ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า แนวหน้าทั้งแนวเราทำได้ดีในตำแหน่งหน้าที่ของตน
ผมอาจสนุกกับการใช้เดธไน้ท์ของตัวเองแต่จอมมารตนอื่นไม่มีเดธไน้ท์อยู่ในมือ พวกเขาจึงต้องรับการจู่โจมของอัศวินจากกองทัพจักรวรรดิ
พวกเขาพยายามโต้กลับอัศวินด้วยนักรบมนุษย์สัตว์และนักรบมนุษย์กิ้งก่า แต่พวกมันก็อ่อนแอกว่าอัศวินอย่างเห็นได้ชัด
ข่าวร้ายนั้นมาจากสไลม์ส่งข่าว บางส่วนของแนวป้องกันฝ่ายเราแตกแล้ว!
นายพลเซปาร์ส่งออเกอร์ไปยังจุดที่แตกนั้นในทันที แต่พื้นที่ฝั่งปีกขวาก็ค่อยๆพังทลายลงเหมือนโดมิโน่
แนวป้องกันแรกทำได้ดีจนกระทั่งตอนนี้พังครืนลงอย่างรวดเร็ว พลหอกที่เสียตำแหน่งของตัวเองไปก็ไม่ต่างจากของว่างของเหล่าอัศวิน
ผมมองไม่เห็นชัดนักจากจุดที่ผมยืนอยู่แต่ผมแน่ใจเลยว่า พลหอกออร์คจะถูกดาบเคลือบออร่าฟันอยู่
– ถอยกลับมาแนวที่สอง ทหารทุกนาย ถอยกลับมายังแนวป้องกันที่สอง
นายพลเซปาร์ตัดสินใจรวดเร็ว พลหอกออร์คนั้นถอยหลังออกมาพร้อมกัน
การถอยหลังให้เป็นจังหวะเดียวกันขณะหนีทีละก้าวในเวลาแบบนี้ไม่ใช่ของง่าย หน่วยที่ประกอบด้วยออร์คจำนวนมากมายทำงานสอดประสานกัน
หลังจากนั้นพวกเราก็สูญเสียออร์คไปจำนวนมากในช่วงนี้นี่เอง
– รีบเข้า! ยังมีหน่วยที่ยังไม่หนีออกมาใช่ไหม? ข้าขอย้ำอีกครั้ง หากมีหน่วยใดที่ยังหนีออกมาไม่ทัน จะถูกทิ้งในทันที
ไม่นานนัก ออร์คทื่มาจากแนวป้องกันแรกก็ได้เข้าร่วมกับออร์คในแนวป้องกันที่สอง ใช้เวลา 5 นาทีกว่าที่จะถอยหลังกลับมาในระยะ 20 เมตร หากเทียบกับการถอยหลัง 5 เมตร ในเวลาหนึ่งชั่วโมง นี่ก็ถือว่า เร็วสุดๆแล้วนะ
“ไอ้ออร์คระยำนั่นมันกำลังหนี!”
“ไล่ตูดมันไป หนุ่มๆ! บุกไปอีกนิดเดียว ชัยชนะจะเป็นของพวกเราแล้ว!”
กำลังใจของทหารจักรวรรดิพุ่งสูงขึ้นมาก ทหารระดับล่างไม่ยอมปล่อยให้พลหอกออร์คได้พักจึงสั่งการให้เดินหน้าบุกต่อไป
พวกเขาส่วนใหญ่เชื่อว่า สามารถคว้าโมเมนตัมของสนามรับได้แล้ว ในสงครามนั้น หากคุณคว้าโอกาสได้ในทันทีก็แทบจะชนะได้เลย พวกเขาเชื่อว่านี่เป็นโอกาสนั้น อัศวินจักรวรรดิและพลหอกไล่ตามพวกเราอย่างดื้อด้าน
ตอนนั้นเองที่นายพลเซปาร์ตะโกนขึ้น
– หน่วยนักเวทย์ ,โจมตี!
