Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - ตอนที่ 564 : วิชาสยบมังกรแห่งตระกูลหลง!
- Home
- Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
- ตอนที่ 564 : วิชาสยบมังกรแห่งตระกูลหลง!
[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 564 : วิชาสยบมังกรแห่งตระกูลหลง!
หลังจากเลิกเรียนตอนเย็น เสี่ยวเม่ยหนิงกับเหมี่ยวเสี่ยวเหมาต่างก็รีบออกจากโรงเรียนมัธยมจิงฉูทันที แต่แทนที่จะตรงกลับไปที่บ้านของหลิงหยุนเลย หญิงสาวทั้งสองคนกลับมุ่งหน้าไปยังบ้านของท่านเสี่ยวหมอเทวดาแทน
เสี่ยวเม่ยหนิงได้รับข้อความจากแม่ที่ส่งมาบอกว่า พ่อและแม่ของเธอกำลังเดินทางมาเมืองจิงฉูเพื่อร่วมงานเปิดคลีนิคของหลิงหยุนในวันพรุ่งนี้ และเครื่องก็จะมาถึงช่วงเย็น
การที่เสี่ยวเฉิงเยี่วย และจางเม่ยหยิวนซึ่งเป็นพ่อแม่ของเสี่ยวเม่ยหนิง จะเดินทางมาร่วมยินดีกับการเปิดคลีนิคของหลิงหยุนนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่สมควร เพราะเมื่อครั้งงานวันเกิดของเสี่ยวเม่ยหนิงนั้น หลิงหยุนเองก็ได้มอบของขวัญที่ไม่อาจประเมินค่าได้ให้กับครอบครัวของพวกเขามากมาย
“แม่คะ..”
เสี่ยวเม่ยหนิงร้องทักทายแม่ของเธอทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในบ้าน และรีบวิ่งตรงเข้าไปหาอ้อมกอดของจางเม่ยหยิวนที่กำลังเดินเล่นอยู่ในสวน
“โอ้โหลูกรัก! รู้จักคิดถึงแม่ด้วยเหรอ..”
จางเม่ยหยิวนหยอกเย้าเสี่ยวเม่ยหนิงที่อยู่ในอ้อมแขน เธอโอบกอดและหอมหน้าผากของลูกสาวสุดที่รักด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“สวัสดีค่ะคุณป้า!” เหมี่ยวเสี่ยวเหมายิ้มหวานพร้อมกับเอ่ยทักทายจางเม่ยหยิวน
“หนูคงจะเป็นเหมี่ยวเสี่ยวเหมาใช่มั๊ยจ๊ะ? มาๆ มาให้ป้าดูใกล้ๆหน่อยซิ! โอ้โห.. ใบหน้าเล็กๆนี่สวยงามมากเลย ดูเหมือนจะสูงกว่าหนิงน้อยอีกนะนี่!”
จางเม่ยหยิวนปล่อยร่างของเสี่ยวเม่ยหนิง เธอเดินยิ้มและตรงเข้าไปดึงเหมี่ยวเสี่ยวเหมาเข้ามากอดอย่างรักใคร่ และพินิจพิจารณาอย่างละเอียด
เสี่ยวเม่ยหนิงเป็นเด็กสาวที่เปรียบเสมือนดอกไม้ที่มีค่า เหมี่ยวเสี่ยวเหมาเองก็เป็นเด็กสาวที่งดงามไม่แพ้กัน แต่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะเป็นหลานสาวของท่านหมอเสี่ยวเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้นับว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับจางเม่ยหยิวน
แต่เพราะจางเม่ยหยิวนนั้นเป็นคนที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน และมีเมตตา เมื่อได้ฟังชะตากรรมของเหมี่ยวเฟิงหวง เธอจึงได้แต่รู้สึกสงสาร และเห็นใจ อีกทั้งยังไม่ได้รู้สึกรังเกียจ หรือเห็นเหมี่ยวเสี่ยวเหมาเป็นคนอื่น
“คุณปู่ล่ะคะอยู่ใหน?!” เสี่ยวเม่ยหนิงร้องถามขึ้นมา
“คุณปู่กับพ่อของลูกกำลังคุยกันอยู่ในห้องลับ อย่าเพิ่งไปรบกวนพวกเขา”
จางเม่ยหยิวนดึงเสี่ยวเม่ยหนิงกับเหมี่ยวเสี่ยวเหมาเข้ามากอดพร้อมๆกัน คนหนึ่งอยู่ทางซ้าย อีกคนอยู่ทางขวา จากนั้นจึงพากันเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นภายในบ้านด้วยกัน
ท่านเสี่ยวหมอเทวดาที่อยู่ในห้องลับ..
