ห้าวันต่อมา กองทหารทั้งหลายภาคต่างมาถึงเมืองหลวงจักรวรรดิฮับบวร์ก
“…….”
เหล่าจอมมารได้แต่เงียบเมื่อผ่านประตูสูงเข้าไป พวกเขาย่างเท้าเข้าสู่เมืองหลวงของฮับบวร์กเป็นครั้งแรก พวกเขามองหาชัยชนะอันเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจและเต็มไปด้วยความรื่นเริง แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่หลงเหลืออยู่มีแต่ควันดำ
ไม่มีอะไรเหลือเลย แม้แต่สัตว์ตัวเดียวก็ไม่เห็น มีแต่กลิ่นควันที่ชอนไชจนแสบจมูก จอมมารทั้งหลายตั้งค่ายพักคร่าวๆใกล้กับบริเวณซากเมือง
บาร์บาทอสสำรวจรอบเมืองด้วยสีหน้าที่หงอยเหงา ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความเข้าใจบางอย่าง เธอรีบพูดกับจอมมารตนอื่นทันที
“บ้าเอ๊ย นี่มัน การหนีเชิงกลยุทธ”
“พวกเขาตั้งใจจะหนีไปเองหรือ?”
กามิกินขมวดคิ้วขณะพูด เธอปิดจมูกด้วยผ้าไหมตั้งแต่ตอนเข้าเมืองมา ดังนั้นเสียงเธอเลยไม่ชัด
“แกจำตอนสงครามพันธมิตรครั้งที่ 5 ได้ไหม? อกาเรส ตอนที่แกบุกมอสโควครั้งนั้นน่ะ”
“สมัยนั้นมันเป็นราชอาณาจักรเคียฟ(Kingdom of Kyiv) ไม่ใช่มอสโคว(Moscow)”
ริมฝีปากของจอมมารลำดับ 2 อกาเรสบิดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจ
“นี่เธอจะขุดความจำแย่ๆของคนอื่นขึ้นมาทำไมกัน?”
“ตอนนั้นพวกเราทำแบบนั้นในสงคราม แต่มาคราวนี้พวกมนุษย์เป็นฝ่ายใช้กลศึกเผาที่ดินเสียเอง
ตอนนั้นมันเกิดขึ้นในช่วงหน้าหนาว แกทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เคียฟ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลย”
“นี่เธอกำลังจะบอกว่า จักรวรรดิฮับบวร์กทิ้งเมืองหลวงไปก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนเผาที่ดินนี่น่ะเหรอ?”
อกาเรสแตะคางของเธอ เธอมักยิ้มแย้มอยู่เมอ แต่คราวนี้เธอดูจริงจัง บาร์บาทอสยังคงพูดต่อ
“เห็นไหมล่ะ? ว่าสุสานของจักรวรรดินั้นว่างเปล่า พวกมันน่ะแยกวังหลวงออกแล้วขนไปด้วย
เป็นไปได้ว่า ตั้งใจที่จะย้ายเมืองหลวง
ฟัค ที่เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเราแล้ว เราต้องทหารระดับสูงของเราติดตามพวกมันไป”
“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเราอย่างนั้นหรือ?”
มาร์บาสถาม
“หมายความว่ายังไง บาร์บาทอส?”
“ไอ้พวกห่าจักรวรรดินั่นมันพยายามย้ายเมืองหลวงไปที่ไหนสักแห่ง คิดว่า ชาวบ้านจะยอมผงกหัวเชื่อๆฟังแล้วทำตามต้อยๆหรือไง?
ข้าแน่ใจว่า พวกมันต้องบังคับแน่ๆ ตอนนี้ขวัญกำลังใจประชาชนกำลังตกต่ำอย่างหนัก!”
บาร์บาทอสครื่องติดขึ้นมา
“พวกมันน่ะหนีแถมยังลากคนไปมากมายด้วย มันต้องไปช้าอย่างกับหอยทากแน่ นี่เป็นโอกาสที่เราจะกำจัดจักรวรรดิแห่งนี้ทิ้งเสีย
ถ้าพวกเราไล่กัดตูดมัน ทั้งจักรวรรดิฮับบวร์กจะเป็นของพวกเรา!
เพราะงั้น สหายทั้งหลาย ชูธงขึ้นแล้วบุกโจมตีมันเดี๋ยวนี้เลย!”
‘อย่างนั้นเองรึ?’
บาร์บาทอสเห็นสีหน้าของจอมมารอื่นเหมือนจะพูดอย่างนั้น
“…….”
“…….”
