Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล - ตอนที่ 84 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ (4)
บทที่ 84 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ (4)
วันรุ่งขึ้นหลังจากได้ยินข่าวลือว่าลุคจะถูกจับเข้ารับราชการทหาร เหล่าคนรับใช้ต่างก็รีบเข้าไปในห้องของหัวหน้าพ่อบ้านซึ่งเป็นห้องของฮานส์
พวกเขากังวลว่ามันอาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้น พวกเขาจึงต้องการที่จะมาตรวจสอบกับฮานส์เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้รับ
“ถ้าเขายังอายุ 17 เขายังไม่ควรจะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารนี้ กฎหมายนี้มันคือเหี้ยอะไร?”
“พวกมันต้องพยายามมจะตัดขาดสายเลือดของพวกเราแน่ๆ”
“แม้จะผ่านไป 500 ปีแล้ว แต่สายเลือดส้นตีนนี่ก็ยังทําตัวลับๆล่อๆไม่เปลี่ยนแปลง!”
ขณะที่ทุกคนเกือบจะน้ําตาไหล แม่ทัพโรเจอร์สก็เปิดใจและพูดอย่างใจเย็น
“เราต้องมาตรการรับมือก่อนที่ทูตของจักรพรรดิ์จะมาที่นี่”
“มาตรการรับมือ…มีมาตรการใดที่จะเหมาะสมที่สามารถใช้ได้กับสถานการณ์เช่นนี้ด้วยหรอ”
เมื่อพ่อบ้านฮานส์ถาม โรเจอร์สก็ตาวาววับและบอกพวกเขาถึงสิ่งที่เขากําาลังคิดอะไรอยู่
“ แน่นอนว่าความทุกข์ทรมารจากโรคระบาดนั้นร้ายแรงมาก มันสามารถทําให้ที่ๆเคยมีผู้คนกลายเป็นรกร้างได้
“แล้วพวกเขาจะไม่สงสัยงั้นหรอ ที่นายท่านจะมาป่วยได้เวลาแบบนี้”
“แล้วถ้าเราบอกว่า นายท่านได้รับบาดเจ็บขณะล่าสัตว์ล่ะ?” โรเจอร์สถาม
“แต่ความสงสัยในหัวของทูตนั้นก็คงจะที่ยากที่จะลบล้าง ที่สําคัญที่สุดคือนายท่านของเราดันไปพร้อมที่จะรับคําร้องขอรับราชการทหารของเขา”
พวกเขาไม่รู้ว่าลุคกําลังคิดอะไรอยู่ แต่พวกเขารู้ดีว่าสิ่งที่ลุคทําก็ทําในฐานะทายาทที่มีเกียรติของนักรบ
หลังจากตื่นขึ้นมาจากอุบัติเหตุ เขาไม่อยากถูกเปรียบเทียบกับบรรพบุรุษและนักรบรากันต์พวกเขาจึงไม่เข้าใจว่าทําไมจู่ๆเขาถึงคิดถึงเกียรติยศของตระกูล
“เราปล่อยเขาให้ไปตามที่เขาเลือกไม่ได้หรอ?..”
“นี่จึงใช้สมองก่อนถามแล้วใช่ไหม? เขาต้องอยู่ต่อ แม้ว่ามันจะหมายความว่าข้าต้องทุบแขนขาของเขาให้หัก”
หากท่านลอร์ดแขนขาหัก พวกเขาก็จะไม่ต้องไปเกณฑ์ทหาร
โรเจอร์สภักดีต่อลุคมาก แต่เขาก็โลภพอๆกับทุกคน พวกเขาทั้งหมดยังตองการให้ลุคอยู่ต่อไป
“ไม่ว่าจะใช้ความคิดมากแค่ไหน เราจะมีเวลาเพียงหยิบมือเท่านั้นและเขาไม่สามารถได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์ทหารได้ไม่ว่าเขาจะป่วยหรือแขนขาหักในที่สุดเขาก็ต้องถูกเกณฑ์ทหาร”
เมื่อฮานส์พูดอย่างนั้นมารอนก็ยกมือขึ้น
“แล้วทําไมเราไม่ให้เขาแต่งงานเร็วๆล่ะ”
ที่จริงแล้วในครอบครัวชั้นสูงการแต่งงานก่อนกําหนดเป็นเรื่องปกติ
“เจ้าหมายความถึงผู้สืบสายเลือดอย่างนั้นใช่ไหม?”
“ข้าไม่คิดว่านั่นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”
“อืม…”
ในความเป็นจริงสถานการณ์เช่นนี้นั้นได้เกิดขึ้นในตระกูลอยู่บ่อยครั้งตลอด 500 ปีที่ผ่านมา
มนเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะสืบทดทายาทก่อนกหนดเพรราะต้องไปเกณฑ์ทหาร
“แล้วเจ้ามีคู่ที่แนะนําไหม?”
“เจ้าหญิงเรย์น่าแน่ๆ…”
เรย์น่าเป็นสายเลือดอันสูงส่งจากโวลก้า เธอเป็นผู้หญิงที่มีฐานันดรและเป็นผู้หญิงที่ฉลาด
ยิ่งไปกว่านั้นคือหลังจากการลักพาตัวเรย์น่า ลุคก็เป็นมิตรกับเธอมากขึ้น
ดังที่กล่าวมา ไม่จําเป็นต้องเร่งรีบ แต่อย่างไรก็ตามคนรับใช้แห่งรากันต์และโวลก้านั้นก็พยายามอย่างยิ่งที่จะทําให้ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ
“กฎหมายยังระบุด้วยว่าขุนนางที่พึ่งแต่งงานใหม่สามารถเลื่อนการรับราชการออกไปได้อย่างน้อยหนึ่งปี.