“พ่อครับ.. นี่เป็นเข็มทองจำนวน 365 เล่มที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ตามที่ท่านพ่อสั่ง..”
เสี่ยวเฉิงเยี่วยชี้ไปที่กล่องหยกบนโต๊ะ ด้วยท่าทางเคารพนบนอบต่อท่านหมอเสี่ยว
ท่านหมอเสี่ยวหยิบเข็มทองขึ้นมาสองสามเล่ม และทดสอบด้วยการแทงเข็มเหล่านั้นลงไปที่แขนของตนเอง จากนั้นจึงยิ้มพร้อมกับพยักหน้าอย่างพอใจ
“เยี่ยม.. ทั้งน้ำหนัก ความหนา และความยาวของเข็มช่างพอดิบพอดี.. ไม่เลวเลยทีเดียว!”
“เก็บไว้ให้ดี แล้วนำไปมอบให้กับหลิงหยุนในวันพรุ่งนี้!” ท่านหมอเสี่ยวเก็บเข็มทองเข้าไปในกล่องหยกดังเดิม เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า
“แต่นี่เป็นแค่ของเล่นเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ยังไม่เพียงพอ!”
เสี่ยวเฉิงเยี่วยยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “หลิงหยุนให้ของขวัญที่ประเมินค่าไม่ได้กับตระกูลเสี่ยวของเรา ลูกก็ไม่รู้ว่าจะหาของขวัญอะไรให้กับเขาจริงๆ ถ้ายังไงท่านพ่อเป็นคนตัดสินใจเองก็แล้วกัน!”
ท่านเสี่ยวหมอเทวดาพยักหน้า “ตอนนี้หนอนกู่ในร่างกายพ่อก็ได้หลิงหยุนระงับไว้ให้ คงจะทำอันตรายกับร่างกายของพ่อไม่ได้อีกแล้วล่ะ สมุนไพรหายาก แล้วก็ต้นไม้ ดอกไม้ประหลาดๆในสวน ก็คงไม่จำเป็นกับพ่ออีกแล้ว ทั้งหมดนั่นก็ยกให้หลิงหยุนไปก็แล้วกัน!”
“ความรู้ทางการแพทย์ของหลิงหยุนนั้นนับว่าสูงส่งกว่าพ่อมาก เจ้าให้หนิงน้อยไปบอกกับหลิงหยุนว่าพ่อยกสมุนไพรแล้วก็ต้นไม้ประหลาดในสวนให้เขา แต่ไม่จำเป็นต้องย้ายไปปลูกที่บ้านของหลิงหยุน เขาอยากจะใช้เมื่อไหร่ก็มาตัดไปได้ตลอดเวลา”
“อ่อ.. ยังมีบัวหิมะเทียนซัน หญ้าชี่หยาง ต้วนฉางฉ่าว แล้วก็ของต่างๆที่อยู่ในห้องลับ พรุ่งนี้ให้นำไปมอบให้กับหลิงหยุนให้หมด”
เสี่ยวเฉิงเยี่วยพยักหน้าพร้อมกับหัวเราะ “ลูกจะทำตามนั้น..”
ท่านเสี่ยวหมอเทวดารำพึงรำพันต่อ “ธุรกิจของตระกูลเสี่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ทางเหนือของแม่น้ำแยงซี บริเวณสามจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่มีบางส่วนซึ่งก็ไม่มากนักที่อยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซี พ่อกำลังคิดว่าจะยกธุรกิจของเราที่อยู่ในเจียงหนานทั้งหมดให้กับหลิงหยุนเป็นผู้บริหารจัดการ..”
