Complete Martial Arts Attributes - ตอนที่ 1
บทที่ 1: โลกนี้ไม่ถูกต้อง!
ตงไห่ในเดือนมิถุนายนร้อนเหมือนเตาหลอม ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าคราม และไม่มีเมฆในสายตา และดวงตะวันที่แผดเผาอย่างดุเดือดราวกับลูกไฟขนาดมหึมาก็กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า
ณ โรงเรียนมัธยมอันดับที่หนึ่งในตงไห่
17.30 น.
“ กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง…”
เสียงกริ่งบอกเวลาสิ้นสุดคาบเรียนดังขึ้น จากนั้นเสียงเคลื่อนของโต๊ะและเก้าอี้ก็ดังขึ้นทั่วทุกหนทุกแห่งในโรงเรียน
ไม่กี่วินาทีต่อมา คลื่นของนักเรียนก็พุ่งออกมาจากอาคารเรียนต่างๆ พวกเขายิ้มและพูดคุยกันในกลุ่มเล็กๆขณะเดินออกจากประตูโรงเรียน
“ วันนี้อากาศร้อนจัง!” มีคนบ่นอย่างโกรธเคือง
“ พี่หวังเต็ง คืนนี้ไปดื่มที่ผับกุหลาบป่ากันเถอะ”
เสียงนี้ดึงหวังเต็งกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง
“ ซูเจี๋ย!”
ขณะที่เขามองไปที่คนตรงหน้า ใบหน้าที่คุ้นเคยและความทรงจำที่เลือนลางก็ผุดขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตใจ นี่คือหนึ่งในเพื่อนของเขาในตอนที่เขายังเรียนอยู่มัธยมปลาย
“ คืนนี้ฉันจะไม่ไปกับนายนะ พอดีฉันปวดหัวน่ะ นายไปสนุกคนเดียวได้เลย” หวังเต็งกล่าว
ซูเจี๋ยตอบอย่างเร่งรีบ “ เฮ้ อย่าพูดแบบนั้นสิ ในกลุ่มเราก็มีกันไม่กี่คนเอง ถ้านายไม่มา มันก็หมดสนุกกันพอดี นอกจากนี้เราเองก็ไม่ได้มารวมตัวกันเป็นเวลานานแล้ว ทำไมเราไม่ลองหาวันอื่นดูล่ะ?ิ พรุ่งนี้หรือวันมะรืนดี? เนายคิดว่ายังไง?”
หวังเต็งส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “ งั้นพรุ่งนี้ก็ได้”
“ ไม่มีปัญหา ฉันจะแจ้งเว่ยน้อยและคนอื่นๆว่าเราจะมารวมตัวกันอีกทีในวันพรุ่งนี้แทน” ซูเจี๋ยยิ้มอย่างสดใส
เมื่อพวกเขาเดินไปที่ประตูโรงเรียน พวกเขาทั้งสองก็พบความโกลาหลครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขา
“ เฮ้ เกิดอะไรขึ้นข้างหน้าน่ะ? ทำไมคนมุงดูกันเยอะจัง?” ซูเจี๋ยรู้สึกงงงวย
“ ขอฉันดูบ้างสิ” จากนั้นเขาก็วิ่งไปข้างหน้าและฝ่าฝูงชนเพื่อไปที่ด้านหน้า
ในทางกลับกัน หวังเต็งก็วางกระเป๋าของเขาแล้วเดินเข้าไปดูข้างหน้าอย่างช้าๆ นักเรียนสองสามคนเห็นเขาและหลีกทางให้เขาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพวกเขากลัวว่าหากช้าไป มันก็อาจจะทำให้ชายคนนี้รู้สึกไม่พอใจได้
ตามที่คาดไว้ หวังเต็งนั้นมีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่จริงๆ!
หวังเต็งเย้ยตัวเองอย่างเงียบๆ
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ชื่อเสียงในทางที่ดี
เขาเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาและมองไปยังพื้นที่โล่งด้านหน้า ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถล้มพวกอันธพาลได้ พวกอันธพาลเหล่านั้นนอนอยู่บนพื้นและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พวกมันมีความกลัวปรากฎอยู่ในแววตาของพวกมันเมื่อมองไปที่หญิงสาว
เมื่อฟังจากการสนทนาของฝูงชนรอบตัวเขา หวังเต็งก็เริ่มเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เหอม่านหรงได้พบกับพวกอันธพาลเหล่านี้หลังจากที่เธอเรียนเสร็จ เมื่อพวกมันพบว่าเธอค่อนข้างสวย พวกมันจึงหยอกล้อเธอและพูดจาแทะโลมเธออย่างน่ารังเกียจ
พวกมันคิดว่าเหอม่านหรงนั้นเป็นเพียงเด็กผู้หญิงที่อ่อนแอและรังแกง่าย อย่างไรก็ตาม โดยไม่คาดคิด เธอก็กลับกลายเป็นดอกกุหลาบที่มีหนามแหลม
เธอโจมตีพวกมันด้วยความโกรธและทุบตีพวกมันจนพวกมันไม่สามารถลุกขึ้นจากพื้นได้
“ เทพธิดาคนนั้นจะต้องเป็นศิษย์นักสู้ชั้นสูงอย่างแน่นอน พวกอันธพาลเหล่านี้หาเพื่อนเล่นผิดคนแล้ว!”
