* * *
นี่นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ราตรีวัลเพอกีสที่ผมได้พบกับจอมมารตนอื่นอย่างนี้
พอมาคิดดูแล้ว นี่ก็ผ่านมาครึ่งปีนับตั้งแต่การพิจารณาคดี ในตอนนั้นเอง ผมอยู่ในตำแหน่งจำเลย ไพมอนพยายามคิดบัญชีที่ผมฆ่าจอมมารลำดับ 72 อันโดรมาลิอุส
…….แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับกัน กลายเป็นตาผมบ้างที่จะคิดบัญชีกับความผิดของเธอ สิ่งนี้เป็นเหมือนการประชดแดกดันกัน ชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้แหละ
จุดศูนย์กลางของกองกำลัง มีเต๊นท์ทำจากผ้าไหมวางตั้งตรงกลางเป็นชั้นๆ มีหนุ่มสาวหลากเพศเปลือกกายต้อนรับแขก พวกเราถูกเชื้อเชิญด้วยสายตา
บาร์บาเท้าเฝ้าดูร่างกายของผู้หญิง―ก็อย่างที่รู้กันนั่นแหละ แม่นี่เป็นเลสเบี้ยน เธอเลยฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี
“หืมม ทีแรกข้าคิดว่า จะต้อนรับกันแบบง่ายๆเสียอีก จัดเต็มกันเลยนี่”
มีมากมายหลายเผ่า ซัคคิวบิ และอินคิวบิเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ด้วยเช่นกัน ต้องมีอยู่แล้ว
ถึงอย่างนั้นมนุษย์เสือ มนุษย์แมวเองที่ปกติจะอยู่ตำแหน่งสูงๆในสังคมปีศาจก็ยังมีด้วย ถ้าให้เทียบกับระบบชนชั้นวรรณะ*ของอินเดีย พวกนี้ก็อยู่ในตำแหน่ง พราหมณ์นั่นแหละ
“พวกเราจะทำทางท่านเอง”
เมื่อพวกเรามาอยู่ที่ทางเข้า เด็กสาว 6 คนก็มาหมอบกราบอยู่ตรงหน้าเรา ก้นสีขาวฉายระยับกับแดด ความจริงที่ว่าเด็กสาวพวกนั้นถูกจัดมาตรงตามรสนิยมบาร์บาทอสนั้น ทำให้เธอดูพออกพอใจเป็นอย่างมาก
“ตาแก่มาร์บาสก็รู้ดีนี่ว่า สมควรจะรับแขกยังไง”
“คุ แต่นี่ไม่สิ้นเปลืองไปหน่อยรึ”
เด็กสาวสองคนต้อนรับดูแลผมอย่างดี พวกเขาถอดเสื้อผ้าผมออกขณะที่เช็กดูว่ามีอาวุธไหม พร้อมกับนวดร่างของผมด้วยสมุนไพร
พวกเขาใส่ชุดคล้ายๆชุดโทกา ที่เห็นทั่วไปในยุคกรีกโบราณ เครื่องแต่งกายที่ว่านั่นจะเปิดเผยอกและต้นขา
ผู้มีเสน่ห์ดึงดูดทั้งหลายที่ผมไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่า จะปฏิบัติรับใช้ผมดีเป็นอย่างมาก ตำแหน่งทางสังคมที่สูงส่งเสียดฟ้านั้นย่อมตรงคู่ควรต่อจอมมารเป็นปกติอยู่แล้ว
……นี่คงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ้าอันโดรมาลิอุสนั้นกลายเป็นคนยโสวางโตเหลือเกิน
“อะไรน่ะ? นี่แกไม่ชอบความหรูหราเรอะ?”
