Chrysalis ชาตินี้พี่ขอเกิดเป็นมด - ตอนที่ 2 เริ่มจะเข้าใจ
โลกในช่วงก่อนที่จะมีระบบนั้นคือปริศนาชิ้นโตสำหรับเรา
บันทึกก่อนยุคแตกดับนั้นแทบจะไม่หลงเหลืออยู่เลย ส่วนที่เหลือก็ค่อยๆ สูญหายไปตามกาลเวลา
คนสมัยนั้นตัดสินเรื่องต่างๆ ได้ยังไงกันนะ? ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่มีข้อมูลตัวเลขให้ดูแบบทุกวันนี้
หรือว่าสังคมในสมัยก่อนจะมีแต่พวกสูงส่งและฝักใฝ่ความยุติธรรม?
พอเราดูข้อมูลต่างๆ จากระบบได้ การชั่งน้ำหนักและตัดสินบทบาทของผู้คนก็เป็นเรื่องง่ายขึ้น
บางที่คนสมัยก่อนอาจจะเน้นเรื่องความเท่าเทียมอย่างจริงจัง ผู้คนคงจะทำหรือเลือกอะไรหลายๆ อย่างได้อิสระกว่าตอนนี้ล่ะมั้ง?
หลายคนเชื่อว่าระบบนั้นได้ยกระดับชีวิตของเรา ได้มอบพลังให้เราต่อกรกับมหาภัยพิบัติ ทว่าส่วนหนึ่งของเหล่าผู้ทรงปัญญากลับไม่เห็นด้วยกับความเชื่อเหล่านี้
เรื่องประโยชน์ที่ได้นั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดี แต่พวกเรากลับหลงลืมว่าต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง
“แนวคิดของคนยุดก่อน” หน้าที่ 15 โดยอิลลาเรี่ยน คนนอกรีต
———————————————————————
โอเค สรุปคือผมมีแต้มสกิลกับไบโอแมสติดตัวอยู่นิดหน่อย
ถ้านี่เป็นแบบในเกมล่ะก็ มันน่าจะมีเมนูออกมาให้ดูด้วยสิ อยู่ในอุโมงค์แคบๆ แบบนี้จะดูได้ไหมนะ?
เอิ่ม เลเวลอัพ!
ไม่ได้ผลแฮะ
ออก! ปุ่มออก!
… เงียบฉี่
ดีกว่าไม่ได้ลองอะไรเลยล่ะมั้ง?
เห้ออ
ดูสถานะ!
เอ้ย ได้แล้ว!
ชื่อ: แอนโธนี่
เลเวล: 1
ค่าพละกำลัง: 15
ค่าความทนทาน: 12
ค่าความหลักแหลม: 25
ค่าความมุ่งมั่น: 18
HP: 30
MP: 0
สกิล: ขุด เลเวล 1 ; พ่นกรด เลเวล 1 ; แรงจับ เลเวล 3 ; กัด เลเวล 2
สปีชีส์ : ตัวอ่อนมดงาน (ฟอร์มิก้า)
ไบโอแมส: 1
แต้มสกิล: 1
โห้ น่าสนใจๆ! นี่ค่าสถานะของเราสินะ?
ตอนที่เห็นค่าพวกนี้ครั้งแรก ผมก็นึกว่ามันดูเยอะ แต่คิดไปคิดมาแล้วมันอาจจะต่ำเตี้ยเลี่ยดินซะมากกว่า?
ตัวอ่อนที่เพิ่งฟักออกมาจะมีค่าสถานะเยอะขนาดไหนกันเชียว… แล้วพวกนี้คือสกิลใช่ไหม?
แรงจับ? หมายความว่าผมถือของเก่ง ไรงี้อ่อ?
[แรงจับ: ความสามารถในการยึดจับพื้นผิวและสิ่งของต่างๆ ตัวอย่างเช่นการเดินบนผนัง]
ท่านแกนดาล์ฟผู้มาโปรด! แกนดาล์ฟผู้ยิ่งใหญ่! ผู้นำแสงสว่างมาสู่ข้าผู้น้อย! เคราของท่านดูดีเหนือสิ่งอื่นใด คิ้วก็ดกและดูน่าเกรงขาม!
