* * *
ไม่กี่วันต่อมา อิวาร์ ล็อดบรอคนั้นได้ส่งจดหมายมาหาฉบับหนึ่ง
「ในวันจันทร์หน้า, ข้าจะขอแสดงความจริงใจของข้าแด่ฝ่าบาทที่สาขาหลักของบริษัทเคียนคุสก้าในเนฟเฮม」
มีเพียงข้อความบรรทัดเดียวในจดหมาย โดยเขียนลายมือที่งดงามเป็นอย่างมาก
หากให้ใครคนอื่นมาอ่านมันเข้าก็คงไม่อาจเข้าใจได้ ในที่สุดแล้ว อิวาร์ ล็อดบรอคยอมแสดงร่ายจริงของเขาให้ผมเห็นเสียที ผมจึงอดยิ้มไม่ได้
“ช่างเป็นลายมือที่งดงามนัก”
ในยุคสมัยที่ตัวพิมพ์ยังไม่ได้พัฒนาขึ้นมา ดังนั้นลายมือของแต่ละคนจึงเป็นสิ่งสำคัญมากไม่ว่าจะเป็นที่ทวีปมนุษย์หรือโลกปีศาจ มันไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนนั้นได้รับการฝึกฝนบ่มเพาะมาแค่ไหน หากแต่ยังแสดงออกด้วยว่า คุณเป็นคนเช่นไร
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ จอมมารส่วนมากน่ะนะลายมือห่วยแตกสิ้นดี
ไม่สิ ถ้าพูดให้ตรงกว่านั้น……ลายมือดีจนเกินไป
หากคุณตวัดปลายปากกามากจนเกินไป มันก็จะทำให้ยิ่งอ่านได้ยากขึ้น ประมาณนั้นแหละ
อย่างเช่น ลายมือของสิตริที่เป็นเหมือนนักสเก็ตน้ำแข็งมืออาชีพที่วาดลวดลายไปบนพื้นน้ำแข็ง ผมบอกไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่า นี่มันเป็นอักษรหรืองานอาร์ทกันแน่
บางครั้งผมก็ได้รับจดหมายรักจากสิตริในรูปแบบนี้
‘เร็วๆนี้ ข้าเอาแต่คิดถึงเจ้าก่อนเข้านอนเสมอนะ’
‘มันยากจะทนไหวที่ได้เจอกันแค่ทุกๆครึ่งเดือน เจอกันบ่อยกว่านั้นได้ไหมอ่า?’
‘ก็รู้แหละว่าเจ้าอะยุ่งอยู่ โทษที่รบกวนน้ะ เจ้าอ่ะก็ยุ่งอยู่ตลอดแหละ ตลอดเลย…….’
นี่มันใสซื่อเสียจนอย่างกับเด็กสาวมัธยมเลยไม่ใช่รึไงน่ะ?
(TTL : แหมมมมมม… ทำเป็นบ่น อยากจะ ‘แหมมมมมมมมมมมมมม’ ให้ม ม้า ยาวถึงดาวอังคาร!)
ปัญหาก็คือ ต้องใช้เวลาชั่วโมงกว่า กว่าที่จะถอดความหมายแปลความจดหมายของเธอได้ พออ่านเข้าใจความหมายที่เธอเขียนมาแล้วก็สดชื่นเรากับสูดอากาศสะอาดเข้าไปเลยล่ะ!
ต้องทั้งที่ทั้งนั้นก็หลังจากทนปวดหัวไปแล้วนะ เฮ่ออออ…….
ในขณะที่ ลายมือของอิวาร์ ล็อดบรอคนั้นจัดเรียงตัวกันสวยงามราวกับปริ้นท์ออกมาจากเครื่อง
ซึ่งนั่นแสดงอุปนิสัยของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
อย่างง่ายๆก็สามารถบอกได้ว่า เป็นคนเช่นไร พวกเขานั้นเป็นคนที่พยายามปิดซ่อนลักษณะนิสัยตนหรือพยายามอย่างมากที่จะเปิดเผยอวดโอ่ตนเองให้เป็นที่รู้จัก
ลายมือเขียนแบบนี้มันช่างแสดงความเป็น อิวาร์ ล็อดบรอคออกมาได้ดีจริงๆ
“เดซี่ ตารางงานของข้า วันจันทร์หน้าเป็นอย่างไร?”
