บทที่ 323 – ราชาเหมันต์ (เร็ก ไฮย์มิส) (11)
“ฮึ่ม!”
อลิซาเบธเดินผ่านผมไป
เธอคงกำลังไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนั่นแหละ
ช่างเป็นเรื่องน่าสรรเสริญนัก ที่เธอยังสงบอยู่ได้แม้จะมีการก่อการร้ายเกิดขึ้น ทั้งยังสามารถรับมือได้อย่างเหมาะสม
ผมมองผมสีเงินของเธอค่อยๆห่างไกลออกไป
ถ้ายังขยับไหวจงเข้าไปที่สวน
ผมได้ยินคำพูดที่เธอตะโกนจากตรงที่ยืนอยู่นี่ ดูเหมือนเธอจะใช้ออร่าเพื่อขยายเสียงตัวเองด้วย
ผมเป็นกำลังใจให้เธอจริงๆนะ
* * *
อลิซาเบธรีบไปยังห้องจัดงานเลี้ยง
อาคารถล่มลงมาจากแรงระเบิด ฝุ่นควันมากมายจนทำให้มองเห็นอะไรได้ยาก
“ถ้ายังขยับไหวจงเข้าไปที่สวน !”
อลิซาเบธร้องตะโกนบอกทุกคนในทันที แต่สถานการณ์อันตรายนั้นยังมีระลอกสอง ตัวตึกถล่มลงมาอีกทั้งยังปิดทางเข้าออก ราวกับเป็นการระเบิดอีกครั้ง
ปัญหาใหญ่ของเหตุการณ์คือ การที่ทุกคนมองเห็นได้ไม่ชัดเจน
มนุษย์นั้นเป็นสัตว์ที่พึ่งพาทัศนวิสัยเป็นอย่างมาก
ยามที่ถูกปล้นชิงการมองการดูไปทำให้ผู้คนต่างตกอยู่ในสภาวะสับสนอลหม่าน
ด้วยเหตุนี้เธอจึงป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น
“หากมีผู้บาดเจ็บอยู่ใกล้ๆ จงเรียก หายาม!
เหล่ายามทั้งหลาย,จงรีบเข้าไปช่วยเหลือพวกเขาโดยเร็ว!
เพื่อความปลอดภัยจะไปกันเป็นคู่ๆ”
เหล่ายามถึงกับตัวสั่นด้วยความงุนงงพลางมองอลิซาเบธด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า
เธอจึงโมโหและตะโกนสั่งซ้ำ
“ไอ้พวกโง่นี่! ยังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นทหารอยู่หรือไง!?
ทำตามคำสั่งของข้าเดี๋ยวนี้!”
“ค-ครับ!”
อลิซาเบธเตะก้นยามคนหนึ่งที่อยู่ใกล้กับเธอ
ถึงเธอจะอายุเท่านี้ แต่อลิซาเบธเองก็เป็นนักดาบระดับ 2 แรงเตะของเธอก็เพียงพอที่จะทำให้ ยามคนหนึ่งทรุดได้
“ไอ้พวกปัญญาอ่อน, จะเอาแต่ตอบอย่างเดียวทำไม!?
ไปสิไป! ไปย้ายคนเจ็บที่ร้องขอความช่วยเหลือไปที่สวน!”
“ครับ!”
มีผู้คนมากมายที่อยู่ท่ามกลางฝุ่นควัน โดยมากก็ร้องครวญครางขณะที่ลุกขึ้นมา
แม้จะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขนาดนี้ แต่ดูเหมือนจะมีผู้บาดเจ็บอยู่น้อยราย
นับเป็นโชคดียิ่งนัก หากมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก การประชุมตัวแทนครั้งนี้ย่อมต้องจบลงด้วยความล้มเหลวอย่างเลวร้าย…….
“ใครที่ไม่บาดเจ็บก็จงไปช่วยยามด้วย!”
อลิซาเบธถึงกับโล่งอก ขณะทำการช่วยเหลือ
ระบบการจัดการสิ่งต่างๆเริ่มลงตัว หลังจากความวุ่นวายซาลง
ความคล่องแคล่วฉะฉานในทุกภาษาส่งเสริมความเป็นผู้นำของเธอ
เธอสลับไปสั่งการเป็นภาษาบัทตาเวียน,ฟรานเคียน และภาษาจักรวรรดิโบราณ
ถึงตาของทุกคนจะเห็นภาพไม่ชัดเจนนัก แต่หูยังได้ยินอยู่
พอพวกเขาได้ยินภาษาที่เข้าใจ อะไรก็เริ่มลงตัวขึ้น
“มีใครเสียชีวิตไหม?”