จะชื่อจริงว่าอะไรก็ไม่รู้แหละ แต่ผมขอเรียกท่านว่าแกนดาล์ฟไปก่อนละกัน
การได้เรียกชื่อที่มาจากโลกใบเก่ามันก็คลายเครียดดีเหมือนกันนะ
อย่างน้อยๆ ก็มีเสียงแกนดาล์ฟ (ระบบ) มาอธิบายเรื่องสกิลให้ฟังด้วย สุดยอดไปเลย!
งั้น [แรงจับ] คือการยึดจับของต่างๆ ด้วยขาทั้ง 6 ข้าง แล้วก็รวมถึงการเดินบนกำแพงด้วย
เกือบลืมไปเลยแฮะ ว่ามดทำแบบนั้นได้
ออกจากตรงนี้ได้เมื่อไหร่คงต้องลองสักหน่อย จะเดินบนพื้นให้เหนื่อยทำไมถ้าเราเดินบนผนังหรือเพดานได้!?
แล้วสกิลอื่นๆ ล่ะ?
[กัด: เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการกัดด้วยเขี้ยว ขากรรไกร หรือฟัน]
[ขุด: ดึงจิตใต้สำนึกออกมาช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับการขุด]
[พ่นกรด: ช่วยเสริมความแม่นยำในการโจมตีด้วยกรดที่ร่างกายสร้างขึ้น]
โอเค้~
บนโลกเก่านั้นมีมดบางสปีชีส์ที่สามารถยิ่งกรดออกมาจากส่วนหลังได้ แล้วเผ่าพันธุ์ของผมก็คงถอดแบบออกมาจากมดจำพวกนั้นนั่นแหละ
การโจมตีจากระยะไกลฟังดูเป็นอะไรที่มีประโยชน์มาก เพราะการเข้าไปใกล้นั้น สำหรับผมแล้วมันคือฝันร้ายดีๆ นี่เอง
สรุปแล้วตอนนี้ผมสามารกัดได้ ไต่ผนังได้ ขุดได้ และพ่นกรดได้ด้วย แค่นี้แหละ
จากสภาพแวดล้อมในตอนนี้ ถือว่ามันน้อยมาก
แต่ที่ขาดแคลนมากที่สุดนั้นเห็นจะเป็นข้อมูลทั่วไป
ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่าที่นี่มีตัวอะไรอยู่บ้างนอกเหนือจากมดและตะเข้ยักษ์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโลกใบนี้มีพื้นผิวหรือเปล่า
เพราะมดไม่มีเส้นเสียง ผมก็เลยสื่อสารกับอะไรไม่ได้เลย แต่ต่อให้พูดได้ จะมีใครยอมคุยกับมดยักษ์หรือเปล่านะ?
สรุปแล้วว่าถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่ม ผมก็ต้องออกไปหาเอาเอง หาจากอุโมงค์ข้างนอกนั่น…
ฮื่มมมม
น่ากลัว! น่ากลัวโคตร!
นี่ผมต้องออกไปเผชิญโลกกว้างด้วยตัวคนเดียว ต้องเจอกับภัยอันตรายน่าสยดสยองนับไม่ถ้วนเนี่ยนะ!?
บ้าบอ บอกเลยว่าบ้าบอที่สุด!
เห้ออ~ ใจเย็นก่อนแอนโธนี่ เย็นเข้าไว้ ตกใจไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก
ตั้งสติก่อน ใจร่มๆ มีสมาธิแล้วโกาสตายก็จะลดตาม
งั้นคำถามสุดท้ายก็คือ ตอนนี้ควรใช้แต้มสกิลกับอะไรดี และใช้มันยังไง?
[ต้องการใช้แต้มสกิลหรือไม่?]
ต้องการใช่เซ่! โอววว ท่านแกนดาล์ฟผู้ประเสริฐ ผู้มอบความหวัง ผู้มอบแสงสว่าง ของให้เคราของท่านดกได้ดกดี!
