ตอนที่ 86
▯ราชาแห่งไพร่ ลำดับที่ 71 ดันทาเลี่ยน
ปฏิทินเอ็มไพร์: ปี 1506 เดือน 4 วันที่ 6
ที่ราบบรูโน กองทัพพันธมิตรจันทร์เสี้ยว ในเรือนจำอันเรียบง่าย
.
“โอ้ย เจ้าหนังหุ้มกระดูก กินเจ้านี่และมีชีวิตอยู่ซะ เจ้าต้องกินเพื่อจะมีชีวิตอยู่นะ”
ในตอนเย็น
ผู้หญิงที่มีรูปร่างใหญ่เหมือนเสาเดินเข้ามาหาผม เธอเป็นที่รู้จักกันในชื่อ จอมมารสิตรี อันดับที่ 12 อยู่เป็นยามกลางคืนวันนี้ เนื่องจากผมเป็นนักโทษที่มีสถานะพิเศษ และเนื่องจากความผิดของอาญาที่ผมก่อเป็นข้อพิพาทการเมืองอย่างร้ายเเรง จึงต้องมีจอมมารคอยยืนเฝ้าผัดเปลี่ยนทีละคนในตอนกลางคืนและหมุนเวียนกันไป เป็นการต้อนรับที่ค่อนข้างหรูหราดีเเท้นะ
การเฝ้าระวังดำเนินไปตลอดทั้งวัน มีคบไฟอยู่หลายดวงอยู่รอบๆ กรงสัตว์ เหมือนว่าคบเพลิงพวกนั้นมันมีเวทมนตร์บางอย่างร่ายอยู่ เพราะพวกมันไม่ยอมดับไปง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะถูกน้ำฝนเปียกโชกก็ตาม เมื่อคบไฟลุกโชติตลอดทั้งคืน ผู้สอดส่องซึ่งพึ่งพาแสงนั้น จ้องมาที่ผมอย่างมีเจ้าเล่สนัย
ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา บุคลิกของผู้มาเฝ้าแตกต่างกันออกไป จอมมารผู้หนึ่งซึ่งถูกส่งมาจากกลุ่มฝ่ายผืนราบ ดูเหมือนจะสงสัยจริงๆ ว่าผมพยายามหลบหนี ดังนั้นเขาจึงถือคบเพลิงไว้ในมือและเข้ามาใกล้กรงเพื่อเฝ้าดูผมอย่างใกล้ชิด ช่างดูไร้เดียงสาสะจริง ผมยอมรับในความไม่รู้ของจอมมารพวกนั้นเพราะ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเชื่ออย่างหมดใจว่าผมได้ก่อกบฏ
เผื่อผมตั้งใจจะหนี เผื่อผมพยายามติดต่อกับคนภายนอก หรือไม่ก็ เผื่อว่าผมใช้ชีวิตอู้ฟู้อยู่สบายเพราะได้รับความช่วยเหลือหรือสิ่งของเช่นพวกเหล้าจากพวกลูกน้องของผม ซึ่งนักโทษไม่ได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด เขาเฝ้ามองดูผมโดยไม่กะพริบตาเลยแม้แต่ครั้งเดียว นั่นก็คือชายร่างใหญ่ซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นเบเลธจอมมารลำดับที่ 13 นั่นเอง
คนจากฝ่ายเป็นกลางจัดการกับการเฝ้าระวังอย่างไม่เต็มใจนัก เเต่พวกเขาก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดหาอาหารหรือของว่างพิเศษให้ผมหากผมขอจากพวกเขา ในมุมมองของเเต่ละคนในฝ่ายเป็นกลางเเล้ว ส่วนหนึ่งอ้างว่า ผมดันทาเลี่ยน ได้ก่อคดีไว้จริง แต่ในอีกทางหนึ่ง การตัดสินผลมันยังไม่ออกมาเเน่ชัดขึ้นอยู่กับการพูดคุยกันระหว่างฝ่ายขุนเขากับฝ่ายผืนราบล้วนๆเเล้ว. ณ จุดนี้เอง เนื่องจากยังไม่ได้ถูกตัดสินเเน่ชัดว่าเป็นอาชญากรได้ เเต่ก็ไม่ได้การันตีว่าผมไม่ใช่อาชญากรจริง พวกเขาไม่จำเป็นต้องลงโทษผมหรือไม่จำเป็นต้องบริการผมเป็นพิเศษ เป็นผลให้พวกเขาทำอะไรที่มันง่ายๆให้เเทนเช่นเอาอาหารมาให้ อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถแสดงความเมตตาในเรื่องนั้นได้เเละผมก็ปฏิเสธความปรารถนาดีของพวกเขาอย่างสุภาพไป
ฟางหนึ่งกำมือสำหรับการนอนหลับ
เก้าอี้ไม้ที่อึดอัดและแข็ง
นั่นคือทุกสิ่งที่จัดเตรียมไว้ให้ผม
ผมฆ่าเวลาด้วยการมองดูท้องฟ้าที่ฝนตก บางครั้ง ลาพิส หรือ ฟาร์นาเซ่ เข้ามาหาผมเพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ แม้ว่า ลาพิส จะพยายามฆ่าผมก็ตามที แต่น่าเสียดายหน่อยที่มีแท่งโลหะแข็งวางอยู่ระหว่างเรา ลาพิส ดุด่าเพราะผมดันไปทำให้สถานการณ์แย่ลง เรื่องราวมันเลยต้องมาหยุดที่ถูกคุมขังในนี้ ผมยักไหล่ไม่พูดอะไรอีก
ถ้าจะให้พูดตรงๆ ผมรู้สึกปลอดภัยและสบายใจภายในห้องขังนี้มากกว่าตอนที่อยู่ข้างนอกซะอีก ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะสุดขั้ว สิ่งเดียวที่ผมต้องการคือที่นอนที่มีรัศมีเเค่ 3 เมตรหรือถ้าจะเอามากกว่านั้นก็ต้องเป็นโลกทั้งใบ เเล้วแบบไหนถึงจะสบายใจกว่ากันล่ะ ต้องแบบแรกอยู่เเล้วสิ เพราะมันคือสวรรค์ไงล่ะ ผมกำลังพูดถึงสวรรค์ขนาด 3 เมตรนี่ไง
“แม้ว่าฉันจะไม่ชอบเจ้าจริงๆ เเต่ฉันก็เชื่อว่าคนเราไม่ควรหมางเมินการกินเพราะไม่ชอบขี้หน้ากันน่ะรู้ไหม”
จอมมาร สิตรี ผู้ซึ่งอาสาเป็นคนจับตามองในวันที่สาม ผู้ใกล้ชิดกับ ไพม่อน ผมและเธอมีความสัมพันธ์ซับซ้อนในด้านต่างๆเพราะ สิตรี เคยเห็นผมทำลาย ไพม่อน ในตอนวัลเพอร์กิสมาก่อน และในระหว่างกระบวนการตระเตรียมสำหรับสงครามครั้งนี้ เธอได้ส่งลูกน้องของเธอมาขัดขวางผมไว้ แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมเผชิญหน้ากับเธอด้วยตัวเอง แต่ผมก็ยังไม่คุ้นเคยกับเธอสักที
อ้างอิงถึงแม้ในทวีปปีศาจที่มีการกล่าวกันว่ามีพวกวิปริตมากมายเเต่ สิตรี เป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียงว่าเป็นพวกวิปริตชั้นสุดเนื่องจากการที่เธอได้ทำกิจกามวิปริตทุกรูปแบบ จากที่ผมได้ยินมา เธอไม่ใช่แค่กระเทยมาเเต่กำเนิด และยังมีประวิติเสียเปล่าอย่างการที่เธอนั้นหลับนอนกับทุกเชื้อชาติ กับทุกเพศ ของแต่ละเผ่าพันธุ์ ที่มีอยู่ภายในทวีปปีศาจ จอมมารส่วนใหญ่ก็ว่าเธอเป็นแบบนั้น
สิตรี ฉีกขนมปังชิ้นหนึ่งแล้วยื่นมาทางผมระหว่างลูกกรง
“เอ้านี่.”