“ตอนนี้ เรายืนยันได้แล้วครัว่ามีผู้บาดเจ็บหนักสามราย และบาดเจ็บเล็กน้อยอีกสิบเอ็ดราย”
อัศวินที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาความสงบรายงาน สีหน้าของอัศวินคนนั้นซีดมาก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันสำคัญเช่นนี้มิต้องสงสัยเลยว่า เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา
จากเหตุการณ์ครั้งย่อมกระทบต่อชื่อเสียงตำแหน่ง รวมถึงชีวิตของเขาเองด้วย
“ไม่มีผู้เสียชีวิตครับ”
ท่ามกลางข่าวร้ายยังมีข่าวดี
เขาอาจไม่พบใครที่เสียชีวิตเพราะผู้ตายอาจอยู่ใต้ซากตึกปูน
แต่ถึงอย่างนั้นการที่ไม่พบศพใครเลยก็ยังพอจะทำให้เธอมีหวังขึ้นมาบ้าง
ถ้าให้ดี ขอให้มีคนตายไม่เกินหนึ่งหรือสองคน…….
“หัวหน้าครับ, ท่านพอจะทราบไหมครับว่า ทำไมถึงต้องก่อการร้ายที่นี่กัน? และใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง?”
“โทษที, เราเดาไม่ถูกหรอกว่าใคร เป็นคนลงมือ แต่ถึงอย่างนั้น…….”
อัศวินผู้นั้นคิ้วขมวด เหมือนพยายามเค้นความทรงจำจากสมอง
“เหมือนได้ยินเสียงพูดว่า ‘ฟรานเคียจงเจริญ’ ก่อนการระเบิด”
“ ฟรานเคีย จงเจริญ อย่างนั้นหรือ……?”
ประชาชนชาวฟรานเคียจะลอบโจมตีสถานที่แห่งนี้ไปด้วยเหตุผลอะไรกัน?
อลิซาเบธได้ข้อสรุปในทันทีว่า ทั้งหมดนี้อาจเป็นแผนลวงของดันทาเลี่ยน
เธอจึงถามคำถามกับยามคนนั้น
“นักบุญหญิงลองวี่ นักบุญหญิงแห่งบริททาเนียอยู่ที่ไหนกัน?”
“ขออภัยครับ?”
อัศวินคนนั้นยังตามไม่ทัน ทำให้อลิซาเบธหงุดหงิด
“ใครเป็นบุคคลที่น่าจะถูกชาวฟรานเคียเกลียดชังมากที่สุดล่ะ!?
เห็นกันอยู๋ชัดๆ ย่อมต้องเป็นตัวแทนเชิงสัญลักษณ์ของบริททานี่ และที่ปรึกษารผู้ภักดีของราชินี ดังนั้นการก่อการร้ายครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่นักบุญหญิง”
อัศวินคนนั้นจึงเข้าใจขึ้นมา
“ผมจะออกตามหานางเดี๋ยวนี้ครับ”
“รีบไปที่สวน เผื่อมีผู้พบเห็นนักบุญหญิง
เร็วเข้า เราต้องแข่งกับเวลาแล้ว”
อัศวินคนนั้นจากไป
อลิซาเบธเม้มริมฝีปากตัวเอง เธอโดนเข้าอย่างจัง ดันทาเลี่ยนนั้นวางแผนที่จะสละนักบุญหญิง
การเข้าร่วมของนักบุญหญิงครั้งนี้ก็เพื่อเป็นตัวแทนสมานสันติภาพระหว่างมนุษย์และปีศาจ ทว่าเธอกลับตกเป็นการลอบสังหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่จัดประชุมในฐานะตัวแทนของเหล่าผู้แทนประเทศสาธารณรัฐ…….
ความฝันที่จะเชื่อมโยงสองเผ่าพันธุ์ให้แน่นแฟ้นย่อมหายไปราวกับหมู่ควัน
ผู้คนย่อมต้องทะเลาะกันเรื่องที่ว่าใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบต่อความตายของนักบุญหญิง
ส่วนเรื่องที่ผู้อยู่เบื้องหลังคือ ชาวฟรานเคียนั้นเป็นการจัดฉาก
ฟรานเคียจะได้ประโยชน์อะไรหากมีการละเมิดสนสัญญา ขึ้นมาตอนนี้?
