Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร - ตอนที่ 461
[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 461 : ประกาศศักดา (3)
“แย่แล้ว!”
หลิงหยุนรับรู้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น.. ก็ได้แต่ขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว..
เขาไม่มีเวลาที่จะคิดอะไรทั้งนั้น และใช้มังกรพรางร่างขั้นสูงสุดไปโผล่อยู่ตรงหน้าของทหารหญิงทั้งสองคน พร้อมกับโอบร่างของพวกเธอไว้ข้างกายของเขาคนละข้าง!
พร้อมกันนั้นกระบี่โลหิตแดนใต้ก็โผล่ขึ้นมาในมือซ้ายของหลิงหยุน เขาเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วราวกับมังกร และใช้กระบี่โลหิตแดนใต้ฟันเข้ากับผนังเรือจนเป็นรูใหญ่ จากนั้นก็พุ่งออกจากเรือลำนั้นพร้อมทหารหญิงทั้งสองคนด้วยความเร็วไม่ต่างจากลูกธนู!
ตูม! ตูม!
สิ้นเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งผืนดินและแผ่นฟ้า ระเบิดมิซไซล์ลูกแรกซึ่งหนักกว่าสามร้อยกิโลกรัมพุ่งเข้าใส่เรือลาดตระเวน-472 และลูกที่สองก็ตามมาติดๆ
ลูกไฟขนาดใหญ่สองลูกถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดมิด และผู้คนที่อยู่ห่างไกลหลายสิบไมล์ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
นั่น..! นั่นมัน..!
แรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงจนน่าตกใจนั้น เกิดขึ้นจากแรงระเบิดของขีปนาวุธทั้งสองลูก ทำให้กระจกห้องโดยสารของเรือลาดตระเวนอีกห้าลำที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ถึงกับแตกกระจายจนทุกคนในเรือต่างก็ตกอกตกใจสุดขีด!
เศษของระเบิดมิดไซล์ที่กระเด็นออกมา เสียงกรีดร้อง เสียงกระจกแตก เสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณนั้น ได้เสริมให้ท้องทะเลในยามค่ำคืนดูโหดร้ายมากยิ่งขึ้น
ภายในเรือลาดตระเวน-472 ยังคงมีทหารหญิงอยู่ในห้องโดยสารอีกราวสิบกว่าคน เสียงกรีดร้องของทหารหญิงที่ได้รับบาดเจ็บ เสียงกรีดร้องที่เกิดจากความหวาดกลัวของพวกเธอดังก้องไปทั่วทั้งลำเรือ แต่กลับถูกกลบด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว ซึ่งคนธรรมดาไม่มีทางที่จะได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวเหล่านั้น.. มีเพียงหลิงหยุนเท่านั้นที่ได้ยิน!
โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นกับเรืองลาดตระเวน-472 ของญี่ปุ่น!
และแน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดหลงเหลือในห้องโดยสารของเรือที่ถูกขีปนาวุธถล่ม หลุมขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่าสิบเมตร เกิดขึ้นกลางลำเรือจำนวนสองหลุม และเรือลาดตระเวนก็แตกออกเป็นสามส่วน หากมองจากระยะไกล จะเห็นว่ามันไม่ต่างจากแท่งอะไรสามแท่งที่กำลังลอยอยู่กลางทะเล!
ผิวน้ำทะเลที่ดูมืดมิดถูกดูดลงไปเป็นครั้งแรก และโถมขึ้นอีกครั้งจนกลายเป็นคลื่นซึนามิขนาดใหญ่ การระเบิดของเรือลาดตระเวน-472 จนแตกออกเป็นเสี่ยงนั้น ก่อให้เกิดคลื่นที่กระจายตัวเป็นวงกว้างและรุนแรง จนผลักเรือลาดตระเวนอีกห้าลำออกไปไกล!
จากนั้นจึงเกิดคลื่นยักษ์ก็ถล่มตามมา!
