Chronology of Renewal | บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่ - ตอนที่ 116 : Absolute Resolution
- Home
- Chronology of Renewal | บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่
- ตอนที่ 116 : Absolute Resolution
แกร๊ก–แกร๊ก–แกร๊ก–
“….!”
ในทันทีที่พลุสัญญาณสีแดงถูกยิงขึ้นไปบนฟากฟ้านั้น กลุ่มคนในชุดทหารที่ยืนนิ่งเงียบแบบไม่ไหวติงอยู่ทางด้านหลังของชายหนุ่มหูแมวก็ต่างพากันชักดาบและหอกของพวกเขาออกมาตั้งท่าเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้พร้อมๆ กันอย่างพร้อมเพรียงทั้งๆ ที่เมื่อก่อนหน้านี้พวกนากาไม่เห็นว่าทหารพวกนี้จะพกพาอาวุธติดตัวมากันด้วยซะด้วยซ้ำ
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหันนั้นก็ได้ทำให้คอนแนลที่ในตอนแรกคิดว่าสถานการณ์ปลอดภัยดีถึงกับร้องโวยวายออกมาในทันที
“ไหนเมื่อกี้นายบอกว่าพวกเขาเป็นแค่นักเดินทางธรรมดาๆ ไม่ใช่หรอครับนากา!?”
“ก็เขาตอบมาแบบนั้นแล้วฉันจะไปรู้เรอะ!?”
“พวกนายเลิกเถียงกันแล้วก็ชักอาวุธออกมากันได้แล้ว!!”
เนลที่ได้ยินนากาและคอนแนลกำลังหันไปพูดเถียงกันเองอยู่นั้นได้รีบชักอาวุธของเขาที่เป็นดาบคมเดียวหัวตัดขึ้นมาถือเอาไว้พร้อมกับตวาดเตือนเพื่อนๆ ของเขาทั้งสองคนขึ้นมาเสียงดังจนทำให้นากาและคอนแนลต่างพากันชักอาวุธของตนเองออกมาเตรียมพร้อมรับมือกับทหารทั้งสี่คนที่กำลังวิ่งตรงเข้ามาหาพวกเขาในทันที
“แล้วพวกคนอื่นๆ ที่กำแพงล่ะ!?”
“เมื่อกี้นี้คุณไดเอน่าเขาบอกให้ทุกคนเตรียมตัวเผื่อไว้แล้วล่ะครับ แล้วพลุสัญญาณนั่นมันเห็นได้ชัดซะขนาดนั้นน่าจะมีใครสังเกตเห็นความผิดปกติบ้างแล้วล่ะครับ!”
ปึ้ง! ปึ้ง! ปึ้ง!
ในขณะที่คอนแนลกำลังพูดตอบเนลกลับไปอยู่นั้นก็ได้มีเสียงเหมือนกับระเบิดขนาดเล็กๆ ดังแววมาจากที่ไกลๆ ติดๆ กันก่อนที่ทันใดนั้นเองจะมีก้อนอะไรบางอย่างสามก้อนลอยพุ่งออกมาจากแนวชายป่าทางทิศเหนือที่อยู่ห่างจากประตูเมืองทางทิศตะวันตกไปเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร
แต่ว่าก่อนที่พวกนากาจะได้มีเวลาสนใจวัตถุที่บินตรงไปทางประตูเมืองนั้นพวกเขาก็จำเป็นต้องละสายตากลับมาเพื่อเข้ารับมือกับทหารทั้งสี่คนที่พุ่งเข้ามาโจมตีใส่ด้วยดาบและหอกในมือเสียก่อน
เคร๊ง—!