“ท่านครับ”
อัศวินคนนั้นกลับมาพร้อมกับลมหายใจที่หอบหนัก บรรยากาศของเขามาพร้อมกับความรู้สึกไม่ดี
เขาทำหน้าหม่นหมอง
“ขออภัยด้วยครับ ท่านครับ แต่ว่า…….”
“เจ้าหาตัวนักบุญหญิงไม่เจอรึ?”
“ครับ แต่มีพยานหลายคน พวกนั้นพูดตรงกันว่า มีชายคนหนึ่งเข้าไปใกล้ๆกับนักบุญหญิงก่อนจะปล่อยเวทย์ระเบิดออกจากตัว…….
ชายคนนั้นคือ บารอน เปียเร่ เดอ ราเวีย เขาเป็นชาวฟรานเคียอย่างแน่นอนครับ”
อลิซาเบธทวนสอบข้อมูลจากความทรงจำของตน
บารอน ราเวีย
นั่นเป็นดินแดนเล็กๆใกล้กับดินแดนใจกลางของฟรานเคีย
เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักเวทย์ หลังจากที่ราชินีเฮนริเอตต้ายึดฟรานเคียได้ ก็ขับไล่เนรเทศเขาออกไปจากดินแดนของเขาเอง
นั่นคือ ทั้งหมดที่เธอรู้ แต่ยังมีอะไรอย่างอื่นที่ทำให้เธอรู้สึกได้ราวกับจะเกิดเค้าลางร้าย
บารอนราเวียเองก็มีแรงจูงใจมากพอที่จะแก้แค้นนักบุญหญิงและราชอาณาจักรบริททานี่
อลิซาเบธพอนึกภาพออกเลยว่า ดันทาเลี่ยนโน้มน้าวเขาได้อย่างไร…….
“หัวหน้า, เราต้องระดมสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อตามหาตัวท่านนักบุญหญิง”
“รับทราบ”
“ที่นี่ย่อมต้องมีตัวแทนของรัฐบาลฟรานเคีย
สั่งคนของเจ้าออกตามตัว พวกนั้นมาหาเราด้วย”
ถึงตัวแทนของฟรานเคียเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าที่อลิซาเบธรู้ แต่อย่างน้อยก็อาจช่วยให้รู้ถึงแรงจูงใจเบื้องหลังของผู้ลงมือ
อลิซาเบธย่ำฝีเท้าอย่างเร่งรีบ
มีนักเวทย์บางส่วนคอยคุ้มครองดูแลสถานการณ์
เธอสั่งให้นักเวทย์พวกนั้นร่ายเวทย์ลมพายุพัดพาฝุ่นออกไป แล้วฉายแสดงให้ทุกคนมองเห็นกันทั่ว
“ขนาดมีคนออกคำสั่ง แกยังไม่ยอมคิดจะร่ายเวทย์อีกอย่างนั้นรึ!?”
“ขะ-ขอประทานอภัยครับ!”
“พวกฮีลเลอร์ให้ความสำคัญกับคนที่บาดเจ็บหนักก่อน!
ส่วนใครบาดเจ็บเล็กน้อยก็ใช้โพชั่นไปแทน!”
อลิซาเบธยังคงเสาะหาตัวนักบุญหญิงจนเธอพบกับบุคคลที่น่าจะเห็นนักบุญหญิงเป็นคนสุดท้าย
นักบุญหญิงอยู่ใต้ซากเพดานที่ถล่มลงมา
อลิซาเบธเอามือก่ายหน้าผากโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุดแล้ว
“เร็ว มาช่วยข้าเร็ว!”