นักเวทย์ทั้งหลายที่ก่อนหน้าเคยร่ายเวทย์สนับสนุน ตอนนี้เปลี่ยนอุปกรณ์ นักเวทย์ 10 นาย ในแนวหลังร่ายเวทย์ไฟพร้อมกัน ไฟบอลลอยสูงเหนืออัศวินจักรวรรดิและคกลง 30 เมตรหลังพวกเขา เปลวไฟก็ปะทุขึ้น
ไฟนั้นไปติดตรงที่รั้วไม้ที่พวกเราได้วางไว้ มีกองหญ้าแห้งมากมายสุมกันอยู่เหมือนเป็นแนวป้องกัน แต่ความจริงเราพวกเราได้ราดน้ำมันใส่รั้วไม้และใช้ฟางแห้งมัดเป็นก้อน
แน่นอนว่า ข้างในก้อนฟางแห้งพวกนั้นก็มีน้ำมันด้วยเช่นกัน
พอบอลไฟตกใส่ เปลวเพลิงก็ขยายกว้างในชั่วพริบตา นายพลเซปาร์เก็บไพ่ใบสำคัญที่ชื่อว่า นักเวทย์ไว้ใช้ ณ ช่วงเวลานี้
กองเพลิงได้แผ่ขยายและสร้างกำแพงในแนวระนาบที่กว้างใหญ่มาก กองทัพทหารจักรวรรดินั้นถูกแยกออกด้วยไฟ
เหล่าทหารที่หัวไหวมีไหวพริบก็รีบถอยออกก่อนที่ไฟจะกองโตไปมากกว่านี้ แต่ก็เช่นเดียวกับที่พลหอกออร์คของเรากำลังหนีนั่นแหละ
พวกทหารหอกของจักรวรรดิไม่สามารถหนีได้สะดวกเช่นกัน พวกเขาไม่อาจทำตามใจชอบได้ แต่ต้องไปเป็นกลุ่ม
หลังจากนั้นสุดท้ายแล้ว ทหารจักรวรรดิทั้งหลายที่เคยตามกัดเราเหมือนหมาบ้าก็ติดอยู่ในวงล้อมเพลิง
เห็นได้ชัดว่า พวกเขากำลังตื่นตระหนก ที่ต้องสู้โดยหลังชิดทะเล ถูกแล้ว…… ทะเลเพลิงน่ะ
มอนสเตอร์ทำตัวเหมือนฝูงหมาที่ไม่ปล่อยโอกาสทองนี้หลุดลอยไป พวกมันกดดันทหารจักรวรรดิอย่างรุนแรง
พลทหารออร์คนั้นใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานั้นบุกเข้าไป และก็อบลินเองก็โผล่มาระหว่างขาของออร์ค
―ก็อบลินนั้นตัวเตี้ยพอที่จะวนรอบหอกได้ตามที่ต้องการ และเฉือนหัวเข่าของทหารจักรวรรดิ
อัศวินจักรวรรดิสู้อย่างสิ้นหวัง แต่นั่นก็เป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้
พวกเขาไม่สามารถใช้ออร่าได้เป็นระยะเวลานานๆ พวกเขาจึงต้องสลับกับทหารที่อยู่ข้างหลัง หรือไม่ก็ระเบิดพลังออกมาชั่วระยะเวลาสั้นๆ อย่างเช่นตอนที่ทหารม้าจะชาร์จเข้าไป
แต่ถึงอย่างนั้นทางเลือกก็ถูกปิดตายลงเมื่อเขาติดอยู่ในกำแพงไฟ พวกเขาเร่งใช้ออร่าของตัวเอง
แล้วเมื่อพยายามวิ่งฝ่าออกไปก็เจอฝูงมอนสเตอร์ที่ล้อมไว้เหมือนปลาปิรันย่า อัศวินจึงล้มลงทีละคน ทีละคน
“อุ-อ๊ากกกกก!”
รูปขบวนของพลหอกของจักรวรรดิพังทลายลงราบคาบ กำลังใจดิ่งลงฮวบฮาบ อัศวินที่ตกม้าต้องเผชอิญหน้ากับความตาย และแนวหลังก็ถูกไฟครอก
ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถทนสถานการณ์เช่นนี้ได้ไหวหรอก
ทหารจักรวรรดินั้นทิ้งตำแหน่งของตนแล้วพยายามที่จะพุ่งเข้าไปอย่างสิ้นหวัง หรือไม่ก็กระโจรเข้าไปในเพลิงเพื่อพยายามเอาชีวิตรอด
ผลลัพธ์จึงชัดเจนว่า หากพวกเขาไม่ถูกหอกพวกเราเสียบตาย ก็ต้องกลายเป็นเนื้อย่างบาร์บีคิวในกองเพลิง บางคนก็ไม่ทำทั้งสองอย่างนั้นแล้วโหยหวยร้องหาแม่ ในที่นั่นแทน
……พลหอกทั้งหลายหมดประโยชน์แล้ว พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าอย่างไม่มีการละเว้น
“น่าสยดสยองนัก…….”