“ท่านพ่อสัญญาที่จะไปพบฝ่าบาทไพมอนวันศุกร์นี้ค่ะ”
เดซี่ตอบขณะที่ยืนข้างบัลลังค์ของผม
“ในวันเสาร์ ท่านต้องไปเข้าร่วมงานเลี้ยงที่เนฟเฮมที่จัดขึ้นโดยอาร์คดยุคแห่งโลกปีศาจ
ในวันอาทิตย์ ท่านยังคงต้องอยู่ที่เนฟเฮมแล้วใช้เวลาทั้งวันกับฝ่าบาทกามิกิน
ในวันจันทร์ท่านจะกลับมาแล้วแอบตรวจสอบการทำงานในท้องที่ของท่านค่ะ”
“ฮื่มมม”
ผมพยักหน้าอย่างพออกพอใจ
เดซี่ไม่พลาดที่จะทวนตารางงานของผมจากความทรงจำของเธอ เดซี่ที่ตอนนี้อายุได้13ปีแล้ว ถือว่ามีความสามารถในฐานะสาวใช้ เธอมีคำตอบสำหรับคำถามของผมเสมอ
“แล้ววันอังคารล่ะ?”
“ท่านจะไปที่แมนเฮมเพื่อพบกับฝ่าบาทไพมอน กับฝ่าบาทสิตริค่ะ”
“อ๊า ข้านึกออกแล้ว ข้าต้องไปพบกับบาร์บาทอสช่วงปลายสัปดาห์นี้ด้วย…….”
ผมถึงกับร้องครางเสียงอ่อนออกมา ตารางงานผมนี่มันไม่น่าพอใจชะมัด
“นี่แผนการของข้ามันพังแบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ย? โลกช่างโหดร้ายเหลือเกิน”
“ท่านทำตัวเองค่ะ,ท่านพ่อ
หนูก็บอกท่านแล้วไม่ใช่หรือคะ?
หากท่านยังเอาแต่อ้างนู่นอ้างนี่เพื่อผัดผ่อนแล้วผัดผ่อนเล่า
สุดท้ายแล้วท่านจะไม่มีทางเลือกอื่นเหลือเลยนอกจากจะต้องไปพบทุกคนพร้อมๆกัน”
เดซี่ยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ท่านผัดผ่อนนัดหมายที่จะเจอกับฝ่าบาทสิตริไปเมื่อ 21 วันที่แล้ว และเมื่อ 12 วันที่แล้ว
ท่านผิดนัดฝ่าบาทไพมอนเมื่อ 16 วันที่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมนัดหมายดังกล่าวจึงต้องเลื่อนขึ้นมาเป็นสัปดาห์หน้า”
แม้น้ำเสียงของเดซี่จะสุภาพ แต่มันสุภาพแค่น้ำเสียงนั่นแหละ มันฟังดูเหมือนน้ำเสียงของแผนกบริการลูกค้าที่บอกว่า
‘สวัสดีค่ะคุณลูกค้าคะ มีเชี่ยอะไรให้ดิฉันรับใช้มั่งคะวันนี้?’
“……นังหนู ความจำของแกนี่มันดี โดยไม่จำเป็นเลยแฮะ”
“ขอบพระคุณมากค่ะ นั่นก็เป็นเพราะมีใครสักคนใกล้ตัวหนูคอยทรมานหนูหากจำอะไรพวกนี้ไม่แม่น”
เดซี่ก้มหัวให้ นังนี่นิ่
“เฮ่ออ เจ้าน่ะเคยเป็นเด็กสาวตัวน้อยที่ตัวสั่นงกๆต่อหน้าสไลม์ตัวเดียวแท้ๆ……. เจ้าโตมาเป็นคนทื่อและชาด้านเช่นนี้ได้อย่างไรกันนะ?”
ผมรำพันออกมาด้วยความทุกข์
“ไม่รู้สิคะ? มันไม่ใช่สิ่งที่บุคคลที่เอาสไลม์สองตัวยัดเข้ามาในร่างหนู สมควรถามหรอกค่ะ”
“คึ ช่วงนี้ลุคไม่ช่วยตัวเองเลยสินะ?”
