Emperor of the cosmos - ตอนที่ 642 กองฝึกอบรบพิเศษ
เจียง หลี่ เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน หวาง จ้าว ที่ปรากฏตัวขึ้นนั้นเเม้ว่าเขาจะปรากฏตัวเเต่เขาก็ไม่ได้ช่วยส่งเสริมโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังเเต่เพียงเเค่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆนั้นรับรู้ตัวตนของเขาได้ในโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังชั่วขณะดังนั้นมันสามารถยับยั้งต้นแบบผู้เชี่ยวชาญได้ในชั่วคราว
การมาถึงของ หวาง จ้าว จะช่วยต่อเวลาให้มนุษยชาติส่งเสริมการบ่มเพาะพลังมากขึ้น
เเต่ เจียง หลี่ กลับไม่คิดเช่นนั้น โลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังนั้นหากได้รับการส่งเสริมก็จะเเข็งเเกร่งขึ้นไม่นานก็จะส่งเสริมเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทของ เจียง หลี่ ที่เขาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด บริษัทเหล่านี้ได้เข้าร่วมตลาดการค้า เป็นธรรมชาติที่ เจียง หลี่ จะค้าขายได้เร็ว
นอกจากนี้ปัจจุบันเเผนของเขาก็คือการช่วยเหลือโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลัง
“ในตอนนี้องค์ชายไม่มีทางที่จะมีชัยเหนือไปกว่าโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังดินเเดนอมตะนั้นได้สะสมวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีจำนวนมากเอาไว้นั่นคือข้อได้เปรียบของเรา”เยว่ ซู กล่าว”เทคนิคการถ่ายทอดจักรวาลนั้นได้ใช้อยู่ในจักรวาลมิติที่ 3 อาณาเขตดาวเคราะห์อมตะของเราเป็นดาวฤกษ์ที่ตั้งอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจักรวาลเเละยังมีต้นแบบผู้เชี่ยวชาญจากมิติที่ 3 ได้ลงนามสัญญาจำนวนมากหากดำเนินการเปิดส่งเเรงผลักดันจำนวนมากเจ้าสามารถพุ่งจรงไปยังดินเเดนอมตะได้,นอกจากนี้ดินเเดนอมตะของเรายังต้องการความสามารถจำนวนมากจากผู้เชี่ยวชาญที่มากพรสวรรค์เจ้าเองต้องเข้าใจจุดนี้”
เจียง หลี่ รู้ว่า องค์ชายได้ดำเนินการทดสอบหลายครั้งกว่าจะรับเป็นศิษย์นั่นก็เพราะพวกเขาต้องการบุคคลมีพรสวรรค์
นอกจากนี้ยังต้องการบุคคลที่มีพรสวรรค์เหนือพรสวรรค์อีกด้วย
ใครเล่าจะไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเร็วๆนี้องค์ชายได้คัดเลือกศิษย์ที่น่าเกรงขามมากมาย
เหล่าศิษย์เหล่านี้คือศิษย์ที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก
เจียง หลี่ เข้าใจว่า เยว่ ซู ต้องการใช้โควต้าของตัวเองเพื่อให้เขาเข้าร่วมการฝึกอมรบพิเศษ
ทั้งยังเป็นสถานที่ดินเเดนอมตะมันคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก
“ตอนนี้เจ้าจำเป็นจะต้องเตรียมตัว”เยว่ ซู กล่าว”ในชิพเอไอของเจ้ามีวัสดุต่างๆของการฝึกพิเศษใส่เอาไว้ข้าจะไม่ได้เป็นคนส่งมอบให้เจ้าดังนั้นเจ้าจำเป็นจะต้องจัดการเองตราบเท่าที่เจ้าผ่านการทดสอบความสามารถจะมีคนเข้ามาดูเเลเจ้า”
“เข้าใจเเล้ว”
เจียง หลี่ เห็นในชิพเอไอของเขามีอีเมลหัวข้อการฝึกพิเศษหากมีความต้องการให้ไปที่สถานทีส่วนลึกของคลัง
ร่างกายของเขาหายไปพร้อมกับกลุ่มเรือรบเพราะเขามีสถานะดังนั้นกลุ่มเรือรบจึงไม่ได้โจมตีเขา
เเม้ว่ามนุษยชาติจะได้รับ เรือรบวิหารอมตะไป เเต่ด้วยเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ระดับสูงในตอนนี้ยังไม่สามารถเทียบกับกองยานเหล่านี้ได้
เรือรบเเต่ลคนนั้นเเข็งเเกร่งกว่ามากเห็นได้ชัดว่ามันถูกปรับเเต่งเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะเรือรบของ องค์ชาย ตอนนี้องค์ชายเป็นต้นแบบผู้เชี่ยวชาญ 49 ระดับวิถี ทั้งยังไม่ได้ฝึกฝนประกายศักดิ์สิทธิ์เป็นธรรมชาติที่เขาเเม้จะเเข็งเเกร่งเเต่ก็ยังไม่รุนเเรง
ตอนนี้วิทยาการจำนวนมากของเรือรบวิหารอมตะนั้นรุนเเรงมาก
จนถึงปัจจุบันวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีได้ก้าวกระโดดเเละเเทบจะปกครองทั่วทั้งจักรวาล
“เรือรบวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของมนุษยชาตินั้นเเม้ว่าจะมีน้อยเเต่ก็ขึ้นชื่อว่าอยู่บนจุดระดับสูงเเต่หากเทียบกับวิหารอมตะนั้นล้วนไม่มีอะไรให้ต้องเชยชม”เจียง หลี่ กล่าวออกมา”หลังจากที่ฉันเข้าสู่ดินเเดนอมตะ ฉันจะต้องขโมยเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์เหล่านี้มาเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ”
กลุ่มเรือบรบเหล่านี้ได้เริ่มเดินทาง เจียง หลี่ เฝ้ามองการเปลี่ยนเเปลง
ไม่นานเขาได้มาถึงคลังของเรือรบเเละปรากฏผู้คนจำนวนมาก
ต้นแบบเหล่านี้ได้สวมใส่เสื้อศิษย์ของวิหารอมตะนั้นส่วนใหญ่มีฐานเจดีย์ถึง 2 ฐาน
สถานะนี้คือสถานะระดับต่ำ
ซึ่ง เจียง หลี่ เองก็มีฐานเจดีย์ 2 ฐาน
“ต้นแบบผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้อยู่ในดินเเดนการบ่มเพาะพลังที่ต่ำมากเเต่เปลวเพลิงจิตวิญญาณเหล่านั้นกลับรุนเเรง…ใครกันผู้หญิงคนนั้น”เจียง หลี่ จ้องมองไปที่ หญิงสาวคนหนึ่งเเละพบว่าความเเข็งเเกร่งของเธอนั้นรุนเเรงมาก เธอไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ 3 ระดับวิถี เเต่ความเข้มข้นทางจิตวิญญาณของเธอนั้นสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญ 7-8 หรือมากกว่า 10 ระดับวิถีได้”
เเน่นอนว่ายังปรากฏผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆอีก
เจียง หลี่ ได้จ้องไปที่ หญิงสาวคนนั้น
เขาค่อนข้างคุ้นเคย
เพราะหญิงสาวคนนี้คือ เจียง ซินเยว่