บาร์บาทอสวิจารณ์ขึ้นมา เธอเพลิดเพลินมาก พร้อมกับเล่นใบหูของสาวหูแมว วหูแมวนั้นรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้สัมผัสจากจอมมารจนเธอแก้มแดงขึ้นมา
เธออาจไม่รู้ตัวหรอกว่า ท่าทางใสซื่อแบบนั้นมันจุดไฟซาดิสม์ของบาร์บาทอสให้ลุกโชนขึ้น น่าสงสารเหลือเกิน
เหมือนผมกำลังดูหญิงรวยๆกำลังเล่นกับนักธุรกิจสาวมือใหม่
ไม่สิ มันเป็นปัญหาจริงๆเพราะทั้งบาร์บาทอสกับสาวหูแมวคนนั้นน่ะดูเหมือนเพื่อนกำลังเล่นกันอยู่จากสายตาคนภายนอก
“ข้าไม่รู้ ข้าไม่เคยชินกับเรื่องพวกนี้”
“จากมุมมองข้านะ แกนี่ไม่ค่อยเหมือนจอมมารเลยว่ะ ทั้งในแง่ดีและแง่ไม่ดี”
เห็นกันชัดๆอยู่แล้วแหละ
ผมต้องพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเพื่อเอาชีวิตรอด แต่นั่นไม่ใช่นิสัยของผมหรอก ผมรู้สึกเหนื่อยที่ต้องพูดอย่างไม่เป็นทางการตลอดเวลา บางทีผมจึงจงใจพูดกับลอร่าแบบเป็นทางการบ้าง
มันเป็นความจริงอันน่าประหลาด กับการที่มีคนพยายามปฏิบัติกับผมอย่างนอบน้อมนับถือเป็นอันมากกลับสร้างความเครียดหนักเกินกว่าใครจะคาดได้
พวกเราตามคนนำทางผู้ทรงเสน่ห์ไปยังเต๊นท์ผ้า เต๊นท์มีเสียงพึ่บพั่บไปตามสายลมและแสงแดดที่ฉายลงมา
พอพวกเรามาถึงพื้นที่เปิดกว้าง พวกเราก็เห็นชั้นของผ้ามากมายที่ซ้อนกันกลายเป็นเหมือนเขาวงกต พวกเรามาถึงศูนย์กลางของเต๊นส์
“แหมที่รัก นั่นใครน่ะ? ไม่เจอกันนานเลยนะ~”
มีใครบางคนมาถึงก่อนเรา เธอเป็นผู้หญิง ที่กำลังทอดตัวนอนบนเตียง เธอใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยหน้าอกของเธอจึงเผยออกมาให้เห็นเต็มที่
สาบานต่อพระเจ้าเลย นี่เป็นหน้าอกที่บิ๊กเบิ้มที่สุดนับตั้งแต่ผมเห็นมาในโลกใบนี้
มันมหึมาจนแทบจะทะลักออกมาแล้ว G คัพ ไม่สิๆ H คัพเหรอ? ผมเดาขนาดไม่ถูกเลย เธอเป็นจอมมารที่มีฐานแฟนส่วนตัวในหมู่ผู้เล่น<Dungeon Attack> ลำดับ 4 กามิกิน ( Rank 4 Gamigin)
ผู้หญิงที่งดงามและมีผมสีบลอนด์นั้นกำลังกินองุ่นอยู่ เธอไม่ได้กินด้วยมือตัวเองหรอก แต่มีพ่อบ้านผมขาวกำลังป้อนอยู่ข้างๆ กามิกินนั้นกินองุ่นหลังจากที่พ่อบ้านลอกเปลือกองุ่นให้แล้ว องุ่นนั้นกลิ้งอยู่บนลิ้นสีแดงของเธอ มันเป็นภาพที่รัญจวนใจจริงๆ
บาร์บาทอสหัวเราะหึออกมา
“งั้นเธอก็นอนอยู่นี่ตลอดเลยสินะ ห้ะ? เพลินดีใช่ไหมล่ะ?”
