บทที่ 352 : ล้างบางเมืองจิงฉู (1)
ท่านหมอเสี่ยวจัดให้ถังเมิ่งอยู่ให้ห้องเดี่ยวที่ไมต้องปะปนกับผู้อื่น เพื่อความสะดวกสบายและอุ่นใจของคนไข้!
ถังเมิ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ผมที่เคยยาวสลวยเป็นเอกลักษณ์ ถูกนางพยาบาลโกนทิ้งไปแล้ว ตอนนี้หัวโล้นๆของถังเมิ่งถูกห่อหุ้มด้วยผ้าก๊อซจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่าเสียเจิ้นเหยินทำร้ายถังเมิ่งจนอาการโคม่า
ดวงตาข้างขวาของถังเมิ่งนั้น เป็นรอยเขียวช้ำและบวมเปล่งจากการถูกเสียเจิ้นเหยินชกเข้าที่เบ้าตาอย่างรุนแรง ตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างของถังเมิ่งแทบลืมไม่ขึ้น แม้จะพยายามอย่างมากแล้ว ก็ยังมองเห็นได้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
แต่ทั้งหมดที่พูดมานั้น เป็นเพียงแค่อาการบาดเจ็บที่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะส่วนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สุดก็คือแขนและขาข้างขวาของเขา ที่ต้องเข้าเฝือกแข็ง และนอนนิ่งอยู่บนเตียงโดยไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย สภาพของถังเมิ่งนั้นดูช่างน่าสงสารมากเหลือเกิน!
เมื่อหลิงหยุนได้เห็นภาพที่น่าเวทนาของถังเมิ่ง จิตใจของเขาจึงเหมือนถูกบีบคั้นอย่างรุนแรง พลังหยินในจุดตันเถียนของเขาพลุ่งพล่าน และไหลกระจายไปตามเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างกาย และบรรยากาศรอบๆตัวก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที!
“ลูกพี่! ใช่ลูกพี่จริงๆเหรอ? ลูกพี่.. นายกลับมาแล้วจริงๆเหรอ? นี่.. นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไม๊?!” ถังเมิ่งยกมือข้างซ้ายชี้ไปทางหลิงหยุน และทำท่าดิ้นรนอยากจะลุกขึ้นนั่ง!
ตลอดหกวันที่ผ่านมานี้.. หลิงหยุนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับจมหายไปในท้องทะเล ถังเมิ่งเองก็ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน! จนแม้แต่เขาเองก็แทบจะล้มทั้งยืนเช่นกัน!
แต่ตอนนี้หลิงหยุนกลับมาปรากฏตัวตรงหน้า.. ถังเมิ่งจึงแทบไม่อยากเชื่อว่ามันคือความจริง!
แต่ในระหว่างที่ถังเมิ่งกำลังดิ้นขลุกขลักเพื่อที่จะลุกขึ้นนั่งอยู่นั้น ความเจ็บปวดทั่วทั้งร่างกายที่เกิดขึ้นกับเขา กลับเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่าสิ่งที่เขาเห็นอยู่ในตอนนี้มันคือความจริง! หลิงหยุนกลับมาแล้วจริงๆ!
เขาไม่ได้ฝันไป!!
“ถังเมิ่ง.. ฉันเป็นต้นเหตุให้น้องชายที่แสนดีอย่างนายต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้นายอย่างเพิ่งพูดอะไร.. ฉันจะรักษาอาการบาดเจ็บของนายก่อน!”
หลิงหยุนยื่นมือออกไปกดไหล่ของถังเมิ่งให้นอนลงไปนิ่งๆอย่างนุ่มนวล และอ่อนโยน!
“ฉันไม่ได้ฝันจริงๆด้วย.. ว้าว!!”
และเมื่อถังเมิ่งหันไปเห็นเสียวเม่ยหนิงที่วิ่งตามเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อน เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าลูกพี่ของเขากลับมาแล้วจริงๆ หลังจากที่เขาเฝ้ารอคอยมาเป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดหลิงหยุนก็มาปรากฏตัวตรงหน้าของเขาแล้วจริงๆ
ถังเมิ่งไม่อาจกลั้นน้ำตาลูกผู้ชายไว้ได้อีกต่อไป น้ำตาของเขาได้ระเบิดและพร่างพรูออกมาราวกับเขื่อนแตก!
ตลอดหกวันที่ผ่านมานั้น ถังเมิ่งต้องเผชิญหน้ากับความหวาดผวาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ความทุกข์ในจิตใจที่เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน การถูกรุมกระทืบจนร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส การถูกเยาะเย้ยถากถาง และทำให้ได้รับความอับอายจากฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งยังต้องหวาดกลัวว่าหลิงหยุนจะตายและหายสาปสูญไปจริงๆ ฝันร้ายมากมายเหล่านี้ทำให้ถังเมิ่งต้องกัดฟันอดทนเพื่อที่จะผ่านพ้นมันไปให้ได้..!
