Devil's love ทิ้งรักของนายปีศาจไป - ตอนที่ 97 เสิ่นซิวจิ่นเกิดความรู้สึกแบบไม่รู้ตัว
เขาถามเธอ รู้ตัวว่าผิดแล้วหรือยัง?
ผิด?
อะไรคือถูก?
อะไรคือผิด?
“ฉันไม่ผิด”
เธอพูด
ในใจรู้สึกเจ็บปวดมาก
เขาถามเธอ ว่ารู้ตัวว่าผิดแล้วหรือยัง?
ฮ่าๆ!
“ประธานเสิ่น ถ้าหากคุณบอกว่าฉันผิด งั้นฉันก็คงต้องผิด แต่คุณถามฉัน ว่ารู้ผิดแล้วหรือยัง” เธอเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางจองหอง ไม่น่ามอง มุมปากที่บาดเจ็บนั้นยกขึ้น เหมือนกับเจี่ยนถงที่สดใสปราณีในสมัยก่อนไม่มีผิด “ฉันไม่รู้ว่าผิดตรงไหน”
เกลียด!
ความเกลียดชังที่มีต่อเซี่ยเวยเหมิง เธอไม่มีทางที่จะหลอกตัวเองได้อีกต่อไป เจี่ยนถงบอกกับตัวเอง จะล้มอีกครั้ง จะเป็นยังไง?
อย่างมาก ก็แค่ถูกส่งไปยังที่กินคนนั้นอีกครั้ง!
เธออยากจะจากไปขนาดนี้?
ปล่อยเธอไป? ปล่อยให้เธอจากไป ให้เธอโบยบินไปกับลู่เชน?
เสิ่นซิวจิ่นนึกถึงหญิงสาวที่อยู่ในความฝัน ยังคงร้องเรียกแต่ “อาลู่ อาลู่” ในใจก็รู้สึกโกรธขึ้นมา เธอมองหญิงสาวที่อยู่บนเตียงด้วยแววตาเย็นชา “ตายใจไปเสียแต่ตอนนี้ ระหว่างเธอและฉัน ถ้าฉันไม่บอกว่าหยุด ก็ไม่มีทางหยุด!”
อยากจะจากไปเหรอ? อยากจะตามลู่เชนไปใช้ชีวิตที่หวานแหววเหรอ?
ฝันไปเถอะ!
เจี่ยนถงพยายามสะกดความกลัวแล้วเชิดหน้าอยู่อย่างนั้น “เสิ่นซิวจิ่น! เมื่อกี้คุณเพิ่งถามฉัน ว่ารู้ผิดแล้วหรือยัง ฉันนึกขึ้นมาได้แล้ว” มุมปากของเธอเผยรอยยิ้มขึ้นมา “ฉันมีความผิด!”
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ความผิดที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ คือตกหลุมรักคุณ!
ฉันผิดไปแล้ว! ผิดไปแล้วก็ต้องแก้ ฉันจะแก้!”
แววตาที่มุ่งมั่นของเธอ ความตั้งใจที่เธอพูดออกมาว่า “ฉันผิดไปแล้ว” แววตาที่ตั้งใจนั้น เหมือนกับเธอในตอนนั้น ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา สารภาพรักต่อเขาหลายต่อหลายครั้ง เหมือนกันไม่มีผิด!
ในสายตาของชายหนุ่ม จ้องหญิงสาวที่อยู่บนเตียงเขม็ง แววตาของเธอ… ตั้งใจเหมือนกับตอนนั้นที่มาสารภาพรักกับเขา… เหตุการณ์ที่หญิงสาวผู้แสนจะเย่อหยิ่งสารภาพรัก ตรงหน้าในตอนนี้ ดวงหน้านั้น เหมือนกับตอนนั้น ความมุ่งมั่น ที่บอกเขาว่า “เธอผิดไปแล้ว” !
เธอบอกว่าเธอผิดไปแล้ว เธอจะแก้ไข!
เธอจะแก้ไขอะไร?
ที่หัวใจรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา มีอารมณ์คลุ้มคลั่ง ที่แทบจะระเบิดออกมา!
เขารู้เพียงว่า ผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้ อยากจะไปจากเขา จะหนีไปกับลู่เชน!
ไม่อนุญาต!