นักเรียนชายข้างๆหวังเต็งกำลังโบกมืออย่างร้อนรน แม้แต่สิวเสี้ยนบนใบหน้าของเขาก็ยังแดงเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้นของเขา
จากคำพูดของเขา มันก็ดูเหมือนว่าเขาจะปฏิบัติต่อเหอม่านหรงดั่งเทพธิดา
“ ฉันได้ยินมาว่าเหอม่านหรงเป็นดาวโรงเรียน อย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะสู้ได้ดีถึงขนาดนี้ นี่เธอเคยเรียนเทควันโดมาก่อนรึเปล่านะ? เธอบรรลุสายดำระดับ 9 ในตำนานแล้วรึยังนะ?”
“ พูดตามตรง เราก็มักจะไม่ค่อยได้พบกับขาที่ยาวขนาดนั้น เธอน่าจะเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลายเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม รูปร่างของเธอมันก็กลับดูดีมาก ลองนึกภาพว่าเธอจะเป็นอย่างไรในอนาคตสิ!”
หวังเต็งประหลาดใจกับความกล้าหาญของเหอม่านหรง แต่ในขณะที่เขากำลังชื่นชมความงามในชีวิตอยู่นั้นเอง เมื่อเขาก็ได้ยินคำว่า ‘ศิษย์นักสู้ขั้นสูง‘ การแสดงออกบนใบหน้าของเขาก็หยุดนิ่งไป
เขากำลังมึนงง!
ฉันฟังผิดหรือเปล่า?
ใช่แล้ว ฉันเพิ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่หูฉันอาจจะฟังผิดได้
ในขณะนี้ ซูเจี๋ยก็โน้มตัวเข้ามาและพูดกับเขา “ เรามีศิษย์นักสู้ขั้นสูงห้าคนในโรงเรียนของเรา ซึ่งเหอม่านหรงก็เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในนั้น และเธอก็มีภูมิหลังที่ธรรมดามาก ดังนั้นมันจึงทำให้เราสามารถพูดได้เลยว่าเธอนั้นเป็นอัจฉริยะตัวจริง”
…หวังเต็งรู้สึกพูดไม่ออก
พวกเขากำลังพูดถึงศิษย์นักสู้ขั้นสูงจริงๆ เมื่อกี้เขาไม่ได้ฟังผิดไป
เขากลับมาเกิดใหม่ในสังคมยุคใหม่ อย่างงั้นแล้วทำไมอาชีพที่น่าสนใจเช่นนี้ถึงมีอยู่จริงกัน? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
นี่เขาได้กลับมาเกิดใหม่แล้วจริงๆหรอ?
หวังเต็งสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดของโลกใบนี้ และมันก็ทำให้ในใจของเขาเต็มไปด้วยคำถาม
เหอม่านหรงขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นจำนวนคนที่กำลังมุงดูเธอ ในท้ายที่สุด เธอก็เลือกที่จะเพิกเฉยต่อพวกอันธพาลที่อยู่บนพื้นและจากไปทันที
ผู้คนที่รุมล้อมรอบเธอเองก็แยกย้ายกันจากไปเมื่อเธอออกจากที่เกิดเหตุ
หวังเต็งและซูเจี๋ยเองก็แยกทางกันที่ประตูโรงเรียน
หวังเต็งมีรถที่มารับเขากลับจากโรงเรียน ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆจ้องมาที่เขาด้วยความอิจฉา เขานั่งในรถบีเอ็มดับเบิลยูที่จอดอยู่ข้างถนน และมันก็ขับออกไป
หวังเต็งมองทิวทัศน์ที่แล่นผ่านไปภายนอกในขณะที่เขากำลังตกอยู่ในห้วงความคิด
ช่วงเวลานี้เองที่เขาสังเกตเห็นว่าต้นไม้ที่เติบโตริมถนนนั้นสูง,ใหญ่และเขียวชอุ่มเป็นพิเศษ
ต้นไม้ในโรงเรียนก่อนหน้านี่เองก็เขียวชอุ่มเป็นพิเศษเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หวังเต็งก็ยังจมปลักอยู่กับความจริงที่ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ดังนั้นเขาจึงไม่สังเกตเห็นมันในตอนแรก
ทุกสิ่งที่หวังเต็งเห็นบนท้องถนนนั้นทำให้เขาประหลาดใจ
ถนนสะอาดและเรียบร้อย รูปแบบของคนเดินถนนก็ดูแปลๆ และเศรษฐกิจของประเทศก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นไปอย่างมาก
มันไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนปี 2009 และมันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนปี 2019 เหมือนกัน
อย่างที่คาดไว้ มันมีบางอย่างที่แตกต่างไปในโลกนี้!
