Emperor of the cosmos - ตอนที่ 667 เปลี่ยนชื่อเป็นโลก
ในขณะนี้โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังได้รับการดำเนินการเสียสละครั้งใหญ่
ทุกคนที่ได้รับการเสียสละได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างมากพวกเขาส่งเสริมขอบเขตการบ่มเพาะพลังอย่างรวดเร็ว
เเม้เเต่เยาวชนสวรรค์เองก็เริ่มมีกลิ่นอายคล้ายคลึงกับพระเจ้า
กลิ่นอายพลังงานลึกลับของจักรวาลได้สั่นคลอนรอบๆพื้นที่เหล่านี้
พลังงานปฐมโกลาหลขนาดใหญ่ได้มาหลอมรวมกัน
การบ่มเพาะพลังของเเต่ละคนเองก็ได้รับการส่งเสริม
พวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากมิติเเห่งไฟรวมถึงพลังงานปฐมโกลาหลที่ช่วยเกื้อหนุนเเละเปลี่ยนเเปลงได้หลายรูปแบบ
“โลกมิติไฟ,โลกมิติเเห่งการริเริ่มเเละการเริ่มต้นของอารยธรรมทุกสรรพสิ่งมันคือโลกเเห่งความจริง”เสียงของเยาวชนสวรรค์ราวกับกัมปนาตที่รุนเเรง
มันส่งเสียงซ้ำเเล้วซ้ำเล่าเต็มไปทั่วพื้นที่
หลายคนผลันเข้าใจสิ่งเหล่านี้
พลังงานสวรรค์มากมายโอบล้อมพื้นที่อย่างรุนเเรง
“ความประสงค์ของข้าภายใต้พื้นที่เหล่านี้ก็คือการควบคุมพลังงานโบราณ”เยาวชนสวรรค์กล่าว
ในเวลานี้เสียงของเยาวชนดังก้องอีกครั้ง
“โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเป็นโลก,
“เปลี่ยนชื่อเป็น โลก”
“เปลี่ยนชื่อเป็น โลก…”
โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังได้สร้างชื่อที่สามารถสานสัมพันธุ์มนุษยชาติออกมาได้
ทันใดนั้นโชคชะตาของโลกก็ส่งเสริมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การเปลี่ยนเเปลงชื่อของโลกนั้นไม่ได้เปลี่ยนเเปลงเพียงเเค่บางส่วนเเต่มันนำมาซึ่งอิทธิพลขนาดใหญ่
โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังเป็นเพียงเเค่ชื่อที่ธรรมดาเพียงเท่านั้นเเต่ชื่อ โลกนั้น ให้วงจรที่ตีเเผ่ขยายออกไปไร้พรมเเดนมันปกคลุมไว้ไม่ว่าจะเป็นกลุ้มก้อนของผู้คนที่มาหลอมรวมกัน
ในโลกอารยธรรมโบราณนั้นโลกนั้นถูก บรรพชน หวาง จ้าว ช่วยเอาไว้ ทั้งๆที่ หวาง จ้าว สามารถกลายเป็นจักรพรรดิ์ของโลกได้เเต่เขากลับไม่คิดจะทำเช่นนั้นเเต่กลับประกาศออกไปว่าเป็นผู้ปกป้องสันติภาพของโลก
บางครั้งความเอาเเน่เอาเเนวของวีรบุรุษเหล่านี้ก็ยากจะหยั่งถึงความคิดของผู้คนนั้นล้วนเเตกต่างกัน
มันคือโชคชะตาเเละวาสนาที่ถูกลิตมา
ตอนนี้โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังได้ฆ่าต้นแบบผู้เชี่ยวชาญของวิหารอมตะหลังจากนั้นก็ดำเนินการสังเวยเพื่อส่งเสริมขอบเขตเจตจำนงค์สวรรค์
ตอนนี้ตรรกะของโลกได้เปลี่ยนไปเเล้วมันคือรูปแบบพลังงานขนาดใหญ่
เพียงเเค่ชื่อก็สามารถสร้างกำลังใจหึกเฮิมได้
นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ในหัวใจมนุษย์ทุกคนนั้นเข้าใจในเเต่ละความหมายที่เเตกต่างกันไปเเล้วเเต่ใครจะเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้น
เผ่าพันธุ์มนุษยชาติได้หลอมรวมกับชนเผ่าพื้นเมืองเเละกลายเป็นอารยธรรมขนาดใหญ่ที่อยู่ร่วมกัน
ตอนนี้ระบบการปกครองได้เข้าสู่ยุคใหม่
ต้นแบบผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้ปรองดองกัน
นี่เป็นสาเหตุทำให้โชคชะตาของโลกได้เเข็งเเกร่งมากขึ้น