“ผมยังเเข็งเเรงดีอยู่ถึงไม่ต้องกินอะไรเลยก็ได้”
“ฉันได้ยินมาจากคนที่เฝ้าดูแลเจ้าเมื่อวานนี้ พวกเขาบอกว่าเจ้าไม่ได้กินอะไรเลยมาตั้งเเต่เมื่อวานหรือวันก่อนนู้นเลยใช่ไหม อย่าทำอย่างนั้นเลย แม้ว่าจอมมารอย่างพวกเราจะอยู่ได้โดยไม่มีอาหาร เเต่ยังไงเจ้าก็ต้องทานอาหารอย่างน้อยหนึ่งมื้อทุกๆสองวันนะ ถ้าเจ้าไม่ทำ เจ้าจะสูญเสียมันไปน่ะรู้บ้างไหม”
เธอหมายถึงอะไร สูญเสียอะไรกัน?
ผมเอียงหัว
“สูญเสียอะไร”
“ความรู้สึกในการใช้ชีวิตของเจ้า”
สิตรีมองมาทางนี้โดยยังคงท่าทีของเธอในการยื่นขนมปังให้ผม
“เจ้าคงคิดว่าไม่เป็นไรถ้าไม่กินอะไรใช่ไหม? เจ้าคงคิดว่าไม่เป็นไรถ้าไม่นอนใช่ไหม มีจอมมารจำนวนมากที่กลายเป็นผักเพราะพวกเขาชินกับสิ่งที่ทำแบบนั้น งั้นเจ้าลองคิดดูสิว่าทำไมถึงมีจอมมารเพียงครึ่งหนึ่งของทั้งหมดเข้าร่วมใน พันธมิตรจันทร์เสี้ยวล่ะ?”
แม้ว่าจะมีเหตุผลทางการเมืองอยู่เบื้องหลังก็ตาม
สิตรีส่ายหัว
“ฉันเป็นคนหัวแข็ง ฉันจึงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องยากๆ นั้นดีนัก เรื่องการเมืองเป็นเรื่องที่ท่านพี่ไพม่อนเป็นคนคิดและไตร่ตรองเอง แต่มันก็มีผู้ติดตามบางคนที่เสียการแสดงออกทางสีหน้าไปโดยสิ้นเชิงหลังจากกินเเค่น้ำเพียงอย่างเดียวมาตลอดทั้งเดือน เจ้ารู้ไหมว่าคนเหล่านี้น่าสนใจเเค่ไหน? พวกเขาตอบสนองถ้าเจ้าสัมผัสร่างกายของพวกเขา แต่ถึงแม้ว่าเจ้าจะจั๊กจี้หรือทุบตีพวกเขา ใบหน้าของพวกเขาจะคงไว้ซึ่งความไร้อารมณ์ ว่างเปล่า คิดว่าการแสดงออกของพวกเขาอาจจะกลับมาถ้าฉันทำเช่นนี้ ฉันก็เลยพยายามข่มขืนพวกเขาซะ แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สิ่งที่สูญเสียไปเเล้วนั้นมันไม่มีวันกลับมา”
“I’m a meathead, so I don’t really understand difficult things that well. Things like politics are something Big Sis Paimon will think about and contemplate. But there are fellows who completely lose their facial expressions after having lived off of only liquids for an entire month. Did you know that those guys are really interesting? They react if you touch their bodies, but even if you tickle them or beat them, their faces stay void of emotions, void. Thinking their expression would perhaps come back if I did this, I even tried raping them, but nothing changed. It never came back.”
“·······”
“กินซะ. เจ้าจะมีชีวิตอยู่ได้ถ้าเจ้ากิน”
ผมรับชิ้นขนมปังนั้นอย่างระมัดระวัง
สิตรีพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นเธอก็นั่งลงกับพื้นและกินขนมปังของเธอ จริงๆ ทุกการกระทำของเธอมันรู้สึกป่าเถื่อน ผู้หญิงหัวสูงที่สุดในบรรดาจอมมารคือ ไพม่อน แต่คนรอบตัวเธอทำตัวแบบนี้ มันน่าแปลกใจจริงๆ
“·······”
ห่างออกไปสักหน่อย มีทหารยามสองคนยืนอยู่ตรงนั้นพวกเขา สวมเครื่องแบบทหารสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า เเละไม่ได้ให้การตอบสนองใด ๆ เป็นพิเศษแม้หลังจากที่ได้เห็น สิตรี นั่งลงกับพื้น นั่นต้องหมายความว่านี่เป็นพฤติกรรมปกติของเธอ จอมมารผู้นี้สิตรี
“เจ้าเป็นเพื่อนเซ็กส์กับบาร์บาทอสนั่นน่ะเหรอ? เป็นไงบ้างล่ะ? นังนั่นดูจะเป็นคนดีขึ้นหน่อยไหมเมื่อร่วมหลับนอนด้วยกัน”
ผมยักไหล่
“คำถามนั้นมันก้าวล้ำพื่นที่ส่วนตัวไปมากอยู่นะ”
“ไม่เลย มันเป็นเพราะมันน่าประหลาดใจ น่าประหลาดใจจริงๆนะ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ในหมู่จอมมาร บาบาร์ทอส เป็นคนที่สร้างเพื่อนเซ็กส์ แต่ใช่ นั่นน่ะสิ รู้ยัง? ที่. เจ้ามีชีวิตค่อนข้างดีในขณะที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงเลวคนนั้นสินะ – รู้สึกเป็นไงบ้างล่ะ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าในบรรดาคนที่เธอเอาด้วยกันจนถึงตอนนี้ มีเพียงเเค่คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนคนอื่นน่ะทุกคนตายด้วยมือของเธอหมดเเล้ว”
“No, it’s because it’s surprising, really surprising. Though it’s intriguing that among the Demon Lords, Barbatos was the one to make a sex-friend, but yeah. It’s that, you know? That. You’re living rather well while having sex with that sort of bitch— that sort of feeling? Did you know that among the people she’s gone out with thus far, excluding one person, all of them have died by her hands?”
บาร์บาทอส
ผมไม่ควรเป็นคนพูดแบบนี้ แต่เธอควรต้องรักษาภาพลักษ์ของตัวเองสักหน่อยเเล้วนะ
“นั่นเป็นสิ่งที่ผมเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกเลย ความจริงที่ว่าเธอได้ฆ่าคนรักของเธอทั้งหมด นั่นน่าสนใจมาก. ขอละเอียดมากกว่านี้หน่อยสิ”
“ได้. แต่เมื่อฉันคิดเกี่ยวกับมันเเล้ว นี่ก็ถือว่าเป็นการก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวไปมากโขเหมือนกันนะ เจ้ารู้ไหม”
สิตรี เคี้ยวขนมปังอย่างไม่ตั้งใจ
“ถ้าฉันเปิดเผยชีวิตส่วนตัวของคนอื่น ฉันจะเป็นคนเดียวที่กลายเป็นผู้หญิงเลวน่ะสิ นั่นเป็นเหตุผลที่ถ้าเจ้าบอกฉันก่อนว่าการมีเพศสัมพันธ์กับ บาบาร์ทอส เป็นอย่างไรก่อน ถ้าใครสักคนจะกลายเป็นตัวร้าย ทุกคนก็ต้องกลายเป็นผู้หญิงเลวไปด้วยกัน”
“·······”
อันดับที่ 12 จอมมารสิตรี เป็นบุคคลที่เข้าใจวิธีการต่อรองอย่างถูกต้อง·······
ไม่ อย่างแรกผมเป็นผู้ชาย
ผมแน่ใจตัวเองถูกเรียกว่าไอ้เลวได้ แต่ผมไม่สามารถถูกเรียกว่าผู้หญิงเลวได้หรอก
เมื่อผมพูดออกไป สิตรี ก็ขมวดคิ้วของเธอ
“้เจ้าหนังหุ้มกระดูก เมื่อเจ้าเรียกใครว่าลูกหมา เพราะเจ้าเชื่อว่าพวกมันเป็นลูกของสุนัขจริงๆ เหรอ”
“ไม่.”
“ปัญญาอ่อนนั่นคือสิ่งที่เจ้าพูดกับคนที่ไม่ปัญญาอ่อนใช่ไหม”
“ใช่.”