หลังจากที่แรงกระแทกได้ซัดเรือลาดตระเวนอีกห้าลำห่างออกไป ก็เกิดคลื่นขนาดใหญ่ที่ก่อตัวจนเป็นกำแพงสูงกว่าสิบเมตร และดูดเอาซากของเรือลาดตระเวน-472 ที่หักเป็นสามท่อนนั้นจมหายลงไปในท้องทะเลลึก!
“นี่มันอะไรกัน?!” หลิงหยุนอุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
แม้หลิงหยุนซึ่งอยู่ในระดับกลางของขั้นปรับร่างกาย-6 และใช้มังกรพรางร่างขั้นสูงสุดแล้ว ก็ยังถูกคลื่นที่เกิดจากแรงระเบิดของขีปนาวุธทั้งสองลูกนั้นซัดเข้าอย่างแรง และสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นทันทีของน้ำทะเล
แต่โชคดีที่เขาได้ใช้หน้าอกของตนเองปกป้องทหารหญิงชาวญี่ปุ่นทั้งสองคนไว้ พวกเธอจึงไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด
หลิงหยุนตั้งใจที่จะขึ้นไปตั้งหลักที่เรือลาดตระเวน-474 ซึ่งอยู่ห่างจากเรือลาดตระเวน-473 ไป และทั้งสองลำก็อยู่ห่างจากเรือลาดตระเวน-472 ค่อนข้างไกล จึงได้รับผลกระทบไม่รุนแรงมากนัก แต่ตัวเรือยังคงสั่นสะเทือนและแกว่งไปมาอย่างรุนแรง!
หลิงหยุนจัดการฟันเศษพื้นเรือที่ลอยมาออกเป็นสองท่อน และวางร่างของหญิงสาวทั้งสองคนไว้บนพื้นไม้พร้อมกับสั่งว่า
“ถ้าคุณไม่อยากตาย.. ก็หลบอยู่ที่นี่ อย่าเข้ามายุ่งวุ่นวายนี้!”
หลังจากที่สั่งทหารหญิงทั้งสองคนแล้ว หลิงหยุนก็กระโดดขึ้นไปที่บนหัวเรือลาดตระเวน-474
ทันทีที่ขึ้นไปยืนบนหัวเรือลาดตระเวน-474 แล้ว หลิงหยุนก็ใช้เนตรหยินหยางสำรวจไปทั่วท้องทะเล และพบว่าช่างโชคดีที่เรือของเขาถูกกระแสคลื่นพัดไปอยู่ตรงกลางระหว่างเรือลาดตระเวนสองลำ และกำลังลอยไปลอยมา แต่ก็ไม่ถูกคลื่นซัดจมลงไปในทะเล!
“ขาวปุย!”
หลิงหยุนไม่เห็นเจ้าขาวปุยอยู่บนเรือสปีดโบ๊ท จึงรีบใช้มังกรคำรามร้องเรียกทันที และจู่ๆก็มีเงาสีขาวอยู่วิ่งอยู่บนเรือลาดตระเวน-474 และกำลังวิ่งมาหาเขา
สุนัขจิ้งจอกนับว่าเป็นสัตว์ที่ฉลาดที่สุดในจำนวนสัตว์ทุกประเภท แล้วก็อันตรายกว่ามนุษย์มาก จึงไม่ต้องพูดถึงสุนัขจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางอย่างเจ้าขาวปุย..
เรือลาดตระเวน-474 จอดขนานกับเรือลาดตระเวน-476 หัวเรือของเรือทั้งสองลำหันเข้าหาเรือสปีดโบ๊ทของหลิงหยุน เรือของเขาถูกเรือลาดตระเวนทั้งสองลำประกบเป็นแซนวิช เจ้าขาวปุยสังเกตเห็นอันตราย จึงกระโดดไปที่ท้ายเรือลาดตระเวน-474 แต่เพราะร่างของมันเล็กนิดเดียว และก็อยู่ห่างจากจุดระเบิดไปหลายร้อยเมตร จึงไม่ได้รับอันตรายแม้แต่น้อย
เจ้าขาวปุยรีบวิ่งไปที่หัวเรือลาดตระเวน-474 และเงาสีขาวก็พุ่งเข้าสู่อ้อมแขนของหลิงหยุน
“ขาวปุย.. เจ้าเป็นไงบ้าง?” หลิงหยุนลูบไล้ตามตัวของเจ้าขาวปุยอย่างอ่อนโยนเพื่อตรวจดูว่ามันได้รับบาดเจ็บหรือไม่ และเมื่อเห็นว่ามันไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาจึงรู้สึกโล่งอก!
