Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - ตอนที่ 535
[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 535 : อย่าทำแบบนี้!
วันนี้หลิวลี่ดูจู่โจมหลิงหยุนอย่างเปิดเผย และคำพูดก็ตรงไปตรงมา น้ำเสียงก็แสดงนัยยะบางอย่างอย่างชัดเจน
หลิงหยุนไม่ใช่คนโง่.. เขาเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูด และน้ำเสียงของหลิวลี่ได้ชัดเจน
หลิงหยุนดีกับหลิวลี่มากเพียงใดนั้น แม้แต่ถังเมิ่งเองยังรู้สึกว่ามากเกินไป แล้วมีหรือที่หลิวลี่จะไม่รู้สึกเช่นกัน!
หลิวลี่ครุ่นคิดเรื่องนี้มานาน ตั้งแต่ครั้งแรกที่หลิงหยุนกับเธอได้พบกัน เธอก็เริ่มครุ่นคิดเรื่องนี้มาโดยตลอด
แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร.. เธอก็ไม่สามารถคิดออกว่าจะมีเหตุผลอะไรที่หลิงหยุนต้องทำดีกับเธอถึงเพียงนี้ และเหตุผลเดียวที่เธอคิดได้ก็คือ.. หลิงหยุนต้องการครอบครองตัวเธอ!
แต่การที่หลิงหยุนทำดีกับเธอมากมายโดยไม่กล้าบอกเหตุผลที่แท้จริง หลิวลี่เองก็ไม่อาจตำหนิเขาได้!
แล้วหลิวลี่เองล่ะพึงพอใจในตัวหลิงหยุนบ้างหรือไม่? แน่นอนว่าเธอพึงพอใจในตัวหลิงหยุนอย่างแน่นอน! และความรู้สึกที่เธอมีต่อหลิงหยุนนั้นก็ค่อนข้างชัดเจน เพราะหลิงหยุนเปรียบเหมือนเทพจากสวรรค์ที่แปลงร่างเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลามาช่วยชีวิตของเธอไว้
ตั้งแต่ความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้น หลิวลี่ก็ถูกความรู้สึกเหล่านี้แผดเผาจนไม่อาจเก็บซ่อนมันไว้ได้อีก เธอจึงได้แต่ผลักสำนึกผิดชอบชั่วดีออกไป
ในเมื่อเธอต้องการ.. ฉันก็จะมอบสิ่งที่เธอต้องการให้!
ในเมื่อเธอไม่กล้าเอ่ยปาก.. ฉันก็จะเป็นคนเริ่มเอง!
หลิวลี่รู้ดีว่ามันไม่ยุติธรรมกับสามีของเธอเลย เธอได้แต่นึกขอโทษเขาอยู่ในใจ แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ!
หลิงหยุนออกเดินทางไปที่เกาะกลางทะเลเป็นเวลาเกือบเดือน ระหว่างนั้นถังเมิ่งก็มาดูแลครอบครัวของเธอไม่ขาด ยิ่งหลิงหยุนดีกับเธอและครอบครัวมากเท่าไหร่ หลิวลี่ก็ยิ่งหวาดหวั่นมากขึ้นเท่านั้น
บุญคุณของหลิงหยุนที่มีต่อครอบครัวของเธอนั้น ครอบครัวของเธอไม่มีทางที่จะทดแทนได้หมด..
แต่ก็ไม่ใช่หลิวลี่เพียงคนเดียวที่คิดเช่นนี้..
วันหนึ่งเมื่ออาทิตย์ที่ผ่าน แม่สามีของหลิวลี่ก็ได้ชวนลูกชายของนางออกไปข้างนอก และได้แอบโทรหาหลิวลี่ซึ่งอยู่ที่บ้าน พร้อมกับพูดคุยกับเธออย่างเป็นจริงเป็นจัง
แม่สามีของหลิวลี่ไม่ใช่คนโง่!
นางไม่เพียงไม่ต่อว่าหลิวลี่ให้รู้สึกอับอาย แต่ความคิดของนางนั้นกลับล้ำลึกว่าที่หลิวลี่จะคาดคิดเสียอีก..
นางไม่ตำหนิหลิวลี่ อีกทั้งไม่ตำหนิหลิงหยุน และไม่กล่าวโทษลูกชายตัวเอง เธอบอกเพียงแค่ว่า.. ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องของโชคชะตา!