“ถ้าอย่างนั้น ‘ไอ้เลว’ กับ ‘ไอ้ปัญญาอ่อน’ ฉันขอโทษนะ แต่เจ้าบอกฉันได้ไหมว่าทำไมฉันถึงต้องสัญญาเรียกเจ้าด้วยว่า ไอ้เลวและไอ้ปัญญาอ่อน แต่ไม่สามารถเรียกเจ้าว่าผู้หญิงเลวได้กัน หืม”
ผมไม่สามารถให้คำตอบได้
เป็นผลให้ผมถูกบังคับให้อยู่ในหน้าที่ที่ต้องให้คำอธิบายที่ชัดเจนและอธิบายว่าการมีเพศสัมพันธ์กับ บาบาร์ทอส เป็นอย่างไร ผมไม่แน่ใจว่าผมอยู่ในสถานะต้องมาอธิบายนี้ได้อย่างไร แต่ผมก็พูดมันออกมา
“อย่างแรกเลย คุณสิตรี บาร์บาทอสมีสีหน้าที่หลากหลายมากๆ แม้ว่าปกติเธอจะหัวเราะอย่างมั่นใจ ขณะที่เราร่วมเสพสุขกันอย่างเสรี เธอแตกต่างออกไปเมื่ออยู่บนเตียง แน่นอน เราไม่ได้ทำแค่บนเตียงแต่ทำข้างเตียง บนพื้น ที่ไหนสักแห่งที่มีของให้ยึด หรือที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีอะไรจะยึดจับได้เลย พูดอย่างชัดเจน เธอจะได้เห็น บาร์บาทอสแสดงรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไปตามสถานที่ต่างๆมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ในเรื่องนี้ บาบาร์ทอส ไม่ใช่ผู้หญิงเลวที่เอาแต่หัวเราะอย่างที่ทุกคนคิด”
“โฮะโฮะโฮะโฮะ”
สิตรีพยักหน้า สายตาของเธอเปล่งประกายด้วยความคาดหมายทำให้ดูเหมือนว่าเธอเป็นนักเรียนมัธยมต้นที่ตั้งใจฟังชั้นเรียนเพศศึกษาอย่างจริงจัง
“แล้วไงต่อ”
“อย่างเเรก ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ตัดสินใจรับบทบาทเป็นเจ้านายและใครเป็นผู้ตัดสินใจรับบทบาทเป็นทาสในการมีเพศสัมพันธ์ในวันนั้น⎯⎯⎯⎯”
ผมอธิบาย
“แม้ว่าตำแหน่งคนนำจะเปลี่ยนแปลงเล็กไปนิดหน่อยทุกครั้ง ตามข้อตกลงโดยรวมที่เราทำร่วมกัน เเต่มีข้อห้ามเช่นไม่อนุญาตให้ขี้(scat)ใส่กันได้ แต่ถ้าฉี่(golden shower)ก็ยังโอเคอยู่⎯⎯⎯⎯”
(นั่งปวกหัวตั้งนานว่า scat กับ golden shower แปลว่าอะไร อ้อเล่นฉี่เล่นขี้นี่เอง)
ผมอธิบาย
“เเล้วก็ เนื่องจากจำนวนเวทมนตร์ที่บาร์บาทอสใช้ได้นั้นมีค่อนข้างเยอะมาก เธอจึงสามารถควบคุมระดับความอ่อนไหวและระดับความอดทนได้อย่างอิสระ⎯⎯⎯⎯”
ผมยังคงอธิบายต่อไป
“·······”
อธิบายไปเรื่อยๆ นัยน์ตาของสิตรีที่เคยส่องประกายก็มืดมัวจนมืดมิด จนสุดท้ายกลายเป็นตรงกันข้ามกับตอนเเรกโดยสิ้นเชิง กล่าวคือ นัยน์ตาหมดเเสงจนไม่เป็นประกายอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นว่า แววตาดูถูกเหยียดหยามเหมือนตาปลาตายออกมาเเทน หลังจากอ๊วกออกมาสองครั้งจนลำไว้สะอาด สิตรี ก็พูดขึ้น
“วู้·······. พวกเจ้านี่มันแย่จริงๆ ·······”
นั่นเป็นคำวิจารณ์ที่ไม่สมเหตุสมผล
“เจ้าต้องการที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อทำอย่างนั้นจริงๆเรอะ? ไม่ นั่นเป็นวิธีที่ผิด เจ้าต้องการที่จะทำอย่างนั้นในขณะที่คุณมีชีวิตอยู่เเน่นะ? เล่นกันให้เป็นปกติมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ?”
“แม้ว่าผมอยากจะทำเช่นนั้น แต่ดูเหมือนว่าบาร์บาทอสจะไม่ชอบแบบธรรมดาๆ”
“อย่าทำให้ฉันหัวเราะหน่อยเลย เมื่อเจ้าอธิบายทุกอย่างให้ฉันฟัง ใบหน้าของเจ้าเต็มไปด้วยชีวิตชีวา และดูเหมือนว่าเจ้ากำลังชื่นชมยินดีกับมันด้วย พวกเจ้าสองตัวเป็นพวกวิปริตโคตรๆกันทั้งคู่เลย”
นั่นเป็นการใส่ร้ายที่ไร้สาระไปหน่อยนะ
“ว้าว ฉันจะไปมองยัยตัวแสบนั่นติดได้ยังไงอีกกัน ทุกครั้งที่เห็นหน้าของบาร์บาทอสต่อจากนี้ไป? ฉันจะไม่ไปนึกถึงคำบรรยายที่เจ้าพูดทุกครั้งที่เห็นบาบาร์ทอสเลยเหรอ? ด้วยใบหน้านั้น ด้วยร่างกายที่เล็กนั้น······ โอ้พระเจ้า. เฮ้ เมื่อกี้เจ้าบอกฉันว่าอะไรนะ? ทำไมเจ้าถึงบอกฉันแบบนี้ อยากตายเหรอ?”
“โอ้ที่รัก ผมเปล่งเสียงบอกปฏิเสธที่จะบอกรายละเอียดกับบาบาร์ทอสไปเเล้วนะ แต่คุณสิตรีก็ยังยืนกรานให้ผมบอกใช่ไหมล่ะ”
“แม้ฉันไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นหนักขนาดนี้ แม้ว่า ฉันจะรู้ว่ามีโอกาสที่พวกโรคจิตเช่นนั้นอาจมีอยู่จริงที่ไหนสักแห่งในโลกนี้ ฉันก็ไม่คิดว่าจะเป็นพวกเจ้าสองตัว แม้ว่าพวกวิปริตแบบนั้นจะมีอยู่จริง ฉันเชื่อว่าฉันควรยอมรับพวกเขาด้วยใจเสรี แต่หลังจากเจอตัวต่อตัวแล้ว ฉันไม่คิดต่อเลยว่าจะทำได้ ขอโทษนะ แต่เจ้าช่วยตายไปเลยได้ไหม”
เธอเป็นคนน่าหัวร่อเสียจริง
ตอนนี้ถึงตาผมแล้วที่จะถาม
“คุณสิตรี ถึงคราวที่เธอจะบอกผมแล้ว จริงหรือไม่ที่บาร์บาทอสจัดการกับคู่รักของเธอทุกคนด้วยมือทั้งสองข้างของตัวเอง”
“ไม่ทั้งหมด. ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง”
“ไม่ทั้งหมดงั้นเหรอ?”
“อืม”
สิตรีเกาหลังศีรษะตัวเอง
“เอาล่ะ นั่นน่ะเป็นวิธีจัดการกับจุดอ่อนของเธอเองไม่ใช่หรือไงล่ะ? โดยพื้นฐานแล้ว บาบาร์ทอส ไม่ไว้วางใจผู้ใด เธอถูกหักหลังมามากและเธอก็ทรยศคนอื่นมามากเช่นกัน แต่คู่รักไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งจะหักหลังกันได้ง่ายๆไม่ใช่หรือ? หากเจ้าจะถูกหักหลังอยู่แล้ว การหักหลังพวกเขาก่อนจะทำให้จิตใจของเจ้าสบายขึ้นนิดหน่อยล่ะว่าไหม”
“นั่นฟังดูเหมือนเป็นการสมมติสุดโต่งเกินควร····················)
“สิ่งที่ฉันพยายามจะสื่อก็คือ”
สิตรีถอนหายใจ
“นังนั่นใช้มนต์ดำเก่งมากๆ ใช่ไหม? เเต่บาบาร์ทอสเเต่เดิม ไม่ใช่ผู้วิเศษ เดิมทีเธอเป็นนักรบ แต่เธอถูกหักหลังอย่างหนักครั้งหนึ่งในช่วงสงคราม ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนมาเป็นเนโครเเมนเซอร์เเทน”
“ความเชื่อมโยงระหว่างการถูกหักหลังกับการกลายเป็นเนโครแมนเซอร์คืออะไร?”