“ดูเหมือนพี่ชายที่รักของหนูจะเลิกช่วยตัวเอง แล้วหันไปมองผู้หญิงแทนแล้วค่ะ”
เดซี่ตอบแบบไม่สะทกสะท้าน
“เร็วๆนี้ เขาเปลี่ยนคนรักใหม่ทุกเดือน หนูได้ยินว่า เขาหลับนอนกับโสเภณีจนครบทุกคนทั่วทั้ง 6 หมู่บ้าน หนูว่าเขาคงไม่มีเวลามาเล่นกับสไลม์แล้วค่ะ”
“แม่งเอ๊ย……! เจ้าเด็กเวรนั่นมันลืมไปได้ยังไงวะว่า ของน้องสาวของมันต่างหากล่ะที่ยอดเยี่ยมที่สุด!?”
ผมถึงกับกุมหัวแล้วครางออกมา
(TTL : คนแปลก็กำลังกุมหัว กับตรรกะความคิดของไอ้เชี่ยพรี่ดัน)
ผมก็สงสัยอยู่แล้วทำไมระดับเลเวลของการฝึกถึงไม่ดีขึ้นเลยช่วงนี้ตอนผมอบรมนาง
ทั้งที่ผมกระตุ้นระดับการรับสัมผัสของทั้งหน้าอก รูทวาร อวัยวะเพศ ทั้ง 5 จุดแล้ว แต่กลับไม่เพิ่มเลเวลขึ้นเลย ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะว่า เจ้าลุคมันปั่นหัวผมอยู่
นี่มันไอ้ระยำไม่รู้บุญคุณกันชัดๆ! น้องสาวแกน่ะเป็นคนแรกที่สอนให้แกลิ้มรสสตรีเลยนะโว้ย!
นี่แกกล้าดียังไงทิ้งขว้างน้องสาวตัวเองแล้วไปเล่นกับผู้หญิงอื่นแทน แค่เพียงเพราะผมขยุมหัวมันนิดหน่อยเท่านั้นเอง!? พวกมนุษย์นี่มันไม่เคยเข้าใจความใจดีเสียจริงๆเลยว่ะ
เด็กสาวถึงกับฉีกยิ้มกว้าง
“ตอนนี้ยอมแพ้หรือยังคะ?”
“หุบปากไปน่า ยังเร็วไปร้อยปีที่สำหรับเจ้าที่จะมารู้สึกถึงชัยชนะ”
ผมสบถออกมา แผนที่ผมจะบดขยี้สภาพจิตให้เดซี่อยู่ต่ำกว่าผมด้วยการทำให้อับอายนั้นได้ผลดี
แม้ว่า เดซี่จะยังเวอร์จิ้นอยู่ แต่ผมไม่แน่ใจนัก อาจเป็นเพราะผมก็ได้เธอจึงเริ่มกลายเป็นพวกเกลียดผู้ชายขึ้นมา
เธอเริ่มใกล้ชิดกับลอร่า และจ้องมองนางด้วยความปรารถนา ผมไม่ทำอะไรหรอก เพราะมันดูตลกดี มันดูน่าสนุกดีที่ฮีโร่ และตุลาการหญิงที่เป็นศัตรูตลอดกาลต่อกันใน <Dungeon Attack> จะกลายมาเป็นคู่รักกัน
เอาล่ะ เอาล่ะ ถือว่า เป็นความกรุณาปรานีที่ผมมีให้กับรสนิยมทางเพศของข้ารับใช้ก็แล้วกันนะ
ผมไม่คิดที่จะไปเข้มงวดกับรสนิยมของคู่ขาของผมนักหรอก พวกเขาอยากทำอะไรก็ทำเถอะ
แถมดูเหมือนลอร่าจะสนใจในบาร์บาทอสอีกด้วย
ซึ่งเป็นอะไรที่ชวนให้ประหลาดใจ ชวนให้ประหลาดใจจริงๆ กับการที่ลอร่ากลายเป็นคนรักของบาร์บาทอส ไม่ใช่เดซี่น่ะ