“หลิวลี่.. ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อน พบเห็นผู้คนมาก็มากมาย เด็กหลิงหยุนคนนี้ช่างเป็นคนดีเหลือเกิน..”
“พูดอย่างไม่อาย.. หากฉันอายุเท่าเธอ ก็คงจะต้องชื่นชอบเขาเหมือนกัน..”
“ถ้าหลิงหยุนทำดีกับครอบครัวของเราเพราะชื่นชอบในตัวเธอ.. ฉันก็จะบอกหยุนเซียงให้ช่วยทำให้พวกเธอทั้งสองคนได้สมหวัง..”
“แต่เรื่องนี้เธอคงต้องตัดสินใจเอง.. หากหลิงหยุนต้องการครอบครองเธอจริงๆ รออีกสองเดือนให้เธอคลอดลูกออกมาก่อน แล้วฉันจะให้หยุนเซียงหย่าขาดจากเธอ..”
“เพราะนอกจากพู่กันเก่าๆด้ามหนึ่ง กับหนังสือขาดๆอีกเล่มแล้ว ครอบครัวหลี่ของฉันก็ไม่มีอะไรจะตอบแทนให้กับเขาได้เลย..”
หลิวลี่นิ่งฟังแม่สามีของเธอที่พูดเรื่องนี้อย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ในใจก็อดที่จะนึกตำหนิแม่สามีไม่ได้ว่า นางช่างเป็นคนที่พูดจาตรงไปตรงมามากจนเกินไป อีกทั้งยังพูดด้วยท่าทางสงบนิ่งราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
และหลังจากที่ฟังแม่สามีพูดจนจบ.. หลิวลี่ก็ออกไปซื้อกับข้าวโดยที่ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย..
หลิวลี่รู้ดีว่าการที่เธอรู้สึกต่อหลิงหยุนเช่นนี้เป็นเรื่องที่ผิด แต่เธอก็ไม่อาจต้านทานไฟแห่งความรักที่กำลังแผดเผาใจได้ และก็ไม่รู้ว่าแม่สามีของเธอตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจที่ได้พาสามีของเธอกลับไปที่บ้านเกิด ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว หลิวลี่จึงไม่ต้องการให้วันนี้สูญเปล่า..
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม.. ทุกคนต่างก็เข้าใจผิดกันหมด!
เพราะหลิงหยุนไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับหลิวลี่แม้แต่น้อย เขาปฏิบัติต่อหลิวลี่ไม่ต่างจากพี่สาวคนหนึ่งเท่านั้น และที่ผ่านมาไม่ว่าจะพบเจอ และพูดคุยกับหลิวลี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ความรู้สึกของเขาก็ยังคงเหมือนเดิม
ความรู้สึกที่หลิงหยุนมีต่อหลิวลี่นั้นไม่ใช่ฉันชู้สาวอย่างแน่นอน อีกทั้งหลิงหยุนก็ไม่ได้ขาดแคลนผู้หญิง หญิงสาวรอบตัวเขานั้นล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ไม่มีทางที่เขาจะแย่งชิงภรรยาของหลี่หยุนเซียงมาอย่างแน่นอน
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำพูด และท่าทางที่ร้อนแรงของหลิวลี่ หลิงหยุนจึงได้แต่ยิ้มบางๆ และคิดหาวิธีรับมือที่ชาญฉลาด
“พี่หลิว.. พูดอะไรแบบนั้น? พวกเรานับว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน อย่าพูดล้อเล่นแบบนี้!”
หลิวลี่เริ่มหายใจแรงและเร็วขึ้น ใบหน้าของเธอแดงก่ำพร้อมกับจับมือของหลิงหยุนไว้แล้วพูดว่า
“คุณ.. คุณจะไม่พยุงฉันลุกขึ้นหน่อยเหรอ?”
หลิงหยุนแกล้งทำเป็นโง่.. “ลุกขึ้น? พี่หลิว.. นี่คุณจะลุกไปใหน?”
หลิวลี่ตอบไปว่า “จะให้ไปที่ใหนล่ะ? ก็ไปให้คุณตรวจร่างกายยังไงล่ะ?!”
หลิงหยุนตอบกลับทันที “พี่หลิว.. คุณไม่ได้เป็นอะไร ทุกอย่างปกติดี ไม่จำเป็นต้องตรวจอะไร!”
