Eight Desolate Sword God - ตอนที่ 172 ช่วงเวลาที่ทั้งคู่สบตากัน
นิยาย Eight Desolate Sword God EDSG ตอนที่ 172 ช่วงเวลาที่ทั้งคู่สบตากัน
“ยัยผู้หญิงโง่!”
เยู่เฉินเฟิง สันศีรษะ ให้กับความรู้สึกไร้สาระและไม่สามารถอธิบายได้ของ เยวี่ยหนิงซ่าน
“อย่าได้คิดว่าจะหนีรอด!”
เสียงคํารามอันโกรธเคืองของ แก่นแท้จิตวิญญาณเพลิง ได้ปลดปล่อยออกมาจากนั้น มันก็บังคับพื้นที่รูปแบบก่อตัว โดยการสร้างลูกบอลไฟขนาดยักษ์พุ่งตรงลงมายังทิศทางของ เย่เฉินเฟิง
“ดาบวิญญาณป้องกัน”
รู้สึกได้ถึงพลังทําลายล้างของลูกบอลไฟ เย่เฉินเฟิง ได้สั่งให้ ดาบวิญญาณป้องกันให้เขาทันที
“ซึ้ง!”
ลูกบอลไฟได้กลืนกินร่างของดาบวิญญาณหายเข้าไป เปลวไฟอันไม่รู้จบที่กาลังเดือดพล่านยได้เผากระจายไปทั่วทุกที่
ภายใต้ผลกระทบพลังงานไฟอันร้อนแรง เย่เฉินเฟิง ที่บินอยู่บนอากาศเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จนพุ่งตกลงมาสู่พื้นดิน
“ตายซะ!”
หลังจาก เย่เฉินเฟิง ตกลงมา แก่นแท้จิตวิญญาณเพลิง ก็บีบร่างของตัวเองพุ่งเข้าไปเหมือนกับเข็มหมุดขนาดเล็ก แต่ทว่า โชคดีที่ ดาบวิญญาณ หลุดออกมาจากระเบิดเพลิงและมาป้องกัน เย่เฉินเฟิงไว้ได้ทัน
“ถ้าเจ้ายังไม่อยากตาย ก็ใช้ทุกอย่างที่มีช่วยเหลือข้าในการโจมตีซะไม่อย่างนั้นเจ้ากับข้าได้ตายที่นี่แน่”
ในช่วงเวลาสําคัญ เย่เฉินเฟิง ได้เปล่งเสียงตะโกนบอก เยวี่ยหนิงซาน
“ดาบวารีผ่าจันทรา!”
เมื่อรู้สึกถึงภัยคุกคามของ แก่นแท้จิตวิญญาณเพลิง เยวี่ยหนิงซาน ไม่ลังเลที่จะใช้ทักษะวิญญาณที่แข็งแกร่งของเธอในการโหมกระหน่ําโจมตี
“ทักษะ 7 อานาจแห่งดาบ,ดาบเยือกแข็ง”
ขณะที่ เยวี่ยหนิงซาน เคลื่อนไหว เย่เฉินเฟิง ก็เปิดใช้งานทักษะวิญญาณระดับเต่ทันที
กลิ่นอายพลังดาบเยือกแข็งที่หนาวสะท้านได้ปลดปล่อยออกมาและพุ่งตรงไปบนอากาศยังตําแหน่งของ แก่นแท้จิตวิญญาณเพลิง
“ปิ้ง”
คลื่นพลังสามสายได้พุ่งปะทะเข้าหากัน จนส่งผลให้พื้นที่โดยรอบ ถูกคลื่นพลังที่ว่ากลืนกินหายไปไม่ว่าจะเป็นป่าไม้หรือภูเขาล้วนถูกทําลายหายไปจํานวนมาก
“ปิ้ง”
เยวี่ยหนิงซาน ที่ไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงได้ ร่างของเธอ ถูกคลื่นพลังซัดเข้าใส่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
กระถูกหน้าอกของเธอได้แตกหักและโลหิตจํานวนมากได้พุ่งออกมาจากปากของเธอ
สําหรับ เย่เฉินเฟิง นั้นหนักหนาสาหัสกว่า เส้นชีพจรวิญญาณภายในร่างของเขาทั้งหมดเกือบจะแตกหัก ผมสีดาของเขาได้เปลี่ยนย้อมเป็นสีแดง ทั่วทั้งร่างกายเกือบจะถูกทําลายด้วยคลื่นพลังท่าลายล้างเหล่านี้