บาร์บาทอสขมวดคิ้ว นั่นไม่ใช่การตอบสนองที่เธอต้องการเลย
“อะไร? ถ้าคิดว่าข้าพูดผิดตรงไหนก็บอกมา”
“บาร์บาทอส กองทัพภาค 2 นั้นพอใจแล้วกับการยึดเมืองหลวงฮับบวร์กได้”
มาร์บาสพูดอย่างระวังถ้อยคำ
“ชัยชนะโดยต้องเสียเลือดเสียเนื้อ คือ กลยุทธที่ดีที่สุด
พวกเราได้ยึดครองเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในทวีปโดยไม่ต้องเสียเลือดสักหยด
เหตุผลนั้นมันไม่เพียงพอต่อการเลิกไล่ตามหาการสู้รบต่ออย่างนั้นหรือ?”
“อืมม ข้าเห็นด้วยนะ”
กามิกินแทรกขึ้น
“ข้าบอกได้เลยว่า นี่ก็หมายความว่า พวกระดับสูงของกองทัพมนุษย์น่ะ หันหลังให้กับผู้คนแล้ว
เราปล่อยพวกมันไว้อย่างนั้นไม่ส่งผลดีกว่าเหรอ?”
จอมมารตนอื่นต่างผงกหัวเห็นด้วย ใบหน้าของบาร์บาทอสโกรธขึ้งขึ้นมา
“……เฮ้ย สหายใกล้ชิดของข้า พวกแกพูดอะไรกันอยู่?
นี่ข้าหูฝากไปหรือเปล่า
ให้ข้าอธิบายให้ฟังอีกรอบ ถ้าพวกเราร่วมกันไล่ตามมันไปตอนนี้ พวกเราจะสามารถกำจัดจักรวรรดิฮับบวร์กไปจากแผนที่ได้โดยสมบูรณ์
พวกมันเร่งหนีตอนนี้ยากที่จะดูแลผู้คนที่ตามติดไปด้วย”
“เรื่องนั้นน่ะ”
อกาเรสหัวเราะคิก
“พวกนั้นไม่ใช่พวกโง่นี่ ไม่คิดหรือว่า พวกจักรวรรดิจะเดาได้อยู่แล้วว่า พวกเราต้องตามไปด้วยน่ะ? หืมม? ข้ารู้สึกเหมือนพวกเราน่ะกำลังงับเหยื่อที่อีกฝ่ายโยนมาให้เลยนะ ถามจริง ทำไมเราถึงต้องพุ่งไปงับเบ็ดเสียเองล่ะ?”
“……มันไม่สำคัญว่า พวกมันมีกับดักหรือลอบโจมตีพวกเรา อกาเรส”
บาร์บาทอสพยายามคุมอารมณ์ขณะที่พูด
“มีสองอย่างที่สำคัญ หนึ่งคือ ศัตรูอ่อนแอ และสอง คือ พวกเรานั้นแข็งแกร่ง”
“ไม่คิดหรือยังไงว่า พวกนั้นอาจมีไพ่ตายซ่อนไว้?”
“…….”
บาร์บาทอสบอกได้เลยว่า มีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งมาร์บาส อกาเรส และกามิกิน ผู้นำของเหล่ากองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทราต่างมีสีหน้าที่เฉื่อยชา
ไม่สำคัญด้วยซ้ำว่าศัตรูจะวางกับดักอะไรไว้ ขอแค่ทำลายมันด้วยพละกำลังที่เหนือกว่าพวกมันก็พอแล้ว
ไม่มีทางที่จอมมารพวกนี้จะไม่เข้าใจความจริงข้อนี้หรอก
แต่ถึงอย่างนั้นในหัวทุกคนก็ชัดเจนอยู่แล้ว
พูดง่ายๆ พวกเขาไม่สนใจจักรวรรดิฮับบวร์กที่ล่มสลายไปแล้ว
ซึ่งนั่นก็มีเหตุผลเพียงข้อเดียว
“พวกห่าเอ๊ย ―อย่าบอกข้านะ ว่าพวกแกไม่ต้องการพิชิตทวีปแล้วน่ะ?”
จอมมารทั้งหลายไม่คิดว่า กองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทราครั้งที่ 8 จะสามารถพิชิตทวีปได้
กามิกินผู้มีผมบลอนด์เอียงคอขณะที่พูด
“เอ๋?”
เธอทำเหมือนกับว่า บาร์บาทอสเป็นพวกเพี้ยน
“ก็มันไม่มีทางที่กองทัพพันธมิตรจะสำเร็จอยู่แล้วนี่”
“…….”
