Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล - ตอนที่ 83 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ (3)
บทที่ 83 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ (3)
“ข้าคือบารอนอารอนเดบาโซ ข้าได้มาตามค่ารับสังจากท่านมาร์ควิสเมเยอร์ส”
เมื่อลุคเข้ามาในห้องล็อบบี้ชายวัยกลางคนลุกก็ได้ลุกขึ้นจากที่นั่งและโค้งคํานับ
“ผู้ใต้บังคับบัญชาของเมเยอร์ส?”
ลุคไม่ได้พูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา แต่ลุคนั้นมีความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เกี่ยวกับอารอน
เรย์น่าซึ่งเคยพยายามช่วยชีวิตผู้ลี้ภัยในอดีต ก็ต้องเป็นลมเพราะความเหนื่อยล้าตรงหน้าคฤหาสน์ของมาร์ควิสเมเยอร์ส
แม้มันจะเป็นเพราะตําแหน่งทางการเมืองที่เขาดํารงอยู่และเป็นเรื่องที่เข้าใจได้แต่อย่างไรก็ตาม ลุคก็ไม่ชอบวิธีที่เขาปฏิบัติกับผู้หญิงที่ไร้อํานาจ
“เจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”
“ก่อนอื่น ข้าต้องขอแสดงความยินดีกับชัยชนะของท่านในดินแดนนี้เคานต์โมนาร์ชนั้นเคยเป็นหนึ่งในบรรดาขุนนางของจักรวรรดิที่ถูกรังเกียจ”
“อืม…”
“ด้วยเหตุนั้น เราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ลอร์ดหนุ่มผู้เป็นทายาทที่ยิ่งใหญ่ของนักรบรากันต์เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ”
“เป็นค่าทักทายที่ล่าช้า”
มันเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่สิ้นสุดการต่อสู้กับเคานต์โมนาร์ช
ลอร์ดทุกคนต่างก็ส่งค่าทักทายอย่างรวดเร็วหลังจากเหตุการณ์นั้น แต่คนเหล่านี้กลับเพิ่งมาส่งมันในตอนนี้
แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในสามของขุนนางที่สําคัญแต่พฤติกรรมดังกล่าวก็ไม่สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นอย่างอื่นนอกจากความหยิ่งผยองที่บริสุทธิ์
มันเป็นการกระทําที่เปิดเผยเขี้ยวของพวกเขา
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการแสดงความยินดีจากท่านมาร์ควิส”
“ ใช่แล้ว และนายท่านของเราก็ได้รับสั่งให้เรารีบนาข้อความนี้มาส่งมอบให้กับท่าน”
“ข้อความอะไร
ลุคสามารถเดาได้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะเงียบราวกับว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไร
และอารอนที่กาลังคิดว่า แน่นอนว่ามันไม่มีทางคาดเดาถึงเรื่องนี้ได้หรอกก็กล่าว
“เราคิดว่าทางจักรพรรดิ์อาจจะส่งจดหมายแสดงความยินดีกับท่านลอร์ดหนุ่ม
“แล้วยังไงต่อ”
ดูเหมือนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับสํานักจักรพรรดิและสงครามที่ผ่านมา
เป็นไปตามที่คาดคิด เมื่อฟังสิ่งที่อารอนพุด จักรพรรดิรูดอล์ฟก็เริ่มจะดูเหมือนคนที่ชั่วร้าย
การที่จักรพรรดิ์ส่งจดหมายแสดงความยินดีมานั้นอาจเป็นเพราะหลักประกันที่พวกเขาถือไว้สมาชิกในครอบครัวและพวกเขาก็พึ่งจะสูญเสียเชื้อสายของเขาไป
“เขาอยากคุยเรื่องอื่นแน่นอน”
ลคเพียงแค่ฟังสิ่งที่เขาพูดอย่างเงียบ และแอรอนก็ยังคงส่งมอบข้อมูลที่เขามีต่อไป
“ขุนนางของเราพบว่าจดหมายซึ่งจะส่งถึงลอร์ดหนุ่มนั้นจะเป็นหนังสือที่มอบตาแห่งลอร์ดที่แท้จริงใหกับท่าน อย่างไรก็ตามยังมีอีกค่าสั่งหนึ่งที่เขาจะซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งหากลอร์ดหนุ่มจะรับหน้าที่ในกองทัพเพื่อพิสูจน์ความสามารถของท่านในกอง ทัพจักรวรรดิ”
“นั่นนั่น!”