แต่ทว่า เย่เฉินเฟิง และ เยวี่ยหนิงซาน ก็ได้ใช้ทักษะวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา ทําให้ ร่างของแก่นแท้จิตวิญญาณเพลิง ถูกเจาะเป็นรู ร่างกายของเขาได้อ่อนแอลงมาก
“รีบไปเร็วเข้า”
เมื่อเห็น แก่นแท้จิตวิญญาณเพลิง ฮ่าวหลิงจางเหริน และ คนอื่น ๆ กําลังพุ่งไล่ตามเข้ามา เย่เฉินเฟิง ไม่ลังเลที่จะใช้ปีกวิหคทองคําโบราณอีกครั้ง
“ข้าจะต้องอดทนไว้”
เย่เฉินเฟิง ใช้น้ําพุวิญญาณสวรรค์ เพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณที่เสียหายของเขา แต่ทว่าอาการบาดเจ็บทั่วทั้งร่างของเขารุนแรงเกินไป หากเขาไม่ได้มีหัวใจที่มั่นคงล่ะก็คงไม่สามารถพาตนเองและ เยวี่ยหนิงซาน หลบหนีออกไปจากที่นี่ได้
หลังจากนั้นประมาณ 4 ชั่วโมง เย่เฉินเฟิง ก็บินไปบนภูเขาแห่งนึ่ง เขาไม่รู้ว่าตนเองได้เดินทางมาไกลก็ไมล์ แต่ในที่สุดเขาก็ร่วงตกลงมาจากบนอากาศเพราะอาการบาดเจ็บ ต้นไม้โบราณที่สูงนับหลายเมตรได้ถูกเคลียทางจากการตกลงมาของเขา
“ดาบวิญญาณ คอยอารักษ์ขาปกป้องข้า”
เย่เฉินเฟิน ที่มีอาการโคม่า เขาเรียกดาบวิญญาณ และ ออกค่าสั่งสุดท้าย
“ฟุบ…”
ไม่รู้ว่าเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปนานแค่ไหน ท้องฟ้าดวงตะวันได้ขึ้นและตกดิน บางครั้งฝนก็ตกหนักพร้อมกับมีพายุเฮอริเคนจํานวนมากพัดผ่าน
เย่เฉินเฟิงที่อยู่ในอาการโคม่า เขาได้หมดสติไปเป็นเวลาสองวันก่อนที่จะตื่นขี้นมา
“อักข้ายังมีชีวิตอยู่”
เย่เฉินเฟิง ลืมตาตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่แต่ทว่าใบหน้าของเขากลับซีดมาก
เขาหายใจเข้าลึก และ หยิบผลึกวิญญาณระดับกลางหลายก้อนออกมา ก่อนที่จะโยนเข้าปากของตัวเอง เพื่อเริ่มทําการรักษาอย่างจริงจัง
“แก่นแท้จิตวิญญาณเพลิงของนิกายเพลิงผลาญฟ้า ช่างน่ากลัวจริง ๆ โชคดีที่ข้า มีดาบวิญญาณ คอยอารักษ์ขา ไม่งั้นข้าคงถูกฆ่าไปนานแล้ว”เมื่อรู้สึกถึงตัวตนของแก่นแท้จิตวิญญาณเพลิง เย่เฉินเฟิง รู้สึกกังวลและหวาดกลัวอย่างมาก
เขาสามารถรอดชีวิตมาได้เพราะการคุ้มกันของ ดาบวิญญาณ แต่สภาพร่างกายของเขาตอนนี้ แย่มาก เย่เฉินเฟิง ได้หมุนเวียนทักษะกลืนวิญญาณอย่างเงียบ ๆ และ สัมผัสร่างกายของเขา เขาพบว่าเส้นชีพจรทั่วทั้งร่างเกือบจะแตกหักโดยสมบูรณ์ อวัยภายในของเขาก็ได้รับบาดเจ็บเสียหายหนักเช่นเดียวกันโดยเฉพาะตรงหัวใจของเขา หากไม่ได้ไม่ศักดิ์สิทธิ์ปฐมบรรพโกลาหลหัวใจของเขาคงจะถูกทําลายไปแล้ว
เย่เฉินเฟิง ได้ใช้น้ําพวิญญาณสวรรค์ในการรักษาตัวเอง ด้วยอาการบาดเจ็บขนาดนี้ คงต้องใช้เวลาสักพักกว่าเขาจะฟื้นคืนกลับมาได้อย่างสมบูรณ์