“ถึงเวลาแล้วที่จะต้องยกให้กับเขา..” ท่านเสี่ยวหมอเทวดาพูด แต่ก็ไม่รู้ว่าลูกชายจะเข้าใจความคิดของเขาหรือไม่?
หากเสี่ยวเม่ยหนิงซึ่งเป็นหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขาต้องแต่งงานกับหลิงหยุน หลังจากที่เสี่ยวเฉิงเยี่วยแก่ชรา ธุริกิจเหล่านี้ก็ต้องตกเป็นของหลิงหยุนอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นใครกันที่จะเข้ามาบริหารจัดการแทน?
แม้ว่าตอนนี้จะมีเหมี่ยวเสี่ยวเหมามาเป็นหลานสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน แต่ท่านหมอเสี่ยวเองก็รู้ดีที่สุดว่า ทรัพย์สินของชนเผ่าเหมี่ยวนั้นมากมายกว่าที่ตระกูลเสี่ยวครอบครองมากนัก เหมี่ยวเสี่ยวเหมาไม่มีทางที่จะคิดช่วงชิงสมบัติกับเสสี่ยวเม่ยหนิงอย่างแน่นอน
เสี่ยวเฉิงเยี่วยถามขึ้นด้วยความรู้สึกหวั่นใจ “ยกให้หลิงหยุนทั้งหมดเลยเหรอครับ?”
แม้ว่าธุรกิจในมณฑลเจียงหนานของตระกูลเสี่ยวจะเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆของตระกูล แต่ทรัพย์สินทั้งหมดรวมกันแล้วอย่างน้อยๆก็เป็นพันล้าน และจะต้องยกทั้งหมดนั้นให้กับหลิงหยุน..
เสี่ยวเฉิงเยี่วยไม่ได้หวงแหน หรืออึดอัดใจที่จะต้องมอบให้กับหลิงหยุน แต่หากหลิงหยุนบริหารงานไม่เป็น หรือบริหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร ธุรกิจก็จะพังทลายอย่างน่าเสียดาย
ท่านหมอเสี่ยวเหลือบมองลูกชายของตนเองพร้อมกับถามขึ้นว่า “ทำไม? แกว่ามันน้อยไปหรือยังไง? ฉันจะได้ยกให้เขาอีกสักหนึ่งหรือสองบริษัท!”
เสี่ยวเฉิงเยี่วยเกาศรีษะและเลิกพูดทันที เขาเพียงแค่นั่งนิ่งๆ ด้วยท่วงท่าเคารพนบนอบเช่นเคย
“เพราะความสามารถทางการแพทย์ของหลิงหยุน พ่อของแกถึงได้มีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสามสิบถึงสี่สิบปี แกยังจะนึกเสียดายบริษัทไม่กี่บริษัทอีกงั้นรึ?”
ท่านหมอเสี่ยวยิ้มให้ลูกชาย แล้วพูดต่อว่า “นี่เป็นเพียงแค่ก้าวแรกในการทำงานของหลิงหยุน แกคอยดูก็แล้วกัน.. ด้วยความสามารถที่หลิงหยุนมี ต่อไปคลีนิคเล็กๆแห่งนี้จะสามารถทำเงินได้นับเป็นพันๆล้าน..”
เสี่ยวเฉิงเยี่วยได้แต่น้อมศรีษะและยอมรับอย่างจริงใจว่า “วิสัยทัศน์ของลูกไม่กว้างไกลเอง..”
ท่านหมอเสี่ยวยิ้มเล็กน้อยและพูดต่อว่า “เอาล่ะ.. หนิงน้อยน่าจะกลับมาแล้ว ฉันเดาว่าหลานสาวของฉันคงจะมาถามเรื่องของขวัญที่จะเตรียมไปให้หลิงหยุนแน่ๆ”
เสี่ยวเฉิงเยี่วยหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า “แทบไม่ต้องเดา..”
ท่านหมอเสี่ยวเองก็ถึงกับหัวเราะเสียงดัง
………..
เพียงแค่หลิงหยุนจะเปิดคลินิกสามัญชน ดูเหมือนผู้คนมากมายต่างก็วุ่นวายไปหมด
หลิงหยุนต้องการให้คลินิกสามัญชนของเขานั้นดำเนินไปอย่างเงียบๆ ไม่ต้องเป็นที่สะดุดตา แต่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว?