ฮานส์ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังลุคไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เป็นเรื่องน่ายินดีที่ลอร์ดหนุ่มกําลังจะได้รับบรรดาศักดิ์เป็น “ลอร์ด” แต่ส่วนอื่นๆของจดหมายนั้นค่อนข้างน่าลําบากใจ
การเข้าสู่กองทัพจักรวรรดิหมายถึงการรับราชการทหาร
ขุนนางหนุ่มจะต้องถูกเกณฑ์ทหารจึงจะถือว่าเขาได้ปฏิบัติหน้าที่ได้สําเร็จและถือเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลอย่างไรก็ตามนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้สําหรับตระกู ลรากันต์ในตอนนี้
มันไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ที่พวกเขามีกับราชวงศ์
แต่มันเป็นเพราะลุคนั้นเป็นทายาทคนเดียวของสายเลือดรากันย์ที่ยังหลงเหลืออยู่
นอกจากนี้เขาก็ยังไม่ได้แต่งงานจึงไม่สามารถสืบทอดตําแหน่งของเขาได้เนื่องจากลุคไม่มีลูกหลาน
และการขอให้ลุคเข้ารับราชการทหารนั้นก็ดูเป็นอะไรที่มีเจตนาแอบแฝงแน่นอน
ในขณะนี้ จักรวรรดิบาล็อคมักจะมีข้อพิพาทด้านพรมแดนกับสาธารณรัฐโวลก้าหรือจักรวรรดิอาเธเนียอันศักดิ์สิทธิ์อยู่บ่อยครั้ง
และในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งนี้เอง มันจึงทําให้คนปกติตลอดจนขุนนางมักจะตายในสนามรบที่นั่น
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือพวกเขาตั้งใจที่จะทําลายทายาทเพียงคนเดียวของรากันต์ที่เหลืออยู่
“จดหมายกล่าวว่าทูตของจักรพรรดิจะเดินทางมามอบใหโดยตรง และมันก็สายเกินไปแล้วที่จะหยุดพวกเขาเนื่องจากพวกเขาน่าจะมาได้ครึ่งทางแล้วและพวกเขาก็น่าจะมาถึงที่นี่ภายในสัปดาห์หน้า”
ฮานส์อดไม่ได้ที่จะกํามือแน่นด้วยความโกรธ
รากนต์ต้องใช้เวลากว่า 100 ปีในการขยายอานาจและเติบโตจากช่วงที่หยุดนิ่งของพวกเขาแต่ตอนนี้พวกเขากําลังโดนบังคับให้ต้องหยุดเดิน
แต่ลุคนั้นสงบไม่เหมือนกับฮานส์
“แล้วทําไมถึงบอกเรื่องแบบนั้นกับข้า”
สําหรับคําถามของลุค อารอนยิมและตอบว่า
“ท่านสามารถวางมือของท่านไว้ที่ด้านข้างของขุนนางของเราได้ การเกณฑ์ทหารเองก็เป็นเรื่องยากมากที่จะป้องกันอย่างไรก็ตาม มันก็ยังพอเป็นไปได้ที่จะป้องกันไม่ให้ท่าต้องไปอยู่ในแนวหน้า”
“อืม เจ้าอยากให้ข้าเข้าร่วมกับพวกขุนนางงั้นหรอ?”
“นั่นคือเงื่อนไขแต่ก็มีอย่างอื่นเช่นกัน”
“แล้วอะไรล่ะ?”
ลุคถามอารอน อารอนใช้เวลาพอสมควรในการตอบกลับ
“เราได้ยินมาว่าท่านลอร์ดหนุ่มกําาลังขายพื้นที่บางส่วนของเคานต์โมนาร์ชที่ได้รับมาจากสงคราม”
“แล้วยังไงต่อ ข้าพยายามจัดการกับภูมิภาคที่ข้าสามารถดูแลได้เท่านั้น”
ลุคจงใจประกาศข้อเท็จจริงของสถานการณ์ที่เขาเป็นอยู่
ความคิดของลุคก็คือการขายที่ดินให้แพงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และตามที่คาดไว้ลอร์ดที่อยู่ใกล้เคียงกาลังต่อสู้กับคนอื่นและขอให้ขายที่ดินให้กับพวกเขา
“โปรดหันไปทางทิศตะวันออกของแม่น้ำเนียร์ และมอบมันให้กับมาร์ควิสของเรา”
“อะไรนะ?”
ฮานส์โพล่งออกมา
ทางตะวันออกของแม่น้ำเนียร์นั้นเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่มากและในอดีตครึ่งหนึ่งเหล่านั้นก็เป็นของเคานต์โมนาร์ช
“แม้ว่าเขาจะไม่ได้หยิบมีดขึ้นมาจ่อที่ข้า แต่คําพูดเหล่านี้ก็เหมือนกับการรีดไถกันกลางวันแสกๆ”
ลุคหวั่นไหวเล็กน้อย แต่เขาก็ถามอารอนว่า
“เจ้าแน่ใจงั้นหรอ?”