หลิวลี่ตอบไปว่า “คุณเป็นหมอเทวดา.. สามารถรักษาหยุนเซียงที่มีอาการโคม่าจนหายได้ แม้แต่แผลเป็นที่ศรีษะของเขาคุณก็ทำให้หายไปได้ แล้วทำไมถึงจะตรวจร่างกายให้ฉันไม่ได้?!”
หลิวลี่พูดพร้อมกับใช้แขนข้างหนึ่งจับโซฟาไว้เพื่อพยุงตัวลุกขึ้น และเมื่อลุกขึ้นมาได้เธอก็ใช้มืออีกข้างจับแขนของหลิงหยุนไว้
หลิงหยุนอ้ำๆอึ้งพร้อมกับรีบพูดขึ้นว่า “พี่หลิว.. ถ้างั้นตรวจตรงนี้ก็ได้..”
หลิวลี่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายใจ “ตรงนี้นั่งไม่สบาย คุณช่วยพาฉันไปนอนที่เตียงดีกว่า..”
เมื่อเป็นเช่นนี้ ดูเหมือนหลิงหยุนจะเลี่ยงไม่ตรวจก็คงจะไม่ได้ เขาจึงลุกขึ้นยืนพร้อมกับกัดฟันตอบไปว่า “ได้..”
หลิวลี่กอดแขนหลิงหยุนเดินเข้าไปยังห้องนอนด้วยสีหน้าเขินอาย บ้านหลังนี้เป็นบ้านสองชั้น แต่เพื่อความสะดวกหลิวลี่จึงเลือกนอนที่ห้องนอนชั้นล่าง
ทั้งคู่ต่างก็ดึงกันไปมา และในที่สุดก็เข้าไปในห้องนอนของหลิวลี่ หลิงหยุนประคองเธอเข้าไปนั่งลงบนเตียงที่ปูด้วยผ้าสีแดงด้วยความรู้สึกลำบากใจ
“ตอนนี้ร่างกายของฉันเดินเหินลุกนั่งลำบากไปหมด คุณช่วยประคองฉันนอนลลงหน่อย..”
หลิงหยุนต้องจำใจประคองหลิวลี่ให้นอนลงบนเตียง..
หลิวลี่มองตาหลิงหยุนพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงหวาน และไพเราะ “คุณตรวจร่างกายของฉันได้แล้ว.. ระมัดระวังด้วยล่ะ!”
หลังจากพูดออกไปแล้ว แก้มของหลิวลี่ก็แดงก่ำ..
มาถึงตอนนี้.. หลิวลี่ก็ได้แสดงความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน หากเป็นคนอื่นคงจะต้องรีบฉวยโอกาสนี้ไว้แล้ว
แต่หลิงหยุนไม่ใช่คนอื่น.. แม้เขาจะมองหลิวลี่ด้วยแววตาชื่นชม แต่ก็รีบเบือนหน้าหนีไปมองทางอื่นทันทีที่รู้สึกตัว
“พี่หลิว.. ผมตรวจดูแล้ว.. คุณไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ!”
หลิงหยุนแอบใช้มังกรคำรามช่วยหลิวลี่ให้มีสภาวะจิตใจที่หวั่นไหวน้อยลง และช่วยลดความรุ่มร้อนในใจของเธอลงเช่นกัน ในขณะเดียวกันนิ้วมือข้างซ้ายของเขาก็รีบดึงเสื้อที่เปิดขึ้นของหลิวลี่ลงดังเดิม
หลิวลี่ลืมตามองหลิงหยุนด้วยแววตาประหลาดใจ และร่างของเธอก็สั่นอย่างรุนแรงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเอ่อ
“น้องชาย.. ฉันดูไม่สวยในสายตาของคุณเลยงั้นหรือ?”
“ไม่ใช่..”
“มันไม่ใช่อย่างที่พี่สาวคิด.. ใจของผมคิดอย่างไร คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือ?”
หลิวลี่ทั้งโกรธทั้งอายจนถึงกับร้องไห้ออกมา..
ในที่สุดหลิงหยุนก็หันไปมองหน้าหลิวลี่พร้อมกับพูดเสียงเบา “ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณดี..”
เมื่อหลิวลี่ได้ยินว่าหลิงหยุนเข้าใจความรู้สึก เธอจึงได้แต่พูดออกไปด้วยความเขินอาย.. “แล้วยังนิ่งอยู่ทำไมล่ะ? หรือว่าเร็วเกินไป..?”
“เอ่อพี่สาว.. คือว่า..” หลิงหยุนส่ายหัวยิ้มๆ
“เธอยังไม่ประสีประสาเหรอ? ฉัน.. ฉันจะสอนให้เธอเอง..”