ในขณะเดียวกัน ทางด้านไดเอน่าที่ประจำการอยู่ทางด้านบนกำแพงกับพวกเด็กนักเรียนคนอื่นเองก็ได้สังเกตเห็นพลุสัญญาณสีแดงที่ตามมาด้วยเสียงระเบิดเล็กๆ ติดต่อกันสองสามครั้งก่อนที่จะมีวัตถุปริศนาลอยพุ่งตรงมายังประตูเมืองที่พวกเธอประจำการอยู่ ซึ่งในก็ทำให้ไดเอน่าต้องรีบสั่งการให้เด็กนักเรียนที่สวมใส่พาร์ทส่วนบนเอาไว้ให้เตรียมการป้องกันในทันที
“เมื่อกี้นี้ศัตรูยิงอะไรบางอย่างออกมาจากป่าทางทิศเหนือ อากิ ริวโตะ พวกเธอพยายามใช้พาร์ทแขนกลเข้ารับก้อนดำๆ สามก้อนนั่นเอาไว้ แค่หันพาร์ทไปทางนั้นแล้วใส่วิซลงไปเลยเดี๋ยวตัวพาร์ทของคุณเอริกะมันจะเปิดการใช้งานเอง แล้วก็คนที่ไม่มีพาร์ทใส่รีบกลับเข้าไปหลบด้านในห้องพักก่อน ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือรออยู่ตรงนี้เพื่อรอรับคำสั่งอีกที!”
“ได้เลยครับ!! / ครับผม!!”
พาร์ทส่วนบนที่อากิและริวโตะสวมใส่เอาไว้ได้หันส่วนที่เป็นแขนกลของมันขึ้นไปทางด้านบนและส่องแสงสว่างออกมาจากตรงปลายของมันที่มีลักษณะเหมือนกับโล่อันเล็กๆ ก่อนที่ยูนิตที่อากิเป็นคนควบคุมจะปล่อยม่านความร้อนขนาดใหญ่ออกมาในขณะที่ยูนิตของริวโตะนั้นได้ปลดปล่อยม่านน้ำที่คล้ายๆ กับที่คอนแนลเคยใช้ผ่านถุงมือของนากาเมื่อนานมาแล้วออกมา
ฟุ๊บ—
วัตถุสีดำที่ถูกยิงออกมาจากชายป่าเป็นวิถีโค้งนั้นได้ตกกระทบเข้ากับม่านน้ำของริวโตะเข้าไปจังๆ จนทำให้มันถูกกระแสน้ำที่แผ่ออกมาจากตรงกลางดีดกระเด็นออกไปทางด้านนอกกำแพงและระเบิดออกมาอย่างรุนแรงในทันทีที่มันตกกระทบกับพื้นดิน
ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!!
“ว๊าย!? / เหวอ—!?”
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นมาติดๆ กันนั้นได้ทำให้พวกชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวขอบกำแพงส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจในขณะที่เด็กนักเรียกจากกลุ่มดอว์นที่อยู่ด้านบนกำแพงเองก็ได้แต่ต้องรีบหดหัวกลับลงไปหลบอยู่ด้านหลังกำแพงปราสาทด้วยเช่นกัน
ปึ้ง! ปึ้ง! ปึ้ง!
ถึงแม้ว่าระเบิดที่เกิดจากวัตถุปริศนาจะดูรุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวมากก็ตามที แต่ว่าเด็กนักเรียนของกลุ่มดอว์นที่สวมใส่ยูนิตอยู่ก็ไม่มีเวลาให้ทำใจมากนักเมื่อได้มีเสียงระเบิดเบาๆ ดังขึ้นมาจากทางชายป่าทิศเหนืออีกครั้งหนึ่งแล้ว
“อากิกับริวโตะพวกเธอใช้โล่วิซป้องกันระเบิดพวกนั้นอีกรอบนึงแล้วค่อยถอยออกมาให้เพื่อนอีกสองคนเข้าไปทำการป้องกันแทน!!”
“รับทราบครับ! ถ้าจะหมดแรงก็บอกกันก่อนด้วยนะเห้ยริวโตะ!”
“นายนั่นล่ะอย่าเผลอทำโล่หายไปก่อนก็แล้วกัน!!”