คงยากที่จะทำตัวไม่เด่นไม่ดัง!
ตระกูลหลงต้องการเอาอกเอาใจหลิงหยุน ไม่เพียงแค่ยอมยกเลิกการแต่งงานของหลงเทียนเจียว แต่เมื่อได้ข่าวว่าหลิงหยุนจะเปิดคลีนิคสามัญชน ตระกูลหลงถึงกับต้องเรียกประชุมลับเพื่อปรึกษาหารือว่าจะส่งของขวัญอะไรให้กับเขา
“ไม่ว่าจะยังไง.. เจ้าต้องพยายามผูกมิตรกับหลิงหยุนให้จงได้ เพราะเขามีน้ำลายมังกรอยู่ในมือ เจ้าก็รู้ว่าแต่ใหนแต่ไรมา สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับมังกร ล้วนแล้วแต่ทำให้ตระกูลหลงเป็นฝ่ายกุมชัยชนะไม่ว่าเรื่องใดๆ!”
นี่เป็นความลับที่ผู้นำตระกูลหลง – หลงเฮ่าหลาน เป็นผู้กำชับด้วยตนเอง!
ตระกูลหลงถือกำเนิดในประเทศจีนมานับพันปีแล้ว ผ่านช่วงเวลาที่ทั้งรุ่งเรืองและตกต่ำมาแล้วเช่นกัน ภายในตระกูลหลงนั้นมีตำราเกี่ยวกับการฝึกฝนกำลังภายในอยู่มากมาย แม้แต่ตำราหายากก็มีอยู่นับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวบบรวมตำราที่ใหญ่มาก
แต่ถึงกระนั้น.. ตระกูลหลงก็มีกฎว่า คนในตระกูลหลงผู้ใดก็ตามที่ฝึกกำลังภายในจะต้องเรียนรู้วิชาประจำตระกูลหลงที่ชื่อว่าวิชาสยบมังกร
วิชาสยบมังกรนั้นมีทั้งหมด 9 ขั้น และแต่ละขั้นก็จะมี 9 ระดับย่อย หากคนในตระกูลคนใดก็ตามที่สามารถฝึกวิชาสยบมังกรจนถึงขั้นที่-7 ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ คนผู้นั้นก็จะได้ขึ้นเป็นผู้อาวุโสของตระกูลหลงทันที!
และหากได้ขึ้นเป็นผู้อาวุโสของตระกูลหลงแล้ว ก็จะสามารถเข้าร่วมการประชุม มีสิทธิ์ในการร่วมออกความเห็น และตัดสินใจในเรื่องต่างๆของตระกูล
แต่อย่างไรก็ตาม วิชาสยบมังกรนั้นก็ไม่ใช่วิชาที่จะสามารถฝึกฝนได้สำเร็จง่ายๆ และเรื่องนี้ลูกหลานตระกูลหลงในรุ่นหลังๆต่างก็รู้ดี!
เพียงแค่เข้าสู่ขั้นที่-4 ได้ ก็นับว่ายากเย็นมากแล้ว จึงแทบไม่ต้องพูดถึงขั้นที่-7 เลย!
ความจริงแล้ว.. การฝึกวิชาสยบมังกรในอดีตนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากมีสายเลือดตระกูลหลง แม้จะยังเป็นเพียงแค่ทายาทรุ่นเล็ก ก็สามารถฝึกฝนจนสามารถเข้าสู่ขั้นที่-7 ได้ด้วยพรสวรรค์ที่ติดตัวมา และเมื่อฝึกวิชานี้สำเร็จจนถึงขั้นที่-9 ตามตำนานเขียนไว้ว่าคนผู้นั้นจะสามารถควบคุม และบังคับมังกรได้
ถึงกระนั้นก็ตาม.. นับตั้งแต่สิ้นสุดราชวงศ์ชิงเป็นต้นมา ปราณมังกรก็ค่อยๆเหือดหายไป และขาดแคลนลงเรื่อยๆ และตั้งแต่นั้นมาตระกูลหลงก็เริ่มตกต่ำลง
ถึงแม้จะตกต่ำลงบ้าง แต่ด้วยรากฐานมั่นคงที่ตระกูลหลงสั่งสมมานานนับพันปี ทำให้ตระกูลหลงยังคงเป็นตระกูลที่อยู่ในฐานะเป็นผู้ควบคุมทิศทางของประเทศนี้อยู่ และตระกูลอื่นๆก็ยากที่ตามทันได้!