เมื่อหลิงหยุนกลับมา.. เขาจึงปล่อยให้น้ำตาที่อดกลั้นไว้เป็นเวลาหลายวัน ได้พลร่างพรูออกมาโดยไม่คิดที่จะเช็ดมันออกด้วยซ้ำ!
ถังเมิ่งกัดฟันแน่น! เขาเชื่อมาตลอดว่าลูกพี่ของเขาต้องไม่เป็นอะไร และเชื่อว่าลูกพี่ของเขาจะต้องกลับมาแก้แค้นให้กับเขาอย่างแน่นอน! และด้วยความเชื่อมั่น และความหวังนี้ ทำให้ถังเมิ่งสามารถอดทนอยู่มาได้จนถึงตอนนี้!
และในที่สุด.. เมื่อหลิงหยุนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาจริงๆ! ถังเมิ่งจึงได้แต่ปล่อยให้น้ำตาที่อดกลั้นไว้มานานนั้น พร่างพรูออกมาราวกับสายน้ำ จนเปียกเสื้อของหลิงหยุนไปหมด!
การที่ถังเมิ่งจะผ่านความทุกข์ที่แสนขมขื่นเหล่านี้มาได้ เขาเองก็ต้องอาศัยความเข้มแข็งไม่น้อยเช่นกัน!
ศรีษะของถังเมิ่งทั้งระบมและเจ็บปวด ใบหน้าก็บวมเปล่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาข้างขวาที่ถูกเสียเจิ้นเหยินชกจนบวม การร้องไห้ในครั้งนี้จึงได้สร้างความเจ็บปวดอย่างมากมายให้กับเขา แต่ถังเมิ่งก็ไม่สนใจ และยังคงร้องไห้ไม่หยุด!
ตอนนี้ถังเมิ่งไม่ต่างจากเด็กที่ได้รับอุบัติเหตุจนบาดเจ็บ เขาเอาแต่ร้องไห้น้ำตาไหลอย่างน่าสงสาร!
“ลูกพี่.. นายหายไปใหนมา?.. ฉันคิดว่านายไม่ต้องการพวกเรา แล้วก็ทิ้งพวกเราไปซะแล้ว.. นายทำแบบนี้ได้ยังไง..”
ดวงตาของหลิงหยุนแดงก่ำ ลำคอของเขาตีบตันไปหมด และพยายามกลั้นน้ำตาของตนเองไว้! หลิงหยุนทำได้เพียงแค่ใช้มือลูบไหล่ของถังเมิ่งอย่างอ่อนโยน
เสี่ยวเม่ยหนิงเองเมื่อได้เห็นภาพสะเทือนใจเช่นนี้ ใบหน้าสวยงามของเธอก็ถึงกับเปื้อนไปด้วยน้ำตา จนต้องใช้หลังมือเช็ดออก..
“ไม่เป็นไรแล้ว.. ฉันกลับมาแล้ว! ฉันผิดเอง.. พี่ชายของนายคนนี้ขอสาบานว่าจะต้องจัดการกับคนที่ทำร้ายนายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ ใครก็ตามที่ทำให้นายได้รับความอับอาย พวกมันจะต้องได้รับกลับคืนไปเป็นร้อยเท่า!”
หลิงหยุนจัดการแกะผ้าพันแผลของถังเมิ่งออกโดยไม่พูดอะไรอีก ระหว่างที่ถังเมิ่งไม่ทันได้รู้ตัวนั้น หลิงหยุนก็จัดการฝังเข็มลงไปตามบาดแผลบนศรีษะของเขา!
ศรีษะของถังเมิ่งเย็บถึงสิบสามเข็ม! และเมื่อหลิงหยุนดึงเข็มออกมา เลือดตามบาดแผลก็เริ่มซึมออกมาทันที และศรีษะของเขาก็เริ่มมีเลือดไหลเปื้อนไปหมด!
จากนั้นหลิงหยุนก็เรียกยันต์บำบัดออกมาสามสี่แผ่น และไม่รอให้ถังเมิ่งกรีดร้องออกมาเพราะความเจ็บปวด เขารีบใช้ยันต์บำบัดวางลงไปตรงบาดแผล และร้องสั่งให้ยันต์ทำงานทันที!
