บทที่ 343 : หัวเราะทีหลังดังกว่า (1)
ภายในห้องรับแขกที่อื้ออึงไปด้วยเสียบปรบมือ ตอนนี้ทุกคนต่างก็ยกมือค้าง และอ้าปากหวอมองดูภาพที่อยู่ตรงหน้า คล้ายกับว่าสมองของพวกเขานั้นมีพื้นที่ไม่พอสำหรับการประมวลความเข้าใจ!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?! เด็กผู้ชายที่แต่งตัวธรรมดาๆคนนั้นเป็นใครกัน? แม้แต่เสี่ยวเม่ยหนิงที่เพิ่งลงมาข้างล่าง ก็วิ่งเข้าไปซบอกเขาทันที โดยไม่สนใจที่จะเข้าไปทักทายปู่และพ่อของเธอ..
และทั้งที่สวมชุดราตรีที่สวยสง่าแบบนั้น แต่กลับวิ่งเข้าไปกอดเด็กหนุ่มคนนั้นแน่นจนไม่ห่วงว่าชุดสวยนั่นจะยับ..
และสิ่งที่ทำให้ทุกคนในงานประหลาดใจและอัศจรรย์ใจอย่างที่สุดนั้นก็คือ เด็กหนุ่มหลิงหยุนผู้นี้กลับกอดหนิงน้อยไว้ในอ้อมแขน โดยไม่สนใจใยดีกับสายตาหลายคู่ที่กำลังจับจ้องอยู่?!
เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ท่านหมอเสี่ยวกลับมีสีหน้าสงบนิ่ง สบายใจ และพออกพอใจ เมื่อได้เห็นหลานสาวยที่เป็นดั่งดวงใจมีความสุข เขาก็นั่งลงอย่างมีความสุขเช่นกัน
‘เจ้าเด็กหลิงหยุนคนนี้.. ต่อไปฉันคงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเจ้าแล้วสินะ..’ ท่านเสียวคิดอย่างสบายอกสบายใจ
เสี่ยวเม่ยหนิงยังคงขดอยู่ในอ้อมแขนของหลิงหยุนอยู่นาน และน้ำตาของเธอก็เปื้อนเสื้อหลิงหยุนจนเป็นวงใหญ่ ผ่านไปครู่ใหญ่เธอจึงเงยหน้าจ้องมองหลิงหยุนด้วยดวงตาที่ช้ำและบวม จากนั้นคำพูดมากมายก็พรั่งพรูออกมาจากปากของเธอ
“พี่หลิงหยุน.. นี่พี่กลับมาแล้วจริงๆ! พี่ไปใหนมา? พี่รู้ไม๊ว่าทุกคนตามหาพี่กันแทบบ้า! พวกเราต่างก็คิดว่าพี่…”
แต่เมื่อคำว่า ‘ตาย’ กำลังจะหลุดจากปก เสี่ยวเม่ยหนิงก็หยุดทันทีและไม่พูดอะไรต่ออีก เพราะถึงอย่างไรตอนนี้หลิงหยุนก็กลับมาแล้ว และกลับมาอย่างปลอดภัย!