อากิและริวโตะที่ได้รับคำสั่งจากไดเอน่าได้หันไปพูดเกทับใส่กันเองเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะหันกลับไปจ้องมองก้อนสีดำบนฟากฟ้าเพื่อพยายามคำนวณวิถีการเคลื่อนที่ของมันในขณะที่ทางด้านไดเอน่าก็ได้รีบหันกลับไปสั่งการเด็กนักเรียนคนที่เหลืออยู่แทน
“หน่วยวิทยุรีบกลับเข้าไปในห้องแล้วติดต่อไปหาคุณเอริกะตามที่ฉันสอนเอาไว้เร็ว! ส่วนคนที่ใส่พาร์ทส่วนล่างเอาไว้ให้รีบไปตั้งแถวกันอยู่ที่หน้าประตู หลังจากที่ระเบิดชุดต่อไปตกลงมาแล้วฉันจะให้พวกเธอเข้าไปหยุดการโจมตีจากข้างในป่าเพราะไม่งั้นต่อให้มีโล่ของคุณเอริกะอีกสักสิบอันก็หยุดมันเอาไว้ได้ไม่นานหรอก!”
“ครับ!! / ค่ะ!!”
เด็กนักเรียนกลุ่มที่สวมใส่พาร์ทส่วนล่างเอาไว้ที่ประกอบไปด้วยอัลเบิร์ต รีซาน่าและเด็กนักเรียนอีกสามคนได้ขานตอบไดเอน่ากลับไปก่อนที่พวกเขาจะรีบวิ่งลงไปจากกำแพงเมืองเพื่อรอสัญญาณจากไดเอน่าอีกครั้ง
ตู้ม!! ตู้ม!! ตู้ม!!
วัตถุระเบิดสีดำที่พุ่งตรงเข้ามาในคราวนี้ได้ปะทุขึ้นกลางอากาศเมื่อมันตกกระทบเข้ากับม่านความร้อนสีแดงที่เป็นของอากิแทนที่มันจะกระเด็นออกไปเหมือนกับเมื่อสักครู่นี้ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะคุณสมบัติของอุปกรณ์ฉายม่านพลังวิซที่จะแสดงผลแตกต่างกันออกไปตามธาตุต่างๆ นั่นเอง
และหลังจากที่เสียงระเบิดที่ดังกึกก้องสงบลงไป ไดเอน่าก็ได้รีบร้องตะโกนบอกเด็กนักเรียนทั้งห้าคนที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูเมืองเพื่อให้พวกเขาออกไปจัดการหยุดอะไรก็ตามที่ยิงระเบิดออกมาจากชายป่าในทันที
“ตอนนี้แหล่ะ พวกเธอรีบออกไปกันเลย!!”
“เฮ้ย! ยัยใบ้รีบๆ เปิดประตูเร็วเข้า!”
อัลเบิร์ตที่ได้ยินคำสั่งจากไดเอน่าได้หันไปพูดสั่งเซซิลที่ถูกโยนหน้าที่ควบคุมกลไกเปิดประตูเมืองเอาไว้เสียงดังจนทำให้เซซิลเหลือบสายตากราดเกรี้ยวมองไปทางเขาแล้วจึงสลับกลไกสำหรับเปิดประตูอย่างแรงด้วยความอารมณ์เสีย
ครึกๆๆๆๆ
ถึงแม้ว่าเซซิลจะลงไม้ลงมือกับกลไกเปิดประตูอย่างรุนแรงด้วยความหงุดหงิดก็ตามแต่ว่าตัวไกกลเปิดประตูที่เพิ่งจะถูกตรวจสภาพและซ่อมแซมโดยพวกเด็กนักเรียนไปเมื่อเช้านี้ก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและค่อยๆ เปิดประตูออกอย่างเชื่องช้าเป็นโอกาสให้อัลเบิร์ตส่งรอยยิ้มเยาะเย้ยกลับไปให้เซซิล จนทำให้รีซาน่าที่เห็นแบบนั้นถึงกับขึ้นเสียงใส่เขาก่อนจะใช้ไอพ่นของพาร์ทส่วนล่างพุ่งตัวออกไปจากประตูเมืองในทันที
“นี่มันใช่เวลามั้ยคะเนี่ย!? ทุกคนตามฉันมาเลยค่ะ ถ้าเกิดว่าเป็นเรื่องในป่าล่ะก็ไว้ใจฉันได้เลย!”