“นี่มันสุดยอดไปเลยยยยยย~ ว่ากันตามตรงนะไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ขนาดนี้ ข้ายังแอบคิดเลยว่า จะน่าเบื่อหรือเต็มไปด้วยความเลือดพล่านกันน้าาาา
แต่โอ้วหวาาาา
ข้าประหลาดใจจริงนะ การต้อนรับนี่มันช่างยอดเยี่ยมมมม”
“โอย หัวจะปวดว่ะ จากน้ำเสียงของแกเนี่ย แกคงกำลังจะเป็นบ้าแล้วล่ะ”
“คิดซะว่า นี่เป็นสิทธิพิเศษของผู้มาถึงก่อนก็แล้วกันนน~”
พวกเรานั่งบนเตียงที่พวกเขาจัดเตรียมไว้ให้ มีผู้ต้อนรับไม่กี่คนเข้ามาใกล้ๆแล้วเริ่มล้างเท้าเปล่าให้กับบาร์บาทอสและผม ช่องเล็บนิ้วเท้ารู้สึกเย็นสบาย พอเสร็จแล้วพวกเขาก็เอาเหล้าหอมๆมาให้
เพลงดนตรีบรรเลงจากอีกฝั่งของผ้าม่าน นักดนตรีประโคมดนตรีรอบเต๊นท์แห่งนี้เสียงฟลุทชวนให้ผมรู้สึกจั้กจี้
ชายหญิงผู้มีเสน่ห์,เหล้าระดับสูง รวมถึงดนตรีไพเราะ ทำให้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเจตนาร้ายหายไปแล้วกลายเป็นบรรยากาศที่แสนอบอุ่นและอ่อนนุ่ม
น่าประทับใจเหลือเกิน ผมแน่ใจว่า นี่เป็นสิ่งที่จอมมารบาร์มาส เรียกสิ่งนี้ว่าประชุม เขาได้จัดแจงวางแผนรายละเอียดไว้ดีมาก
“แต่สุภาพบุรุษท่านนั้นน่ะเป็นใครกันเหรอ? ข้าจำเขาไม่ได้เลย”
“ท่านจอมมารผู้มีผมบลอนด์ครับ ข้าคือ ลำดับ 71 ดันทาเลี่ยน”
“อ๋ออออ!”
กามิกินดึงตัวเองขึ้นจากเตียง
“ดังนั้น นายเองสิน้า ดันทาเลี่ยน! ว้าววว ข้านึกภาพว่า จะเป็นตาแก่ชั่วร้ายที่ดูเน่าเฟะเสียอีก แต่นายดูเด็กกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก”
ผมฝืนยิ้มที่มุมปาก นี่เธอเรียกใครว่า ชั่วร้ายและเน่าเฟะกันห้ะ? ผมตระหนักถึงเรื่องนั้นได้อีกครั้ง ไม่มีใครจะบริสุทธิ์เท่าผมอีกแล้ว
“อ้าาา! อย่ากังวล อย่ากังวล! ข้าชอบตาแก่ชั่วร้ายและเน่าเฟะน่ะ! ถ้าข้าโดนตั้มแรงๆจากคนขยะแบบนั้น ข้าก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นขยะก็ไม่ผปาน ซึ่งมันให้ความรู้สึกดีจนจะทนไม่ไหวเลยล่ะ แบบนั้นมันทำให้ข้าตื่นเต้นสุดๆ!”
“…….”
แค่ชั่วพริบตา ผมก็ไม่รู้ว่า ควรจะรับมันไว้ในฐานะคำชมดีไหม บาร์บาทอสที่นอนเตียงข้างผมก็พูดมาด้วยเสียงเรียบๆ
“แม่นี่เป็นมาโซคิสม์น่ะ”
ซาดิสม์บาร์บาทอส กับ มาโซคิสม์กามิกิน
เฮ่อ พวกจอมมารนี่มีบุคลิกภาพหลากหลายดีนะ
ผมไม่สนใจหรอกว่า พวกเขาจะเอนจอยชีวิตส่วนตัวกันยังไงแต่อยู่ๆมาถึงก็พูดเรื่องรสนิยมทางเพศใส่หน้าตั้งแต่เจอกันครั้งแรกนี่ ผมไม่รู้ว่า ควรจะตอบกลับยังไงดีเลยล่ะ
อาจจะเป็นแบบนี้รึเปล่า? พวกโรคจิตแอบถ้ำมองประเภทหนึ่ง? หรือเธอรู้สึกพอใจดีใจที่ได้เปิดเผยรสนิยมตัวเองกันนะ?
