้จริงเป็นเช่นนี้?”เจียง หลี่ กล่าวออกมา เขารู้ว่า เจตจำนงค์สวรรค์ได้ฆ่าองค์ชาย ของวิหารอมตะไปทำให้พลังงานจำนวนมากได้ช่วยส่งเสริมตัวโลกเเละตัวของเขาเช่นเดียวกัน
อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ได้เชื่อมต่อกับผลประโยชน์ของโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลัง
หากเขาดำเนินการเสียสละให้กับเจตจำนงค์สวรรค์เขาเองก็ย่อมได้ด้วย
“ที่นี่เเหละ”หลัว เฟิง กล่าวพร้อมชี้ไปที่ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ดาวเคราะห์ดวงนี้ไร้เเสงสว่างเเละจืดจางราวกับพลังงานที่มอดดับ
ดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดที่ใหญ่กว่า 3,000 เท่า ของดวงอาทิตย์ทั้งยังไม่ใช่กลุ่มเเก๊สเเต่เป็นเเก่นเเท้ของดาวเคราะห์ เจียง หลี่ เเละ หลัว เฟิง รับรู้ได้ถึงความหนักหน่วงเเละความอ่อนตัวของดาวเคราะห์นี้ได้เช่นเดียวกัน
ฟุ่บ..
เจียง หลี่ ได้ลงไปยังดาวเคราะห์เเห่งนี้เขาจ้องมองไปที่สถานที่เเห่งนั้นเเละใช้มือสัมผัสลงไป
ด้วยพลังของเขาพื้นหนังกลับไม่ได้การสั่นสะเทือนเเม้เเต่น้อยราวกับว่าความเเข็งเเกร่งของเขาไม่สามารถทำอันตรายชั้นผิวของพื้นเหล่านี้ได้