ตอนที่ 16
วันนี้ฉันตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ และรีบเก็บของที่จำเป็นบนรถยนต์ตัวเองเพื่อจะได้กลับพร้อมเอริค ตลอดทางเราสองคนไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก แต่ก็ดีแล้วล่ะ เพราะช่วงนี้ฉันอยู่กับเอริคแล้วรู้สึกประหม่าและทำตัวไม่ถูกยังไงไม่รู้สิ ฉันถอนหายใจพลางหันมองข้างทางอย่างเหม่อลอย ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกว่าทางกลับมันแปลกๆ หรือเปล่าน่ะ?
“เอ่อ… คุณจะไปไหนเหรอ?”
ฉันหันไปถามเอริคด้วยสีหน้าสงสัย ทันทีที่เห็นว่าเขาเลี้ยวไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับคอนโด
“ไปหาไอ้ออส”
ฉันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คิดว่าเขาจะไปที่คอนโดก่อนซะอีก นี่ฉันต้องตามเอริคไปด้วยงั้นเหรอเนี่ย? ให้มันได้อย่างนี้สิ จะให้เขาไปส่งก็ดูจะเรื่องมากเกินไป ช่างเถอะ คงไม่นานเท่าไหร่หรอกมั้ง…
ฉันยักไหล่ ไม่พูดอะไรและหันไปมองข้างทางผ่านกระจกรถยนต์ของเอริคด้วยความผ่อนคลาย วันนี้หยุดงานพอดี แต่พรุ่งนี้ฉันก็ต้องไปทำงานที่บริษัท และคอยลากตัวเอริคไปด้วยอีกตามเคย จะว่าไปก็น่าแปลกเหมือนกัน ถึงท่าทางเขาดูเป็นคนเถื่อนๆ แต่เอริคก็ทำงานทุกอย่างได้ราบรื่นดี ติดอย่างเดียวตรงที่ไม่ยอมเข้าไปทำงานที่บริษัทนี่แหละ บางวันฉันเห็นเขาแอบไปอยู่ที่ห้องช่างด้วย บ้าบอชะมัด…
“จะลงมั้ย โมนา”
ดวงตากลมโตกะพริบตาปริบแล้วหันไปมองร่างสูงอย่างงุนงง นี่ฉันนั่งเหม่อจนไม่รู้ตัวว่าเรามาถึงตัวแต่เมื่อไหร่เลยงั้นเรอะ “ถึงแล้วเหรอคะ…”
“อือ ไอ้ออสรออยู่ที่ห้องซ่อมบำรุง”
ฉันพยักหน้าหงึกหงัก แล้วรีบลงรถจากนั้นก็เดินตามเอริคเข้าไปที่ห้องซ่อมบำรุงด้วยความรวดเร็ว ภายในห้องซ่อมบำรุงมีพนักงานเยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งเป็นผู้ชายซะส่วนใหญ่แถมกลิ่นน้ำมันยังฉุนกึกไปทั่ว แต่เอริคกลับเดินอย่างสบายๆ เข้าไปเหมือนมาที่นี่บ่อยจนไม่ต้องรอเจ้าของบริษัทอย่างออสตินพาเข้าไปให้เสียเวลา
“มาแล้วเหรอ” ออสตินยิ้มให้ฉันเป็นการทักทายแล้วหันไปถามเอริค ฉันเหลือบมองลงไปยังแผนกระดาษใหญ่ๆ บนโต๊ะด้านหน้าของออสติสด้วยความมึนงง อะไรน่ะ ผังอะไรทำไมดูงงขนาดนั้นล่ะเนี่ย
“เออ แล้วเครื่องมีปัญหาตรงไหน”
เอริคพยักหน้ากลับไปให้ออสตินเบาๆ พลางถลกแขนเสื้อเชิตสีเข้มของเขาขึ้นจนเห็นรอยสักเท่ๆ ฉันแอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อเห็นกล้ามเนื้อตรงท่อนแขนแข็งแรงขยับขึ้นลงตามการเคลื่อนไหวของเอริค ให้ตายสิ ฉันกำลังคิดเพ้อเจ้ออะไรแล้ว!
ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่าน และระหว่างที่เอริคคุยเรื่องรายละเอียดงานกับออสติน ฉันเข้ามานั่งรอเขาอีห้องข้างๆ กันเพราะเลวี่โทรมาคุยเรื่องงานประชุมด่วนในวันพรุ่งนี้พอดี หลังจากที่คุยกับเธอเสร็จฉันก็เอนตัวพิงโซฟาแล้วหยิบหนังสือที่วางบนโต๊ะมาอ่านไปพรางๆ แทน
“โมนา อยากดื่มอะไรรอไอ้เอริคหน่อยมั้ย?” ฉันเงยหน้ามองออสตินที่เดินเข้ามาถามฉันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่เอริคใกล้เสร็จรึยังคะ”
“คงอีกสักพัก ในนั้นมันร้อนฉันเลยเข้ามาพักที่นี่หน่อย แล้วนี่ไปตามไอ้เอริคถึงที่บ้านพักเลยรึไง”
ฉันหันขวับไปมองออสตินด้วยความสงสัยทันที “คุณรู้ด้วยเหรอ?”
“จะไม่รู้ได้ไงล่ะ ก็ไอ้เอริคให้หาช่างไปยกรถยนต์ของเธอมาซ่อมน่ะ”
“อย่างงี้นี่เอง… แต่เพื่อนคุณนี่ดื้อด้านชะมัดออสติน ฉันไม่อยากจะพูดมากหรอกนะ ยังไงเขาก็เป็นเจ้านายฉัน เหอะ” นี่ไม่อยากจะพูดแล้วนะ แต่ขอด่าหน่อยเถอะ ฉันรู้สึกเพลียๆ กับการนั่งรถแสนยาวนานชะมัดเลย
“หึ มันก็เป็นแบบนี้แหละ ถ้าเป็นคนอื่นคงลาออกไปแล้วมั้ง เธอนี่ก็อึดดีนะโมนา แถมไอ้เอริคยังเข้าบริษัทบ่อยกว่าเมื่อก่อนอีก” เหอะ ก็ต้องอึดสิยะ เงินเดือนที่ท่านประธานให้เยอะขนาดนี้ ถึงจะเป็นทั้งแม่บ้าน คนสวน หรืออะไรก็แล้วแต่ ยัยโมนาคนนี้จะอดทนให้ดู เพื่อเงินล้วนๆ!
“ฉันต้องทำตามหน้าที่หนิ”
ฉันกระแอมเล็กน้อย แล้วรวบรวมสติปัดเรื่องที่คิดเมื่อกี้ออกไป จากนั้นก็ทำท่าทางมุ่งมั่นกลับไปให้ออสตินแทน
“หรือว่าไอ้เอริคจะติดใจเธอกัน มันถึงยอมทำตามที่เธอบอกขนาดนี้”
ฉันหันไปมองออสตินตาโตพลางอ้าปากพะงาบๆ ติดจงติดใจอะไรกันล่ะ! ถึงเราจะ… เอ่อ เออนั่นแหละ ถึงเราจะเผลอไปมีอะไรกัน แต่นั่นก็เพราะแค่บรรยากาศมันพาไปก็เท่านั้น เหอะ!
“ไม่ใช่หรอก ฉันจะมีอะไรให้ติดใจกันล่ะ…”
“หึ ก็เยอะอยู่นะ” ออสตินหัวเราะชอบใจแล้วยกยิ้มกรุ้มกริ่มพร้อมกับมองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ก่อนเขาจะเอนตัวพิงโซฟามองหน้าฉันท่าทางสนุกที่ได้แหย่ให้ฉันหงุดหงิดเล่น ให้ตายเถอะ สมแล้วที่เป็นเพื่อสนิทกับเอริคได้ ชิ!