“เอาจริงๆเลยน้า เธอเนี่ยพูดแต่อะไรประหลาดๆหลายครั้งแล้ว บาร์บาทอส เธอน่ะสมควรจะพอใจที่ได้แดนเหนือของฮับบวร์กด้วยซ้ำ
ทำไมเธอถึงได้โลภมากขนาดนั้นกันล่ะ? ถ้ายังตะกละขนาดนั้นระวังท้องจะประท้วงเอานะ ฮี่ฮี่”
อกาเรสพูดต่อ
“มันดีแล้วนี่ ที่พวกมันละทิ้งเมืองหลวง ผู้คนของฮับบวร์กจะได้เข้าใจว่า ไม่มีกำลังมากพอที่จะโต้กลับอีกแล้ว
เราควรใช้โอกาสนี้เพื่อจัดระเบียบดินแดนอื่นของจักรวรรดิ พวกเราจะได้ใช้เวลาที่เหลือเพลิดเพลินกับสงครามการแย่งชิงแทน”
“…….”
“กองทัพภาค 2 ของข้าแต่เดิมนั้นได้รับมอบหมายให้จัดการกับสหประชาชาติโพลิช-ลิทัวร์เนีย, บาร์บาทอสเอ๋ย
เหตุผลเดียวที่ข้ามาไกลขนาดนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่า มีเส้นทางไปยังสหประชาชาติโพลิช-ลิทัวร์เนียโดยไม่ต้องใช้เส้นทางภูเขาดำ
ก็ในเมื่อไม่มีเหตุผลเรื่องการโดนตลบหลังแล้ว กองทัพภาค 2 ของข้าจะกลับสู่เป้าหมายเดิม”
มาร์บาสพูดต่อ
“การพิชิตทั้งทวีปนั้นเป็นงานที่ใหญ่ดังนั้นต้องใช้เวลามากอยู่ดี
ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่รู้จักอดทนรอ แล้วผลีผลามทำให้จบภายในครั้งเดียว บาร์บาทอส”
“……ไม่รู้จักอดทนรอ?”
บาร์บาทอสขบฟัน
“ไอ้พวกโง่…….นั่นมันใช่สิ่งที่จอมมารสมควรพูดออกมาไหมวะ?
โอกาสที่จะทำลายจักรวรรดิมนุษย์อยู่ตรงหน้าพวกแกแล้วนี่ไง
ภารกิจของพวกเราคือ การกวาดล้างมนุษย์ทิ้งให้หมดแล้วเอาทวีปมาเป็นของขวัญให้เผ่าปีศาจ พวกแกนี่มัน…….”
“อ้ะ อ๋า ใครจะไปสนใจเรื่องพันธกิจนั่นกันล่ะ! น่ารำคาญจะตายไป”
อกาเรสตะโกนออกมา
“วิ่งตามภารกิจอันยิ่งใหญ่นั่นไปเองเถอะ ยัยคร่ำครึเอ๊ย เหล่าปีศาจทั้งหลายที่อยากได้ครอบครองทวีปนั้นตายไปเป็นพันปีแล้ว
รอบตัวเจ้าตอนนี้ ไม่มีใครเชื่อเรื่องไร้สาระนั้นอีกต่อไปแล้ว
ไม่เข้าใจอีกหรือไง? พวกเราน่ะพอใจแล้วตราบใดที่สามารถเลี้ยงดูผู้ติดตามพวกเราได้”
“แก…… คนอย่างแกมาเป็นลำดับ 2 ได้ยังไงกัน”
“โทษทีน้า บาร์บาทอส”
กามิกินพูดขัดขึ้นทั้งรอยยิ้ม
“ข้าอ่านะ ก็ไม่อยากไปเจอความสูญเสียมากกว่านี้ละล่ะ
ก็แน่นอนว่า พวกเราสามารถกวาดล้างพวกจักรวรรดินั่นได้จนหมดถ้าพวกเรารวมกำลังรบกัน
แต่พวกทหารจักรวรรดิก็รู้ดีว่าต้องสิ้นชาติแน่ ถ้าพวกเราโจมตีพวกเขาตอนนี้น่ะ ดังนั้นพวกเขาก็จะสู้สุดตัวเลย ฮี่ฮี่
ก็ถ้าเกิดเรื่องนั้นขึ้น พวกเราก็ต้องเสียทหารที่ข้าอุตส่ารักษามา ระหว่างที่สู้น่ะสิ!”
