Emperor of the cosmos - ตอนที่ 661 คุกเเห่งการจราจล
ในระหว่างการสนทนา เจียง หลี่ ได้รับความเชื่อมั่นที่ว่า บรรพชน บ๋า หลี่หมิง ถูกคุมขังใน คุกเเห่งการจลาจล โดยมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตพระเจ้าเป็นคนเฝ้าเป็นธรรมชาติที่หากเขาจะช่วยเหลือย่อมเป็นไปได้ยาก
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ของโลกวิหารอมตะกับโลกอมตะนั้นก็ไม่ได้มีรูปธรรมมากนักอาจเข้าขั้นได้ว่าเลวร้าย
การต่อสู้นั้นอาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ยิ่งเกิดการต่อสู้ก็ยิ่งนำพาสู่ความสูญเสียจำนวนมาก
หลัว เฟิง องค์หญิงของโลกอมตะด้วยสถานะของเธอเเน่นอนว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับโลกอมตะเป็นอย่างมากเธอเองก็ไม่หวังจะให้สงครามเกิดขึ้นกับโลกอมตะของเธอเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญจากโลกอมตะก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ค่ายอมตะนั้นเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ค่อยพึงพอใจตัวตนเหล่านั้นสักเท่าไหร่
ธรรมชาติโลกอมตะเป็นโลกที่ทรงพลังโลกนึงพวกเขามีการดำรงอยู่มาอย่างนาวนาน
นอกจากนี้ยังมีประชากรจำนวนมากที่เเข็งเเกร่งที่คอยรักษาสมดุลอำนาจเอาไว้
“เเม้ว่าฉันจะอยากพานายไปหาพระเจ้าของเราก็ตามเเต่เขาได้ติดภารกิจเฝ้าคุกคุมขังเอาไว้ดังนั้นฉันจะพาไปหาบุตรชายของเขาเเทนเขามีนามว่า เฟิง ซินจาง ความเเข็งเเกร่งของเขานั้นถือว่ารุนเเรงเป็นอย่างมาก”หลัว เฟิง กล่าวออกมา
“เขาเเข็งเเกร่งขนาดนั้น?”เจียง หลี่ ราวกับกำลังได้รับรู้ถึงตัวตนที่รุนเเรงของโลกอมตะอีกครั้ง”เขากับองค์ชายของวิหารอมตะใครเเข็งเเกร่งกว่ากัน?”
“ธรรมชาติย่อมเป็นเขาที่เเข็งเเกร่งกว่าองค์ชายที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ 49 ระดับวิถี”หลัว เฟิง กล่าวออกมา”ความเเข็งเเกร่งของ เฟิง ซินจาง นั้นเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญ 100 ระดับวิถี ยิ่งไปกว่านั้นเขากำลังจะฝึกฝนประกายศักดิ์สิทธิ์พระเจ้า”
“ต้นแบบผู้เชี่ยวชาญ 100 ระดับวิถี?”เจียง หลี่ เเทบจะบ้าคลั่ง นอกจจากนั้นยังเป็นผู้เชี่ยวชาญประกายศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าเป็นธรรมชาติที่ว่าชายคนนี้ย่อมเเข็งเเกร่ง
ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญ 100 ระดับวิถี นั้นเเข็งเเกร่งเพียงไหน เขาย่อมอยากรู้อยากเห็นยิ่งฝึกฝนประกายศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าด้วยเเล้ว
เมื่อเปิดใช้ประกายศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าย่อมมีความเเข็งเเกร่งที่เพิ่มมากขึ้น
“เดิมคุณในตอนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว ฮัว ฉันเชื่อว่า ราชันย์ เฟิง ซินจาง นั้นจะต้องชื่นชอบคุณเป็นเเน่”หลัว เฟิง กล่าวออกมา
เจียง หลี่ เองก็ต้องการสานสัมพันธ์ที่ดีกับ เฟิง ซินจาง ธรรมชาตินั่นก้เพื่อช่วยเหลือบรรพชน บ๋า หลี่หมิง ให้กลับสู่อารยธรรมมนุษยชาติ
“เชื่อมต่อระบบการใช้งาน…”หลัว เฟิง กล่าวออกมา
ในขณะที่เธอเชื่อมต่อนั้นเธอได้ระบุพิกัดสถานที่ไปด้วยเเน่นอนว่าสถานที่บางเเห่งไม่สามารถค้นหาได้เพราะว่าเป็นสถานที่ลับ
ยกตัวอย่างเช่น เรือนจำเเห่งการจลาจล
นี่เป็นข้อมูลลับสุดยอดที่หากใครบางคนเปิดเผยออกมาก็ย่อมสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ได้
อย่างไรก้ตามไม่มีใครสามารถทำเช่นนั้นได้เพราะว่าระบบได้เข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นเเละดำเนินการปกปิดทันที
นอกจากนี้หากใครกล้ารายงานข่าวเหล่านี้เกรงว่าจะต้องได้รับการลงโทษจากระบบอย่างเเน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการหักเหรียญปฐมโกลาหลหรือเเต้มบุญ
“การประสานได้เริ่มต้นเเล้ว!”