วี๊—- ซู่มมมมมมมมม!!
“ดุจริงวุ้ย… เอาล่ะ งั้นทุกคนก็ตามยัยยักษ์นั่นไปเลย แล้วก็พยายามอย่าหลุดขบวนตอนอยู่ในป่ากันด้วยล่ะ!”
อัลเบิร์ตที่ถูกรีซาน่าขึ้นเสียงใส่นั้นถึงกับอดไม่ได้ที่จะพูดบ่นออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะรีบใช้ไอพ่นที่เอวพุ่งตามเด็กสาวร่างยักษ์ไปด้วยเช่นกันจนทำให้เด็กนักเรียนอีกสามคนที่เหลือต่างได้แต่ต้องรีบร้อนพุ่งตัวตามเขาออกไปจากเขตตัวเมืองเพื่อเข้าไปหยุดยั้งตัวการที่ส่งลูกระเบิดออกมาจากภายในป่าทางตะวันตกเฉียงเหนือกัน
ก๊อง!! ก๊อง!! ก๊อง!!
“นั่นมัน— ระฆังสัญญาณของทางเมือง—”
หลังจากที่หน่วยจู่โจมของอัลเบิร์ตทั้งห้าคนพุ่งออกไปจากเขตตัวเมืองได้ไม่ทันไรก็ได้มีเสียงระฆังดังก้องกังวานมาจากจุดต่างๆ ของเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเหล่าเด็กนักเรียนที่ประจำการอยู่ทางด้านบนกำแพงได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็ได้แต่ต้องรีบหันกลับไปดูทางด้านหลังและได้พบว่าที่ห่างไกลออกไปทางทิศใต้และทิศเหนือนั้นได้มีควันไฟพวยพุ่งขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
ซึ่งนั่นก็ทำให้เหล่าเด็กนักเรียนทุกคนสามารถมั่นใจได้ในทันทีว่าการโจมตีนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ที่ประตูทิศตะวันตกที่พวกเขาประจำการอยู่แต่ว่ากลับเกิดขึ้นพร้อมๆ กันที่ประตูทั้งสี่ทิศอย่างแน่นอน
“ประธานคะ! คุณเอริกะฝากมาบอกว่าให้พวกเราคุ้มกันที่ประตูนี้ต่อไปโดยห้ามแบ่งกำลังคนไปช่วยที่ประตูอื่นเป็นอันขาดค่ะ ส่วนที่โรงเรียนตอนนี้ท่านผู้อำนวยการกำลังกำกับการอพยพเด็กนักเรียนด้วยตัวเองอยู่ เพราะงั้นขอให้ประธานวางใจได้เลยค่ะ!”
“เข้าใจแล้ว… ถ้างั้นเธอกับหน่วยสื่อสารคนอื่นๆ เข้าไปหลบอยู่ด้านในห้องพักกันก่อน แล้วถ้าเกิดว่าไม่มีเหตุฉุกเฉินจริงๆ ก็ห้ามออกมาเด็ดขาด!”
“เอ๋ะ? แต่ว่าพวกฉัน—” .
“ไม่มีแต่!! พวกเธอที่ฉันมอบหน้าที่ให้เป็นหน่วยสื่อสารน่ะไม่ได้เก่งเรื่องการต่อสู้มากนัก เพราะงั้นฉันขอสั่งให้พวกเธอเข้าไปหลบด้านในก่อนเพื่อความปลอดภัยของพวกเธอเองเข้าใจมั้ย!! เพราะฉันเองก็ไม่มั่นใจว่าโล่ที่คุณเอริกะเตรียมมาให้จะทนแรงระเบิดพวกนี้ได้อีกนานสักเท่าไหร่เหมือนกัน…”
“ค—ค่ะ!!!”