“ข้ายกเลิกแผนตรวจสอบหมู่บ้านในจันทร์หน้า แล้วแทนที่ด้วยการที่ข้าจะมุ่งหน้าไปยังเนฟเฮมทันทีหลังออกจากบ้านพักของกามิกิน”
“รับทราบค่ะ หนูจะรายงานคุณเจเรมิที่รับหน้าที่คุ้มกันท่านตอนตรวจสอบค่ะ”
* * *
ขณะที่ทั้งทวีปยังอยู่ท่ามกลางสงครามกลางเมือง แต่เรื่องดันมันก็เป็นดั่งตำนานที่ห่างไกลออกไปาจกเนฟเฮม เมืองที่สร้างขึ้นด้วยทองคำที่เหล่าปีศาจกักตุนไว้
อาร์คดยุคแห่งโลกปีศาจนั้นพยายามล็อบบี้ยีสครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อป้องกันเปลวเพลิงสงครามมาถึงพวกเขา
งานเลี้ยงอันสุดแสนจะฟุ่มเฟือยหรูหราจัดขึ้นทุกๆกึ่งเดือน นักเต้นระบำผู้มีค่าตัวแพงที่สุดแห่งโลกเนฟเฮมก็ยังถูกว่าจ้างให้มาอยู่ในงานครั้งนี้
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ราคาสูงจนดื่มลงไปไม่ต่างจากดื่มทองเตรียมไว้อย่างไม่อั้น
“ฮ่าฮ่า แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า ท่านกามิกินนี่แหละที่เป็นผู้ที่งดงามที่สุดในกองกำลังฝ่ายจอมมาร”
จอมมารลำดับ 4 กามิกินย่อมเป็นหนึ่งในรายชื่อผู้ที่ได้รับเชิญแน่นอนอยู่แล้ว
“แม้จะมีผู้ที่อ้างว่า ท่านบาร์บาทอสหรือท่านไพมอนนั้นงดงามที่สุด แต่ข้าขอพูดตามตรง ข้าคิดว่า ความเห็นพวกนั้นออกจะลำเอียงมากไปหน่อย
อย่างที่ข้ารู้จักมาคนจำพวกนั้นต่างได้รับความนิยมด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน”
อาร์คดยุคผู้หนึ่งพูดขึ้นขณะที่ยิ้มด้วยท่าทางที่แสนสุภาพ
“พวกนั้นมีรสนิยมที่ค่อนข้างไม่เป็นวัตถุวิสัย ดังนั้นข้าจึงเชื่อว่า ท่านกามิกินนี่แหละ เป็นดอกไม้ที่งดงามที่สุด”
“อย่างนั้นรึ? ขอบใจนะ”
กามิกินยกแก้วไวน์ขึ้นด้วยมือขวาก่อนจะเผยยิ้มสดใส
“แต่ข้าเองก็ยังแอบรู้สึกอยู่นิดหน่อย เมื่ออยู่กับท่านบาร์บาทอสและท่านไพม่อนน้า หรือข้าควรจะบอกว่า พวกนั้นเองมีเสน่ห์ที่พูดไม่ถูกอยู่เหมือนกันดีล่ะ?”
“อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ถึงอย่างนั้น หากให้ข้าตัดสินแค่รูปลักษณ์ภายนอก…….”