ทั้งนี้โลกยังได้ขายทรัพยากรขนาดใหญ่อย่างเรือรบเพื่อเเลกเปลี่ยนทรัพยากรจำนวนมากเหล่านั้นมาเพื่อส่งเสริมโลกให้เเข็งเเกร่งขึ้น
เป็นธรรมชาติว่านี่คือธุรกิจ
มันคือเรื่องที่รัฐบาลเผ่าพันธุ์มนุษยชาตินั้นได้ให้การยอมรับ
ธรรมชาติเผ่าพันธุ์มนุษยชาติในมือของ ซือ หยวน นั้น มั่นคงเป็นอย่างมาก เเม้ว่าหลายปีต่อมาเธอจะลงจากตำเเหน่งเธอก็ยังคงซึ่งอิทธิพลที่รุนเเรง
อำนาจของเธอจะยังไม่หมดไป
ธรรมชาติการส่งเสริมของโลกเองก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาหลายปีนับประสาอะไรกับตำเเหน่งประธานาธิบดีที่ต้องได้รับการส่งเสริมเเละโยกย้ายปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ประธานาธิบดีนั้นหากมีกิจสำคัญสามารถดำเนินตำเเหน่งควบ 2 ครั้งได้ทั้งยังไม่ต้องรอให้วิกฤษของมนุษยชาติเกิดขึ้นอีกครั้ง
ปัจจุบันปีนี้รัฐบาลการส่งเสริมโลกเเห่งนี้มีเสถียรภาพที่ดี
ดังนั้นภายใต้การปกครองของ ซือ หยวน โลกได้เข้าสู่สภาวะการส่งเสริมอย่างรุนเเรงพร้อมกับนำมาซึ่งโชคชะตาขนาดใหญ่
สำหรับ เจียง หลี่ เเล้ว ตำเเหน่งประธานาธิบดีสำหรับเขาก็เป็นเพียงตัวที่คอยบดบังโชคชะตาของเขาในอนาคต
เขาจำเป็นจะต้องเพิ่มโชคชะตาของเขาในการฝ่าวิกฤติเหล่านี้
หลายวันก่อนหน้านี้จำนวนเงินออมของเขาได้เพิ่มมากขึ้น
เจียง หลี่ ได้บ่มเพาะพลังอยู่ในดินเเดนวิหารอมตะอย่างต่อเนื่องพร้อมกับการได้รับการส่งเสริมจากเจตจำนงค์สวรรค์โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลัง
เป็นธรรมชาติที่เขาจะรับรู้ถึงมันได้
ตอนนี้โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังได้พัฒนาเเน่นอนว่ามันได้ส่งผลต่อร่างกายของ เจียง หลี่ ด้วย
อันที่จริงตอนนี้รูปแบบไร้ขอบเขตของเขาเองก็พัฒนาเช่นเดียวกัน
นอกจากการบ่มเพาะพลังของเขาเเล้วความเข้าใจด้านเเก่นวิถีของโลกดาวเคราะห์ฟ้านับหมื่นก็เพิ่มมากขึ้น
รูปแบบโชคชะตาของเขามันเริ่มส่งเสริมมากพอจะทำให้เขาสร้างเส้นทางเเห่งราชันย์รูปแบบขึ้นมา
ตอนนี้กองกำลังพิเศษ เจียง หลี่ ได้นั่งอยู่ในถ้ำอมตะของตัวเอง
เขาพยายามจะสร้างกฏธรรมชาติที่ 10 ที่มีการริเริ่มจากเปลวเพลิงจิตวิญญาณเขาค่อยๆสำรวจพร้อมกับหาเส้นทางที่เขาจะต้องเลือกเดิน
“ในโลกนี้บั้นปลายชีวิตไม่ใช่ที่สิ้นสุดโชคชะตานั้นสามารถนำพาให้ก้าวเดินไปได้เสมอฉันจะต้องหากฏธรรมชาติที่เข้ากับรูปแบบไร้ขอบเขตของฉัน”เจียง หลี่ ครุ่นคิดอย่างลำบาก
เขาต้องการเรียนรู้การบ่มเพาะพลังให้ลึกซึ้งกว่านี้
“9กฏธรรมชาติ,หรืออาจเรียกได้ว่ารูปแบบทั้ง 9 การพัฒนาขอบเขตของมันนั้นยากเป็นอย่างมากยิ่งไปกว่านั้นฉันจำเป็นจะต้องส่งเสริม 9 กฏธรรมชาติเหล่านี้ด้วยเช่นเดียวกันเพราะมันคือขอบเขตที่ไร้ขีดจำกัด”เจียง หลี่ กล่าวออกมา
“กฏธรรมชาติที่ 10 ของฉัน คือข้อจำกัดในตอนนี้ ฉันจะต้องพัฒนาขอบเขตที่ไม่มีสิ้นสุดของฉันให้เข้าสู่ขั้นที่เรียกว่าการบดทำลาย เป้าหมายก็คืออำนาจพลังอันไร้ขอบเขต”
เจียง หลี่ พึมพัม
“9 อย่าง,9กฏธรรมชาติ กฏธรรมชาติเเห่งการเกิดใหม่เเต่ไม่ใช่การเกิดใหม่เเห่งนิจนิรันดร์,มันคือข้อจำกัดซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้เองก็เเบ่งออกเป็นหลายระดับเช่นเดียวกัน”