บทที่ 311 : สัตว์ประหลาดใต้น้ำ
เพราะเจ้างูเหลือมยักษ์ประมาทหลิงหยุนเมื่อครู่ ทำให้มันต้องได้รับบาดเจ็บ ครั้งนี้มันจึงระมัดระวังมากกว่าเดิม มันหันหัวหลบและตะปูทั้งสี่เล่มก็พุ่งเข้าใส่เกล็ดที่แข็งราวกับเหล็กของมันก่อนจะร่วงลงสู่พื้น
เมื่อเห็นว่าครั้งนี้หลิงหยุนไม่สามารถทำอะไรมันได้ เจ้างูยักษ์ดูเหมือนจะใจกล้าและฮึกเหิมขึ้นมาใหม่ หลิงหยุนซัดตะปูเข้าใส่มันอีกครั้ง มันสะบัดหัวหลบและตะปูก็ร่วงลงพื้นเช่นเคย
ลำตัวใหญ่ยักษ์ของมันเตรียมพร้อมพุ่งเข้าใส่หลิงหยุนกับเจ้าขาวปุย ลำตัวของมันพุ่งทะยานขึ้นสูงอยู่กลางอากาศ ท่วงท่าแข็งแกร่งและดุร้าย แต่หลังจากที่ประเมินดูแล้ว หลิงหยุนมั่นใจว่าเขาจะสามารถรับมือได้อย่างแน่นอน
หลิงหยุนอุ้มเจ้าขาวปุยกระโดดหลบห่างออกไปก่อน จากนั้นจึงเดินออกมาเพื่อยั่วยุเจ้างูเหลือมยักษ์พร้อมกับยิ้มเย้ยที่มุมปาก
จากแสงไฟของยันต์อัคนีเมื่อครู่ ทำให้หลิงหยุนสามารถมองเห็นสภาพของเจ้างูยักษ์ได้ชัดเจนครู่หนึ่ง
มันไม่เพียงได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยยันต์อัคนีของหลิงหยุน แต่ตามลำตัวของมันยังมีรอยบาดแผลที่เกิดจากกระสุนปืน และใบมีดอีกด้วย หลิงหยุนจึงไม่แปลกใจนักที่เจ้างูยักษ์จะเลิกสนใจเจ้าขาวปุย และพุ่งเป้ามาที่เขาแทน!
เมื่อเจ้างูยักษ์พบว่าหลิงหยุนเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วคล่องแคล่วอย่างน่าอัศจรรย์ ลำตัวของมันจึงค่อยๆลดต่ำลง เพื่อพุ่งเป้าไปที่เท้าของเขาแทน
หลิงหยุนร้องตะโกนออกไปอย่างท้าทายว่า “เข้ามาเลย!”
เมื่อลำตัวใหญ่ยักษ์ของเจ้างูเหลือมเลื้อยราบอยู่กับพื้น หลิงหยุนก็ก้าวออกมาด้านหน้าราวหนึ่งเมตร จากนั้นก็กระโจนขึ้นไปขี่อยู่บนลำตัวของมันอย่างไม่เกรงกลัว
“เอาล่ะ.. ใหนๆข้าก็เคยขี่มังกรที่อยู่บนเมฆมาก่อนแล้ว วันนี้จะลองขี่งูเล็กๆที่อยู่ๆบนพื้นดินอย่างเจ้าดูบ้าง!”
หลิงหยุนพูดออกมาอย่างเย้ยหยัน เจ้างูยักษ์บิดลำตัวและสะบัดไปมาด้วยความโกรธเกรี้ยว ร่างของมันส่ายสะบัดขึ่นลงราวกับคลื่นยักษ์ในมหาสมุทรก็ไม่ปาน แต่หลิงหยุนกลับยึดลำตัวของมันไว้แน่นราวกับกำลังควบม้า
“ในเมื่อเจ้าดุร้ายมากนัก ข้าก็จะควักหัวใจกับดีของเจ้าออกมากิน! ตอนนี้มีแต่เจ้ากับเข้า ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย จะได้ไม่มีใครว่าข้าใจคอโหดเหี้ยมกับสัตว์อย่างเจ้า?”