เธอนี่ช่างลามกเกินจินตนาการใครๆอย่างแท้จริง……. ผมอดไม่ได้ที่จะเรียกตัวเองว่า เป็นผู้บริสุทธิ์เหนือกว่าบรรดาจอมมารอย่างไร้เหตุผล
“หืมมม น่าสนใจดีนี่ เฮ่นี่ ขอข้าคุยกับเจ้าแบบสบายๆได้ไหม?”
“แน่นอนครับ”
“อืมหืม อืมหืมม ตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว ขอถามแบบตรงๆเลยนะ?”
แค่เพียงพูดแบบไม่เป็นทางการก็ทำให้เป็นเพื่อนกันได้แล้วเหรอ? ช่างเป็นแนวคิดที่เรียบง่ายอะไรเช่นนี้ ผมยิ้มให้อย่างขมขื่นเล็กๆ กามิกินยังคงรักษาความร่าเริงเบิกบานไว้
“ข้าฆ่าไพมอนได้ไหม?”
“…….”
ผมควรจะตอบกลับไปยังไงล่ะเนี่ย?
แม่นี่พูดตรงชะมัด
ผมยังคงเงียบอยู่ทั้งที่ยังมีรอยยิ้มค้างบนใบหน้า กามิกินยังคงพูดต่ออย่างตื่นเต้น
“จริงๆ ข้าน่ะอยากฆ่าไพมอนมาน้านานมาแล้วน้าาา! ข้าล่ะเกลียดเรื่องที่นางลากจอมมารส่วนมากไปอยู่ฝ่ายเธอ
ยิ่งกว่านั้นแม่นั่นน่ะพยายามบอกว่า ความยุติธรรมในสังคมปีศาจต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างเน้~
เอาจริงๆเลยนะ ถ้าฆ่าไพมอนได้ ข้าจะต้องโดนตะคอกหนัก หนักมากแน่ๆ แต่ข้าจะพยายามอดทน”
เธอยิ้มแฉ่งจนเห็นฟัน
“ดังนั้นจะฆ่าเธอตอนนี้ก็โอเค ใช่ไหม?”
“…….”
“นี่ๆ ข้าจะบอกความลับเรื่องนึงกับเจ้าสองคน”
กามิกินเอามือขวาป้องปากแล้วกระซิบ ทำอย่างกับว่า ทำแบบนั้นแล้วคนรับใช้รอบๆเราจะไม่ได้ยินอย่างงั้นแหละ!
“ตอนนี้น้า มีไวเวิร์น 300 ตัว บินอยู่เหนือหัวเราพันเมตรแหละน้าา~ ถ้าข้าสั่งปุ๊บ มันก็บินลงมา ซู่ววววว ปั๊บเลย!
เหะเหะ พวกมันน่ารักสุดๆไปเลย แต่ก็เป็นเด็กน้อยที่แข็งแกร่งมากด้วย ถ้ารวมกำลังกันหมด ข้าว่าพวกเราฆ่าไพมอนได้แน่นอน!”
ความเย็นยะเยือนแล่นผ่านไขสันหลัง ไวเวิร์นนับร้อยตัวนั้นถือว่าเป็นมอนสเตอร์แร๊ง A ผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูมีความสุขกับการต้อนรับแบบสันติแถมยังเพลิดเพลินกับมันด้วย อยู่ๆก็เปิดเผยว่า เธอนั้นได้วางกับดักคร่าชีวิตไว้แล้ว
…….ช่างเป็นนางร้ายจอมหลอกลวงเสียนี่กระไร
ไม่สิ เธออาจจะแค่มั่นใจในกำลังของตน
เธอคงมั่นใจสุดๆแล้วว่า สามารถฆ่าลำดับ 9 ไพมอน ได้โดยง่าย เธอจึงมีสิทธิพูดถึงความเป็นความตายของใครสักคนได้อย่างสบายๆ นั่นแหละเหตุผล
ผมจึงรักษาสีหน้าตัวเองแล้วพูดอย่างระวัง
“ฝ่ายภูเขานั้นเป็นฝ่ายใหญ่ที่สุดในกองกำลังทัพจอมมาร หากท่านไปป่วนพวกเขาโดยไม่ระวัง ท่านจะไม่ได้อะไรเลยนะครับ ท่านกามิกิน”
“หืมม ? ข้าไม่เข้าใจเลย ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอหากจะกระทืบใครสักคน ถ้าได้รับความชอบธรรมที่จะทำแบบนั้นแล้วน่ะ?”