หลิงหยุนเพียงแค่ยิ้ม.. เขาเองก็นึกไม่ถึงจริงๆว่าจะใช้เวลาในการฝึกพลังลับหยินหยาง และก้าวขึ้นสู่ขั้นปรับร่างกาย-4 นานถึงเพียงนี้
จากประสบการณ์เมื่อครั้งอยู่ในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่นั้น การฝึกวิชาพลังลับหยินหยานสามารถทำได้ง่ายนิดเดียว และใช้เวลาไม่มาก เขาจึงมั่นใจว่าจะใช้เวลาไม่นานนัก
เมื่อครั้งที่ลงไปก้นหลุมยักษ์ในคืนของวันที่ 6 เมษายนนั้น หลิงหยุนคิดว่าเขาน่าจะสามารถออกมาได้ในเช้าของวันที่ 7 และอาจจะต้องไปโรงเรียนในวันจันทร์สายหน่อยเท่านั้นเอง
แต่เขากลับนึกไม่ถึงว่าการฝึกพลังลับหยินหยางครั้งนี้ไม่เพียงใช้เวลานานถึงสามวันสามคืน แต่จุดตันเถียนของเขายังแปลกไปมากอีกด้วย
และยิ่งล่าช้าเข้าไปอีกเมื่อเขามาพบกันคนหน้าโง่สามคนที่บังเอิญไปเปิดค่ายกลมรณะเข้า หลังจากผ่านพ้นจุดนั้นมาได้ เขาก็ได้พบกับแผนผังแปดทิศที่ก้นบ่อน้ำลายมังกร และได้พบเห็นเรื่องราวแปลกประหลาดอีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดก็กินเวลาไปแล้วถึงห้าวัน และในเช้าวันที่ 12 จึงสามารถออกจากป่าเสินหนงเจี๋ยได้!
แต่ก็ยังต้องเผชิญกับการเดินทางที่หฤโหดถึงสิบสองชั่วโมงเพื่อกลับมาถึงจิงฉูให้ทันเวลา หลิงหยุนคำนวนดูแล้วปรากฏว่าเขาใช้เวลาอยู่ในก้นหลุมยักษ์และเดินทางกลับมาที่จิงฉูนานถึงหกวันหกคืน..!
หากหลิงหยุนรู้ว่าตนเองจะหายไปนานเช่นนี้ เขาคงจะบอกกับตี้เสี่ยวอู๋ก่อนที่จะเดินทางไปก้นหลุมยักษ์ เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง..
และหากเขาหายตัวไปจริงๆ ทุกคนก็จะได้ไปตามหาเขาได้ถูก เมื่อนึกถึงความน่ากลัวและสิ่งแปลกประหลาดที่ก้นหลุมยักษ์ หลิงหยุนก็ได้แต่คิดว่าหากเสี่ยวเม่ยเม่ย และตี้เสี่ยวอู๋ลงไปที่นั่น ทั้งคู่คงจะต้องตายอย่างสยดสยองแน่ และเขาเองก็คงจะรู้สึกเสียใจ
แต่ในตอนนี้.. สิ่งที่หลิงหยุนต้องทำก่อนคือการเอาใจหนิงน้อย!
“ผมกลับมาแล้วจริงๆ! ผมยอมรับผิด และต่อไปจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก แต่ผมไปหาของขวัญวันเกิดให้หนิงน้อยนะ ผมมีเซอร์ไพรส์ให้คุณด้วย!”
เมื่อได้ฟังคำพูดของหลิงหยุน เสี่ยวเม่ยหนิงถึงกับจ้องมองหลิงหยุนด้วยงความงุนงงอยู่นาน จากนั้นก็เริ่มร้องไห้อีกพร้อมกับเอามือทุบอกหลิงหยุน
“ใหนพี่เคยบอกว่าไม่มีของขวัญวันเกิดให้ฉันไง? ฉันไม่อยากได้ของขวัญอะไร แค่พี่มางานวันเกิด ฉันก็มีความสุขมากๆแล้ว!”
อะไรนะ?! นี่มันหลอกพวกเรางั้นเหรอ? ใหนมันบอกว่าไม่ได้เตรียมของขวัญวันเกิดมา?
สายตาของหนุ่มๆในโต๊ะจ้องมองหลิงหยุนกับเสี่ยวเม่ยหนิงที่ดูสนิทสนมกันด้วยความรู้สึกอิจฉาริษยา และไม่พอใจอย่างมาก!
ยิ่งตอนนี้ได้ยินว่าหลิงหยุนได้เตรียมของขวัญวันเกิดมาให้หนิงน้อย พวกเขาก็ยิ่งอิจฉาและไม่พอใจ..