สิตรีเอียงศีรษะของเธอ
“กลายเป็นศพ ฉันกำลังพูดถึงศพ นางสามารถควบคุมศพด้วยเวทมนตร์ได้ รู้ไหม? ศพที่ตายไปแล้วไม่ทรยศต่อเจ้าได้”
“·······”
“ฉันรู้. ความรู้สึกที่เจ้ามีในตอนนี้ เธอเป็นโรคจิตจริงๆเเน่ๆใช่มั้ยล่ะ? นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่ชอบใจนังนั่นเลย ฉันเข้าใจว่าการทรยศนั้นต้องทำให้ขนลุก แต่ควรพูดยังไงดี? นั่นเป็นความรู้สึกแบบนั้นเเหละ”
โคตรจะดราม่า
ตอนนี้ผมคิดเกี่ยวกับมัน
ซึ่งตอนนี้ผมกลับมองว่า
ในคืนนั้นที่หิมะตกลงมาอย่างหนัก หลังจากที่ผมถูกปลุกฉันให้ตื่นและลากผมออกไปข้างนอกอย่างเงียบๆ บาร์บาทอสแสดงให้ผมเห็นภาพของเธอที่ปลุกชีพทัพอันเดดจำนวนมหาศาลขึ้นมาราวกับว่าเธอกำลังพยายามจะโอ้อวดผม······ สิ่งที่เกิดขึ้น อะไรเป็นเเรงจูงใจในหัวของเธอกันเเน่นะ?
อะไรเป็นแรงจูงใจซ่อนเร้นของเธอที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะที่แสดงให้ผมเห็น คนที่เป็นคนรักของเธอ ยืนอยู่ในจุดที่ง่ายที่สุดที่จะหักหลังและถูกเธอหักหลัง เเละกลายเป็นทหารที่ไม่มีวันต่อต้านเธอได้อย่างแน่นอน
สิตรีพูดขึ้น
“เป็นไปได้ที่จะได้รับรอยแผลเป็นในขณะที่เจ้ามีอยู่ แต่คนที่พยายามสร้างบาดแผลให้โลกกลับคืนมาเพียงเพราะพวกเขาได้รับบาดเจ็บล่ะ? นั่นไม่ใช่สิ่งที่ตรงกันข้ามทั้งหมดหรือ? เนื่องจากฉันมีรอยแผลเป็น ฉันจึงควรไล่ตามโลกที่คนอื่นไม่ได้รับบาดเจ็บ คนควรมีทัศนคติที่ดีแบบนั้น”
“It’s possible to gain scars while you live your life. But what’s with the people who try to scar the world back just because they got hurt? Isn’t that the complete opposite? Since I was scarred, I should pursue that much more a world where other people won’t be injured. People should have a good attitude like that.”
(งงสุดๆ)
แน่นอน
ผมได้เข้าใจแล้ว.
สิตรี แตกต่างจากพวกเรา
วันที่เธอสามารถเข้าใจ บาบาร์ทอส ตัวผม ลาพิส หรือ ฟาร์นาเซ่ มันจะไม่มีวันมาถึง ความไม่เข้าใจนั้นไม่ใช่ความอับเฉาและไม่สมเหตุสมผล มันสวยงามและมีเหตุผลน่ะสิ เป็นการดีสำหรับตัวเธอเองเเล้วที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นตัวของตัวเอง
ผมยิ้มอย่างพอใจเป็นครั้งแรกในระยะเวลาอันยาวนาน
“ผมเข้าใจเเล้วว่าคุณสิตรีเป็นคนดี”
“หืม?”
“มันคงจะดีถ้ามีคนอย่างคุณในโลกนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม มันช่วยไม่ได้หรอก บาบาร์ทอส เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง หากมีเหตุการณ์ที่สามารถเปลี่ยน บาบาร์ทอส ได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็ต้องมีเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากเกิดขึ้น ในตอนนี้ไม่มีอะไรสามารถทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ขอให้เข้าใจด้วย”
“·······”
สิตรีจ้องตรงมาที่หน้าผม
“เจ้า เจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน? มันเป็นสถานการณืบาบาร์ทอสได้สั่งขังเจ้า เหตุใดเจ้าจึงยืนหยัดเพื่อนังนั่นอยู่อีก”
“ผมไม่ได้ยืนหยัดเพื่อใคร ผมแค่ยอมรับความจริงที่ว่าบางสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมคิดว่าตัวเองเป็นดั่งลูกหมา แต่ในขณะเดียวกันผมก็เป็นลูกหมาที่ซื่อสัตย์ มันยากที่จะต่อต้าน นั่นเเหละคือวิถีของโลก”
ผมหัวเราะเบาๆ
“ผมว่ามันถึงเวลาเเล้ว คุณสิตรี ผมผ่านแล้วหรือยัง?”
“ผ่าน?”
“ผมถามว่าเธอเชื่อไหมว่าถ้าเธอฆ่าผมเเล้วมันจะไม่เป็นไร อย่าแสร้งทำเป็นไม่รู้ เธอไม่ได้มอบขนมปังอาบยาพิษให้ผมงั้นหรือ?”
“·······”
สีหน้าของสิตรีชะงักไปครู่หนึ่ง
ความเงียบเข้าปกคลุมเราเป็นเวลานาน
ฝนที่ตกหนักเปลี่ยนเป็นละอองฝนและทำให้ดูเหมือนว่าท้องฟ้าชะล้างความเค็มของผืนดิน ผมถอดเสื้อด้านบนออกแล้วเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนูขาดๆ แม้ว่าผมจะยอมให้ตัวเองโดนฝน ผมก็ต้องเช็ดตัวให้ถูกเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหวัด สาเหตุที่ทำให้ภายในของฉันรู้สึกหนาวได้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะฝนเท่านั้น
สิตรี เปิดริมฝีปากของเธอ
“รู้ได้ยังไง?”