“แล้วเราจะทําสิ่งที่คุ้มค่าแทนที่จะคิดถึงสิ่งที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้ได้อย่างไร”ลุคถาม
ในขณะที่พวกเขากําลังคุยกัน ลุคก็เข้ามาในห้อง
และในขณะนั้นคนรับใช้ทั้งหมดก็ดูเหมือนกับ แมวที่ถูกจับได้ว่าขโมยปลา
“ข้ากาลังค้นหาว่าทุกคนหายไปไหนกัน และก็ได้มาพบทุกคนอยู่ที่นี่ นายพลโรเจอร์ส!”
“ครับนายท่าน!”
“ข้าดูเหมือนคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะในสายตาคเจ้าหรือเปล่า” เจ้าคิดว่าข้าจะไปสู้รบแล้วตายงั้นหรือ?”
“นั่น..ไม่”
มีหลายสิ่งที่ต้องได้รับการขัดเกลาในทักษะการฟันดาบของลุค แต่เขาก็นับว่าเก่งกว่าคนรุ่นเดียวกันมาก
เขาสามารถแสดงออร่าและรู้วิธีใช้เวทมนตร์อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เขายังสามารถเอาชนะกิกันท์สี่ตัวที่บุกเข้ามาในดินแดนของพวกเขาและพิสูจน์ทักษะของเขาเองได้
เขาสามารถไปที่สนามรบและไม่ตายง่ายๆ
แต่…
“นายน้อยแม้แต่ปรมาจารย์ดาบก็สามารถถูกฆ่าได้ และด้วยการกระทําของจักรพรรดิ์ลอร์ดหนุ่มก็มีแนวโน้มที่จะถูกส่งไปแนวหน้ามากกว่าซึ่งการต่อสู้มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งและไม่ปลอดภัยเมื่อเทียบกับกองหลัง”
“แล้วเราจะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไรหากไม่เชิญหน้ากับศัตรู
“นั่น..”
ขณะนี้โรเจอร์สไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว และลุคก็พูดด้วยน้ําเสียงที่กระชับขึ้น
“ข้าหวังว่าจะเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้ ข้าหวังว่าจะเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิดาบหรือมากกว่าสิ่งที่บรรพบุรุษของข้าที่เคยประสบความสําเร็จ”
ลุคเป็นคนจริงจัง
เป็นเพราะเขาจาเป็นต้องแข็มแข็ง เพื่อทําการแก้แค้นให้สําเร็จ
และการอยู่ในที่ดินผืนนี้ เขาก็จะไม่สามารถฝึกฝนเวทมนตร์แห่งความมืดได้อย่างถูกต้องเนื่องจากทั้งคนรับใช้และผู้อยู่อาศัยต่างก็ออกตามหาเขาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อพัฒนาพลังโดยไม่ให้คนรู้จักเห็น สนามรบจึงเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
“ ข้าได้เห็นสถานการณ์ภายในกองทัพจักรวรรดิที่สนับสนุนจักรวรรดิบาล็อค
ด้วยเหตุนั้นลุคจึงไม่มีเจตนาที่จะปฏิเสธการรับราชการทหาร
“และข้าก็พบว่าในขณะที่รับราชการทหารที่ดินจะได้รับการยกเว้นภาษีและห้ามมีข้อพิพาทและไม่อนุญาตให้ทําสงครามกับเพื่อนบ้านด้วย”
เป็นเรื่องยากที่จะพูดได้ว่าไวเคานต์รากันต์นั้นสามารถควบคุมดินแดนของโมนาร์ชได้อย่างสมบูรณ์แม้ว่าเขาจะได้รับการฝึกฝนมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้วก็ตาม
ดังนั้นลุคจึงต้องใช้เวลาในการรักษาเสถียรภาพของที่ดิน และเขาก็ไม่ต้องการหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารที่จะเป็นประโยชน์ต่อเขา จากการหลีกเลี่ยงการลดภาษีและสงครามในอาณาเขต
“ข้ารู้ว่าทุกคนกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก แต่ถ้าเจ้าสามารถยอมรับงานหนักที่ข้าเคยทําจนถึงตอนนี้ได้ข้าก็หวังว่าพวกเจ้าขะเชื่อมั่นในข้าต่อไป”
“นายท่าน..”
“เพราะงั้น เลิกพูดถึงเรื่องนี้ได้แล้ว”
เมื่อพูดจบ ลุคก็เดินออกจากห้องไป
ฮานส์และคนรับใช้คนอื่นๆรวมทั้งโรเจอร์สต่างก็ยืนอยู่ที่นั่นในขณะที่เริ่มรู้สึกท้อแท้
พวกเขาตัดสินใจที่จะเชื่อในค่าพดของลุค อย่างไรก็ตามความกังวลของพวกเขาที่กำบังอยู่ในใจของพวกเขาก็ไม่สามารถขจัดออกไปได้ง่ายๆ….