ไม่นานเมนูเพิ่มเติมก็ผุดขึ้นมาในหัวของผม
แต้มสกิล: 1
ไบโอแมส: 1
[สามารถใช้แต้มสกิลในการซื้อสกิลใหม่หรืออัพเกรดสกิลที่มีอยู่เดิมได้]
[สามารถใช้ไบโอแมสในการปรับแต่งส่วนประกอบต่างๆ ของร่างกายได้]
[สกิลที่สามารถซื้อได้:
อำพรางตัว: 1 แต้ม เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนที่และซ่อนตัว;
แดช: 1 แต้ม เพิ่มความเร็วในระยะสั้นๆ โดยแลกกับค่าพละกำลังจำนวนหนึ่ง;
โจมตีฟาดฟัน: 1 แต้ม เพิ่มพลังโจมตีและความแม่นยำของการโจมตีแบบฟาดฟัน;
เคี้ยวขย้ำ: 1 แต้ม ช่วยเพิ่มแรงกัด ส่งผลให้ถูกสลัดออกได้ยากกว่าเดิม;
สัมผัสห้วงลึก: 1 แต้ม เพิ่มสัมผัสในการตรวจจับทิศทางเมื่ออยู่ใต้ดิน]
[การพัฒนาร่างกายที่สามารถซื้อได้:
เปลือกนอก +1: พัฒนาความแข็งแรงของเปลือกนอก เพิ่มความต้านต่อความเสียหายทั่วไป;
ขากรรไกร +1: เพิ่มความแข็งแรงและความสามารถในการเจาะทะลวงให้กับขากรรไกร ;
ขา +1: เพิ่มความคล่องแคล่วโดยรวม;
ตา +1: ปรับปรุงสายตา;
เสาอากาศ +1: เพิ่มความสามารถในการตรวจจับอากาศและกลิ่น;
ต่อมกรด +1: เพิ่มความเข้มข้นของกรด]
ตัวเลือกเพียบ! จะเลือกไงดีเนี่ย!? คงต้องลองคิดตามหลักเหตุผลซะหน่อย
แดชจะทำให้หนีศัตรูได้ง่ายขึ้น สัมผัสห้วงลึกจะช่วยให้ไม่หลงทาง เคี้ยวขย้ำกับพ่นกรดก็จะทำให้สู้ได้ดีกว่าเดิม…
ช่วงนี้คงต้องเน้นเรื่องเอาตัวรอดเป็นหลัก ถ้าอยากเติบโตมากกว่านี้ก็ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้เสียก่อน
ซื้อสกิลต่อสู้ไปก็ตายเปล่าอยู่ดี สมมุติว่าเดินไปเจอกับมอนสเตอร์ที่สู้ด้วยไม่ไหวก็ตายสถานเดียว
การเลือกเพิ่มความเร็วเองก็ใช่ว่าจะดี เพราะถ้าเจอกับศัตรูที่เร็วกว่าก็จบเห่เหมือนกัน
เพราะไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่าง ผมเลยไม่รู้ว่าจะได้เจอกับสิ่งมีชีวิตแบบไหนบ้าง
ในฐานะตัวอ่อนที่เพิ่งฟักออกจากไข่ เดาได้ไม่ยากเลยว่าผมนี่แหละคือตัวที่อยู่ล่างสุดในห่วงโซ่อาหาร!
โอเค ตัดสินใจได้แล้ว
เอาเป็น ตา +1 กับอำพรางตัวละกัน!
[ต้องการซื้อ ตา +1 และสกิล: อำพรางตัว ใช่หรือไม่?]
ตามนั้นเลยจ้า
ทันทีที่ตอบรับ ผมก็เริ่มรู้สึกคันจนตาแทบระเบิด เหมือนกับมียุงพันตัวเข้ามาจิ้มตาพร้อมกัน!
อ้ากกกก!
ไม่เอาแบบนี้สิแกนดาล์ฟ! อยากจะเกาก็เอาไม่ได้ เดี๋ยวเผลอเอาขาไปจิ้มตาเป็นรู!