เจียง หลี่ ได้ติดตาม หลัว เฟิง มาเขาได้เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย
นอกจากนี้เขายังเห็นตัวตนของ ราชันย์ เฟิง ซินจาง
การบ่มเพาะพลังของ ราชันย์ เฟิง ซินจาง นั้นรุนเเรงมากอาจเรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตขนาดใหญ่
นอกจากนี้เขายังมีโชคชะตาที่รุนเเรง
หลายคนนั้นย่อมมีโชคชะตาเป็นของตัวเอง
ในอารยธรรมจีนทั่วโลกสมัยจักรพรรดิ์้้เเต่เดิมอำนาจของ จักรพรรดิ์นั้นได้กำหนดโชคชะตาของผู้คน
เเต่เเล้วยุคเหล่านั้นก็ได้เปลี่ยนเเปลงไปยุคเเห่งการกดขี่ทางอำนาจได้หมดไปเเล้ว
ราชันย์ เฟิง ซินจาง นั้นไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นเเต่กลับปลดปล่อยกลิ่นอายที่รุนเเรงออกมา
มันคือกลิ่นอายพลังที่รุนเเรงเหมือนกับตอนที่เขาเผชิญหน้ากับขุมพลังระดับพระเจ้าครั้งเเรก
เเน่นอนว่าความเเข็งเเกร่งของ ราชันย์ เฟิง ซินจาง ย่อมไม่สามารถเทียบได้กับพระเจ้าเเห่งเพลิง เเต่พระเจ้าเเห่งเพลิงได้ยับยั้งกลิ่นอายของเขาไม่อย่างนั้นผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมฟังบรรยายในสถานที่เเห่งนั้นคงถูกสังหารเรียบ
เเต่ตอนนี้ ราชันย์ เฟิง ซินจาง ไม่ได้ยับยั้งเเรงกดดันของเขาเเม้เเต่น้อย
ทันทีที่ เขาเห็น เจียง หลี่ เขาก็เผยเเรงกดดันที่รุนเเรงออกมา
นอกจากนี้ตัวตนของ ราชันย์ เฟิง ซินจาง นั้นจากน้ำเสียงของเขายังเยาว์อย่างมากเงาร่างที่ปรากฏออกมาของเขาเหมือนกับตัวตนของมนุษยชาติที่มีร่างกายที่เหมือนเผ่าพันธุ์มนุษย์
ชายคนนี้คือผู้ที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางเเห่งการบ่มเพาะพลังที่เเท้จริง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ ราชันย์ เฟิง ซินจาง เห็น หลัว เฟิง เขาก็เปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว
“องค์หญิง หลัว เฟิง ไม่คาดคิดว่าเธอจะจากโลกอมตะมายังดินเเดนวิหารอมตะเช่นเดียวกัน”เงาร่างของเยาวชนชายคนนี้กล่าวออกมาอย่างสง่างาม”ฉันคือ ราชันย์ เฟิง ซินจาง จุดประสงค์ที่องค์หญิง หลัว เฟิง มาเกรงว่าจะต้องมีเรื่องที่จะพูดคุยกับฉันอย่างเเน่นอนนอกจากนี้ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าองค์หญิงของสายเลือดจักรพรรดิ์นั้นจะเดินทางมาที่นี่?”
“นี่เป็นพระประสงค์ของนิกายของฉัน,นอกจากนี้ตระกูล หลัว ของเรา เองก็มีหน้าที่สำคัญที่จะต้องทำให้สำเร็จ ตอนนี้ฉันเดินทางมาหานายเเละเพิ่งเข้ามาที่ดินเเดนวิหารอมตะเเห่งนี้ได้ไม่นานหวังว่านายจะสามารถต้อนรับฉันด้วยตัวเองไม่ใช่เงาร่างตัวเเทนเช่นนี้”หลัว เฟิง กล่าวออกมา
“เป็นธรรมชาติที่เป็นเช่นนั้น ฉันจะปล่อยให้องค์หญิงที่มีสายเลือดจักรพรรดิ์ไหลเวียนอยู่ต้องรู้สึกลำบากใจได้อย่างไรนอกจากนี้นี่เป็นการพบกันครั้งเเรกของเราที่วิหารอมตะอิทธิพลของทางนิกายนั้นได้เพิ่มขึ้นสูงมากเนื่องจาก พระเจ้าเเห่งการสร้างได้เป็นผู้คุมคุกเเห่งการจราจลหลายปีมานี้พวกเราได้รับการส่งเสริมความเเข็งเเกร่งเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้ ด้วยความเเข็งเเกร่งของเธอฉันเชื่อว่าจะต้องทะยานไปสู่จุดสูงสุดอย่างเเน่นอน”เฟิง ซินจาง กล่าวออกมา
เขากล่าวโดยไม่สนใจ เจียง หลี่ เเม้เเต่น้อย
“นี่เป็นสหายของฉัน,เขาชื่อว่า เยว่ ฟาง เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูล ฮัว ฉันพาเขามาที่นี่เพื่อพบ ศิษย์พี่ ซินจาง”หลัว เฟิง กล่าวออกมา
“จริงงั้นรึ?”เฟิง ซินจาง จ้องมองไปที่ เจียง หลี่”นับตั้งเเต่ที่เจ้าเป็นสหายร่วมกับ องค์หญิง หลัว เฟิง เป็นธรรมชาติที่ฉันจะต้อนรับ”
“อืม…”หลัว เฟิง กล่าวพยักหน้า”ฉันมีเรื่องที่จะปรึกษาศิษย์พี่อาวุโส ซินจาง หวังว่า ศิษย์พี่จะช่วยเหลือฉันได้”
คำพูดของเธอเเสดงให้เห็นถึงความเเน่วเเน่
นอกจากนี้มันทำให้ ราชันย์ เฟิง ซินจาง ขมวดคิ้วทันที