จิตใจของหวังเต็งยุ่งเหยิง เขาเห็นหญิงสาวสวยอายุประมาณ 20 ปีกำลังเดินอยู่บนถนนพร้อมกับสุนัขตัวใหญ่ขนปุย
ฉากนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่สุนัขตัวนั้นตัวใหญ่เกินไป มันใหญ่เท่าลูกวัวด้วยซ้ำ
หวังเต็งอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “ เชี่ยอะไรวะเนี่ย! นี่มันหมาพันธุ์อะไรกัน? ทำไมมันใหญ่จังวะ”
เขาหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ของเขา แต่แล้ว เขาก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง
“ มันดูเหมือนโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ แต่มันก็ดูจะตัวใหญ่เกินไป”
เขาสังเกตเห็นคนอีกสองสามคนกำลังเดินคู่กับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา และพวกมันทั้งหมดก็มีขนาดใหญ่มาก ขนาดของมันเกินขนาดของสัตว์ปกติ มันใหญ่ซะจนบางคนสามารถขี่มันได้
หมากลายเป็นสัตว์ขี่!
เขายังเห็นแมวบางตัวก็มีสองหาง และพวกมันก็ดูใหญ่โตเหมือนเสือดาว
อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ดูเชื่องมาก เมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาที่ไม่น่าแปลกใจของผู้ที่สัญจรไปมา พวกมันก็ไม่ได้ถูกปฎิบัติเหมือนกับเนสัตว์ป่า
หวังเต็งรู้สึกชาเล็กน้อย
นี่ไม่ใช่โลกเดิมของเขาอย่างแน่นอน แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นและโรงเรียนของเขาจะยังเหมือนเดิม แต่บางอย่างก็แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากรถขับมานานกว่า 20 นาที เขาก็ได้มาถึงย่านวิลล่าสุดหรู
โชคดีที่บ้านของเขายังอยู่ที่นี่เหมือนเดิม
เขายังมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยตามปกติ
ปู่ของหวังเต็งมีลูกสี่คน พ่อของเขาหวังเฉินกั๋วเป็นลูกคนที่สอง เขามีพรสวรรค์ทางธุรกิจ ดังนั้นเขาจึงเริ่มธุรกิจของตัวเองและสร้างซินเถิงกรุ๊ป บริษัทนี้เป็นอันดับสองรองจากบริษัทที่คุณปู่ของหวังเต็งก่อตั้งเทานั้น ซึ่งนั่นก็คือหรงเฉินกรุ๊ป
ซินเถิงกรุ๊ปและหรงเฉินกรุ๊ปเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ามากกว่าร้อยล้าน
อย่างไรก็ตาม หวังเต็งก็รู้ว่ามันยังมีบริษัทแบบนี้อีกมากมายบนโลก ครอบครัวของเขาอาจถือว่าร่ำรวย แต่ต่อหน้าสถาบันการเงินระดับโลกจริงๆ พวกเขาก็เป็นเพียงมดตัวเล็กๆ
ในชีวิตที่แล้ว ตระกูลหวังได้ล่วงละเมิดใครบางคน ดังนั้นมันจึงส่งผลให้ธุรกิจของพวกเขาล่มสลาย พวกเขาอดทนได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นก่อนที่บริษัทของพวกเขาจะล้มละลายและปิดตัวลง
ตระกูลหวังพังทลายและกลายเป็นอดีต
มันเป็นเรื่องดีที่มีบริษัทสองแห่งมูลค่ากว่าร้อยล้าน กระนั้น พวกมันก็ไม่สามารถนับเป็นอะไรได้เลยต่อหน้าผู้มีอิทธิพลจริงๆ
ช่างน่าขัน!
ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตของหวังเต็งก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขาก็จะต้องใช้ชีวิตเหมือนสุนัข เขาได้รับความอับอายและอับอายมาตลอดเวลาจนกระทั่งเขาเกิดใหม่ เดี๋ยวก่อนนะ บางทีเขาอาจจะไม่ได้กลับชาติมาเกิดใหม่!
โลกนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าตอนนี้ตระกูลหวังเป็นอยผางไร
เขาสงสัยว่าพ่อแม่ของเขายังคงเป็นพ่อแม่ของเขาหรือไม่?
เขาหวังว่าเมื่อเขาเปิดประตู พ่อแม่ของเขาจะไม่เปลี่ยนไป
ไม่มีทาง! มันจะต้องไม่เกิดขึ้น! หวังเต็งปลอบใจตัวเองอย่างเร่งรีบ เขารู้สึกกระสับกระส่าย ดังนั้นเขาจึงหายใจเข้าลึกๆสักสองสามอึดใจก่อนที่จะก้าวผ่านประตูวิลล่าไป