หลังจากตรวจสอบอาการบาดเจ็บร่างกายของเขาแล้ว เย่เฉินเฟิง ก็จ้องมองไปที่เยวี่ยหนิงซาน ที่อยู่ไม่ไกลจากตําแหน่งของเขา
เยวี่ยหนิงซาน ได้ฟื้นขึ้นจากอาการโคม่า เธอได้กระตุกคิ้วเล็กน้อยและแสดงความเจ็บปวดออกมา เสื้อผ้าของเธอได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ท่ามกลางพายุสายฟ้า ร่างของเธอได้แนบแน่นเข้ากับชุดที่เสียหายเผยให้เห็นส่วนเว้าที่เย้ายวนอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง ไม่มีเวลามากพอจะชื่นชมความงามอันน่าดึงดูดเหล่านี้ เพราะเขารู้ว่าที่ เยวี่ยหนิงซาน ได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นเพราะเข้ามาช่วยเหลือเขา
“อย่าเพิ่งขยับ ข้าจะช่วยรักษาเจ้า”
ถ้าไม่ใช่เพราะว่า เยวี่ยหนิงซาน ได้โจมตีอยู่ด้านนอกพื้นที่รูปแบบก่อตัวแล้ว เธอคงไม่สามารถจะรอดพ้นจากคลื่นพลังการโจมตีที่รุนแรงนั่นได้แน่ หลังจากลืมตาตื่นได้ไม่นานดวงตาของเธอก็ฟุบปิดไปอีกครั้ง
“ก่อนอื่นจะต้องหาที่พักก่อน”
เยู่เฉินเฟิง พบว่า ฝนกําลังตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ เขาได้ เก็บดาบวิญญาณเข้าไปในถุงจักรวาลของเขา และ อุ้มร่างของ เยวี่ยหนิงซาน ที่ไม่ได้สติขึ้นมาไว้บนอ้อมแขนของเขา
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เย่เฉินเฟิง ที่อ่อนล้าทั้งกายและใจก็พบถ้ําที่เงียบสงัดเขาได้พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว และ วางร่างของเยวี่ยหนิงซาน ลง
ดวงตาของเขา ได้จดจ้องมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามของ เยวี่ยหนิงซาน จากนั้น เย่เฉินเฟิง ก็ปล่อยพลังวิญญาณของเขาเข้าไปในร่างของเธอ เขาพบว่า กระดูกซี่โครงของเธอแตกหักและอวัยวะภายในก็ได้รับความเสียหาย ภายในร่างกายของเธอ ถูกเผาไหม้ด้วยพลังของแก่นแท้จิตวิญญาณเพลิง และมันก่าลังทําลายพลังชีวิตของเธอเรื่อย ๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะว่า เยวี่ยหนิงซาน มีรากฐานการบ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่ง เปลวไฟชีวิตของเธอ คงมอดดับไปนานแล้ว
“ที่ข้าท่าแบบนี้เพราะข้าต้องการจะช่วยเจ้า อย่าได้ตําหนิข้าล่ะ”
เย่เฉินเฟิงมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามของ เยวี่ยหนิงซานและพึมพัมกับตัวเอง
“แคึก!”
จากนั้น เยเฉินเฟิง ก็ฉีกเสื้อผ้าตรงหน้าอกของ เยวี่ยหนิงซาน
แต่ในขณะนี้ ขนตาของ เยวี่ยหนิงซาน ได้สั่นเล็กน้อยเธอได้ตื่นขึ้นมาจากอาการโคม่าอีกครั้ง
วินาทีต่อมาดวงตาของทั้งคู่ก็สบกันอย่างน่าประหลาดใจ