กามิกินผู้มีผมสีบลอนด์กลับส่ายหัวของเธอราวกับเธอไม่เข้าใจมันจริงๆ
“ไม่ใช่แค่ไพมอนหรอกที่ทำตัวเหมือนจักรพรรดินีในฝ่ายภูเขา รวมถึงสิตริ แล้วก็มีอีก ห้า หรือหกคนที่สาบานตนจงรักภักดีกับหล่อนด้วย ข้ามีพลังมากพอที่จะขยี้มันเขาได้หมดเลย! ข้าไม่ได้โม้นะ แต่ข้าเนี่ยแข็งแกร่งจริงๆ!”
“…….”
“ถ้าพวกเราเอาหัวของไพมอนกับพวกเขามาได้ พวกที่เหลือก็จะเข้ากับฝ่ายเรา แต่ถ้าไม่เข้ากับฝ่ายเรา ก็กำจัดพวกเขาต่อด้วย ฮี่ฮี่”
ผมไม่อาจตอบอะไรเธอได้เลย
หลังจากนั้นไม่นานแขกคนอื่นๆก็ไหลเข้ามา ลำดับ 3 เวสซาโก้ ลำดับ 2 อกาเรส ลำดับ 10 บูเออร์ และเจ้าภาพงานประชุมนี้ ลำดับ 5 มาร์บาส
หากพวกเขาไม่ได้ทักทายกันตามปกติอย่างสุภาพก็จะแสดงความเกลียดชังใส่กันทันที แต่ถึงอย่างนั้นการที่มาร์บาสยืนเป็นคนคุมงาน บรรยากาศก็ผ่อนคลายลง
และสุดท้าย ลำดับ 9 ไพมอนก็มา
เธอมาพร้อมกับผู้ช่วยของเธอ ลำดับ 12 สิตริ ไพมอนทักทายเป็นกันเองกับจอมมารอื่นๆ แต่เธอก็ยังคงเงียบอยู่ตลอด
ดวงตาของเราประสานกัน พวกเราทักทายกันด้วยสายตา มันมีความสลับซับซ้อนเบื้องหลังตาคู่นั้นของไพมอน เธอจะรู้สึกว่า มันเหมือนเยาะเย้ยกันไหมนะเมื่อเธอย้อนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงราตรีวัลเพอกีส?
“โว้ว อีดอกนั่นมาจากไหนกัน?”
บาร์บาทอสพูดขึ้นมาอย่างสบายใจ
“ไพมอน ยินดีที่ได้พบเจ้านะ คงรู้ใช่ไหม? เคะเคะ”
“…….”
“เฮ่ อย่างน้อยก็รู้จักยางอายนี่ ที่รู้จักหุบปากเงียบปาก นี่ถ้ารู้จักรักษาซิงได้แบบนั้น ก็ไม่โดนเรียกว่าอีแพศยาหรอก ใช่ไหม นังกะหรี่แพศยา?”
“หุบปากซะ แกกำลังพูดหยาบคาย”
ลำดับ 12 สิตริเป็นผู้ตอบแทนไพมอนขึ้นแทน ในเกมแล้วเธอเป็นผู้มีความสัมพันธ์เป็นดั่งน้องสาวของไพมอน ดูเหมือนที่นี่ก็ไม่ต่างกันด้วย
บาร์บาทอสมองไปที่สิตริ
“แกต่างหากสมควรหุบปาก อีกะหรี่ที่พ่นอะไรไร้สมองออกมา ไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แกอยู่ตรงนี้รึไงห้ะ? คิดว่า มานี่แล้วเราจะจบลงด้วยการประนีประนอมอย่างเป็นสุขเหรอ? ข้ามาที่นี่เพื่อกระทืบไอ้ระยำฝ่ายภูเขาอย่างพวกแก อีแมลงไบเซ็กช่วยเอ๊ย”
“ฮ่า ? คิดว่า เราจะแพ้ง่ายๆแบบแกรึไง?”