“ผมเเค่สงสัย? มีสัญญาณออกมาจากเธอเยอะเลย ก่อนอื่น เธอเข้าหาผมในขณะที่แสดงท่าทางที่เป็นมิตรมากเกินไป เธอฉีกขนมปังออกเป็นสองชิ้นแล้วยื่นให้ผมครึ่งหนึ่ง ขณะที่เธอสิตรี กินไปอีกชิ้นที่เหลืออยู่ นั่นคือพฤติกรรมที่ปกติจะพบเห็นได้ระหว่างคนสองคนที่มีความสนิทสนมกันเหมือนคนในครอบครัว ในทางกลับกัน ความสัมพันธ์ระหว่างสิตรีกับผมคือ····· อืม ไม่ค่อยชอบใจกันเท่าไหร่”
“·······”
สิตรีนั้นสนิทชิดเชื้อกับไพม่อน ในมุมมองของสิตรีเอง คงถือว่าผมเป็นศัตรูทางการเมืองของไพมอนคงจะไม่ผิดนัก ดังนั้นสิตรีเลยเข้ามาหาผม อย่างเป็นมิตรและหยิบยื่นขนมปังมาให้
เป็นไปได้ที่จะถือว่าเธอเป็นคนมีใจเอื้อเฟื้อและไม่สนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆเเต่นั่นมันเเค่ความคิดทัศนคติเชิงบวก เป็นเรื่องน่าเศร้าตั้งแต่ผมเกิด ผมดันเป็นไอ้สารเลวที่แทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองในด้านที่มองโลกในแง่ดีเลย นั่นเลยทำให้ผมสงสัยเธอที่มีแรงจูงใจกับการกระทำเหล่านั้น มันสมเหตุสมผลที่จะได้ข้อสรุปดังกล่าว
ตัวอย่างเช่น จงใจกินขนมปังก้อนเดียวกันเพื่อไม่ให้สงสัยว่ามีพิษในขนมปัง
ผมได้ตั้งสมมติฐานโดยผ่านกระบวนการคิดดังกล่าว
ผมคิดโดยตั้งสมมติฐานอย่างนั้นตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆเเล้ว
“ต่อไปจะเป็นส่วนที่เธออ๊วกออกมาหลังจากได้ยินเรื่องตลกลามกอนาจารระหว่างบาร์บาทอสกับผม ผมไม่ได้หูหนวก ฉันจำได้ว่าเคยได้ยินคนพูดกันปากต่อปากว่า เธอสิตรี มีความวิปริตโคตรๆ เมื่อเปรียบเทียบกับผมแล้ว การกระทำระหว่างบาร์บาทอสกับตัวผมนั้นไม่น่าจะมีอะไรมากไปกว่าการละเล่นของเด็ก ยังไงก็ตามเธอก็เเสดงอาการต่อต้านเเละอ๊วกออกมา······ผมสามารถตัดสินได้ทันทีว่าเธอตั้งใจบังคับสิ่งที่อยู่ในท้องออกไป”
“·······”
“ผมไม่แน่ใจว่าเหตุผลที่เธอวางยาพิษผมเพื่ออะไร แต่เรามาคุยกันตอนนี้เลยก็ได้ สำหรับการเริ่มต้นก็ ส่งยาแก้พิษมาสิ เธอมีมันใช่มั้ย? ถ้าไม่เป็นการรบกวนก็ส่งมันมาหน่อยนะ แม้ว่าผมจะมีประสบการณ์มากมายในการถูกวางยาพิษ แต่แน่นอนว่า สิ่งที่ช่วยไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้ ผมไม่สามารถทิ้งความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ได้หรอก”
จากนั้น
ผมยื่นมือออกไป
สิตรี มองที่มือของผมด้วยใบหน้าที่แข็งกระด้าง มันค่อนข้างลำบากใจเพราะสิ่งเดียวที่เธอยังคงให้ผมคือการจ้องมองที่ว่างเปล่า เธอไม่ได้ตั้งใจจะมอบยาแก้พิษให้ผมเหรอ? แม้ว่าผมจะเป็นคนยังไงก็ได้ แต่ผมก็เป็นผู้ชายที่คิดว่าความตายของตนจะเกิดขึ้นได้ด้วยมือของลาพิสหรือด้วยมือของเอลิซาเบธเท่านั้น ถ้าผมถูกวางยาพิษตายโดยตัวประกอบฉากแบบนี้ นั่นคงจะเป็นการเสียชื่อเสียงเเด่ผู้หญิงสองคนนั้น
“มันคงจะดีกว่าถ้าผมร้องตะโกนออกมาสินะ ยามที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงนั้นน่าจะวิ่งมาทันที เเละเรื่องมันจะได้จบลง ผมจะให้การออกไปของสิตรีพยายามจะฆ่าผมด้วยยาพิษปริมารตรที่ใช้มากเท่ากับความสนิทของนางสิตรีต่อท่านเจ้าคุณไพมอนไปเลย ฝ่ายขุนเขาทั้งหมดจะต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมนั้น เธอต้องการให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นไหมล่ะ”
“·······”
“หลังจากการพิจารณาคดีถูกเลื่อนออก จอมมารซึ่งทั้งสามกลุ่มช่วยกันคุมตัวผมด้วยกัน เเต่กลับถูกลอบสังหารโดยหนึ่งในสมาชิกชั้นนำของฝ่ายขุนเขา ช่างวิเศษเหลือเกิน การกระทำนั้นจะถูกขจรไปทั่วทวีปปีศาจเป็นเเน่ อ่า แน่นอน ถ้าการทำให้เกิดความโกลาหลเป็นงานอดิเรกของเธอสิตรี ผมจะไม่หยุดเธอเเน่ นั่นเป็นความอัธการที่ผมชอบ ความวุ่นวาย ความโกลาหล. ผมชอบมันมากๆเลยหล่ะ”
สิตรีกัดริมฝีปากแน่น
เธอล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทแล้วดึงขวดแก้วออกมา ของเหลวสีเหลืองสดใสซึ่งดูคล้ายกับน้ำผึ้งตามธรรมชาติบรรจุอยู่ในขวด ผมรับขวดแก้วและเทกลืนของเหลวลงปากในการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว
อืม รสชาติแย่มาก รสชาติเเย่โคตรๆ เหตุใดกันจึงมีพิษหลายประเภทที่รสชาติอร่อยดี แต่ยาแก้พิษที่แท้จริงนั้นกลับรสชาติน่ารังเกียจกัน? หยั่งกับเป็นเกมพัซเซิลยังไงยังงั้นเลย
“······ฉันจะพูดเผื่ออนาคต เรื่องนี้ท่านพี่ไพม่อนไม่เกี่ยวอะไรด้วยแน่นอน นี่เป็นสิ่งที่ฉันทำโดยพลการเอง”
“เป็นข้อแก้ตัวที่ดี มันก็ฟังดูเหมือนเป็นข้ออ้างที่มีเหตุผลอย่างน้อยผมก็คิดว่ามันพอฟังขึ้น ผมหวังว่าจอมมารคนอื่นๆจะได้ยินแบบเดียวกับผมได้ยินที่ในศาลนะ”
ในช่วงเวลานั้นเอง
ทหารคนหนึ่งซึ่งยืนเฝ้าอยู่ห่างจากคุกเพียงเล็กน้อย เขาถอดชุดทหารสีขาวของตัวเองออก เมื่อถอดหมวกทหารออกและปลดเสื้อคลุมให้เป็นอิสระ คนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ช่างน่าแปลกเพราะนั่นเป็น จอมมาร ไพม่อน แววตาตื่นตระหนกปรากฏบนใบหน้าของเธอ จนถึงขณะนี้ การแสดงออกเช่นนี้ก็น่าสนใจพอสมควร แต่สิ่งที่ ไพม่อน พูดกับ สิตรีi นั้นคุ้มค่าแก่การดูมากกว่าอีก
“สิตรี เธอ·······! เธอบอกว่าต้องการจะทดสอบเขาแปปเดียวเพื่อดูว่าเขาเป็นคนแบบไหนไม่ใช่เรอะ แต่นี่กลับวางยาพิษ! การทดสอบแบบนี้มันจะไปมีความหมายอะไร!?”
สิตรีเกาหลังศีรษะของเธอ
“ฮ่า ท่านพี่ อย่างที่ฉันคาดไว้ ฉันไม่ชอบผู้ชายคนนี้ มันมีกลิ่นทะเเม่งๆออกมาจากเขา เป็นกลิ่นของซากศพที่เน่าเปื่อย ฉันทำมันไปโดยไม่บอกท่านพี่เพราะท่านพี่เป็นผู้นำของฝ่ายขุนเขาฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่น้อยที่จะไม่เห็นด้วย แต่ว่า·······”
“เจ้าโง่! นั่นมันไม่ใช่ปัญหาในตอนนี้!”