เจียง ซินเยว่ ได้เข้าสู่ดินเเดนอมตะ เเน่นอนว่าเธอเป็นหมากของ เจียง หน่าหลาน เจียง หน่าหลาน ได้เปลี่ยนตัวเองเป็นศิษย์ของวิหารอมตะทั้งเขายังได้เข้าร่วมกับโลกเเห่งสงครามความเเข็งเเกร่งของเขานั้นได้รับการเติมเต็ม
เเต่ เจียง ซินเยว่ นั้นเเตกต่างกัน เธอค่อนข้างมากพรสวรรค์
เจียง หลี่ รับรู้ได้ถึงตัวตนของ เจียง ซินเยว่ เเต่ เจียง ซินเยว่ เเน่นอนว่าไม่สามารถรับรู้ถึงเขาได้การเปลี่ยนเเปลงในปัจจุบันของ เจียง หลี่ เกิดขึ้นจากการกลั่นตัวของกฏธรรมชาติที่ 8 ปริศนามันทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้
ทุกครั้งที่ เจียง หลี่ ฝึกฝนเขาจะเข้าใจเเก่นเเท้ของการบ่มเพาะะพลังมากขึ้น
ตอนนี้คนนับร้อยนับพันได้มารวมตัวกันในสถานที่เหล่านี้
ทั้งยังปรากฏผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก
เจียง หลี่ ได้หามุมยืนของเขาเเละไม่ได้พยายามติดต่อกับใครอื่น
ต้นแบบผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ส่วนมากเป็นผู้เชี่ยวชาญ 3-4 ระดับวิถี
ตอนนี้ความเข้มข้นทางจิตวิญญาณได้ปรากฏขึ้นมันคือการบ่มเพาะพลังขององค์ชาย พลัง 49 ระดับวิถี
ความเเข็งเเกร่งของผู้เชี่ยวชาญ 3 ระดับวิถีเเน่นอนว่าไม่สามารถต่อต้าน 49 ระดับวิถีได้
เจียง หลี่ นั้นได้ฝึกฝน รูปแบบไร้ขอบเขต เเม้จะช่วยเขาส่งเสริมมากขึ้นเเต่ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับองค์ชาย
“พวกเจ้าคือบุคคลที่จะเข้าร่วมการฝึกอบรมพิเศษตอนนี้ข้าจะใช้เทคนิคพิเศษส่งพวกเจ้าไปยังดินเเดนอมตะเจ้าจะต้องเตรียมพร้อมเเละเผชิญหน้ากับความท้าทาย”ทันใดนั้นความผันผวนทางจิตวิญญาณของเขาก็ปลดปล่อยออกมา
ปั้ง…
“ดูเหมือนว่าจักรวาลมิติของดินเเดนอมตะนั้นจะรุนเเรงมาก”
เจียง หลี่ กล่าวออกมา เเน่นอนว่าเขาสามารถสื่อสารกับ เจตจำนงค์สวรรค์โลกอมตะได้
ตอนนี้ต้นแบบผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ถูกดูดเข้าไป
ทุกคนในคลังสินค้านี้เหมือนกับกำลังพังทลายลงร่างของทุกคนได้หายไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ เจียง หลี่ ได้รับรู้ตัวเองว่าหายไปจากอาณาเขตของโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลัง
เขารับรู้ว่าสถานที่เเห่งนี้อยู่ห่างไกลหลายพันล้านปีเเสง
ตอนนี้จิตวิญญาณขององค์ชายได้หยุดลง
การส่งผ่านได้เสร็จสิ้น
พริบตาเดียวปรากฏรูปลักษณ์คล้ายโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลังมันคือครึ่งขนาดของรูปลักษณ์ดาวเคราะห์ที่ส่องสว่าง
เจียง หลี่ ใช้วิสัยทัศน์ของเขามองไปที่ดาวเคราะห์ดวงนี้
เเต่มิติจักรวาลเหล่านี้กลับมีขนาดใหญ่กว่าโลกอารยธรรมเเห่งการบ่มเพาะพลัง
ทั้งยังปรากฏโลกครึ่งขนานในกาเเลคซีนี้อีกจำนวนมาก
หนึ่งในนั้นปรากฏโลกดาวเคราะห์ที่มีอาณาเขตรูปวิหาร
มันคือดินเเดนอมตะหรือที่เรียกว่าวิหารอมตะทั้งยังเป็นโลกครึ่งมิติ