ลอร่าพูดซ้ำด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ
“พันหนึ่ง เหรอ? ไม่สิ น่าจะเกือบสองพันนายที่ตายลงไป”
เปลงไฟปะทุแรงขึ้น ความร้อนแผ่มาหาแม้พวกเราจะห่างไปหลายสิบเมตร เมื่อพวกเราตั้งค่าย
พวกเราก็ได้กำจัดวัชพืชทั้งหลายที่อยู่ระหว่าง แนวป้องกันแรกกับแนวป้องกันที่สองจนหมด เพื่อให้ทิศทางของไฟนั้นวิ่งไปทางทหารจักรวรรดิ ไม่ใช่ทางเรา
มันยากที่ไฟจะใหญ่โตไปกว่านี้เนื่องจากหมอกที่หนาและน้ำค้างบนใบไม้
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ใหญ่พอที่จะให้นักเวทย์กองทัพจักรวรรดิใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าจะดับได้หมด
เหมือนเช่นที่พวกเราทำในแนวป้องกันแรก พวกเราตั้งเสาไม้จำนวนมาก ในขณะที่ทหารจักรวรรดินั้นล่าถอย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราจัดทัพพลหอกใหม่เนื่องจากกองทัพของเราไม่เป็นระเบียบนักในช่วงถอยทัพ
ในแง่นี้ จอมมารนั้นได้เปรียบฝ่ายมนุษย์แน่นอน ในฝั่งเรา จอมมารก็แค่พูดออกมาว่า
‘เจ้าพวกมอนสเตอร์ จงมารวมกันทีนี่!’
แค่นั้นก็จัดระเบียบเรียบร้อยในทันที
พวกเราออกไปไกลอีกหน่อยเพื่อให้ทหารของเราได้กิน การกินไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องที่ง่ายด้วย
มอนสเตอร์ก็แค่เดินออกไป แล้วก็ฉีกทึ้งศพมนุษย์ที่กระจายอยู่ตรงหน้าพวกมัน
หนึ่งในออเกอร์นั้นตัดสินใจทำให้อาหารมีรสดีขึ้นหน่อยด้วยการปรุงศพด้วยไฟ ผมไม่แน่ใจว่า มันไปได้มาจากไหนนะ แต่คงจะเป็นร่างที่ถูกเสียบไว้กับหอกเหมือนไม้เสียบลูกชิ้น
ลอร่ากับผมนั้นพูดไม่ออกขณะที่เฝ้าดูพวกมัน ผมควรจะพูดอะไรล่ะ? มันให้ความรู้สึกแบบยุคกลางสุดๆ…….
เราได้รับข่าวจากฟามิลาร์สอดแนมของเราว่า ทหารจักรวรรดินั้นได้ล่าถอยไปไกลแล้ว และรถยิงหินก็หยุดยิงด้วยเช่นกัน
มันคงจะเป็นอะไรที่โง่มากหายบุกเข้ามายิงหินทั้งที่ไฟยังไม่สงบดี
รถยิงหินจึงยุติการยิงชั่วคราว
ไว้Ο
* * *
Ο
“เจ้าโง่ไร้ความสามารถนี่!”
พอมกุฏราชกุมารรูดอล์ฟได้รับรายงานจากว่า ทหารจักรวรรดิล้มเหลวในการทำลายปีกขวาของกองทัพจอมมาร
เขาก็ทุบโต๊ะ ไม่ใช่เพียงแต่มกุฏราชกุมารเพียงคนเดียวแต่นายพลบัญชาการคนอื่นในกองทัพหลังอย่างนายพลมิกคาอิล โคลอฟเร่ ,นายพลจอร์น คูตูซอฟ และคนอื่นๆต่างโกรธเป็นอันมาก
“ทหารระดับสูง 8,500 นาย และทหารม้า 1,500 นาย แต่ไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้อย่างนั้นหรือ?