สิตริเย้ยหยัน
“พวกเราสามารถกำจัดพวกคนอ่อนแอจากฝ่ายที่ราบเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ บาร์บาทอส ข้าได้ยินว่า ไม่กี่วันก่อนแกร้องไห้เหมือนเด็กๆเลยนี่?
นี่แกสติแตกไปเพราะร้องไห้เพียงครั้งเดียวรึไง? คิดว่าเจ้าจัดการข้าได้รึไง? ”
“เคะเคะ ก็พูดได้สมเป็นไอ้ระยำที่รู้จักแต่ทรยศพวกเดียวกันดี”
บาร์บาทอสมองอย่างเย็นชาด้วยดวงตาสีทอง
“เอาล่ะ ข้าจะสู้กับเจ้าก็ได้ ข้าจะตัดหำเจ้าแล้วกระแทกมันเข้าปากนังกะหรี่แพศยาไพมอนด้วยความยินดี ไม่ดีเหรอที่จะได้ทำโบลวจ๊อบหลังจากตายไปแล้วได้ด้วยน่ะ?”
“อีนี่หนิ……!”
มาร์บาสนั้นถอนใจออกมาขณะที่ยืนอยู่ระหว่างทั้งสอง
“เจ้าทั้งสองไม่เคยทำอะไรเกินที่ข้าหวังไว้จริงๆ
ข้าหวังเสมอว่า วันหนึ่งพวกเจ้าจะทำกันได้
แต่เหมือนมันเปล่าประโยชน์จริงๆ น่าจะคิดดูบ้างว่าทำไม ฝ่ายที่ราบกับฝ่ายภูเขาถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน? รู้ควบคุมตัวเองบ้าง”
“ไม่อะ ข้าจะไม่คุมตัวเองต่อไปแล้ว”
บาร์บาทอสพูดขึ้น
“ตาแก่มาร์บาส ข้านับถือทัศนคติของท่าน แต่สิ่งที่ข้าพยายามจะบอกคือ ข้าจะไม่นั่งอยู่เฉยๆแล้วแกล้งทำเป็นดีกับนังกะหรี่ไพมอน
หากข้าทำแบบนั้นที่นี่ ข้าก็ยอมรับความพ่ายแพ้แล้วไม่ใช่รึไง?
ไม่มีวันเสียหรอก ข้าไม่ได้ตั้งใจจะเป็นเช่นนั้น”
บาร์บาทอสลุกขึ้นจากเตียงตัวเอง เธอชี้นิ้วไปที่ไพมอน และประกาศขึ้นมา
“งานเลี้ยงหรืออะไรก็ตามแต่ ทีหลังได้
แต่ตัวข้า อันดับ 8 บาร์บาทอส ต้องการกล่าวโทษลำดับ 9 ไพมอน ในฐานะผู้ทรยศผู้เผ่าพันธุ์ ข้าขอเรียกร้องการพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการ!!”
—–
*ระบบวรรณะของอินเดีย แบ่งออก เป็น 4 วรรณะคร่าวๆ
กษัตริย์ – ราชา นักปกครอง ผู้ที่เป็นแม่ทัพรบเพื่อปกป้องดินแดน สั่งลงโทษทัณฑ์
พราหมณ์ – ครูบาอาจารย์ ผู้ถ่ายทอดวิทยาการ ผู้จัดพิธีต่างๆ เป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสารกับเทพเจ้าทั้งหลาย
แพศย์ – พ่อค้าวาณิช
ศูทร์ – ผู้ใช้แรงงาน กรรมกร
MANGA DISCUSSION