หลิงหยุนแอบวัดระยะช่วงลำตัวของเจ้างูยักษ์อยู่ในใจ เขากำลังหาตำแหน่งของหัวใจและถุงน้ำดีบนลำตัวของมัน หลังจากกะตำแหน่งได้แล้ว หลิงหยุนก็ไถลร่างของเขาลงไปอยู่กลางลำตัวของเจ้างูยักษ์ แล้วเงื้อมือข้างที่ถือพู่กันจักรพรรดิขึ้น และจ้วงแทงลงไปบนเกล็ดที่แข็งทนทานของมัน จากนั้นก็กรีดลงมาเป็นเส้นตรงที่มีขนาดเท่าเส้นผ่าศูนย์กลางของลูกบาสเก็ตบอล
มีหรือที่เจ้างูเหลือมยักษ์จะทนกับความเจ็บปวดของบาดแผลได้? ร่างที่เจ็บปวดของมันดิ้นรนไปมากลางอากาศอย่างคลุ้มคลั่ง เพื่อต้องการสะบัดร่างของหลิงหยุนที่เกาะอยู่ให้หลุดออกไป
หลิงหยุนจัดการล้วงมือเข้าไปลำตัวของมัน แต่ก็ถึงกับตกใจเมื่อพบว่ามีศพของมนุษย์อยู่ในท้องของมัน เขาขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกเสียดาย!
หลิงหยุนไม่ได้ต้องการหัวใจและดีงูของมันมากินเอง แต่เขาต้องการนำไปให้เข้าขาวปุย!
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกินคนไปมากมายเช่นนี้ คิดซะว่านี่เป็นการล้างแค้นให้กับคนพวกนั้นก็แล้วกัน!”
หลิงหยุนพึมพำพร้อมกับออกแรงจ้วงแทงพู่กันจักรพรรดิลงไปบนลำตัวห่างจากหัวของมันลงมาราวเจ็ดนิ้ว..
ตำแหน่งจากหัวของมันลงมาเจ็ดนิ้วนั้น เป็นตำแหน่งที่มันจะไม่สามารถทำอันตรายอะไรหลิงหยุนได้ เพราะเป็นตำแหน่งที่มันไม่สามารถหันมาฉกได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าตำแหน่งที่วัดจากหัวลงมาเจ็ดนิ้วจะเป็นจุดที่งูฉกไม่ถึงทุกตัว มันขึ้นอยู่กับขนาดความยาวของงูแต่ละตัวด้วย
ตอนนี้ลำตัวใหญ่ยักษ์ของเจ้างูเหลือมตั้งขึ้นกลางอากาศ และพุ่งเข้าใส่ก้อนหินอย่างคลุ้มคลั่งอีกครั้ง มันต้องการให้ร่างของหลิงหยุนกระแทกเข้ากับก้อนหินเหล่านั้น!
แต่หลิงหยุนรีบหมุนตัวกลับไปอยู่อีกด้าน และออกแรงกดพู่กันจักรพรรดิลงไปบนลำตัวของมันลึกขึ้นด้วย มันเสียงร้องดังด้วยความเจ็บปวด!
สภาพของเจ้างูเหลือมนั้นน่าสลดสังเวชอย่างที่สุด และไม่ว่ามันจะโยกหรือสะบัดอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้หลิงหยุนหลุดออกจากลำตัวของมันได้ เลือดสดๆไหลพุ่งออกมาจากลำตัวและค่อยๆหมดแรง ในที่สุดร่างใหญ่ยักษ์ขของเจ้างูเหลือมก็นอนแน่นิ่งอยู่บนก้อนหิน..
หลังจากที่สู้กับงูเหลือมยักษ์ ร่างกายของหลิงหยุนก็เต็มไปด้วยเลือดที่มีกลิ่นคาวเหม็นคุ้งไปหมด เขาจึงหันไปบอกกับเจ้าขาวปุยว่า
“ไปล้างทำความสะอาดร่างกายกับข้า จะได้ออกไปจากตรงนี้!”
แต่เจ้าขาวปุยกลับไม่ขยับเขยื้อน สายตาของมันจับจ้องอยู่ที่ร่างแน่นิ่งของงูยักษ์ เมื่อหลิงหยุนเห็นเช่นนั้นเขาจึงพูดขึ้นว่า “นี่ขาวปุย! หัวใจกับดีงูพวกนั้น เจ้าไม่สามารถกินได้แล้ว!”
เจ้าขาวปุยเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาสีดำเป็นประกายของมันจ้องมองหลิงหยุนด้วยความสงสัย
หลิงหยุนเห็นเช่นนั้นจึงตอบมันกลับไปว่า “งูเหลือมตัวนี้กินคนเข้าไปตั้งหลายคน เจ้ากินเครื่องในของมันไม่ได้แล้วล่ะ?”