ตระกูลหลงเชื่อว่า.. ที่ตระกูลหลงมีอำนาจ และยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้ และได้เป็นผู้นำทิศทางของประเทศจีนมานานหลายศตวรรษนั้น ก็เพราะได้ครอบครองสิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับมังกร
เมื่อสิบแปดปีที่แล้ว ตระกูลหลงเคยค้นพบถ้ำมังกรขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่ประตูถ้ำนั้นถูกปิดตาย และหากจะเปิดเข้าไปก็จะต้องมีกุญแจเท่านั้น..
ตระกูลหลงใช้อำนาจ และอิทธิพลทั้งหมดที่มีอยู่ในมือ เพื่อสืบหากุญแจดอกนี้ไปทั่วทั้งแผ่นดินจีน และในที่สุดก็โชคดีที่กุญแจดอกนั้นถูกค้นพบโดยทายาทตระกูลหลงรุ่นต่อมา
แต่ที่โชคร้ายและน่าเสียดายก็คือ เด็กผู้นั้นปฏิเสธที่จะมอบกุญแจดอกนั้นให้ ตระกูลหลงจึงส่งยอดฝีมือที่เก่งกาจไปไล่ล่าเพื่อนำกุญแจกลับมา แต่เมื่อเผชิญหน้ากัน เด็กคนนั้นกลับทำลายกุญแจดอกนั้นทิ้งด้วยมือของตนเอง!
หลงฮ่าวหลานโกรธจนแทบอยากจะสังหารเด็กผู้นั้นด้วยมือของเขาเอง แต่ก็ต้องเลือกที่จะอดกลั้นไว้ ในเมื่อกุญแจดอกนั้นก็ถูกทำลายไปแล้ว จึงไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะฆ่าให้ตาย หลงฮ่าวหลานจึงเพียงแค่ขับไล่ออกจากตระกูล ไม่ให้ลูกหลานตระกูลหลงรุ่นต่อไปได้จดจำ และยอมรับเป็นคนในตระกูลอีก
ดังนั้น.. การเปิดถ้ำมังกรแห่งนี้ จึงจำเป็นต้องหาวิธีเปิดโดยไม่ใช้กุญแจ แต่ผ่านมาสิบแปดปีแล้ว ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ประตูถ้ำมังกรก็ยังคงปิดอยู่เช่นนั้น และไม่สามารถหาหนทางเปิดได้เลย
ปัจจุบันนี้.. ลูกหลานตระกูลหลงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถฝึกวิชาสยบมังกรที่สืบทอดกันมาจนถึงขั้นที่-7 ได้ และเมื่อได้ข่าวว่าหลิงหยุนมีน้ำลายมังกร จึงได้มีคำสั่งลับเช่นนั้นกับหลงเทียนเจียว!
น้ำลายมังกรนั้น เปรียบเสมือนของวิเศษสำหรับผู้ฝึกวรยุทธ เพราะเพียงแค่หยดเดียว ก็สามารถให้ผลได้อย่างน่าอัศจรรย์!
นอกจากตระกูลหลงแล้ว คนนอกน้อยคนนักที่จะรู้เรื่องนี้ และแม้แต่ลูกหลานตระกูลหลงในรุ่นหลังๆ ที่ไม่รู้เรื่องนี้ก็มีเช่นกัน!
แม้หลิงหยุนเองจะรู้ว่ามีสมบัติที่ล้ำค่าอยู่กับตัว แต่เขาก็ดื่มน้ำลายมังกรราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า แต่ก็นับว่าโชคดีที่หลิงหยุนยังมีน้ำลายมังกรเหลืออยู่ในน้ำเต้าวิเศษอีกจำนวนมาก
ด้วยเหตุนี้.. มีหรือที่ตระกูลหลงจะไม่อยากผูกมิตรไมตรีกับหลิงหยุน?!