ดีที่อาการเจ็บหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็รู้สึกค่อยยังชั่วขึ้น
ดูไม่ค่อยออกเลยแฮะว่าสายตาดีขึ้นจริงหรือเปล่า เพราะตรงนี้มันออกจะมืดไปหน่อย แต่อย่างน้อยผมก็รู้สึกได้ว่ามันใหญ่กว่าเดิม
ดัดแปลงร่างกายเขาทำกันแบบนี่สินะ? ผ่านไปไม่กี่นาทีแล้วก็ตู้ม! เสร็จเรียบร้อย
ออกจะโกงๆ ยังไงไม่รู้สิ
มนุษย์บนโลกเก่านั้นต้องใช้เวลาและความพยายามมากมายกว่าจะปรับปรุงร่างกายได้สักส่วน แล้วไอ้การปรับปรุงสายตาแบบนี้ก็ไม่มีอยู่ในตัวเลือกหรอกนะ ถ้าไม่นับพวกที่ใช้เครื่องจักรเข้าช่วยอย่างการทำเลสิก
แบบนี้ต้องรีบไปหาแต้มมาเพิ่มซะแล้ว!
ถ้ามีแต้มพวกนี้มากพอ ผมก็จะสามารถลบจุดอ่อนของตัวเองได้ นี่สิถึงจะเรียกว่าอยู่เป็น!
ทำไมผมถึงเลือกอำพรางตัวกับปรับปรุงสายตาน่ะเหรอ?
ถามได้ดี!
ถ้าลองนึกเล่นๆ ว่าสู้ใครก็ไม่ได้ หนีก็ไม่รอด งั้นทางเลือกเดียวก็คืออย่าให้ศัตรูเห็นตั้งแต่แรกก็พอ
ถูกพบ = ตาย!
หวังว่า [อำพรางตัว] จะช่วยยื้อชีวิตได้นานพอที่ผมจะเก่งกว่านี้นะ!
เรื่องสายตา… คือ เอาง่ายๆ ว่าสายตาแย่มันเป็นอะไรที่ห่วยบรม!
ยิ่งถ้าเคยเป็นมนุษย์มาก่อน ขอบอกเลยว่าตามดมันน่าสมเพชมาก!
ถ้าทุกอย่างอยู่นิ่งกับที่ ผมก็แทบมองอะไรไม่เห็นเลย!
ต้องจำไว้นะว่ามดคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่กันเป็นหมื่นเป็นแสนตัว พออยู่กันเยอะๆ ถึงจะสามารถทำเรื่องน่าอัศจรรย์ต่างๆ ได้
มดตัวเดียวอาจจะตรวจจับอะไรไม่ได้มากนัก แต่ถ้ามีหลายตัวล่ะก็ รับรองว่าเหยื่อไม่มีทางหนีรอดไปได้เลย
แต่ตอนนี้มีผมอยู่ตัวเดียวนี่หว่า! ตัวก็ใหญ่ จะแอบๆ ซ่อนๆ ก็ลำบาก
ตลกจริงๆ
ไม่รู้แหละ ต่อไปผมจะพยายามพัฒนาสายตาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมองเห็นแมลงสาปที่อยู่ห่างไป 5 เมตรในแบบชัดทุกรูขุมขน
โอเค
ซ่อนตัวอยู่ตรงนี้มาประมาณครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ แต้มก็ใช้หมดแล้ว คงถึงเวลาไปได้สักที
กล้าๆ หน่อยสิแอนโธนี่ เดินหน้าสำรวจต่อ!