แม้ว่าเจ้าขาวปุยจะเป็นเพียงแค่สุนัขจิ้งจอก แต่อีกไม่นานมันก็จะกลายร่างได้แล้ว หลิงหยุนจึงไม่ต้องการให้มันกินของพรรณนี้เข้าไป
หากเจ้างูเหลือมยักษ์ตัวนี้สามารถกลายร่างเป็นมังกรน้ำได้ในวันข้างหน้า หลิงหยุนคงจะต้องเจาะเอาทับทิมสีแดงที่อยู่บนหัวของมันออกมาแน่ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนของเขาและเจ้าขาวปุยอย่างมากในอนาคต แต่เจ้างูยักษ์ตัวนี้ยังห่างไกลการกลายร่างอีกมากนัก
เจ้าขาวปุยทำสีหน้าเหมือนไม่เข้าใจ มันส่ายหัวไปมา แต่ก็ตัดใจจากความอยากได้หัวใจและดีงู แล้วตามหลิงหยุนไปที่แม่น้ำ
ร่างกายของหลิงหยุนในเวลานี้เต็มไปด้วยเลือดของงู เขาจึงไม่สนใจคางคกยักษ์ที่อยู่ตามทางเดิน แต่ระหว่างทางที่หลิงหยุนเดินตรงไปที่แม่น้ำท่ามกลางความมืดนั้น เหล่าคางคกที่อยู่บนพื้นต่างก็พากันกระโดดหนีด้วยความหวาดกลัว เพราะมันได้กลิ่นคาวเลือดงูบนตัวของ
“ข้อดีของมันคือเป็นเครื่องมือขับไล่คางคกที่น่าขยะแขยงพวกนี้!”
เสียงน้ำไหลก้องดังราวกับเสียงฟ้าร้อง!
ทันทีที่หลิงหยุนไปถึงริมฝั่งแม่น้ำ เขาก็จัดการเตะหินก้อนใหญ่ที่บนฝั่งลงไปในน้ำ น่าแปลกที่มันไม่จมลงไปในน้ำทันที แต่กลับหมุนวนเป็นวงกลมก่อนจะเงียบหายไปในความมืด
หลิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเรียกยันต์อัคนีออกมาและจัดการปาใส่ต้นไม้พร้อมกับตะโกนสั่ง หลิงหยุนทำเช่นนั้นเพื่อให้เกิดแสงสว่างสำหรับสำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆตัว
“เหตุใดหินที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ล้วนเป็นหินที่แตกหักทั้งนั้น นี่มัน…”
“แม่น้ำนี่ลึกมากแค่ใหนนะ?!”
หลิงหยุนมองสำรวจบริเวณรอบๆอย่างกระตือรือร้น แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะดำลงไปสำรวจใต้น้ำ เขาต้องรีบไปให้ถึงค่ายกลมังกรหยินหยางที่กักเก็บพลังหยินไว้ให้เร็วที่สุด
ทันทีที่ลงมาถึงก้นหลุม หลิงหยุนกลับพบเจองูยักษ์หลายตัว และเขาเชื่อว่ามันไม่ได้มีอยู่เพียงเท่านี้แน่ น่าจะมีจำนวนมากมายกว่านี้!
สิ่งที่หลิงหยุนต้องการที่สุดในยามนี้คือพลังหยิน หากเขาเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-4เมื่อใด และสามารถฝึกวิชาพลังลับหยินหยางได้แล้ว เขาก็จะสามารถสำรวจที่นี่ได้อย่างสบายๆหากมีเวลา
หลิงหยุนเรียกชุดกีฬาออกมาจากแหวนพื้นที่หนึ่งชุด หลังจากสวมใส่ชุดใหม่แล้ว เขาก็เดินขึ้นไปเหยียบบนหินแยกก้อนหนึ่งเพื่อจัดการซักเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด
แต่เพียงแค่หลิงหยุนจุ่มเสื้อผ้าลงไปในน้ำและขยี้เพียงแค่สองครั้ง เขาก็พบว่าก้อนหินสีดำที่เขายืนอยู่และเท้าของเขาจมลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว
“อู้ว! จู่ๆน้ำจะมาขึ้นอะไรกันตอนนี้นะ?!” หลิงหยุนอุทานออกมาด้วยความตื่นตัว
“เดี๋ยวก่อน.. นี่มันไม่ใช่น้ำขึ้นนี่! หรือก้อนหินที่ข้ายืนอยู่กำลังถล่ม.. แต่ก็ไม่ใช่.. นี่ข้าไม่ได้ยืนอยู่บนก้อนหิน!!”