ถังเมิ่งที่กำลังรู้สึกร้อนและเจ็บปวดที่บาดแผล แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ร้องออกมา เขาก็สัมผัสได้ถึงความเย็นบริเวณบาดแผล หลังจากนั้นครู่หนึ่ง บาดแผลบนศรีษะของถังเมิ่งก็ค่อยๆหายไป และกลับคืนสู่สภาพปกติราวกับไม่เคยมีบาดแผลเกิดขึ้นมาก่อน ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยของแผลเป็นให้เห็น จะมีก็เพียงคราบเลือดเพียงนิดหน่อยที่ติดอยู่บนศรีษะเท่านั้น
หลิงหยุนใช้ยันต์บำบัดรักษาอาการบวมเปล่งที่ใบหน้าให้กับถังเมิ่งต่อ ดวงตาข้างขวากับใบหน้าที่บวมเปล่งก็เริ่มยุบลง และกลับคืนสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว
ในระหว่างงานเลี้ยงวันเกิดของเสี่ยวเม่ยหนิงนั้น หลิงหยุนก็ได้รักษาอาการตาบวมให้กับเธอเช่นกัน แต่เธอไม่ได้เห็นวิธีการรักษากับตาตัวเอง แต่เมื่อเธอได้เห็นหลิงหยุนรักษาอาการบวมที่ดวงตาและใบหน้าให้กับถังเมิ่ง เธอจึงได้แต่ตกตะลึงและลืมเรื่องร้องไห้เมื่อครู่ไปทันที!
“อย่าเพิ่งขยับ! เดี๋ยวพอหายดีแล้วนายตามฉันไปแก้แค้น!”
เมื่อหลิงหยุนเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของถังเมิ่ง เขาก็ได้แต่ยิ้มพร้อมกับร้องเรียกเสี่ยวเม่ยหนิงให้เข้ามาช่วย..
หลิงหยุนจัดการบีบเฝือกที่แขกและขาของถังเมิ่งให้แตก ส่วนเสี่ยวเม่ยหนิงก็ช่วยแกะผ้าพันแผลที่ห่อหุ้มอยู่ออก จากนั้นหลิงหยุนก็ใช้ยันต์บำบัดรักษาอาการบาดเจ็บที่ขาให้กับถังเมิ่งทันที!
เพียงแค่ครึ่งนาที ถังเมิ่งก็สามารถยกแขนขวาและขาขวาขึ้นได้ เขายืดขาออก และเริ่มลุกขึ้นจากเตียง!
“ฮ่า ฮ่า.. ฉันหายเป็นปกติแล้วพี่หยุน! พี่เก่งมากเลยจริงๆ ทักษะทางการแพทย์ของพี่โคตรเหลือเชื่อเลย!”
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากต้องนอนเจ็บป่วยอยู่บนเตียงและไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้ แต่จู่ๆ ความเจ็บปวดและอาการทุกอย่างกลับหายไปในพริบตา และสามารถกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้นั้น แน่นอนว่าเขาย่อมต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา!
“ฮ่า.. ฮ่า.. เสียเจิ้นเหยิน! ถ้าฉันไม่กลับไปกระทืบนายคืน อย่ามาเรียกฉันว่าถังเมิ่งอีก!”
ถังเมิ่งลุกขึ้นยืน และร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น!
“จัดการไอ้สวะนั่นไม่ใช่เรื่องยากหรอก!” หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับตอบถังเมิ่งไป แต่เมื่อพบว่าอาการบาดเจ็บภายในของถังเมิ่งไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เขาจึงค่อยรู้สึกโล่งอก
สมกับเป็นท่านหมอเสี่ยว.. แม้ว่าจะไม่มีความสามารถที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างหลิงหยุน แต่ก็สามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้เป็นอย่างดี
“นายไปจัดการอาบน้ำทำความสะอาดคราบเลือดตามตัวออกก่อน แล้วเปลี่ยนชุดคนไข้ออก พวกเราต้องรีบกลับไปที่อพาร์ทเมนท์ให้เร็วที่สุด!”
ความจริงแล้ว.. อาการบาดเจ็บของถังเมิ่งนั้นเข้าขั้นโคม่า การรักษาจึงค่อนข้างยากและต้องใช้เวลา แต่หลิงหยุนกลับสามารถใช้ยันต์บำบัดรักษาให้หายเป็นปกติได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว!
ตอนนี้เหยาลู่อยู่ที่อพาร์ทเมนท์ของหลิงหยุน และกำลังรับทุกข์ทรมานจากพิษหนอนกู่อยู่ เขาจึงต้องรีบกลับไปรักษาให้เธออย่างเร่งด่วนที่สุด!
หลิงหยุนนึกถึงร่างกายที่บอบบางและอ่อนแอของเหยาลู่ แต่กลับนึกไม่ถึงว่าเธอจะเป็นหญิงสาวที่ภายนอกแม้จะดูนุ่มนวล แต่จิตใจกลับแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะหาใครจะเทียบได้! ตอนนี้เมื่อคิดว่าเหยาลู่ต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดที่ยากจะทนได้แล้ว หลิงหยุนก็รู้สึกราวกับมีเข็มเป็นร้อยๆเล่มทิ่มแทงหัวใจ!
“ได้เลยลูกพี่!”