“คุยอะไรกัน”
ฉันชะงัก แล้วหันไปมองร่างสูงเพิ่งเดินเข้ามา เอริคยืนพิงกรอบประตูมองใบหน้าฉันกับออสตินนิ่ง คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ส่วนออสตินก็ยักไหล่ ยิ้มขำเล็กน้อยแล้วหันไปถามเอริคอย่างไม่สะทกสะท้าน
“เรื่องทั่วไปน่ะ แล้วนี่มึงคุยกับช่างเสร็จแล้วใช่มั้ย?”
“เออ เสร็จแล้ว”
“งั้นกูไปดูงานที่ผับต่อละ ถ้าวันนี้มึงว่างก็เข้าไปหาหน่อยแล้วกัน โมนาก็มาด้วยล่ะ” ออสตินบอกเอริคจบ เขาก็หันมาบอกฉันพร้อมกับยกยิ้มกริ่ม
“เดี๋ยวกูเข้าไป”
“ว่าแต่… คุณไปล้างมือหน่อยมั้ยคะ?” เอริคก้มลงมองมือหนาที่เปื้อนคราบน้ำมันจนดำปี๋ตามสายตาของฉันแล้ว จากนั้นเขาก็เดินไปล้างมือที่อ่างล้างจานใกล้ๆ กับโซฟาที่ฉันนั่งอยู่
“หิวมั้ย ไปกินข้าวกันแล้วค่อยกลับคอนโด”
ฉันนิ่งคิดสักพัก แล้วพยักหน้าหงึกหงักหลับไปให้เขา “ก็ได้ค่ะ คุณอยากกินอะไรงั้นเหรอ”
“โมนา”
“อะไรนะคะ?” ฉันขมวดคิ้วมุ่นมองแผ่นหลังกว้างของคนที่กำลังยืนล้างมืออยู่ด้วยความมึนงง
“ฉันอยากกินโมนา ได้รึเปล่า”
เอริคหันมายกยิ้มมุมปาก สายตาคมดุดันจกจ้องมองใบหน้าฉันท่าทางเจ้าเล่ห์จนฉันทำตัวไม่ถูกได้แต่อ้าปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่ออก หัวใจก็เต้นระรัวขึ้นมาอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่ เอริคพูดบ้าอะไรเนี่ย เขากำลังกวนประสาทฉันอีกแล้วหรือไงกัน!
“คุณ… คุณเลิกกวนประสาทฉันสักทีเถอะ ฉันก็หิวแล้วเนี่ย ล้างมือเสร็จรึยังคะ รีบไปกันได้แล้ว…”
“หึ”
ฉันสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อตั้งสติ แล้วหันไปบอกเอริคตะกุกตะกักจนลิ้นแทบพันกัน ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มเข้มหัวเราะต่ำในลำคอแกร่งเมื่อเห็นว่าฉันเลิ่กลั่กกับคำพูดกวนประสาทของเขา ไปที่ https://th.readeraz.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! ไม่กี่นาทีต่อมาเอริคก็ขับรถพาฉันมาที่ร้านอาหารซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ และฉันต้องรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขาพามากินข้าวที่ร้านไม่ได้หรูหราอะไรมากมาย อันที่จริง… พอมาคิดดูอีกที เอริคก็ไม่ใช่คนเรื่องมากสักหน่อย เขาออกจะเป็นคนแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ ด้วยซ้ำไป
หมับ!
จู่ๆ ฝ่ามือหนาก็จับข้อมือบางให้ฉันเดินตามเขาไปโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นเขาก็จับเอวฉันแล้วดันให้นั่งลงบนเก้าอี้ ฉันเลยนั่งลงด้วยความงุนงงเล็กน้อย กระแอมเรียกสติตัวเองแล้วเงยหน้ามองร่างสูงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทันที
“คุณจะกินอะไรคะ? ฉันจะได้สั่งให้เลย”
ฉันมองตามนิ้วชี้เรียวยาว แล้วพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ จากนั้นก็หันไปสั่งอาหารกับพนักงานด้วยความรวดเร็ว เพราะตอนนี้ฉันหิวจะตายอยู่แล้วน่ะสิ
ครืดๆ
ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาดูว่าใครโทรมา พอเห็นว่าเป็นสายของเดล่า ฉันก็รีบกดรับทันที
“ว่าไงเดล่า”
[โมนา วันนี้แกว่างป่ะ?]