ไพม่อน รีบปรี่เข้ามาตรงหน้าห้องขังแล้วค่อมหัวลง มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว สองครั้ง สามครั้ง สี่ครั้ง ราวกับว่าเธอกำลังพยายามยืนยันถึงการดำรงอยู่ของเธอว่าอยู่ใกล้กับพื้นดินเพียงใด เธอก้มศีรษะคัวเองลงหลายครั้ง
“ผู้หญิงคนนี้ขอโทษ ดันทาเลี่ยน ผู้หญิงคนนี้ขอโทษจากใจจริง สิตรีไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ มันเป็นเพียงว่า เมื่อมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้ เด็กคนนี้มักทำเกินกว่าเหตุไปบ้าง····················· ผู้หญิงคนนี้ขอประทานอภัย ผู้หญิงคนนี้จะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อขอโทษ ดังนั้นโปรดยกโทษให้สิตรีด้วย········”
“ไม่ได้มีเจตนาร้ายใช่ไหม”
ผมมองดูคำขอโทษอันร้อนแรงของ ไพม่อน อย่างสบายๆ
ผมไม่ได้รู้สึกร้อนรนใจเพียงเพราะผมเกือบจะถูกวางยาพิษจนตายเมื่อวินาทีที่แล้ว ในวงการการเมือง การลอบสังหารที่ล้มเหลวเป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าสังเวชสุดๆ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับตัวผมว่าจะหาใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ยังดีเพราะเหตึการณ์นี้มันมีค่ากับผมทางด้านการเมืองเหลือคณา
ตอนแรกผมไม่ไว้ใจไพม่อนอยู่เเล้ว แม้จะอยู่ห่างไกลกันออกไปก็ตาม ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่มีเหตุผลใดที่ผมต้องตกใจ ถึงแม้ว่าเธอจะใช้วิธีฆ่าผมเช่นยาพิษก็ตาม
“ยังไม่ถึงปีเลยนับตั้งแต่วันที่ผมได้รับคำขอโทษจากฝ่าบาท ไพม่อน ในคืนวัลเพอร์กิส ในตอนนั้นนี่ ฝ่าบาทพยายามถอนรากถอนโคนผมในเชิงการเมือง เเต่เพราะตอนนั้นใส่ร้ายผมไม่ได้ผล ตอนนี้เลยกลายมาเป็นใช้พิษลอบสังหารเเทนสินะ? น่าทึ่งขนาดไหนกันเชียว”
ตั้งแต่ต้นจนจบ ผมพูดอย่างประชดประชันและด้วยน้ำเสียงที่สงบ ผิวของ ไพม่อน ได้ซีดลง
สามวันผ่านไปแล้วตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น ผมได้ยินมาว่าในช่วงหลายวันนั้น ไพม่อน ทำการสงครามที่ค่อนข้างได้เปรียบ คู่ต่อสู้คือกองทัพจักรวรรดิแห่ง ฟรานเซัย แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้ดำเนินการต่อสู้ที่เด็ดขาด แต่ก็เป็นการดีที่จะบอกว่าเธอมีผลงานที่ยอดเยี่ยมเเล้ว เเต่บาร์บาทอสกลับแสดงผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามกับความหมายที่ดีโดยสิ้นเชิงเธอประสบความสูญเสียครั้งใหญ่เพราะคู่ต่อสู้คือกองทัพจักรวรรดิแห่งฮับส์บวร์ก
อย่างไรก็ตาม คดีพยายามฆ่าส่งผลร้ายแรงดุจระเบิดที่สามารถโค่นล้มสถานนะทางการเมืองได้ทันที ในมุมมองของไพม่อนเเล้วเหตุการณ์นี้มันจึงไม่ต่างจากฝันร้าย
“ ดันทาเลี่ยน ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดความจริง เพราะผู้หญิงคนนี้เพียงต้องการยอมรับนายอย่างเป็นทางการ ดันทาเลี่ยน มาเข้าฝ่ายขุ่นเขาเถอะ······ก่อนที่ผู้หญิงคนนี้จะพูดกับนาย สิตรีได้ขอให้ตัวเองได้ขออนุญาตให้เธอคุยกับนายก่อนเพื่อพิจารณาว่านายจะเป็นคนแบบไหน·······”
“ผมเข้าใจเเล้วว่าฝ่ายขุนเขา ชอบวางยาพิษผู้คนและดูว่าพวกเขาสามารถอดทนได้นานแค่ไหนเพื่อตัดสินตัวตนของพวกเขาสินะ น่าประทับใจจัง”
“ดันทาเลียน·······”
ไพม่อน จ้องมาที่ผมด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนเธอกำลังจะทรุดตัวลงไปทุกเมื่อ เธอค่อยๆคุกเข่าลง พื้นดินที่เปียกชื้นเพราะฝนตก ทำให้กระโปรงของเธอเปื้อนโคลน เมื่อเห็นเช่นนั้น สิตรีก็ขมวดคิ้ว
“ท่านพี่ ท่านไม่ควรทำแบบนี้ให้ชายคนนั้น……”
“ปิดริมฝีปากของเธอซะ เธอไม่มีสิทธิ์พูด”
ไพม่อน ตัดคำพูดของผู้ช่วยที่ใกล้ชิดของเธออย่างเย็นชา
“ดันทาเลียน ผู้หญิงคนนี้เข้าใจว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนที่น่าเชื่อถือในสายตาของนาย ก็ใช่ที่ผู้หญิงคนนี้สงสัยในตัวนายและใส่ร้ายมาหลายครั้งแล้ว อย่างไรก็ตาม เรารับรองได้เลยว่ามันไม่มีแรงจูงใจปิดบังซ่อนเร้นแม้แต่น้อยเบื้องหลังข้อเสนอเข้ามาในฝ่ายขุนเขานี้ เรายอมรับให้นายมาอยู่ภายใต้ธงของฝ่ายขุนเขา ······ถ้านายบอกให้ผู้หญิงคนนี้พิสูจน์ เธอก็จะทำ ดังนั้นโปรดฟังคำพูดของผู้หญิงคนนี้ด้วย”
“·······”
มันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ.
สิ่งที่น่าทึ่งคือความจริงที่ว่าความสามารถในการแสดงของไพม่อนนั้นน่าประทับใจมากจนทำให้รู้สึกราวกับว่าคำพูดของเธอในตอนนี้เป็นของจริงจนน่าหลงใหล ตัวตนที่เฉียบแหลมของเธอซึ่งสนับสนุนความสามารถในการแสดงของเธอนั้นยอดเยี่ยมมาก โอ้พระเจ้า. ถ้าเป็นคนอื่น พวกเขาคงถูกหลอกไปแล้วในตอนนี้
นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้หญิงคนนี้
เธอไม่เพียงแต่พยายามใส่ร้ายผมในสิ่งที่ไร้สาระเช่นการแพร่กระจายโรค แต่เธอยังพยายามเป็นไส้ศึกใช้ศัตรูด้วยการขายเครื่องกรอความทรงจำ ให้กับ เจ้าหญิงจักรพรรดิเอลิซาเบธ เธอจงใจปฏิเสธการพิจารณาคดีศาลทหารเพื่อมาขวางระหว่างบาร์บาทอสกับผม และถ้ามันจำเป็น ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนที่กล้าทำสิ่งที่ท้าทายด้วยการวางยาพิษ แต่เธอคาดหวังให้ผมเชื่อเธอเมื่อเธออ้างว่าไม่มีเจตนาร้ายอยู่เบื้องหลังการกระทำเหล่านั้นน่ะนะ
มันไม่วิเศษไปเลยหรือไง? แม้แต่พ่อผมยังไม่หน้าด้านขนาดนี้ได้เลย ผมยิ้มอย่างขมขื่นโดยไม่รู้ตัว
“โปรดยืนขึ้น ฝ่าบาท ที่น่าอับอาย”
“ขอโทษนะ?”
“มีเหตุผลอะไรหรือถ้าฝ่าบาทถึงต้องรับตัวผมเข้าฝ่ายขุนเขา? ไม่ว่าฝ่าบาทจะเกลียดบาร์บาทอสมากแค่ไหนเเต่เธออยากจะถลำลึกเพื่อทำให้นางเสียเกียรติมากกว่านี้อีกใช่ไหม? แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะพูดเเต่เมื่อผมร้องขอให้มีการตัดสินลงโทษผมเองโดยสมัครใจเเล้ว ฝ่าบาทก็ไม่ควรมาประพฤติตัวเช่นนี้อีก
···································
นั่นเป็นเช่นนั้น. ส่วนเรื่องของการควบคุมอารมณ์ของคนอื่น ผมกับไพม่อนนั้นเหมือนกัน ปัญหาก็คือ แม้จะเป็นเช่นนั้น ไพม่อน ทำทั้งหมดตั้งอยู่บนความเหงาของเธอ เธอยังคงทำราวกับว่าเธอโดดเดี่ยวและไม่ประสา
“ผมอยากรู้จริงๆ มันน่าสนุกขนาดไหนที่ได้ใช้ชีวิตแบบนั้น?”
ภาคภูมิใจในฐานะคนเจ้าเล่ห์ ไพม่อน
ผมรู้ว่าเธอหวงแหนอาณาประชาราษฎร์ของตน เเต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนชั่วใช้คนดี หรือคนดีใช้คนชั่ว ถ้าเธอใช้ใครซักคนตามดุลยพินิจของตัวเองเป็น เมื่อถึงตอนนั้น ทั้งเธอและผมจะกลายเป็นผู้วางแผนที่เท่าเทียมกัน ทั้งเธอและผมไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน ไม่ใช่คนป่าที่ฟาดฟันเเละกัดกินผู้อื่นจนกว่าจะพอใจใช่ไหม?