…ผมค่อยๆ เกลี่ยดินที่ทางเข้าออกทีละนิด พอมองเห็นแสงสว่างมากขึ้น ผมก็เริ่มส่ายหนวดไปมาอย่างระมัดระวัง
ดูเหมือนทางจะโล่งนะ ไม่มีทั้งกลิ่นหรือแรงสั่นสะเทือนอะไรเลย
เอาล่ะ เป็นไงเป็นกัน
ผมค่อยๆ แทรกตัวออกมาทีละนิดแบบไม่ส่งเสียง พอออกมาแล้วก็ยังมึนทางอยู่เลยแฮะ เบื่อตาตัวเองจริงๆ
ทางด้านขวานั้นคือที่ที่ผมเจอกับตะเข้ยักษ์และพรรคพวก (RIP) ดูแล้วเป็นทางที่ไม่ค่อยน่าเดินเท่าไหร่ ดังนั้นตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่ก็คือ: ทางซ้าย
ถึงเวลาดำเนินแผนขั้นต่อไปแล้ว!
เพราะยังเดินไม่ค่อยแข็งนัก ผมก็เลยเริ่มไต่ผนังอย่างช้าๆ ต่อมาก็ขยับขึ้นไปอยู่บนเพดานในสภาพตีลังกา
ภารกิจสำเร็จ!
พอเปลี่ยนมาเดินบนเพดานบวกกับสกิลอำพรางตัว โอกาสรอดของผมก็เพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล
มั่วฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเดินห้อยหัวจนเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมรู้สึกมั่นใจตัวเองสุดๆ เลย
แอนโธนี่ลุยยยยย!
แต่ต่อให้ใจสู้กว่าเดิม ผมก็ยังคงเดินแบบระวังทุกฝีก้าว
ผมต้องใช้เสาอากาศร่วมกับขาหน้าในการ ‘คลำทาง’ ก่อนจะค่อยๆ ขยับขาที่เหลือตาม
ทุกขั้นตอนต้องใช้สมาธิเล็กน้อย ความเร็วในการเคลื่อนที่ก็เลยค่อนข้างช้า แต่ผมไม่ถือหรอกนะ
ทุกวินาทีที่รู้สึกปลอดภัยนั้นมีค่ามากจริงๆ ถือซะว่าคุ้มละกัน!
พอสายตาเริ่มดีขึ้น ผมก็เลยสังเกตเห็นบางอย่างเพิ่มเติม
เจ้าจุดแสงที่เคยเห็นนั้น ที่จริงแล้วมันคือเส้นแสงสีฟ้าที่มีลักษณะคล้ายกับรากไม้และเถาวัลย์ที่โตอยู่ตามผนังถ้ำ
บางส่วนนั้นมีขนาดใหญ่ บ้างก็เล็กจนแทบมองไม่เห็น พวกมันแตกออกและผสานรวมกันอย่างไม่จบไม่สิ้น
ทุกๆ 2-3 นาที แสงของมันจะรุนแรงขึ้น จากนั้นก็ลดลง ดูแล้วคล้ายกับการเต้นของหัวใจอย่างไรอย่างนั้น
ความคิดที่ว่า ‘อุโมงค์มีชีวิต’ นั้นน่ากลัวใช้ได้เลยทีเดียว แต่แสงไฟนั่นกลับทำให้ผมรู้สึกสบายอย่างน่าประหลาด
นี่ก็เป็นปริศนาอีกอย่างที่ผมต้องไปหาข้อมูลมาเพิ่ม
พอมีแสงมากขึ้น ผมก็เห็นว่าเปลือกของตัวเองนั้นดูหนาและเข้มกว่าเดิมเยอะเลย
ตามปกติแล้วเปลือกของตัวอ่อนมดนั้นจะมีสีขาว เมื่อเวลาผ่านไป มันก็จะค่อยๆ แข็งและเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น
ดูเหมือนว่าผมจะซ่อนตัวอยู่ในนั้นนานกว่าที่คิดนะ
หลังจากไต่ผนังอยู่หนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ผมก็มาถึงทางโค้ง พอเดินผ่านตรงนั้นก็ได้เจอกับภาพน่าเหลือเชื่อ!
พื้นที่ตรงนี้ใหญ่มาก! มันใหญ่พอที่จะใส่สนามกีฬาได้หลายสนามเลย
แถมพอมาหยุดอยู่ตรงนั้น สัมผัสและกลิ่นของอะไรต่อมิอะไรก็ไหลทะลักเข้ามาไม่หยุด
พวกมอนสเตอร์!