กามิกินเช็ดจมูกด้วยผ้าเช็ดหน้า
“อืมมม ดูกองกำลังไพมอนสิ หายไปฮวบฮาบเลย และเธอเองก็เสียทหารไปเยอะเพราะฝ่ายที่ราบตั้งใจสู้กับอย่างสุดๆ
ตอนนี้ข้าน่ะพอใจสุดๆแล้วน้า~
หรือข้าควรจะพูดว่า ข้าเนี่ยดีใจสุดๆ จนไม่อยากได้อะไรอีกแล้วดีล่ะ~?
ฮี่ฮี่”
“…….”
“โอ้ ใช่ใช่ นี่หมายถึงว่า เธอน่ะจะเอาดินแดนตรงกลางฮับบวร์กใช่ไหม?
ข้าอาจจะยังอยากรักษาทหารไว้ก็จริง แต่พวกเราก็ยังสู้ไหว!
ข้าเชื่อว่า เจ้าน่ะจะแบ่งดินแดนกันอย่างยุติธรรมนะ”
มือของบาร์บาทอสสั่น
“แบ่งดินแดน……?”
“ช่ายยยย คิดว่าทำไมพวกเราถึงได้ยกทหารมาอยู่ข้างๆ ตอนที่เธอบุกเข้าไปกันล่ะ?”
กามิกินยิ้มแฉ่ง
“นั่นก็เพราะมันยุ่งเกินไปน่ะสิ ถ้าข้ายังต้องกังวลว่าเสบียงจะหมดเมื่อไหร่
พวกมนุษย์น่ะไม่ได้โง่หรอก ดังนั้นพวกมันไม่มาทางบุกเข้ามาหาเราอยู่แล้ว
กองทัพนั้นกองทัพอะไรน้า? ราชอาณาจักรทิวทันล่ะมั้ง? มันก็แอบตามกองทัพข้ามาแหละ พอเราบุกไปนิด พวกมันก็ถอยไปหน่อย
ฮี่ฮี่ ดูท่าพวกเขาจะไม่อยากสู้เท่าไหร่เหมือนกันแหละ!”
ว่ากันตามจริงแล้ว เห็นได้ชัดว่า กองทัพใดที่สู้กันรุนแรงที่สุดในสงครามพันธมิตรครั้งที่ 8
ทางฝ่ายจอมมาร คือ กองทัพภาค 6 ของบาร์บาทอส และฝ่ายมนุษย์คือ ทหารจักรวรรดิ ที่นำโดยเจ้าหญิงอลิซาเบธ
กองทัพภาค 6 ดิ้นรนอย่างหนักเพื่อพิชิตทั้งทวีป ขณะที่ จักรวรรดิฮับบวร์กก็สู้อย่างสิ้นหวังเพื่อจะปกป้องชาติตัวเอง
ตั้งแต่เริ่มแล้ว กองทัพภาคต่างๆของจอมมารนั้นขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์และเป้าหมายทางการเมือง
พูดง่ายๆ พวกเขาต้องการจะลดทอนกำลังของฝ่ายภูเขาลงที่เป็นกลุ่มที่ทรงพลังที่สุดในกองทัพจอมมาร
พอพวกเขาสำเร็จเป้าประสงค์นั้นแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องเสียกำลังทหารของตนอีก
เหตุผลทางฝ่ายมนุษย์ก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่า กำลังใจของพวกเขาตกลงในช่วงพิธีการพูดสุนทรพจน์หรอก แต่พวกเขาไม่มีเหตุผลให้ต้องโต้กลับไป ตราบใดที่จอมมารไม่ได้ตั้งใจโจมตีพวกเขาอย่างจริงๆจังๆ
กองทัพมนุษย์นั้นปล้นชิงหมู่บ้านและเมืองฮับบวร์กเพื่อที่จะเอามาดูแลกองทัพส่วนตัว
มนุษย์ขโมยจากมนุษย์อื่นด้วยข้ออ้างว่า เป็นกลศึกเผาที่ดินและเป็นความชอบธรรมในการส่งทหารไปปกป้องฮับบวร์ก ถ้าพวกเขาไม่ปล้นชิงชาวบ้าน จอมมารก็จะมาเอาไปเสียเอง จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องยั้งมือ
ทั้งกองทัพจอมมารและกองทัพมนุษย์ต่างสนใจสิ่งเดียวกัน
ฝ่ายอื่นในกองทัพจอมมารและกองทัพมนุษย์ต่างเคารพขอบเขตของกันและกันโดยทำสัญญาใจกันไว้ก่อนแล้ว
ในขณะที่บาร์บาทอสและอลิซาเบธต่างเข้าโหมโรมกันในสงครามเบื้องหน้า