“ตรงนี้เป็นเป้าสายตาที่ชัดเกินไป พวกเราไปจากที่นี่กันดีกว่า.. ” หลิงหยุนลูบหัวของเจ้าขาวปุย และไปซ่อนอยู่ด้านหลังของห้องโดยสารเรือลาดตระเวน-474
“มันช่างมหัศจรรย์มากจริงๆ.. ” หลิงหยุนถึงกับเอ่ยปากชม
ด้วยพลังทำลายล้างของระเบิดมิซไซล์ทั้งสองลูก หลิงหยุนได้แต่คิดว่าต่อให้เขาเข้าสู่ระดับกลางของขั้นพลังชี่ เขาก็ไม่สามารถทำได้ถึงขนาดนี้!
“ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีบนโลกใบนี้ จะเป็นสิ่งที่ข้าไม่อาจประมาทได้อีกแล้ว!” หลิงหยุนเริ่มให้ความสนใจกับมัน และยังไม่กล้าขยับตัวทำอะไร
หลิงหยุนวางเจ้าขาวปุยลงอย่างนุ่มนวล เขาเดินไปมาในห้องโดยสารสองสามก้าว เพื่อมองสำรวจเรือลาดตระเวน-477 และ 478 ที่อยู่ไกลออกไป
เรือลาดตระเวนสองลำนั้นอยู่ห่างจากที่หลิงหยุนอยู่ไปเกือบหนึ่งกิโลเมตร และเรือทั้งสองลำนั้นก็อยู่ห่างกันราวห้าหรือหกร้อยเมตร หลิงหยุนกำลังคิดหาวิธีที่จะจมเรือลาดตระเวนทั้งสองลำนั้น เพราะมันอาจจะยิงระเบิดมิดไซล์ออกมาอีกก็เป็นได้
“ข้าคิดออกแล้ว?!” หลิงหยุนคิดวิธีที่จะจัดการกับทั้งสองลำได้แล้ว
เขามียันต์จ้าวสมุทร ที่จะสามารถแอบเข้าไปจากใต้ทะเลได้ แต่หลิงหยุนก็ปฏิเสธที่จะใช้วิธีนี้ เพราะดูเหมือนจะได้ไม่คุ้มเสีย!
ที่นี่เป็นทะเลที่กว้างใหญ่ไม่ใช่ทะเลสาบเล็กๆอย่างทะเลสาบจิงฉู ระดับน้ำก็ลึกถึงสองสามร้อยเมตร และระยะทางก็ห่างกันเป็นกิโล ยันต์จ้าวสมุทรที่เขามีก็ไม่เพียงพอ!
อีกทั้งหลิงหยุนเองก็เคยเผชิญหน้ากับปีศาจน้ำที่ดุร้ายเมื่อครั้งไปสำรวจก้นหลุมยักษ์มาแล้ว หากเขาต้องไปเจอปีศาจใต้ทะเลอีก ก็คงต้องยุ่งยากกว่าที่คิดไว้มาก!
ยิ่งไปกว่านั้น หลิงหยุนยังเชื่อว่าเรือลาดตระเวนทั้งสองลำนั้น จะต้องมีระบบตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่มีประสิทธิภาพสูงติดตั้งอยู่บนเรือด้วย และหากเขาถูกเครื่องตรวจจับได้ การโจมตีเขาใต้ทะเลก็ยิ่งเป็นผลดีกับทหารญี่ปุ่น
…………
บนเรือลาดตระเวน-478 ซึ่งอยู่ห่างไปราวหนึ่งกิโลเมตรนั้น โนซากิกำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองมิสไซล์สองลูกที่ยิงถล่มเรือลาดตระเวน-472 ได้อย่างแม่นยำ และได้เห็นภาพที่น่าสยดสยองและตื่นเต้น เขายิ้มและแสดงอาการดีใจออกมาราวกับคนคลุ้มคลั่ง
“ให้มันรู้ไป.. ฉันไม่เชื่อว่าระเบิดมิสไซล์สองลูกจะฆ่าแกไม่ได้!”