“เจี่ยนถง ฉันเคยบอกเธอไหม ว่าถึงแม้ว่าเป็นของที่ฉันไม่ต้องการ คนอื่นไชก็ไม่อาจแตะต้อง?” เสียงของเสิ่นซิวจิ่นนั้นอ่อนโยนลงมา แต่วินาทีนั้น เสียงที่อ่อนโยนทำให้ขนลุกในเวลาเดียวกัน
เจี่ยนถงหายใจติดขัด เธอกำที่นอนในมือแน่น ทันใดนั้นเธอกลั้นลมหายใจอย่างไม่รู้ตัว แววตาเบิกโต มองชายหนุ่มที่ค่อยๆย่างเข้ามาหาเธอ
ตึกตัก… ตึกตัก…
เสียงของรองเท้าหนังเหยียบลงบนพื้น ทุกย่างก้าว ทำให้ใจของเจี่ยนถงเต้นแรงมาก ชายหนุ่มค่อยๆเดินเข้ามาใกล้เธอทีละก้าวๆ ความกดดันประเดประดังเข้ามา ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
ยิ่งเขาใกล้เข้ามาเท่าไหร่ สีหน้าของเจี่ยนถงก็ยิ่งซีดลง แต่เธอยังคงเชิดหน้าอยู่เช่นนั้น ไม่ยอมก้มลง
เจี่ยนถงกลัวเขา!
ใบหน้าที่ซีดเผือด ค่อยๆแดงระเรื่อขึ้นจากอาการป่วย มือของเธอยังคงกำที่นอนไว้แน่น… ไม่ว่าเธอจะแสดงออกไปอย่างไร ก็ไม่อาจปกปิดความจริงได้
แววตาสีดำขลับของชายหนุ่มมองเห็นทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกการกระทำของเธอ ทุกท่วงท่าอารมณ์ของเธอ เขาเห็นมันหมดทุกอย่าง… ว่าเธอกลัวเขา!
สัมผัสได้ว่าในแววตาของชายหนุ่มมีความโหดร้ายปรากฏออกมา
เขาเองไม่รู้ตัว ที่เจี่ยนถงกลัวเขา นั้นทำให้เขารู้สึกแย่เสียยิ่งกว่าที่เจี่ยนถงด่าเซี่ยเวยเหมิงเสียอีก!
“ไม่ว่าจะสามปีก่อน หรือหลังจากนั้นสามปี เจี่ยนถง” ร่างสูงมาหยุดยืนที่ตรงหน้าเธอ ก้มลงมองหญิงสาวที่อยู่บนเตียง แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ระหว่างเธอและฉัน เธอไม่ใช่คนที่จะตัดสินได้ทุกอย่าง”
ในหัวของเสิ่นซิวจิ่น เขายึดมั่นว่า
เจี่ยนถงรักเสิ่นซิวจิ่นได้คนเดียว เจี่ยนถงเป็นของเสิ่นซิวจิ่นเพียงคนเดียว ทุกอย่างของเจี่ยนถง ก็คือของเสิ่นซิวจิ่นเช่นกัน ไม่ว่าจะแค่แววตา ก็เป็นเพียงของเขาได้แค่คนเดียว!
นอกจากเขา จะเป็นใครก็ไม่ได้ เซี่ยเวยเหมิงก็ไม่ได้!
ที่เขาโกรธไม่ใช่เพียงเพราะผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้ ใช้เวลาสามปี เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนไร้จิตใจปากกล้าขนาดนี้ ที่เขาต้องการคือเจี่ยนถงในสามปีก่อน! ไม่ใช่เจี่ยนถงที่มีจิตใจไม่ดีแบบทุกวันนี้!
เขาโกรธผู้หญิงคนนั้นที่มีจิตใจโหดร้าย ที่เธอจะใช้เวลาทั้งหมดที่เหลือในชีวิตไปสาปแช่งคนที่ตายไปแล้วเมื่อสามปีก่อน!
เจี่ยนถงอยากจะใช้เวลาที่เหลือในชีวิตไปสาปแช่งเซี่ยเวยเหมิง ชีวิตที่เหลือของเจี่ยนถงเป็นของเสิ่นซิวจิ่น เจี่ยนถงมีสิทธิ์อะไรที่ใช้ของของเขา ไปสาปแช่งคนอื่น?