“ว่าง แกมีอะไรงั้นเหรอ?”
[วันนี้สองทุ่มเจอกันที่ผับเปิดใหม่นะ ใกล้ๆ กับร้านอาหารยูอาร์น่ะ]
“ใกล้ร้านอาหารยูอาร์เหรอ…”
ฉันเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ แล้วเหลือบไปมองเอริคที่จ้องมาทางฉันอย่างสงสัยอยู่ก่อนแล้ว แต่ถ้าจำไม่ผิด ผับที่ยัยเดล่ากำลังพูดถึงนี่มันผับเปิดใหม่ของออสตินนี่นา…
[ใช่แถวนั้นเลย ว่าไง… สรุปแกจะมามั้ย ยัยเจสก็มาด้วยนะ] ถึงเดล่าไม่บอกฉันก็พอจะเดาออกว่ายัยเจสสิก้าคงไม่พลาดปาร์ตี้แบบนี้หรอก
“โอเคๆ เดี๋ยวฉันตามไป เจอกันสองทุ่มนะ”
[อ้อ พาแฟนสุดหล่อของแกมาด้วยนะ เลโอบอกว่าอยากคุยกับเขาหน่อยน่ะ]
“เอ่อ… แฟนสุดหล่อของฉันเหรอ”
ฉันขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเบิกตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเดล่าหมายถึงใคร ให้ตายเถอะ ฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย หรือฉันจะบอกเพื่อนๆ ไปเลยว่าเข้าใจผิด แฟนสุดหล่อของฉันที่พวกแกพูดถึงน่ะคือเจ้านายสุดเถื่อนของฉันเอง และเขาก็กำลังนั่งกินอาหารที่เพิ่งมาเสิร์ฟพร้อมกับเลิกคิ้วอย่างกวนประสาทมองหน้าฉันอยู่ด้วยเนี่ย!
“เดล่า คือว่าเรื่องนั้น…”
[แค่นี้ก่อนนะ ฉันไปหาเดรสมาใส่คืนนี้ก่อน บ๊าย] บ๊าย! บ๊ายอะไรกันล่ะยะ! อย่าเพิ่งว่าสิเดล่า ให้ตายสิ ฉันกำลังจะอธิบายความจริงให้ฟัง แต่ยัยเดล่ากลับรีบตัดสายฉันไปหาเดรสใส่เนี่ยนะ!
“เป็นอะไรโมนา”
“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
ฉันสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่อย่างควบคุมสติและอารมณ์แปรปวนของตัวเอง สงสัยฉันคงเริ่มจะสติแตกเข้าไปทุกที คงเป็นเพราะเอริคชอบกวนประสาทฉันทุกวี่ทุกวันแน่ๆ เลย
“โมโหหิวรึไง อาหารมาแล้ว รีบกินสิ”
ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ พยักหน้าหงึกหงักแล้วทำเป็นไม่สนใจสายตาคมเจ้าเล่ห์ที่มองใบหน้าฉันไม่เลิก จากนั้นก็รีบตักอาหารที่อยู่บนจานของตัวเองเข้าปากทันที
แต่ฉันนั่งกินอาหารไป สายตาก็คอยเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาแสนเท่ของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามไปด้วย ในหัวสมองก็คิดหาวิธีที่จะบอกเขาเรื่องที่เพิ่งคุยโทรศัพท์กับยัยเดล่าอย่างเคร่งเครียด…
ถ้าฉันบอกเขาไปว่าเดล่าชวนไปด้วยมันจะดูแปลกๆ รึเปล่านะ? เขาคงงงพิลึกที่จู่ๆ เพื่อนฉันก็นึกอยากจะชวนเขาไปเที่ยวด้วยกัน แล้วถ้าฉันบอกเขาว่ายังไม่ได้อธิบายเรื่องที่ให้เขาช่วยแกล้งเป็นแฟนตั้งแต่วันนั้น และจะให้เขาช่วยอีกครั้ง ฉันจะดูเป็นคนเห็นแก่ตัวไปไหมนะ ทั้งๆ ที่เขาก็เป็นเจ้านายของฉันแท้ๆ ยัยเลขาสติแปรปวนแบบฉันก็คิดจะใช้เจ้านายตัวเองเนี่ยนะ ให้ตายสิยัยโมนา แกจะบ้าบิ่นเกินไปแล้ว!