มาร์คกราฟ อธิบายมาด้วย ไม่ใช่ว่า ท่านพูดออกมาอย่างมั่นใจอย่างนั้นรึไงว่าท่านสามารถพิชิตปีกขวาได้ด้วยทหารเพียงจำนวน 10,000 นายน่ะ!?”
มาร์คกราฟฟริทซ์ ฟอน โรเซนเบิร์ก กัดฟัน จากรายงานนี้ฝั่งเขาบาดเจ็บล้มตาย ราว 3,000 นายในการสู้รบ
พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นทหารที่มาร์คกราฟคอยดูแลมาตลอดชั่วชีวิต มาร์คกราฟเองต่างหากที่กำลังโกรธแค้นที่มกุฏราชกุมารและนายพลคนอื่นๆไม่ส่งกำลังสนับสนุนใดเลย!
“…….”
แต่มาร์คกราฟไม่ตอบคำถามของมกุฏราชกุมาร เขาเพียงแต่ก้มศีรษะให้ แต่ทุกคนเข้าใจวิธีการพูดว่า ตัวเขานั้นไม่มีอะไรจะพูดเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นชัดเจนแล้วว่า มาร์คกราฟโรเซนเบิร์กเสียสิทธิ์ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดไป
“เฮ่อ! ไม่ผิดเลยที่พูดกันว่า ลูกน้องสะท้อนตัวหัวหน้า”
มกุฏราชกุมารจึงยึดตำแหน่งผู้บัญชาการตัวจริงแทนที่จะเป็นแต่ในนามทันที
ตอนนี้เขาสรุปได้แล้วว่า กองทัพปีกขวาของจอมมารจะต้องได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้มาร์คกราฟจะไม่อำนาจทำลายแนวป้องกันของพวกมันได้
สถานการณ์นี้คือสิ่งที่มกุฏราชกุมารต้องการตั้งแต่แรก
พูดง่ายๆว่า กองทหารฝ่ายศัตรูบาดเจ็บในขณะกองทัพหลักยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม
‘หากข้าส่งทหารของข้าไปตอนนี้แล้วได้รับชัยชนะ ชื่อเสียงทั้งหมดก็จะเป็นของข้า’
รอยยิ้มที่อิ่มเอมใจปรากฏอยู่บนริมฝีปากของมกุฏราชกุมารรูดอล์ฟ เขาจะได้รับอะไรมากมายจากการรบครั้งนี้
แม้แต่ตอนนี้เอง กองทัพของมาร์คกราฟที่เคยมีศักยภาพพอที่จะเป็นกองทัพกบฏตอนนี้ก็อ่อนแอลง แถมการเรียกทหารกองทัพหลักมาร่วมรบในตอนนี้ อำนาจในการบัญชาการของมกุฏราชกุมารก็ยิ่งทรงพลังขึ้น
การควบคุมฝ่ายหนึ่งโดยใช้อีกฝ่ายหนึ่ง
มกุฏราชกุมารคิดกับตัวเอง นี่คือ ความรู้ของเหล่าราชา สำหรับเหล่าชนชั้นสูงแล้ว
จะกองทัพมาร์คกราฟ สามัญชนหรือใครก็ตามแต่ ต่างได้สบถสาบานต่อข้าเพียงภายนอก พวกเขานั้นก็เป็นเหมือนหมาที่ห่วงแต่ผลประโยชน์ตนเท่านั้น
ดังนั้นแล้ว ราชาต้องรู้จักวิธีการที่ปั่นให้หมากัดกันเอง เขาสามารถสร้างความเสียหายให้แก่กองทัพมาร์คกราฟโดยไม่ต้องขยับตัวแม้แต่น้อย
หากเขาส่งทหารไปทำลายปีกขวาของทัพจอมมาร เขาก็จะได้รับชื่อเสียงในฐานะผู้ปกป้องมนุษยชาติจากเหล่ามอนสเตอร์ที่ส่งมาโดยจอมมาร
เขาจะได้รับการปฏิบัติว่าเป็นบุคคลเดียวที่คู่ควรต่อการสืบทอดราชบัลลังค์
……ฝันอันเรืองรองหล่นมาอยู่ตรงหน้าเขาราวกับผลแอปเปิ้ลสุก สิ่งที่เขาทำก็มีแค่เพียงเอื้อไปคว้าแอปเปิ้ลลูกนั้นเท่านั้นเอง!