กองทัพจอมมารปล้นชิงฝ่ายเดียวกัน ในขณะที่ กองทัพมนุษย์ก็ปล้นชิงฝ่ายเดียวกัน
การสู้รบไม่ค่อยจะเกิดขึ้น แต่หากจะเกิดขึ้นก็เป็นการปะทะเล็กๆน้อยๆ
พวกเขาต่างเล็งผลกำไรที่จะได้รับจากซากเถ้าของจักรวรรดิฮับบวร์ก
กองทัพเดียวที่ต้องสู้อย่างสุดกำลังทั้งที่ไม่จำเป็นเลยก็คือ ฝ่ายภูเขา
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะฝ่ายภูเขาต้องดิ้นรนเพื่อให้พ้นข้อครหาเรื่องที่ทรยศเผ่าพันธุ์ตัวเอง
ผลลัพธ์คือ กองทัพฝ่ายภูเขาต้องสูญเสียมากมายเพื่อกำจัดกองกำลังของราชอาณาจักรบริททานี่
……แน่นอนล่ะ พวกเขาได้แสดงการสู้รบครั้งใหญ่กว่าที่ควรจะเป็นให้เห็นแล้ว
“ถูกต้องแล้ว พวกเราสมควรได้รับสิทธิให้ได้รับส่วนแบ่งกันอย่างยุติธรรมนะ”
อกาเรสพูดพลางยิ้ม
“เอาล่ะ ข้ามิใช่คนโลภ แค่ให้ดินแดนข้าที่ใหญ่เท่าเขตดยุค ถ้าพวกเจ้าอยากได้เมืองหลวงก็เอาไปเถอะ บาร์บาทอส อืมม นี่ถือว่า ข้าใจกว้างมากแล้ว”
“อ้า ข้าชอบพื้นที่ใกล้ภูเขาดำนะ ถ้าเป็นไปได้ก็ขอนะ ข้าจะได้มาที่นี่ได้โดยไม่ต้องขอบาอัล
มันคงแปลกๆถ้าข้าได้ที่ดินที่ห่างไกลจากภูเขา อื้มมม จะเป็นแบรนเดนเบิร์กหรืออะไรก็พอใจเหมือนกัน”
“โอใช่ ทำเลที่ตั้งมันสำคัญมาก หืมม ข้าควรจะเอายังไงดีน้า?”
บาร์บาทอสพูดไม่ออก
“…….”
มันยิ่งกว่าความโกรธ เธอรู้สึกอยากจะอ้วกออกมา
เธอไม่อยากจะยอมรับว่า คนเหล่านี้เท่าเทียมกันกับเธอ พวกเขาไม่มีแม้เศษเสี้ยวของความภาคภูมิใจ
พวกเขาเป็นดั่งหมาไฮยีน่าที่จะยอมเคลื่อนขยับเพียงเพราะผลประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น
บาร์บาทอสไม่พูดอะไร ไม่มีใครห้ามเธอ มีเพียงจอมมารฝ่ายที่ราบเท่านั้นนี่ตามเธอไป
เธอออกคำสั่งด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“เตรียมกลุ่มไล่ล่า”
“พวกเราจะตามไปเฉพาะหน่วยของพวกเราหรือครับ?”
เซปาร์ถามด้วยความระวัง
“ฝ่าบาท ข้าต้องขออภัย แต่ข้าไม่แน่ใจว่า พวกเราจะประสบความสำเร็จ”
“ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่จะมาทำนายเอาได้ มันเป็นสิ่งที่เจ้าต้องออกไปคว้ามาด้วยตัวเอง”
บาร์บาทอสตอบกลับด้วยเสียงเข้ม
“จอมมารตนอื่นอาจจะเป็นขยะ แต่อย่างน้อยที่สุด พวกเราได้แสดงให้เหล่าปีศาจเห็นแล้วว่า จอมมารอย่างพวกเรานั้นยังคงสู้ต่อไปเพื่อพวกเขา นั่นคือ สิ่งที่ราชาผู้ปกครองอย่างพวกเราสมควรทำ”
“……รับทราบครับ”
“ไอ้อีพวกลูกกะหรี่เอ๊ย”
บาร์บาทอสคำราม เธอมองด้านหลังเธอด้วยหางตา
“แบบนั้นก็ได้ ถ้าพวกแกจะเอาอย่างนั้น เรื่องพิชิตทวีปไว้ทีหลังก็ได้!
แต่ก่อนวันนั้นจะมาถึง ข้าจะกำจัดขยะที่มีอยู่ในโลกนี้ก่อน”
ในตอนนั้นเอง ฝ่ายที่ราบได้แยกตัวเองออกจากฝ่ายอื่นๆ
MANGA DISCUSSION