“คุณเอริค… คือฉัน”
“อ้าวโมนา! ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่ด้วย บังเอิญจังเลยนะ”
ฉันที่กำลังอ้าปากพูดกับเอริคต้องหุบปากฉับเมื่อจู่ๆ ก็มีมารผจญพูดแทรกมาซะก่อน ฉันหันไปมองก็เจอเอ็มม่าเกาะแขนแดเนียลหนึบอย่างกับปลาหมึก ให้ตายเถอะ เกาะขนาดนี้บางทีฉันก็คิดนะว่ายัยเอ็มม่าติดกาวตาช้างไว้ที่มือหรือเปล่า เหอะ!
“อ้าวเอ็มม่า! ฉันก็ไม่คิดว่าจะเจอมาร เอ๊ย… เจอเธอที่นี่ด้วย บังเอิ๊ญบังเอิญเนอะ”
ฉันหันไปฉีกยิ้มกว้างแบบที่เธอทำ เอ็มม่าเบ้ปากพลางทำท่าทางฟึดฟัดแล้วส่งสายตาจิกกัดมาให้ฉันทันที
“แล้วนี่มากินข้าวกับแฟนเหมือนกันเหรอ แดเนียลก็พาฉันมากินข้าวที่นี่บ่อยเหมือนกัน” เธอจะมากินข้าวที่นี่กับแดเนียลเป็นร้อยครั้งแล้วจะมาบอกฉันทำไมไม่ทราบยะ!
“เหรอ พอดีฉันเพิ่งเคยมากินข้าวกับ เอ่อ… แฟนที่นี่ครั้งแรกน่ะ ทุกครั้งเขาจะพาไปที่หรูเกินไปฉันเลยขอมาที่สบายๆ หน่อย”
เอริคหันมองหน้าฉันพร้อมกับคิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยทันทีที่ฉันพูดคำว่า ‘แฟน’ ใส่เอ็มม่า ก่อนเขาจะยกยิ้มมุมปากพลางหัวเราะหึในลำคอแกร่งเบาๆ จนฉันต้องกระแอมเรียกสติของตัวเองไม่ให้เลิ่กลั่กมากนัก
“อ้อเหรอ ดีจังเลยนะโมนา” เอ็มม่ากัดฟันพูดแล้วจิ๊ปากใส่ฉันอีกรอบ ฉันเบ้ปากหมั่นไส้กลับคืนไปอย่างไม่ยอมแพ้ เอาสิ จิกกัดฉันเป็นคนเดียวหรือไงไม่ทราบยะ
“เอ็มม่า กลับกันได้แล้ว” แดเนียลที่พยายามแกะมือปลาหมึกของยัยเอ็มม่าอยู่นาน แต่ก็ไม่สำเร็จออกปากเร่งให้แฟนตัวเองรีบกลับ
“แต่ว่าเอ็มม่า…”
“กลับก่อนนะโมนา”
แดเนียลไม่สนใจเอ็มม่าแล้วหันมาบอกฉัน ก่อนจะลากยัยเอ็มม่าออกจากร้านเขาก็หันไปมองเอริคที่นั่งนิ่งพลางสายตาคมจ้องเขม่นอย่างน่ากลัวจนฉันถึงกลับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ให้ตายสิ ความวัวไม่ทันหายความความก็เข้ามาแทรกจนได้!