“นายพลโคลอฟเร่! นายพลคูตูซอฟ! ส่งทหารชาวฮับบวาร์กอันเป็นที่ภาคภูมิใจของเรา 10,000 นายไปยังปีกขวาของจอมมาร”
“ครับ ฝ่าบาท พวกเขาจะไม่ทรยศความคาดหวังของท่าน”
นายพลทั้งสองตอบเสียงดัง ก่อนจะออกไปจากเต๊นท์ มาร์คกราฟยังคงมองที่พื้นปิดปากเงียบสนิทตลอดวเลา หัวหน้าทหารรับจ้างได้แต่ยักไหล่
ทหารจักรวรรดิอีก 10,000 นาย เดินนำทัพไปยังปีกขวาของกองทัพจอมมาร พวกเขาลงมาจากที่ราบสูงเปรทเซน กับป้ายที่โบกไสวเหนือพวกเขา ปีศาจนกตัวหนึ่งเห็นมันจากที่ไกลๆ ปีศาจนกจึงกระพือปีกแล้วบินหายไปในความมืด
แล้วตอนนั้นเอง
เด็กสาวคนหนึ่งอยู่ไกลจากที่ราบสูงเปรทเซนกำลังหลับตา ผมสีขาวนั้นมิใช่สีขาวที่เกิดจากความแก่ชราหากแต่เป็นสีขาวสว่างมาตั้งแต่กำเนิด เด็กสาวยิ้มน้อยๆก่อนจะลืมตาขึ้น
ดวงตาสีทองของเธอเปล่งประกายราวกับสัตว์นักล่า
“เอาละ”
บาร์บาทอส จอมมารลำดับที่ 8 ยืนขึ้น
เธอไม่อาจควบคุมความตื่นเต้นได้ เซปาร์!
เขาทำได้ตามที่เธอคาดไว้จริงๆ เธอได้ใช้สไลม์เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์การรบทางปีกขวา
เซปาร์นั้นป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการบาล้านซ์สมดุลให้เหมือนว่า พวกเขากำลังจะแตกพ่ายไป
ทำให้พวกทหารจักรวรรดิต้องส่งทหารมามากขึ้นโดยไม่จำเป็น
บาร์บาทอสย้ำอีกครั้งว่า จอมมารนั้นไม่ใช่พวกไร้น้ำยา ไม่สิ ฝ่ายที่ราบของเธอนั้นไม่ไร้น้ำยา!
ตลอดการระดมทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทราทั้ง 7 ครั้ง ฝ่ายที่ราบไม่เคยเป็นเหตุผลที่ทำให้กองทัพจอมมารนั้นต้องพ่ายแพ้ต่อเนื่อง
―พวกเรานั้นมีความสามารถ กล้าหาญ
และยิ่งไปกว่านั้น พวกเรารู้ว่าจะเอาชนะได้อย่างไร นี่คือ เวลาที่เธอจะแสดงมันให้เห็นแล้ว
ไม่มีเหตุผลที่เธอจะออกคำสั่ง บาร์บาทอสได้ส่งจอมมารทุกคนยกเว้นตนเองให้ประจำการอยู่ที่ปีกซ้ายและปีกขวา
บาร์บาทอสเป็นจอมมารตนเดียวที่คอยพิทักษ์ศูนย์กลางของกองกำลัง ยิ่งไปกว่านั้นมอนสเตอร์ตอนนี้รับคำสั่งจากเธอโดยตรง
– ตั่บ
เธอเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเพื่อบัญชาให้ศูนย์กลางของกองทหารนั้นไปข้างหน้า
บาร์บาทอสเดินอย่างเงียบๆ ทั้งซอมบี้ ทหาร สเกเลตั้น และมอนสเตอร์อันเดดทุกชนิดตามหลังเธอมา ไม่มีเพลงบรรเลงใด
ไม่มีเสียงครางคำรามด้วยความตื่นเต้น พวกเขาทั้งหมดเป็นนักรบ นักรบหลังความตายดังนั้นจึงรู้วิธีการต่อสู้ในความเงียบงัน
กองทหาร 5,000 นาย ที่ขึ้นตรงกับการบัญชาการของบาร์บาทอสนั้นเดินทัพเช่นนี้มากว่า 2,000 ปีแล้ว
MANGA DISCUSSION