เหล่าอาร์คดยุคต่างพูดเรื่องราวจำพวกนั้นอยู่รอบกายกามิกิน
ผิดกับสีหน้าที่ยิ้มสนุกสนานภายใน เธอนั้่นเบื่อหน่ายอยู่ภายใน
‘ช่างเป็นปากที่พูดเอาอกเอาใจเสียนี่กระไร เจ้าพวกนี้ก็คงพูดแบบนี้กับบาร์บาทอสและไพมอน แค่เปลี่ยนคนที่เอาอกเอาใจก็เท่านั้น
เจ้าพวกนี้สมควรรู้ประมาณเรื่องการยกยอผู้คนเสียบ้าง’
กามิกินนั้นไหลไปตามน้ำอย่างชินำชำนาญพลางดื่มไวน์ของตน
เธอรู้ดีว่า อาร์คดยุคน่ะแอบเหลือมองรอยแหวก กามิกินเพลิดเพลินไปกับการสวมเสื้อผ้าที่เปิดเผยบางส่วนและปิดบังบางส่วน มันช่วยกระตุ้นกามราคะของอาร์คดยุคได้เป็นอย่างดี
มันเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งของเธอ
‘จอมมารระดับสูงอย่างข้า สามารถเห็นทุกอารมณ์แม้พวกเจ้าจะพยายามควบคุมมันแล้วก็ตามที เจ้าโง่ทั้งหลายเอ๋ย’
กามิกินไม่บอกเรื่องนั้นให้อีกฝ่ายรู้
ขณะเดียวกัน พอเธอสบตากับอาร์คดยุค เธอเองก็จะขยิบตายั่วล้ออีกฝ่ายด้วยท่าทางที่ชวนสงสัย และทุกครั้งที่เธอทำแบบนั้น อาร์คดยุคก็จะขอโทษที่ไม่อาจคุมความตื่นเต้นของตัวเองได้
การร่วมเตียงกับจอมมารหญิงระดับสูงนั้นย เป็นได้แค่เพียงความฝันสำหรับอาร์คดยุค
‘เอาเลยสิ ,แอบดูต่อไปสิ ดูได้ตามสบายเลย เร็วๆเข้า’
อาร์คดยุคกลับไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ว่ากามิกินนั้นแอบร่ายเวทย์โปรยเสน่ห์ไว้รอบตัวเธอ ดังนั้นแล้วอาร์คดยุคจึงพูดเธอจับไว้อยู่หมัด
ผู้ติดตามที่ยืน ณ ทางเข้าฮอลงานเลี้ยงประกาศด้วยเสียงอันดัง
“จอมมารลำดับ 71,จอมมารหลากหน้า! ฝ่าบาทดันทาเลี่ยน ได้มาถึงแล้ว━!”
ทั้งฮอลตกอยู่ในความเงียบทันที
อาร์คดยุคที่แอบส่องหน้าอกถึงกับหันหน้าออก ซึ่งนั่นอาจจะหยาบคายไปสักหน่อยแต่กามิกินผู้เป็นคนแรกที่หันไปมองก่อนจึงไม่อาจตำหนิใครได้
ชายผู้อยู่ที่นั่น เขาหยุดใกล้กับประตู เขาหันซ้ายหันขวาก่อนจะหยุดนิ่งตรงนั้นชั่วครู่ ขณะที่จับจ้องไปที่โคมแชนเดอร์เลีย เขาถึงเดินต่อ
ชายผู้นั้นเที่ยวทักทายผู้คนในงานเลี้ยงก่อนจะเดินเข้ามาหาอย่างไม่รีบร้อน
เขานั้นมีแขนขาและร่างกายที่ผอมเพรียว ขาดเนื้อหนังในส่วนที่ควรมี เธอไม่รู้หรอกว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร แต่ กามิกินกลับรู้สึกกวนใจแปลกๆกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา เขาไม่ใช่คนที่คุณจะบอกใครได้ว่า เป็นคนหล่อ
“โอ้ นั่นผู้น่าเคารพทั้งหลายมารวมตัวกันอยู่นี่เอง คุณกามิกิน ไม่เจอกันนานนะ
ถึงอย่างไรก็ดี น้ำเสียงของเขานั้นไม่ธรรมดา
แม้เขาจะไม่ได้พูดดัง แต่ถ้อยคำของเขานั้นยังคงได้ยินชัด ราวกับว่าเสียงของเขาสามารถไปถึงหูผู้ฟังได้ด้วยตนเอง หรืออย่างน้อยที่สุด กามิกินก็ให้คะแนนน้ำเสียงของเขาไว้สูง
“อืมม, ดันทาเลี่ยน ไม่ได้เจอกันนานเลย”
“ข้าปรารถนาจะพบเธอก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ แต่ร่างกายข้ามันช่างขี้เกียจเหลือเกินจะกล่าว มันเป็นความผิดของร่างกายข้าเอง โปรดอย่าได้กล่าวโทษตำหนิข้า ได้โปรดตำหนิร่างกายข้าเถิด”
“จอมมารทุกคนต่างรู้ดีว่า ท่านน่ะขี้เกียจ ,ดันทาเลี่ยน ข้าเข้าใจ”
กามิกินปั้นยิ้ม
‘เจ้าลามกนี่’
ดันทาเลี่ยนกำลังบอกโดยนัยว่า อยากมีเซ็กส์ด้วย
กามิกินกับเขานั้นมีความสัมพันธ์ทางกายต่อกัน เขาจึงตั้งใจจะแสดงออกมาเช่นนั้นซึ่งมันทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธมัน
“พอมาคิดดูแล้ว ฝ่าบาทดันทาเลี่ยน กับฝ่าบาทกามิกินนั้นช่างสนิทกันเหลือเกิน!”