หลิงหยุนสวมเสื้อยืดที่ซื้อจากร้านข้างถนน สวมกางเกงสีเขียวกึ่งลำลองกึ่งกีฬา ในมือก็ไม่ได้ถืออะไรมาด้วยแม้แต่กระเป๋า แล้วจะเอาของขวัญที่ใหนมาให้หนิงหน้อย..?!
ชายหนุ่มที่ร่ำรวยต่างก็คิดว่าหลิงหยุนโอ้อวดไปแบบนั้นเอง เมื่อถึงเวลามอบของขวัญให้กับหนิงน้อยจริงๆ พวกเขาคงได้หัวเราะเยาะหลิงหยุนอีกครั้งแน่!
หลิงหยุนที่โอบกอดร่างบอบบางของหนิงน้อยอยู่ในระยะปะชิดถามขึ้นมาว่า “หนิงน้อย.. ทำไมตาถึงได้บวมช้ำและแดงขนาดนั้นล่ะ?”
เสี่ยวเม่ยหนิงรีบซุกหน้าหลบเมื่อรู้ว่าหลิงหยุนสังเกตุเห็นพร้อมกับตะโกนสั่งว่า “พี่ห้ามมอง.. มันน่าเกลียด!!”
หลิงหยุนยิ้มและกำลังจะพูด แต่ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลังของเขา..
“หลายวันนี้หนิงน้อยคงจะเตรียมงานวันเกิดจนไม่มีเวลาพักผ่อน ดวงตาก็เลยบวมช้ำ แต่ไม่ต้องกังวล.. สำนักหมอหุบเขาเทวะมีครีมที่ช่วยในเรื่องของการหมุนเวียนเลือดได้เป็นอย่างดี ทาเพียงแค่สามชั่วโมงก็เห็นผล และดวงตาของหนิงน้อยก็จะกลับมาสวยงามเหมือนเดิม!”
จุดประสงค์ในการมาคืนนี้ของคุณชายฮู๋เซ่าป๋ายแห่งสำนักหมอหุบเทวะนั้นค่อนข้างชัดเจน แต่เมื่อเห็นหลิงหยุนกับเสี่ยวเม่ยหนิงสนิทสนมกันอย่างมากจึงรู้สึกไม่พอใจ และนี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้โอ้อวดความสามารถและศักยภาพของตนเอง จึงไม่รีรอที่จะฉวยโอกาสนี้ไว้..
สายตาทุกคู่ต่างก็จับจ้องไปที่กล่องสีทองปราณีตในมือของฮู๋เซ่าป๋าย และเพียงแค่เห็นแวบแรกที่เห็นก็รู้ได้ว่ามันคือกล่องทองคำแท้ ทุกคนในงานจึงได้แต่อึ้ง..
ตอนที่อยู่ก้นหลุมยักษ์นั้น หลิงหยุนเคยได้ยินเถี่ยเจิ้งผิงพูดชื่อหุบเขาหมอเทวะมาแล้ว เขาจึงมองฮู๋เซ่าป๋ายพร้อมกับตอบยิ้มๆ
“ต้องรอถึงสามชั่วโมง.. ไม่ช้าไปหน่อยหรือไง? ผมสามารถทำให้หายบวมได้ทันที!”
“ห๊ะ..” ทุกคนต่างร้องออกมาด้วยความตกใจ
ดวงตาของเสี่ยวเม่ยหนิงบวมและช้ำมาก แม้กระทั่งรองพื้นยังไม่สามารถปกปิดได้ เมื่อได้ยินว่ามีครีมที่ช่วยให้หายได้ภายในสามชั่วโมงเธอก็รู้สึกอัศจรรย์ใจมากแล้ว แต่หลิงหยุนกลับบอกว่านั่นยังช้าเกินไป!