โนซากิมองเรือลาดตระเวน-472 ที่ค่อยๆจมลงไปในทะเลลึก เขามั่นใจอย่างยิ่งว่าหลิงหยุนคงต้องถูกระเบิดถล่มจนไม่เหลือซากไปแล้ว และร่างของเขาก็คงต้องถูกฝังอยู่ใต้ท้องทะเลไปชั่วนิรันดร์ โนซากิได้แต่ยิ้มหยัน จากนั้นก็สั่งให้เคลื่อนเรือเข้าไปใกล้เพื่อสำรวจผล
แต่ยังไม่ทันที่โนซากิจะสั่งการอะไรออกไป ภาพที่เขาเห็นด้วยกล้องส่องทางไกลกลับทำให้เขาถึงกับขนหัวลุก และตกตะลึงจนนิ่งไป!
โนซากิเห็นชายชุดดำสวมผ้าปิดบังใบหน้าอยู่บนเรือลาดตระเวน-474 ซึ่งอยู่ห่างจากเรือของเขาไปราวหนึ่งกิโลเมตร ชายชุดดำกำลังยืนอยู่บนหัวเรือ ในมือถือแผ่นไม้สี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่นัก เขายกมือขึ้นและขว้างแผ่นไม้หนึ่งแผ่นออกไปกลางทะเล..
แผ่นไม้ที่หลิงหยุนขว้างออกไปนั้น ไกลถึงหนึ่งร้อยเมตร!
หลังจากนั้น.. หลิงหยุนก็มองไปยังเรือลาดตระเวน-478 ซึ่งอยู่ไกลออกไปราวหนึ่งกิโลเมตร พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเย็นยะเยือก แล้วร่างของเขาก็กระโดดไปยืนอยู่บนแผ่นไม้ที่อยู่กลางทะเลออกไปราวหนึ่งร้อยเมตรนั้น!
ร่างของหลิงหยุนที่เหินออกไปนั้นไม่ต่างจากนกไนติงเกลขนาดใหญ่ที่กำลังบินออกไปไกลเป็นร้อยเมตร และเมื่อร่างของเขาตกลงบนไม้กระดานสี่เหลี่ยมที่ลอยละล่องอยู่กลางทะเลอย่างแผ่วเบาแล้ว เขาก็หยิบไม้สี่เหลี่ยมอันใหม่ออกมาโยนออกไปกลางทะเลอีกราวหนึ่งร้อยเมตร
ครั้งนี้หลิงหยุนไม่รอให้แผ่นไม้ตกลงที่พื้นน้ำ ร่างของเขากระโดดตามไปเหยียบลงบนแผ่นไม้สี่เหลี่ยมอยู่กลางอากาศไม่ต่างจากนกยักษ์อีกครั้ง
ระยะทางหนึ่งกิโลเมตร หลิงหยุนกระโดดเพียงแค่สิบครั้งก็เพียงพอแล้ว!
โนซากิถึงกับตกตะลึงและนิ่งไปราวสองสามวินาที จากนั้นใบหน้าของเขาเริ่มซีดขาว และรีบสั่งการออกไปทันที
“เฮลิคอปเตอร์ประจำเรือ-477 และ 478 เตรียมพร้อมขึ้นยิงเป้าหมาย!”
“เรือลาดตระเวน-477 เตรียมยิงระเบิดตอร์ปิโดใส่เป้าหมาย!”
“พลแม่นปืนเตรียมพร้อม.. ระดมยิงอย่าให้เป้าหมายเข้าใกล้เรือลาดตระเวน-478 ได้ เมื่อเป้าหมายเข้ามาถึงระยะยิงได้ ให้ยิงทันที!”
“ที่แท้เขาก็ชาวจีนที่ฝึกวรยุทธ! พระเจ้า.. นี่มันกล้าเพิกเฉยต่อข้อตกลงของทั้งสองประเทศได้ยังไง..”