ไพม่อนวิงวอน
“ไม่ นั่นเป็นเรื่องเข้าใจผิด นายกำลังเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไป แม้แต่เรื่องที่เกี่ยวกับบาร์บาทอสนายเองก็เข้าใจผิดไปครั้งใหญ่ด้วย······· ตอนนี้ ตอนนี้น่ะ เป็นโอกาสสุดท้ายของนายแล้ว นายต้องจับมือผู้หญิงคนนี้ได้เเล้ว บาบาร์ทอส กำลังจะล้างบางนายโดยใช้โอกาสนี้”
“·······”
“สิตรีก็พูดไว้นี่ บาร์บาทอส เด็กคนนั้นไม่ปล่อยคนที่รู้จุดอ่อนของเธอไว้หรอก บาบาร์ทอส เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแสดงผู้ปราดเปรียว ถ้านายไม่เข้าสู่ฝ่ายขุนเขาและทำให้สถานะของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น นายจะถูกกำจัดในพริบตาและ·······”
“พยายามจะสร้างตวามเเตกเเยกใช้ไหม”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่จน ไพม่อน สะดุ้ง
ข้วยไม่ได้
ผมล้วงเสื้อที่ถอดออกมาก่อนหน้านี้ แล้วหยิบนาฬิกาพกขึ้นมาไว้ข้างตัวผม นั่นเป็นหลักฐานที่เปลี่ยนจากมือของ ฮัมบาบา ไปยัง ไพม่อน จากมือของ ไพม่อน ส้งต่อไปถึง เจ้าหญฺิง และจากมือของ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ก็ตกมาในมือผมท้ายที่สุด
“······นั่นมัน.”
นี่เป็นสิ่งของที่คุ้นเคยกันดีในสายตาของ ไพม่อน นัยน์ตาสีแดงของเธอสั่นสะท้าน ผมพยักหน้าแล้วยื่นนาฬิกาพกให้เธอดู
“โอ้ที่รัก ดูเหมือนว่าเธอจะค่อนข้างคุ้นเคยกับเจ้านี่ดีเลยนะ ฝ่าบาท บางทีอาจจะจำช่วงเวลาที่เห็นเจ้านี่ครั้งสุดท้ายได้ใช่ไหม?
“······”
“ใช่ โปรดยืนขึ้นเถอะและมองดูให้ใกล้ขึ้น นี่คือสิ่งประดิษฐ์แห่งความทรงจำ เเม่ทัพหุ่นเชิด ความลับและที่มาของ มิสลอร่า เดอ ฟาร์นาเซ่ อยู่ภายในวัตถุนี้ หลังจากเจรจากับเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิแล้ว เธอก็ส่งต่อสื่งนี้ให้ผม เจ้าหญิงจักพรรดิเป็นคนฉลาด โดยการใช้ความลับนี้ เธอสามารถโจมตีไปที่ศักดิ์ศรีของ ฟาร์นาเซ่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ แรงโจมตีทางการเมืองที่เเม่ทัพรักษาการของผมได้รับจะส่งผลตรงมาถึงผมเช่นกัน”
ผมฮัมเพลงราวกับกำลังเล่าเรื่องที่น่าขบขันให้เธอฟัง อย่างไรก็ตาม คำพูดของผมยังคงดำเนินต่อไป ใบหน้าของไพม่อน ก็ยิ่งกระเหี้ยมมากขึ้นเท่านั้น
“ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นใคร แต่ดูเหมือนว่าใครก็ตามที่มอบสิ่งนี้ให้กับเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิคงจะเกลียดผมมากทีเดียว มันเป็นเรื่องน่าเศร้าเนาะ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยกระทำความผิดใดๆไว้ แต่ตัวผมเองกลับต้องรับกับความขุ่นเคืองเช่นนี้······· นั่นคือเหตุผลที่แม้ว่าผมจะไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น แต่ความสัมพันธ์ที่เป็นปฏิปักษ์ระหว่างตัวผมกับบุคคลผู้นั้นมันก่อตัวขึ้นเเล้ว มิใช่เช่นนั้นหรือ ฝ่าบาท”
“······”
ทำหน้าอะไรเนี่ย ไพม่อน? ในโลกนี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่ากับความความคืบหน้าของการค้นหาตนเองเจอ ดังนั้น แม้ว่าใบหน้าที่เปลือยเปล่าของเธอ ซึ่งเพิ่งถูกค้นพบนั้น เป็นใบหน้าที่เจ้าเล่ห์เเละไร้สาระอย่างน่าขัน นั่นก็ยังเป็นธรรมชาติที่แท้จริงของตัวเธอเอง หากเธอไม่สามารถรักตัวเองได้เเล้ว แล้วใครเล่าจะสามารถรักเธอได้กัน?
มันก็ไม่เป็นไรหรอก. อย่างที่คาดไว้ ผมรักชีวิตของตัวเองที่บ้าอำนาจ เหตุผลที่เรารักชีวิตไม่ใช่เพราะเราคุ้นเคยกับชีวิต แต่เป็นเพราะเราคุ้นเคยกับความรักนั้น ในวันหนึ่งเธอจะรักในตัวตนที่หน้าซื่อใจคดของตัวเองเเน่
ผมยกมุมปากขึ้น
“อย่ากังวลไปเลย ผมเองก็ไม่ใช่คนโง่เช่นนั้น อย่างน้อยที่สุด ผมก็รู้ดีว่าทำไมเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิถึงส่งระเบิดแบบนี้ให้ผม เธอน่าจะหวังว่าผมจะสร้างปัญหาและก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในกลุ่ม พันธมิตรจันทร์เสี้ยวได้ เจ้าหญิงจักรดิพรรดินี่ก็ค่อนข้างจะพิเศษด้วยเหมือนกัน······”
ในวันที่การเจรจาสิ้นสุดลงเเละผมกลับมาที่ค่าย ผมค่อนข้างแปลกใจที่เห็นเนื้อหาในนาฬิกาพก ผมรู้สึกประทับใจอีกครั้งกับความดื้อรั้นของ ไพม่อน ที่พยายามจะกำจัดผมทิ้งไป มันไม่ใช่เรื่องตลก บางที ไพม่อนละทิ้งตรรกะเหตุผลและไปใช้สัญชาตญาณของเธอเอง
คนที่จะก้าวยุคสมัยนี้ต่อไปคือผม ดันทาเลี่ยน
ไพม่อน เป็นคนแรกที่สัมผัสได้ถึงสิ่งนั้นในหมู่ผู้มีอำนาจ นั่นคือเหตุผลที่เธอพยายามจะกำจัดผม·······
เธอมองการมองการณ์ไกลได้เฉียบเเหลม ผมประเมินค่าเธอไว้สูง อย่างไรก็ตาม เธอทำผิดพลาด แทนที่จะพยายามเนรเทศผม เธอกลับพยายามดึงผมเข้าพวก อย่างน้อยที่สุด เธอก็ต้องทำให้คล้ายกับที่บาร์บาทอสทำสิ เธอควรสร้างหุ้นส่วนที่ทั้งสองฝ่ายใช้ซึ่งกันและกัน
ในช่วงเวลาที่ผมยังคงดูเหมือนเป็นคนใจร้อน ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของเธอคือการที่เธอผ่าฟันคุดทิ้งโดยพลัน ผู้อ่อนแอจะไม่ลืมความเย่อหยิ่งของผู้แข็งแกร่ง
ตอนนี้แล้ว
“ฝ่าบาทไพมอน”
ความจริงที่ว่าเธอเป็นคนแทงหลังผมเเละขายผมไป เป็นที่รู้ชัดเเล้ว ตอนนี้เธอจะทำอะไรอีกล่ะ? โดยส่วนตัวแล้ว ผมอยากรู้เหลือเกินว่าใบหน้าที่ไร้ยางอายของเธอสามารถด้านได้มากขนาดไหนกัน
“เธอมีอะไรจะพูดกับผมอีกไหม”
“·······”
ไพม่อน หรี่ตาลง เธอไม่เงยหน้าขึ้นทันที จากตรงนี้ ผมยังเห็นริมฝีปากของเธอเปิด ปิด และเปิดปิดลงอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน ไพม่อน ก็พึมพำด้วยเสียงเล็กๆ
“······ขอโทษ. เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้”
ด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอนราวกับพรั่งพรูออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ
“เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่มีความสามารถมากพอ······ เพราะเธอไร้ความสามารถถึงที่สุด ผู้หญิงคนนี้จึงกล่าวขอโทษ·······”
เป็นคำขอโทษที่ค่อนข้างแปลก
ไพม่อน ไม่ได้พยายามอ้อนวอนหรือแก้ตัวอีกต่อไป เธอเพียงแค่ยืนขึ้นโดยที่ใบหน้าของเธอยังคงมองลงพื้นและเธอก็ได้เดินจากไป ขอบเสื้อคลุมของเธอที่เปื้อนฝน ถูกลากไปตามทางที่ไปราวกับกระแสน้ำ
“·······”
สิตรี ผู้กระทำความผิดที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในวันนี้ จ้องมองมาที่ผมโดยไม่มีอารมณ์เเสดงบนใบหน้าของเธอก่อนที่จะไล่ตาม ไพม่อนไปหลังจากนั้นไม่นาน
ดังนั้น สิ่งเดียวที่ยังคงอยู่เคียงข้างผมในตอนนีัคือ ฟางกำมือหนึ่ง เก้าอี้ไม้โทรมๆ และแอ่งน้ำโคลนสองแอ่งที่ยังไม่แห้ง ในที่สุดผมก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อทุกคนหายไป ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการดำรงชีวิตที่ไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ผมก็พอใจกับสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้
“ฮะ”
ตอนนี้ถึงเวลาเเล้วหรือยัง?
ผมมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนอันมืดมิด
แม้ว่า ไพม่อน จะยืนยันว่าผมเข้าใจอะไรผิด เเต่ในทางกลับกัน นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการจะพูดกับเธอเหมือน กันไม่ใช่แค่ ไพม่อน แต่กับ บาบาร์ทอสก็ด้วย ดูเหมือนจะเข้าใจผิดอย่างแรง คล้ายกับที่ไพม่อนเชื่อว่านี่เป็นสงครามที่เธอต้องแบกรับ บาบาร์ทอสเองก็คิดว่านี่เป็นสงครามที่เธอเริ่มต้นขึ้น น่าเสียดายจังที่พวกเธอคิดผิดไปทั้งคู่ ตั้งแต่ต้นจนจบ สงครามครั้งนี้มันเป็นของผม
จำเป็นต้องทำให้พวกเธอตระหนักถึงสิ่งนี้ให้ได้
ถึงตอนนี้พวกเธอกีดกันผมจากสงครามก็ช่างมันปะไร เอาผมไปไว้ที่ๆห่างไกลจากสนามรบ เเต่อย่างไรก็ตามพวกเขาจะตระหนักได้เองในวันพรุ่งนี้
⎯⎯⎯⎯ ความจริงที่ว่าแม้ว่าผมจะไม่เข้าใกล้สงคราม แต่สงครามก็ขยับเข้ามาใกล้ผมด้วยความยินดี
ฟาร์นาเซ่
เวลาของพวกเรามาถึงแล้ว
………………………………………………….
คนเลิกอ่านเรื่องนี้กันไปหมดเเล้วหรือไงหว่าตั้งเเต่ขึ้นเล่ม 4 มาคนอ่านหายไปไหนหมดไม่รู้โคตรจะร้างเลย ไหนๆก็ไหนๆเเล้วลองหันไปหานิยายเรื่องอื่นมาแปลมั่งดีกว่า
เธอเเละที่ลี้ภัยของฉัน (ชื่อชั่วคราว)
เรื่องย่อ
ในวันหนึ่งตัวเอกเอกของเราถูกอัญเชิญไปยังอีกโลก
ซัมมอนเนอร์ที่อัญเชิญเขาเป็นเด็กสาวร่างบางสามารถใช้เวทย์มนตร์ได้
อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมที่รอเขาอยู่นั้นไม่มีเรื่องราวที่กล้าหาญเต็มไปด้วยความหวังและความฝัน
“หรือว่าเราอาจจะมีสายเลิอดผู้กล้าที่ถูกลิขิตให้กอบกู้โลกนี้ใช่ไหมเนี่ยย”
“อ๊อดดดด ผิด. ไม่ใช่คำตอบที่ถูกจ้า! เจ้าจะถูกทรมานเพื่อมาเป็นของเล่นต่างหาก!!”
Chapters
Comments
- ตอนที่ 104 บทนำ มิถุนายน 12, 2023
- ตอนที่ 103 คำโปรยเล่ม 5 มิถุนายน 12, 2023
- ตอนที่ 102 กุมภาพันธ์ 22, 2023
- ตอนที่ 100 มกราคม 31, 2023
- ตอนที่ 99 มกราคม 30, 2023
- ตอนที่ 98 มกราคม 27, 2023
- ตอนที่ 97 มกราคม 6, 2023
- ตอนที่ 96 มกราคม 6, 2023
- ตอนที่ 95 มกราคม 3, 2023
- ตอนที่ 94 ธันวาคม 29, 2022
- ตอนที่ 93 ธันวาคม 27, 2022
- ตอนที่ 92 ธันวาคม 23, 2022
- ตอนที่ 91 ธันวาคม 18, 2022
- ตอนที่ 90 พฤศจิกายน 18, 2022
- ตอนที่ 89 พฤศจิกายน 15, 2022
- ตอนที่ 88 พฤศจิกายน 15, 2022
- ตอนที่ 87 พฤศจิกายน 11, 2022
- ตอนที่ 86 พฤศจิกายน 11, 2022
- ตอนที่ 85 พฤศจิกายน 11, 2022
- ตอนที่ 84 พฤศจิกายน 11, 2022
- ตอนที่ 83 พฤศจิกายน 11, 2022
- ตอนที่ 82 กันยายน 30, 2022
- ตอนที่ 81 กันยายน 28, 2022
- ตอนที่ 80 กันยายน 28, 2022
- ตอนที่ 79 กันยายน 27, 2022
- ตอนที่ 78 กันยายน 27, 2022
- ตอนที่77 กันยายน 6, 2022
- ตอนที่ 76 กันยายน 5, 2022
- ตอนที่ 75 กันยายน 4, 2022
- ตอนที่ 74 สิงหาคม 12, 2022
- ตอนที่ 73 สิงหาคม 6, 2022
- ตอนที่ 72 สิงหาคม 4, 2022
- ตอนที่ 71 สิงหาคม 2, 2022
- ตอนที่ 70 กรกฎาคม 31, 2022
- ตอนที่ 69 กรกฎาคม 31, 2022
- ตอนที่ 68 กรกฎาคม 31, 2022
- ตอนที่ 67 กรกฎาคม 31, 2022
- ตอนที่ 66 กรกฎาคม 17, 2022
- ตอนที่ 65 กรกฎาคม 17, 2022
- ตอนที่ 64 กรกฎาคม 13, 2022
- ตอนที่ 63 กรกฎาคม 13, 2022
- ตอนที่ 62 กรกฎาคม 8, 2022
- ตอนที่ 61 กรกฎาคม 7, 2022
- ตอนที่ 60 กรกฎาคม 6, 2022
- ตอนที่ 59 กรกฎาคม 5, 2022
- ตอนที่ 58 กรกฎาคม 5, 2022
- ตอนที่ 57 มิถุนายน 30, 2022
- ตอนที่ 56 มิถุนายน 22, 2022
- ตอนที่ 55 มิถุนายน 20, 2022
- ตอนที่ 54 มิถุนายน 18, 2022
- ตอนที่ 53 มิถุนายน 15, 2022
- ตอนที่ 52 มิถุนายน 15, 2022
- ตอนที่ 51 มิถุนายน 13, 2022
- ตอนที่ 50 มิถุนายน 13, 2022
- ตอนที่ 49 มิถุนายน 12, 2022
- ตอนที่ 48 มิถุนายน 11, 2022
- ตอนที่ 47 มิถุนายน 11, 2022
- ตอนที่ 46 มิถุนายน 11, 2022
- ตอนที่ 45 มิถุนายน 11, 2022
- ตอนที่ 44 มิถุนายน 11, 2022
- ตอนที่ 43 มิถุนายน 11, 2022
- ตอนที่ 42 มิถุนายน 11, 2022
- ตอนที่ 41 มิถุนายน 11, 2022
- ตอนที่ 40 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 39 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 38 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 37 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 36 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 35 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 34 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 33 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 32 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 31 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 30 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 29 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 28 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 27 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 26 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 25 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 24 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 23 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 22 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 21 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 20 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 19 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 18 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 17 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 16 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 15 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 14 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 13 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 12 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 11 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 10 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 9 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 8 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 7 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 6 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 5 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 4 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 3 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 2 มิถุนายน 10, 2022
- ตอนที่ 1 มิถุนายน 10, 2022
MANGA DISCUSSION