“ยังไงที่ดินเหล่านี้มันก็มากเกินไปที่ท่านจะปกครองและสําหรับที่ดินที่ท่านมอบให้กับเรานั้นเราก็จะมอบกําาลงทหารไปดูแลอย่างดี”
อารอนยิ้มขณะพูด
อารอนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเพราะเขามั่นใจว่าลุคนั้นจะตอบรับค่าขอของเขาอย่างแน่นอน
“ตกลง เราจะปรึกษากันก่อนแล้วจะติดต่อเจ้าไปในภายหลัง”
ตรงกันข้ามกับที่เขาคาดไว้ ลุคนั้นไม่ได้ตัดสินใจให้ค่าตอบในทันทีนั่นจึงทําให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเริ่มเรือนหายไป
“นายน้อยท่านมีเวลาไม่มาก ดังนั้นท่านต้องคิดให้เร็วและตัดสินใจเดี๋ยวนี้..”
“การตัดสินใจอย่างรวดเร็วนั้นไม่จําเป็นที่จะต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอไปกรุณาไปก่อนและขอขอบคุณมาร์ควิสที่แจ้งให้ข้าได้ทราบล่วงหน้า”
การสนทนาจบลงที่นั่น
ลุคทิ้งอารอนที่กําลังลุกลี้ลุกลนไว้ที่ล็อบบี้และก้าวกลับเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง
“นายท่าน ท่านจะทําอะไรแน่?”
“ข้าไม่มีความตั้งใจที่จะทําตามข้อเสนอของมาร์ควิสเมเยอร์ส”
มันจะดีกว่าถ้ามาร์ควิสยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการทําให้สงครามให้เป็นโมฆะและยอมแพ้
ฮานส์มองไปที่ลุคและพยักหน้า แต่เขาอดไม่ได้ที่จะถามลอร์ดหนุ่ม
“งั้นท่านมีวิธีที่ดีกว่าในการหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารหรือไม่?”
หากพวกเขาป่วยหรือบาดเจ็บเกินกว่าจะต่อสู้ได้การเกณฑ์ทหารของพวกเขาก็อาจถูกเลื่อนออกไปหรือถ้พวกเขาโชคดีพอ พวกเขาก็อาจได้รับการยกเว้น
แต่สําหรับขุนนางนั้น พวกเขาต้องความสําคัญกับกิจกรรมดังกล่าว เนื่องจากมันเป็นการให้เกียรติและศักดิ์ศรีต่อตระกูล และการกระทําดังกล่าวก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ขี้ขลาดและน่าอับอาย
และความอัปยศจะยิ่งใหญ่กว่านั้นสําหรับลุค เนื่องจากเขาเป็นลูกหลานของนักรบรากันต์ผู้ยิ่งใหญ่
“แต่เนื่องจากข้าเป็นลอร์ดหนุ่ม ขาจึงต้องตัดสินใจอย่างมีเหตุผล”
แม้ว่าลุคจะพยายามตัดความสัมพันธ์กับบรรพบุรุษของเขา แต่การกระทําของเขานั้นจะถือเป็นการเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน
ฮานส์จะสนับสนุนลุคอย่างแน่นอน หากเขาตัดสินใจเช่นนั้น
เกียรติยศและศักดิ์ศรีของครอบครัวกําลังจะเสียหายอย่างไรก็ได้ เพราะยังไงมันก็ดีกว่าการเสียชีวิตของผู้นําตระกูล
“วิธีอื่นงั้นหรอ? ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก ในเมื่อผู้คนต่าวก็ไปกัน ดังนั้นข้าก็จะไปด้วย”
“ฮะ? ท่านจะไปจริงๆเหรอ?”
“คนอื่นจะคิดอย่างไรถ้าทายาทของนักรบผู้กล้าท่าตัวเหมือนคนขี้ขลาด”
“นั่นคือสิ่งที่ทําให้ท่านกังวลจริงๆหรือ?”
“หึๆ เจ้าไม่เห็นทักษะของข้างั้นเหรอ? มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ดังนั้นจึงไม่จําเป็นต้องพูดคุยกันต่อไป”
ลุคเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงและมีความสุขกับเรย์น่าต่อไป
ฮานส์อดไม่ได้ที่จะมองดูลอร์ดหนุ่มอย่างหงุดหงิด
“เขากําลังคิดอะไรอยู่กันนะ?”
เขาเคยคิดถึงค่าถามเดิมๆหลายครั้ง แต่ค่าตอบนั้นก็ทําให้เขาผิดหวังมากกว่าที่เคยเป็นมามากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากถอนหายใจยาวริ้วรอยลึกบนหน้าผากของฮานส์ก็หายไป…