แล้วก็แน่นอนว่า หนึ่งในอาร์คดยุคเหล่านั้นก็งับเบ็ด
ดันทาเลี่ยนรับไวน์แก้วหนึ่งจากบริกรในงานก่อนจะตอบกลับไป
“แน่นอน ข้าออกจะชอบเธออยู่เหมือนกัน”
“อาจจะเป็นการหยาบคายไปสักหน่อยสำหรับข้าที่จะถาม…….คือ ข้าได้ยินว่า ท่านนั้นสนิทสนมกับทั้งฝ่าบาทบาร์บาทอส,ฝ่าบาทไพมอน และฝ่าบาทสิตริด้วย”
ดันทาเลี่ยนหัวเราะ
“ไม่เห็นจะหยาบคายตรงไหนเลยนี่? ใช่เจ้าพูดถูกแล้ว”
“ถ้าเช่นนั้น……ฝ่าบาทครับ ในบรรดาจอมมารหญิงทั้งหลาย ท่านคิดว่า ใครงดงามที่สุด?”
อาร์คดยุคมองดันทาเลี่ยนด้วยความสนอกสนใจเป็นอันมาก
แน่นอนอยู่แล้ว ใครๆก็รู้ว่า กามิกินอยู่ที่นี่ เขาไม่มีทางเลือกตอบอย่างอื่นหรอกน่าจากจะพูดว่า ก็ต้องเป็นกามิกิน เพื่อให้เกียรติเธอ
มันเป็นมารยาททั่วไป เพื่อต่อบทสนทนาให้ดำเนินต่อไปได้
อย่างไรก็ดี พวกเขาก็แอบอยากรู้อยู่จริงๆว่า ดันทาเลี่ยนนั้นสนใจใครท่ามกลางเหล่าจอมมารหญิงทั้งหลาย
ดันทาเลี่ยนก็ได้ตอบกลับไปอย่างไร้ความลังเล
“อ้า แน่นอน บาร์บาทอสสิสวยที่สุด”
“…….”
เหล่าอาร์คดยุคถึงกับแข็งทื่อ
สีหน้าของพวกเขาที่แสดงออกมาราวกับเห็นผี ในขณะผู้ตอบคำถามนั้นกลับดื่มไวน์อย่างมิใยดี
“โอ้ ไวน์ที่นี่หรูใช้ได้เลย”
ซึ่งนั่นดูเหมือนเขาจะไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำ
บรรยากาศกลับเย็นชืดขึ้นมา
อาร์คดยุคไม่รู้ว่าจะตอบสนองกับสิ่งที่ไม่คาดฝันนี้อย่างไรดี หากเป็นปีศาจตนอื่นก็คงโดนด่าไปแล้ว แต่อีกฝ่ายน่ะเป็นจอมมาร ไม่มีอาร์คดยุคคนใดที่อยู่ในฐานะที่สามารถดุด่าดันทาเลี่ยนได้
อาร์คดยุคจึงได้แต่ค่อยๆหันหน้าไปมองที่กามิกินอย่างระวังตัว
แววตาที่พวกเขามองเธอ กามิกินบ่นกับตัวเอง
‘เอาแบบนั้นจริงๆหรือ เจ้าลูกกะหรี่นี่’
แต่ถึงอย่างนั้นเธอมิได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากยิ้มแย้ม
MANGA DISCUSSION