หลิงหยุนถึงกับเหงื่อท่วมตัว และได้แต่คิดว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล!
“พี่หลิว.. พวกเราไม่ควรทำผิดต่อพี่หยุนเซียง แล้วผมก็ไม่สามารถทำผิดต่อตระกูลหลี่ได้ และมันก็ไม่ยุติธรรมกับคุณด้วย..”
หลิงหยุนพูดด้วยความจริงใจ..
แม้หลิงหยุนจะไม่ใช่สุภาพบุรุษ แต่เขาก็มีความสามารถในการยับยั้งชั่งใจ!
หลิงหยุนรีบโน้มตัวเข้าไปช่วยดึงชายเสื้อของหลิวลี่ให้เรียบร้อย พร้อมกับฉวยโอกาสนี้ถามขึ้นว่า “พี่หลิว.. จู่ๆทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?”
เมื่อหลิงหยุนพยุงร่างของหลิวลี่ให้ลุกขึ้นนั่งแล้ว เธอก็สารภาพความรู้สึกที่อยู่ในจิตใต้สำนึกออกมาจนหมดสิ้น
“น้องชาย.. คุณดีกับฉันมากเหลือเกิน ซื้อบ้าน ซื้อรถ ให้เงิน ไม่ใช่เพราะชื่นชอบในตัวฉันหรอกเหรอ?”
หลิงหยุนเข้าใจได้ทันทีว่า.. หลิวลี่กำลังเข้าใจผิดอย่างมาก!
เมื่อได้รู้เหตุผลที่แท้จริง หลิงหยุนจึงยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “พี่สาวเป็นคนสวย เป็นคนดี เป็นคนขยัน เป็นคนที่ซื่อสัตย์ เป็นคนกตัญญู แล้วก็เคารพสามี และแม่สามีแบบนี้ แน่นอนว่าผมต้องชอบอยู่แล้ว!”
“แต่ผมชื่นชอบคุณในฐานะพี่สาวคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด อย่าได้เข้าใจผิด..”
เมื่อได้ยินหลิงหยุนพูดคำว่า ‘เคารพสามี’ ใบหน้างดงามของหลิวลี่ก็ปรากฏร่องรอยของความรู้สึกผิด และกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที
“พี่หลิว.. ลุกขึ้นแล้วไปนั่งคุยกันข้างนอกดีกว่า.””
หลิงหยุนประคองหลิวลี่ให้ลุกขึ้น และสัมผัสได้ว่าร่างเล็กๆของหลิวลี่นั้นสั่นเทิ้ม และดูเหมือนกำลังต่อต้าน
แม้ว่าหลิวลี่จะไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์ได้ แต่ก็ใช่ว่าเธอจะมีโอกาสอยู่กับหลิงหยุนตามลำพังเช่นนี้ได้ง่ายๆ เธอจึงยังไม่ยอมแพ้
หลิงหยุนยิ้มเมื่อนึกวิธีออก เขาเรียกไข่มุกราตรีออกมาจากแหวนพื้นที่ และชูมือขึ้นตรงหน้าของหลิวลี่พร้อมกับพูดอย่างอ่อนโยน
“พี่หลิว.. ผมให้พี่..”
ภายใต้ประกายระยิบระยับของไข่มุกราตรี สะท้อนให้เห็นใบหน้าที่สวยงามของหลิงหยุน และความรู้สึกของหลิวลี่ก็ถูกดึงดูดด้วยไข่มุกราตรีทันที
“นี่.. นี่มัน.. ไข่มุกราตรีใช่มั๊ย?!” หลิวลี่ร้องขึ้นอย่างตกใจ
“ใช่แล้ว.. มันเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากเลยนะ..” หลิงหยุนยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ไข่มุกนี่ล้ำค่าเกินไป.. ฉันไม่กล้ารับไว้!”
แม้หลิวลี่จะรู้ว่าไข่มุกนี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่อาจประเมินค่าได้ และไม่กล้าที่จะรับไว้ แต่ก็ไม่มีแรงที่จะปฏิเสธเช่นกัน
จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่จะสามารถปฏิเสธเครื่องประดับที่สวยงาม และหายากเช่นนี้ได้!
“รับไว้เถอะครับ..”
หลิงหยุนยิ้มกว้างพร้อมกับวางไข่มุกราตรีลงในมือของหลิวลี่..