“หึ เป็นแฟนที่น่ารักจังเลยนะ โมนา”
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยทันทีที่ยินเสียงเข้มต่ำเอ่ยบอก พอมองร่างสูงก็เห็นว่าเขายกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ส่งมาให้ ท่าทางเอริคดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก ฉันเลยกระแอมเพื่อรวบรวมสติ จากนั้นก็ทำใจกล้าเงยหน้าสบกับสายตาคมดุดัน
“คุณเอริค… คือฉันมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณหน่อยน่ะ”
“ว่ามาสิ”
เอริคเลิกคิ้วเข้มข้างหนึ่ง ฉันเม้มริมฝีปากแล้วสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดอีกครั้ง ก่อนตัดสินใจบอกเขาออกไป
“เอ่อ… ถ้าครั้งหน้าคุณเจอแดเนียลกับเอ็มม่า คุณช่วยแกล้งเป็นแฟนฉันไปก่อนได้มั้ยคะ… คุณไม่ต้องทำอะไรก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง…”
“ทำไมเธอต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะโมนา”
“คือ… ช่วงนี้แดเนียลชอบโทรมาหาฉันบ่อยๆ น่ะสิคะ ฉันเลยไม่อยากมีเรื่องปวดหัวเพิ่มขึ้นน่ะ”
พอพูดถึงเรื่องนี้ฉันก็ต้องฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมกับเคี้ยวอาหารตุ้ยๆ เผื่อความอร่อยพวกนี้จะทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้าง เมื่อหลายวันก่อนเดล่าบอกว่าให้เบอร์โทรฉันกับแดเนียลไป เพราะเขาเป็นคนเข้าไปตามตื้อขอกับยัยเดล่าอยู่หลายครั้งจนมันรำคาญและยอมให้ไปอย่างไม่คิดอะไร
แล้วแดเนียลกลับโทรมาหาฉันแทบทุกวัน แต่พอฉันรู้ว่าเป็นเขาก็ตัดสายไปตลอดหรือไม่ก็บอกว่ามีงานด่วน และตอนนั้นฉันก็ยังอยู่ที่บ้านพักกับเอริคด้วย มันเลยทำให้ฉันรู้สึกกับความรู้สึกของตัวเองมากกว่าเดิมซะอีก บ้าจริง…
“โมนา”
ฉันสะดุ้งแล้วเงยหน้าสบกับสายตาคมดุดันตาปริบๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงเข้มต่ำเอ่ยเรียก เอริคจ้องฉันนิ่งๆ จนฉันเริ่มทำตัวไม่ถูกและถามเขากลับไปเสียงอึกหน่อยๆ
“คะ? คุณมองหน้าฉันทำไมน่ะ?”
“ถ้างั้นฉันขออะไรแลกเปลี่ยนเหมือนกัน”
“งั้น… คุณต้องการอะไรแลกเปลี่ยนเหรอคะ?”
เอริคยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอนพิงพนักเก้าอี้พร้อมกับสายตาคมวาววับมองมาทางฉันอย่างเจ้าเล่ห์
“หึ ถ้าเจนนี่มาหาฉันอีก… เธอต้องแกล้งเป็นแฟนฉัน โมนา”
ดวงตากลมโตเบิกตาโพรงทันทีที่ได้ยินคำพูดของเขา ฉันกะพริบตาปริบๆ มองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความงุนงง เดี๋ยวสิ… ถึงฉันจะเป็นคนขอให้เขาช่วยก่อนก็จริง แต่แบบนี้มันแปลกๆ ไปหน่อยไหมนะ อีกอย่าง… เจนนี่ก็เป็นคู่หมั้นเขาด้วยเนี่ยสิ ให้ตายเถอะ!
Chapters
Comments
- ตอนที่ 23 มกราคม 31, 2022
- ตอนที่ 22 มกราคม 31, 2022
- ตอนที่ 21 มกราคม 31, 2022
- ตอนที่ 20 มกราคม 27, 2022
- ตอนที่ 19 มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 18 มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 17 มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 16 มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 15 มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 14 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 13 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 12 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 11 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 10 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 9 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 8 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 7 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 6 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 4 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 3 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 2 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 1 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 0 มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ มกราคม 24, 2022
MANGA DISCUSSION