ตอนนี้หลิงหยุนกลับมาแล้ว ร่างกายและจิตใจของถังเมิ่งก็กลับคืนสู่สภาพปกติอีกครั้ง เขากระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว และรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำจัดการอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
“หนิงน้อย.. มาช่วยผมเก็บเสื้อผ้าของถังเมิ่ง จะได้รีบออกไปจากที่นี่กัน!”
ทันทีที่ถังเมิ่งเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ หลิงหยุนก็สั่งหนิงน้อยให้มาช่วยเขาจัดการเก็บของของถังเมิ่ง และเธอก็ทำตามคำสั่งของเขาอย่างเชื่อฟัง!
“นี่พวกเธอทำอะไร?! อ้าวหนิงน้อยเองเหรอ.. นี่มัน..”
“แล้วถังเมิ่งล่ะ..?”
ขณะที่คนทั้งคู่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บของให้กับถังเมิ่งอยู่นั้น หญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี ก็เดินถือกระติกน้ำร้อนเข้ามยืนอยู่ข้างหน้า เธอไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นแม่ของถังเมิ่ง – นางชว่างเหวินฮุ่ยนั่นเอง
แน่นอนว่าชว่างเหวินฮุ่ยต้องรู้จักเสี่ยวเม่ยหนิงดี เธอเพิ่งกลับจากไปเอากระติกน้ำร้อน และเมื่อกลับเข้ามาในห้องก็พบว่าลูกชายของเธอหายไปจากเตียงคนไข้แล้ว เธอจึงตกใจอย่างมาก!
“ป้าชว่างคะ.. ถังเมิ่งกำลังอาบน้ำอยู่ค่ะ พวกเรากำลังช่วยเขาเก็บของ..” เสี่ยวเม่ยหนิงเงยหน้าขึ้นพูดกับนางชว่างเหวินฮุ่ย
“ถังเมิ่งยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วจะเก็บของไปทำไมกัน..? ห๊ะ.. หลานบอกว่าอะไรนะ.. ถังเมิ่งกำลังอาบน้ำงั้นเหรอ? เขาจะอาบน้ำได้ยังไง?”
ชว่างเหวินฮุ่ยถึงกับอึ้ง.. ถังเมิ่งได้รับบาดเจ็บเข้าขั้นโคม่า แล้วจะลุกลงจากเตียงไปอาบน้ำได้ยังไงกัน?!
“แม่ครับ.. ผมหายดีแล้ว! พี่หยุนรักษาให้ผมจนหายแล้ว ผมกำลังอาบน้ำอยู่!”
ถังเม่งที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ และกำลังเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องน้ำร้องตะโกนออกมา
“อะรไรนะ?! หายแล้วเหรอ?!” นางชว่างเหวินฮุ่ยถึงกับร้องเสียงดังออกมาอย่างตกใจ และสีหน้าของเธอก็บ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อ มือไม้ของเธออ่อนแรง และของในมือก็เกือบจะร่วงลงพื้น!
หลิงหยุนรีบก้าวไปยืนด้านหน้าของนางชว่างเหวินฮุ่ย และรีบเอื้อมมือไปรับกาน้ำร้อนมาจากมือของเธอมา จากนั้นก็ยิ้มให้พร้อมกับโค้งคำนับและเอ่ยทักทาย
“ท่านป้าครับ.. ผมหลิงหยุนครับ!”
หลิงหยุนไม่อาจเสียมารยาทกับแม่ของถังเมิ่งได้ ที่เขาเปิดบัญชีเล่นหุ้นได้ก็เพราะแม่ของถังเมิ่งช่วย
อีกทั้งในคืนที่เขาเผชิญหน้ากับศัตรู ถังเทียนห่าวก็ได้นำกองกำลังตำรวจหลายสิบนายบุกไปช่วยเขา จนเป็นสาเหตุให้ตระกูลถังต้องประสบกับสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่ในตอนนี้ เช่นนี้แล้ว หลิงหยุนจะกล้าเสียมารายาทกับนางได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้น.. ถังเมิ่งเองก็เป็นดั่งน้องชายของเขา!
“เธอคืหลิงหยุนงั้นเหรอ!?” ชว่างเหวินฮุ่ยมองหลิงหยุนอย่างพินิจพิเคราะห์ และได้แต่ถอนหายใจ
เขาช่างดูเหมือนมังกรในหมู่มวลมนุษย์จริงๆ! แต่เด็กคนนี้กลับต้องกำลังเผชิญหน้ากับความหายนะที่ยิ่งใหญ่!
ชว่างเหวินฮุ่ยรู้สึกสับสน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาครุ่นคิดเรื่องพวกนี้ สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดก็คืออาการของถังเมิ่ง!
“เธอเป็นคนรักษาให้กับถังเมิ่งงั้นเหรอ?!”