ทานากะ – รีบรายงานเรื่องนี้ไปที่กรุงโตเกียวทันที แจ้งว่ามียอดฝีมือของประเทศจีนโจมตีทหารญี่ปุ่นโดยเพิกเฉยต่อข้อตกลงของทั้งสองประเทศ
เห็นได้ชัดว่านาโซกิ เป็นผูบัญชาการที่ดีเยี่ยมคนหนึ่ง แม้เขาจะมีอาการตื่นตระหนกอย่างมาก แต่ก็สามารถออกคำสั่งได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน..
เฮลิคอปเตอร์สามลำบินขึ้นทันที และพลแม่นปืนสี่คนก็ไปประจำการอยู่ข้างเรือหาตำแหน่งที่เหมาะสม และรอคอยให้หลิงหยุนเข้ามาใกล้พิกัดที่สามารถยิงได้!
ในเวลาเดียวกัน ระเบิดตอร์ปิโดจากเรือทั้งสองลำก็เล็งไปทางหลิงหยุนที่กำลังกระโดดอยู่กลางทะเล และกำลังจะเริ่มปล่อย!
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หลิงหยุนก็กระโดดมาถึงไม้แผ่นที่เจ็ดพอดี และเหลือเพียงอีกแค่สามร้อยเมตร เขาก็จะเข้าไปถึงเรือลาดตระเวน-478 แล้ว
“ถอยเรือเร็วเข้า! ถอยให้ห่างจากมันเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!” โนซากิสั่งถอยเรือให้ออกห่างจากหลิงหยุน
เฮลิคอปเตอร์ลอยวนอยู่เหนือศรีษะของหลิงหยุน และพลแม่นปืนก็เตรียมโจมตีหลิงหยุน
ปัง.. ปัง.. ปัง.. กระสุนที่ยิงลงมาจากเฮลิคอปเตอร์นั้นหนาแน่นยิ่งกว่าห่าฝน!
หลิงหยุนรู้ตัวดี.. เขาจึงรีบโคจรดารกะดายันจนถึงระดับสิบสามย่อยสูงสุดเท่าที่ร่างกายของเขาจะทำได้ในเวลานี้ และได้เรียกยันต์ระดับสองอย่างยันต์เพชร และยันต์เกราะออกมา!
และในเวลาเดียวกันนั้นเอง หลิงหยุนก็จัดการโยนแผ่นกระดานที่เหลืออีกสามแผ่นออกไปพร้อมๆกัน
พรึบ.. พรึบ.. พรึบ.. ไม้ทั้งสามแผ่นลอยไปด้านหน้า แต่ละแผ่นอยู่ห่างกันราวแปดสิบเมตร และแผ่นสุดท้ายก็อยู่ห่างจากเรือลาดตระเวน-478 ไปไม่ถึงห้าสิบเมตร
หลิงหยุนชูกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือซ้ายขึ้นกลางอากาศ พร้อมกับกวัดแกว่งไปมาอย่างรวดเร็วเพื่อกันกระสุนที่ยิงลงมา ในขณะที่นิ้วโป้งเท้าก็กระแทกกับไม้กระดานในน้ำ และร่างของหลิงหยุนก็ลอยละล่องไปในอากาศ ระหว่างนั้นมือซ้ายก็กวัดแกว่งกระบี่เพื่อกันกระสุน มือขวาก็ซัดตะปูเข้าใส่ปืนกลสองลำที่ยิงลงมาจากเฮลิคอปเตอร์
ตูม!
แผ่นกระดานของหลิงหยุนถูกระเบิดตอร์ปิโดยิงกระจายจนเป็นผงไม่ต่างจากขี้เลื่อย..
ปัง.. ปัง.. ปัง.. เสียงปืนกลจากเรือลาดตระเวน-478 ก็เริ่มกระหน่ำยิงใส่หลิงหยุน ในขณะที่หลิงหยุนก็ปัดป้องอย่างสุดกำลัง..
ท่ามกลางดงกระสุน หลิงหยุนตื่นเต้นจนถึงขีดสุด!