ฮู๋เซ่าป๋ายถูกหลิงหยุนทำให้อับอายต่อหน้าผู้คน ใบหน้าหล่อเหลาของเขาแดงจนเกือบเขียว เขาขมวดคิ้วพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“หลิงหยุน.. สิ่งที่เจ้าพูดมันไม่มีทางเป็นไปได้ อย่าได้โอ้อวดจนเกินจริง! สิ่งใหนที่เจ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ควรที่จะพูดออกมา สิ่งใหนที่เจ้าทำได้ ก็อย่าคิดว่าคนอื่นทำไม่ได้ จะได้ไม่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเอา!”
ฮู๋เซ่าป๋ายไม่เชื่อ.. เพราะในสำนักหมอหุบเขาเทวะนั้น ไม่มีใครที่สามารถเอาชนะเขาได้แม้แต่คนเดียว!
ทุกคนที่อยู่ในห้องรับแขกต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยกับฮู๋เซ่าป๋าย และคิดว่าหลิงหยุนพูดพล่อยๆ!
ดูเหมือนชายหนุ่มคนอื่นๆในโต๊ะคงกลัวว่าจะยังโกลาหลวุ่นวายไม่พอ หนึ่งในนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า
“หลิงหยุน.. นายว่ายาของคนอื่นไม่ดี ถ้างั้นก็แสดงให้พวกเราเห็นหน่อยสิ?! แต่ถ้านายทำไม่ได้ พวกเราก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจหรือผิดหวังหรอกนะ!”
และทุกคนต่างก็จ้องมองหลิงหยุนตาเขม็ง และเขาก็ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนในห้องอีกครั้ง!
หลิงหยุนเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองฮู๋เซ่าป๋ายที่จ้องมองเขาอยู่เช่นกัน พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ใครบอกว่าผมทำไม่ได้ล่ะ? ถ้าทำไม่ได้.. ผมจะพูดทำไม?”
พูดจบ.. หลิงหยุนก็จับใบหน้าของเสี่ยวเม่ยหนิงให้เงยขึ้นอย่างนุ่มนวล จากนั้นก็ให้เธอลืมตาขึ้นมองไปด้านบน “หนิงน้อย.. เดี๋ยวก็สวยเหมือนเดิมแล้ว!”
แน่นอนว่าเสี่ยวเม่ยหนิงเชื่อฟังหลิงหยุน เธอยิ้มหวานให้กับเขาก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกับจ้องมองหลิงหยุนด้วยความรัก..
ระหว่างนั้นหลิงหยุนก็เรียกยันต์บำบัดออกมาจากแหวนพื้นที่ในมือข้างซ้าย จากนั้นก็ซ่อนยันต์อัคนีไว้ในฝ่ามือ และลูบเข้าที่ดวงตาของหนิงน้อยอย่างรวดเร็ว และตะโกนสั่งอยู่ในใจ!
เสี่ยวเม่ยหนิงรู้สึกว่ารอบดวงตาของเธอนั้นเย็นสดชื่น และอาการบวมนั้นลดลง อีกทั้งอาการเจ็บปวดที่เกิดจากดวงตาแห้งก็หายไปด้วยเช่นกัน
“สวยเหมือนเดิมแล้ว!” หลิงหยุนยกมือข้างซ้ายออกพร้อมกับยิ้มอ่อนโยน
“ห๊ะ..” “โอ้..?!” “เป็นไปไม่ได้..!” “เหลือเชื่อ..!!”
หลังจากที่หลิงหยุนยกมือข้างซ้ายออกจากดวงตาของเสี่ยวเม่ยหนิง ทุกคนต่างก็เห็นใบหน้าของเธอ แล้วดวงตาที่บวมเปล่งและแดงกล่ำก็หายเป็นปลิดทิ้ง
ดวงตาของเสี่ยวเม่ยหนิงในตอนนี้ กลับมากลมโตเป็นประกายสวยงามราวกับเทพธิดาเหมือนเดิมแล้ว ความแตกที่เห็นได้ชัดเจนนี้ทำให้ทุกคนต่างก็ตกตะลึง!!