มือทั้งสองของเธอนั้นห่อหุ้มด้วยออร่า และใช้มือคู่นั้นยกย้ายซากปรักหักพังออกด้วยตัวเอง เหล่ายามต่างวิ่งมาช่วยเหลือเธอ
เหล่านักเวทย์ค่อยๆใช้เวทย์ยกย้ายเศษตึกอาคารไว้ข้างๆ ขณะที่พวกทหารก็พยายามขนเศษเล็กเศษน้อยออกโดยไม่ทำให้ตึกถล่มลงไปมากกว่านี้
เผยให้เห็นศพกระจายไปทั่ว หัวโดนบดทับ ท้องฉีกขาด
มือและแขนของศพนั้นโดนเผาจนแห้งกรอบ
มันหมายถึง พวกเขาเผลอใช้แขนป้องกันตัวในจังหวะที่เวทย์กำลังระเบิด
เป็นข้อพิสูจน์ยืนยันได้ว่า ตรง จุดนี้เป็นศูนย์กลางของการระเบิด
“ท่านนักบุญหญิงอยู่ที่นี่!”
ยามคนหนึ่งตะโกนบอก
“ท่านนักบุญหญิงยังมีชีวิตอยู่!”
“จริงหรือ!?”
ในที่สุดอลิซาเบธก็เห็นประกายแสงแห่งความหวังท่ามกลางก้นบึงแห่งความสิ้นหวัง เธอวิ่งไปหาในทันทีเพื่อพิสูจน์คำพูดของยามคนนั้น
เธอจึงได้เห็นหญิงผู้มีเรือนผมสีส้มอยู่ท่ามกลางหินอ่อนกองใหญ่
“……อึก……อือ…….”
ดูเหมือนเธอจะยังไม่ได้สติ แต่สีหน้าของเธอถึงความเจ็บปวด
ถึงเธอจะยังมีชีวิตอยู่แต่ก็บาดเจ็บอย่างหนัก อลิซาเบธร่วมมือกับเหล่าทหารช่วยเหลือเธอออกมาจากซากตึก
สภาพของนักบุญหญิงนั้นน่าเวนามาก ทั่วทั้งร่างปกคลุมด้วยฝุ่นผง เสื้อผ้าของเธอนั้นโดนเผาด้วยแรงระเบิด เลือดยังคงไหลออกมาจากหน้าแข้งและตรงส่วนท่อง
นับเป็นปาฏิหารย์มากที่หัวของเธอไม่ได้การกระทบกระเทือนใด
“พวกนักเวทย์!”
ฮีลเลอร์สามคนรีบเข้ามาดูอาการนักบุญหญิง
“ซิเบอรั่มดีไหม?”
“โทษที ข้าใช้ไปหมดแล้วก่อนหน้านี้”
“ช่วยไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราต้องใช้ เจอมาซีเนีย แทน”
นักเวทย์รักษาใช้คำศัพท์เฉพาะที่เข้าใจกันในหมู่พวกตัวเองเพื่อทำการรักษา
อลิซาเบธอาจรู้จักเวทย์มนตร์โจมตีเป็นอย่างดี หากแต่เธอมีความรู้เวทย์มนตร์รักษาเพียงเล็กน้อย เธอจึงได้แต่เฝ้าดูอย่างตื่นเต้น
เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าใด แล้ว อาจเป็นชั่วโมง หรืออาจจะแค่ไม่ถึงนาที
นักเวทย์ที่เป็นผู้นำการรักษาเงยหน้ามาหาอลิซาเบธ
“ตอนนี้ อาการของท่านนักบุญหญิงทรงตัวแล้ว”
“โอ้ องค์เทพี!”
อลิซาเบธเกลียดศาสนา หากแต่ในช่วงเวลานั้นเอง
ตัวเธอเองกลับกลายเป็นผู้มีความศรัทธามากที่สุดในทวีป
“บาดแผลของท่านนักบุญไม่รุนแรงนัก ดูเหมือนชุดของเธอจะลดทอนความเสียหายไปได้เยอะ
สรุปได้ว่า ชุดที่ท่านนักบุญหญิงสวมมาในงานเลี้ยงวันนี้ช่วยให้เธอรอดชีวิต
เธอจึงไม่ค่อยบาดเจ็บจากแรงระเบิดสักเท่าไหร่”
สีหน้าของนักเวทย์กลับดูวิตก
“แต่มีแผลมีดแทงขนาดใหญ่ที่ท้องและต้นขา”
“แผลมีดแทง?”