หลิงหยุนที่เพิ่งรู้สึกตัวกำลังเตรียมตัวจะกระโดดหนีออกไป แต่หินสีดำที่เขายืนอยู่นั้นกลับจมลงไปใต้น้ำลึกมากขึ้น และตอนนี้ร่างของเขาก็จมอยู่ใต้น้ำครึ่งตัว และกำลังแล่นออกไปไกลราวสิบเมตร!
น้ำที่นี่ว่าไหลเร็วแล้ว แต่เจ้าตัวสีดำที่อยู่ใต้น้ำนี้กลับเร็วยิ่งกว่าเสียอีก!
เพียงแค่ได้ยินเสียงดังปัง! คลื่นลูกใหญ่ที่ลักษณะคล้ายปากก็พุ่งเข้าใส่หลิงหยุน!
“นี่มันตัวอะไรกัน!?”
ภายใต้กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากและระดับน้ำที่ลึกมากนี้ ท่ามกลางความมืดมิดหลิงหยุนมองเห็นเพียงแค่ปากกว้างใหญ่ของมัน และหลิงหยุนมั่นใจว่าหากเจ้างูยักษ์ที่เขาเพิ่งฆ่าตายโดนเจ้าตัวนี้กัดเข้าไปเพียงแค่ครั้งเดียว คงจะต้องขาดเป็นสองท่อนแน่น
ในความมืดมิด เจ้าขาวปุยเห็นชัดว่าหลิงหยุนกำลังเผชิญหน้าอยู่กับอันตรายที่น่ากลัวในน้ำ มันรีบกระโดดตามหลิงหยุนและว่ายน้ำตามไปอย่างไม่เกรงกลัว
หลิงหยุนในเวลานี้อยู่ห่างจากฝั่งไปไกลหลายเมตร และในเวลานี้เขาอดนึกเสียดายไม่ได้ที่ไม่ได้นำอาวุธร้ายแรงมาด้วย
แม้พู่กันจักรพรรดิของเขาจะคมและทนทาน แต่หากต้องเผชิญกับปีศาจใต้น้ำขนาดใหญ่เช่นนี้ ต่อให้หลิงหยุนสามารถแทงมันด้วยพู่กันจักรพรรดิ มันก็คงจะได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และคงไม่เจ็บปวดอะไรมากมาย
“ข้าจะประมาทไม่ได้แล้ว!”
เมื่อเห็นปากขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาเพื่อกัดเขา หลิงหยุนจึงรีบดำหลบลงไปใต้น้ำ และว่ายวนอยู่ด้านล่าง
แม้หลิงหยุนจะดำลงไปใต้น้ำแต่เขาก็ไม่ได้หลับตา เขายอมทนเจ็บปวดดวงตาจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก และจ้องมองปีศาจที่อยู่ใต้น้ำ!
สิ่งที่หลิงหยุนเห็อยู่ใต้น้ำคือตัวอะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่ และส่วนที่เขาเห็นในตอนนี้มีลักษณะคล้ายกับด้านหน้าของรถยนต์!
ในเวลานี้.. ทั้งหลิงหยุนและปีศาจต่างก็ดำอยู่ใต้น้ำทั้งคู่ และเจ้าปีศาจก็เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว มันไม่พุ่งเข้ากัดหลิงหยุนทันที แต่กลับดำลงไปใต้น้ำ และสะบัดหางของมันมาทางด้านหน้าของหลิงหยุน!
ปากของเจ้าปีศาจน้ำที่อ้ากว้างอยู่นั้นกำลังพุ่งเข้ากัดหลิงหยุน!
“อย่าหาว่าข้าใจร้ายกับเจ้าก็แล้วกันนะ!?” หลิงหยุนตกใจอย่างมาก เขากำพู่กันจักรพรรดิไว้ในเมือ และโคจรดารกะดายันไปทั่วร่าง ก่อนจะพุ่งเข้าไปในปากขนาดใหญ่ของเจ้าปีศาจน้ำที่ดุร้าย
“คิดจะกินข้างั้นรึ? ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ!”
หลิงหยุนไม่รอให้ปากใหญ่ของมันปิดสนิท เขาใช้มือสองดันเพดานปากของมันไว้!