ไม่ว่าจะเป็นลู่เชน หรือเซี่ยเวยเหมิง ที่ไม่มีตัวตน ในสายตาของเสิ่นซิวจิ่นเป็นสิ่งกีดขวางทั้งนั้น
เสิ่นซิวจิ่นกลับไม่พบว่า ที่เขามองเจี่ยนถงเป็นสิ่งของแบบนี้มันผิดปกติ และยิ่งไม่รู้สึกตัวว่า ตัวเองเกิดความรู้สึกกับผู้หญิงคนนี้ไปเสียแล้ว มิเช่นนั้นเขาก็คงเกลียดมากในอนาคตแบบนี้!
ทันใดนั้น!
ร่างสูงค่อยๆก้มลง ยื่นแขนมาช้อนเธอเข้าไปในอ้อมแขน เธอตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา ริมฝีปากของเขาแนบชิดอยู่ที่หูของเธอ ลมหายใจอุ่นๆรดลงมาที่ข้างหูของเธอ เธอต้องการอิสระ อยากจะไปจากเขา เธอที่สมควรตายคนนี้อย่าแม้แต่จะคิดเลย เขายกมุมปากยิ้มขึ้นมาแล้วก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูเธอ
“ของของฉัน ฉันไม่อยากได้ คนอื่นก็ห้ามแตะต้อง เจี่ยนถง เธออยากมีอิสระมีความสุข ชีวิตนี้อย่าฝันเลย! ฆาตกรคดีฆาตกรรมควรค่าแก่การมีความสุขเหรอ?”
ผู้หญิงที่สมควรตายอยากจะโบยบินหนีไปกับลู่เชน อยากจะไปมีความสุขกับผู้ชายคนอื่น เธอฝันไปเถอะ!
เสิ่นซิวจิ่นสัมผัสได้ชัดเจน หญิงสาวที่ถูกเขากอดอยู่ในอ้อมแขน ร่างกายแข็งทื่อ รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก แล้วก็ถูกกดทับอย่างรวดเร็ว… เธอทำให้เขาไม่สบาย ไม่มีความสุข เธอทำให้เขารู้สึกแย่มาก
เจี่ยนถงหลับตาลง เธอเจ็บในทุกๆลมหายใจ… เจี่ยนถง เธอต้องการความสุขต้องการอิสระ ชีวิตนี้ฝันไปเถอะ! ฆาตกรคดีฆาตกรรมควรค่าแก่การมีความสุขเหรอ?
เธออ้าปาก อยากจะพูดปฏิเสธขึ้นมา เธอไม่ใช่ฆาตกร เธอไม่ได้ทำร้ายเซี่ยเวยเหมิง
แต่ต่อมา สิ่งที่ต้องการจะพูด ก็ถูกกลืนลงไป… ไม่ เธอเป็นฆาตกร เธอติดหนี้เขาหนึ่งชีวิต เสิ่นซิวจิ่น… พูดไม่ผิด
เธอเอง!
ฆาตกรมีสิทธิ์ที่ได้รับอิสระและมีความสุขเหรอ?
ใช่ ใช่ ฆาตกรมีสิทธิ์ที่ได้รับอิสระและมีความสุขเหรอ? อาลู่ยอมสละชีวิตไปเพื่อเธอ นั่นเป็นชีวิตใหม่!
ที่เธอติดค้าง ชีวิตนี้ก็ชดใช้ไม่หมด!
สีหน้าของเธอค่อยๆซีดลง ริมฝีปากที่ซีดเซียว มีรอยช้ำ พูดขึ้นด้วยความตะกุกตะกัก “ประธานเสิ่นพูดถูก คนอย่างฉัน ที่จะร้องขออิสรภาพ ถือว่าเป็นความผิดครั้งยิ่งใหญ่” สำหรับความสุข และความต้องการ
คำพูดที่รุนแรงของเสิ่นซิวจิ่น เหมือนกับมีดที่ปักในใจของเจี่ยนถง
ยอมรับเองกับปาก ว่าเป็นเจี่ยนถงที่ปักมีดซ้ำลงบนแผลในใจนั้น!