“ดูเหมือนคนร้ายนั้นจะแทงเธอด้วยมีดก่อน
มีดที่หวังจะลอบฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย
คนร้ายนั้นแทงครั้งหนึ่งที่ท้องก่อนจะตามด้วยน่องขา ก่อนจะทำให้เวทย์ระเบิดขึ้นมา ผู้ร้ายทำด้วยความชำนาญเป็นอย่างมาก”
นักเวทย์ที่รู้ถึงเจตนาชั่วของผู้ก่อเหตุถึงกับเดาะลิ้นด้วยความดูถูก
“เจ้านั่นไม่คิดจะฆ่าเธอให้ตายด้วยการใช้มีดแทงครั้งเดียว
หากแต่ตั้งใจจะให้เธอเสียเลือดจนถึงตาย
แถมยังทำการระเบิดถล่มตัวอาคาร ทำให้เธอไม่สามารถหนีไปไหนได้…….
จากการตรวจสอบดูแล้ว ฉันเชื่อว่า บนใบมีดเองก็มีการเคลือบฉาบพิษไว้ ดังนั้นอย่าเพิ่งประมาท”
“หากท่านนักบุญหญิงได้สติขึ้นมา ข้าจะมอบทองร้อยโกลด์ให้เจ้าเอง”
ดวงตาของนักเวทย์ลุกวาว
“ฉันจะพยายามอย่างสุดกำลังความสามารถ ด้วยเกียรติและพลังเวทย์ของฉัน”
นักบุญหญิงถูกย้ายไปนอนพักรักษาตัวในสวน
เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงมากที่เพดานอาจถล่มลงมาอีกรอบ
อลิซาเบธยังคงอยู่ในห้องจัดเลี้ยงพร้อมกับเหล่ายามจนกว่าจะพบผู้บาดเจ็บรายสุดท้าย
ระหว่างการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เธอเกือบได้รับบาดเจ็บเสียเองจากเพดานที่ถล่มลงมา
หัวหน้ายามแนะนำว่าให้เธอออกไปก่อน แต่อลิซาเบธส่ายหัวปฏิเสธอย่างแข็งขัน
“นี่เป็นหน้าที่ผู้ปกครองที่จะช่วยผู้คน เจ้าไม่อาจเรียกใครว่าเป็นผู้ปกครองได้ หากคนๆนั้นเบือนหน้าหนีจากหายนะที่อยู่ตรงหน้า”
เมื่อได้ฟังดังนั้นทหารบัทตาเวียก็ซาบซึ้งและปฏิบัติการช่วยเหลือคนเจ็บด้วยความยินดี
การให้ความช่วยเหลือนั้นสิ้นสุดลงยามที่พบศพสุดท้าย
จำนวนผู้มาร่วมทั้งหมด มี บาดเจ็บเล็กน้อย 27 ราย บาดเจ็บหนัก 14 ราย และเสียชีวิต 4 ราย
ผู้ที่บาดเจ็บหนักหากได้รับการรักษาทันท่วงทีก็จะรอดมาได้
นักบุญหญิงก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น พออลิซาเบธออกจากห้องจัดงานเลี้ยงแล้ว ผู้รอดชีวิตก็ชมเชยสุดยอดนักปกครอง
แม้จะเผชิญกับการก่อการร้ายที่ไม่คาดฝัน แต่อลิซาเบธเองก็ยังสามารถจัดการกับสถานการณ์ได้
เธอได้สร้างความประทับใจต่อตัวแทนทุกชาติ และตั้งใจที่จะทำลายแผนการชั่วร้ายของดันทาเลี่ยนด้วยการช่วยชีวิตนักบุญหญิง
“รายงานผู้บาดเจ็บหนักและผู้เสียชีวิตมา”
“ครับ ข้าจะขอรายงานผู้ที่บาดเจ็บหนัก
บารอน ไฮเซนเบิร์ก แห่งราชอาณาจักรทิวทัน, ไว้ส์เค้าท์โฮเดล จาก ราชอาณาจักรแคสทิล…….”
อัศวินคนหนึ่งได้บันทึกรายชื่อไว้ก่อนแล้วจึงเพียงแค่ไล่อ่านตามรายชื่อ
หลังจากอ่านรายชื่อผู้บาดเจ็บไปแล้วสิบสามราย ก็ถึงชื่อผู้บาดเจ็บรายสุดท้าย
“……เค้าท์พาลาทีน ดันทาเลี่ยน แห่ง จักรวรรดิฮับบวร์”
ดวงตาของอลิซาเบธเบิกกว้าง
“ทั้งหมดเป็นรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บหนักครับ”
MANGA DISCUSSION