ร่างกายที่เย็นเฉียบของเธอ ราวกับไม่มีเรี่ยวแรงอะไรเหลืออยู่ นั่งอ่อนแรงพิงอยู่ที่ไหล่ของเขา ยอมให้เสิ่นซิวจิ่นได้กอดเอาไว้
เสิ่นซิวจิ่น นายชนะอีกแล้ว …เจี่ยนถงค่อยๆหลับตาลง เพื่อปกปิดความเจ็บปวด
“อย่าใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตไปสาปแช่งเซี่ยเวยเหมิง” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นมา เขาค่อยๆพูด “เธอยังมีชีวิตที่เหลือที่ไหนกัน?” ชีวิตที่เหลือของเธอเป็นของฉัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนอื่น… เขาพูดเสริมขึ้นในใจ
แต่เขาไม่รู้เลยว่าได้ทำร้ายจิตใจเธอไปเสียแล้ว
เธอยกมุมปากขึ้นมา “ใช่ค่ะ ประธานเสิ่นพูดถูก” ทั้งๆที่อยากจะดื้อรั้น ทั้งๆที่เกลียดเซี่ยเวยเหมิงแทบตาย ทั้งๆที่ให้เขาเห็นว่าเธอขาดใจไปต่อหน้า สุดท้ายก็ยังคงเป็นคำนี้ “เธอยังมีชีวิตที่เหลืออะไรกัน” จึงได้แต่กดเก็บความโกรธแค้นทั้งหมดไว้ในใจ
เธอยังมีชีวิตที่เหลืออะไรกันเล่า… ชีวิตที่เหลืออะไร ที่เธอจะสามารถไปเกลียดเซี่ยเวยเหมิงได้อีก?
ดังนั้น ความโกรธแค้นนี้เธอจะไปโกรธแค้นไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม?
วันนี้ที่เธอมีความกล้ามากพอที่จะไปแย่งชิง สุดท้ายกลับพบว่าตัวเองไม่มีแรงเหลือพอที่จะไปแย่งชิงเสียแล้ว
เสิ่นซิวจิ่น ฉันยอมแพ้แล้ว ฉันไม่แย่งชิงอีกแล้ว ฉันเหนื่อยจนไม่มีแรงแล้ว จะไม่ไปดื้อรั้นแย่งชิงอะไรอีกแล้ว
……
ความคิดที่จะปล่อยทุกอย่างไปนั้นเข้ามาในหัวของเธอ เธอคิดว่า เธอไม่ไปแก่งแย่งแล้ว เธอจะเป็นคนนิ่งเฉยแบบนี้ รอจนเขาเบื่อทุกอย่าง รอจนเขาไม่อยากจะมองเธออีก รอจนเขาปล่อยทิ้งเธอเอาไว้ จนถึงตอนนั้น ก็คงจะแอบหนีไปได้
“เจี่ยนถง อย่าไปสาปแช่งเซี่ยเวยเหมิงอีกเลย เธอตายไปแล้ว แต่เธอยังมีชีวิตอยู่ อย่าทำให้ตัวเองแย่เพียงเพราะคนที่ตายไปแล้วคนหนึ่งเลย ไม่ควรค่า” คนที่ตายไปแล้วคนหนึ่ง ไม่ควรค่าแก่การที่เธอจะทำให้ตัวเองดูแย่ ไม่ควรค่า!
เจี่ยนถงตกตะลึง มีเพียงเสี้ยววินาที ที่เธอรู้สึกว่าภายใต้คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นนั้นมีความห่วงใย แต่… จะเป็นไปได้อย่างไร? ฮ่า~ ยิ้มขึ้นมา ใบหน้าทางด้านซ้ายของเธอยังชาอยู่ รู้สึกหนังอึ้งในใจ และกลัวจนเข้ากระดูก
วินาทีต่อมา เจี่ยนถงพบว่าร่างกายของตัวเองลอยขึ้นกลางอากาศ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอมีสติพอที่เอามือโอบคอชายหนุ่มเอาไว้
เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงที่โอบลงมาที่คอของตัวเอง ริมฝีปากบางของเสิ่นซิวจิ่นก็เผยรอยยิ้มออกมา อุ้มหญิงสาวเดินออกจากห้องผู้ป่วย “ออกจากโรงพยาบาล”
ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวเดินไปทางลิฟต์
“ฉันเดินเองได้” เจี่ยนถงพูดแล้วทำท่าจะลง
แต่ชายหนุ่มกอดเธอไว้แน่น “เชื่อฟัง”
เจี่ยนถงที่อยู่ในอ้อมแขน กลับอ่อนไหวต่อคำพูดสองคำนี้ ไม่กล้าขยับตัวอีก
เสิ่นซิวจิ่นจับเจี่ยนถงนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย “ฉันจะส่งเธอกลับหอพัก”
ระหว่างทาง เจี่ยนถงประหม่าและรู้สึกกลัวมาก