เด็กนักเรียนหญิงที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยสื่อสารได้แต่ต้องพยักหน้ารับคำสั่งของไดเอน่าก่อนที่เธอจะรีบกลับเข้าไปหลบอยู่ที่ห้องพักที่อยู่ภายในตัวกำแพงเมืองในทันทีในขณะที่ทางด้านไดเอน่านั้นก็ได้เงยหน้ากลับขึ้นไปเพื่อจ้องมองลูกระเบิดที่กำลังพุ่งตรงมาทางประตูเมืองด้วยความกังวลใจ
ฟุ๊บ—-ตู้ม!! ตู้ม!!
ลูกระเบิดทั้งสามลูกที่พุ่งเข้ามานั้นได้ตกกระทบเข้ากับม่านน้ำของริวโตะก่อนที่มันจะถูกกระแสน้ำปัดจนกระเด็นออกจากเขตเมืองไปอีกครั้งเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่ว่าสิ่งที่แตกต่างไปจากครั้งที่แล้วนั้นก็คือว่าในครั้งนี้มีระเบิดลูกหนึ่งถูกปัดผิดด้านจนปลิวไปตกกระทบกับพื้นที่ด้านบนกำแพงที่อยู่ห่างจากพวกเขาไปไม่ไกลแทน
ตู้ม!!
“ม—มันใช้วิซเยอะเหมือนกันนะเนี่ยเจ้าโล่เนี่ย…”
“น…นั่นสิ…”
พื้นที่ด้านบนกำแพงที่ถูกลูกระเบิดตกใส่นั้นได้เกิดหลุมขนาดกว้างกว่าหนึ่งช่วงตัวขึ้นมา และถึงแม้ว่าตัวกำแพงจะไม่ได้พังถล่มลงไปในทันที แต่ว่ามันก็ทำให้เกิดรอยร้าวขนาดใหญ่ที่ลากยาวไปทั่วบริเวณนั้นจนทำให้ไดเอน่าต้องรีบร้องสั่งอากิและริวโตะที่เริ่มมีท่าทีอ่อนแรงแล้วขึ้นมาด้วยความกังวล
“อากิ ริวโตะ พวกเธอถอยกลับมาพักฟื้นแล้วให้คนอื่นๆ ขึ้นไปกางโล่แทนก่อน!”
“ครับ!! / รับทราบครับ!!!”
อากิและริวโตะพูดตอบไดเอน่ากลับไปก่อนที่พวกเขาจะหยุดการส่งพลังวิซไปที่พาร์ทส่วนบนจนทำให้ม่านน้ำและม่านความร้อนสลายหายไปแล้วจึงเดินถอยไปนั่งพิงอยู่ที่ริมขอบกำแพงเพื่อปล่อยให้เด็กนักเรียนอีกสองคนสร้างม่านพลังวิซที่เป็นธาตุลมและธาตุไฟขึ้นมาป้องกันแทน
“ถ้าเกิดว่าอาวุธของศัตรูเป็นแบบนี้ก็คงจะได้แต่หวังว่าพวกหน่วยจู่โจมจะจัดการศัตรูได้ทันก่อนที่ทุกคนจะหมดแรงล่ะนะ…”
ไดเอน่าที่เห็นว่าอากิและริวโตะมีท่าทีอ่อนแรงหลังจากที่พวกเขารับระเบิดไปสามชุดนั้นได้พูดพึมพำออกมาด้วยความกังวลเพราะว่าตอนนี้เด็กนักเรียนที่พร้อมจะรับมือการโจมตีเหลืออยู่อีกเพียงแค่แค่สามคนเท่านั้น ซึ่งพวกเขาก็คงจะป้องกันการโจมตีได้อีกอย่างมากก็แค่ห้าครั้งเท่านั้นก่อนที่จะต้องช่วยกันฝืนออกแรงเพื่อป้องกันจนอาจจะเกิดอันตรายจากผลข้างเคียงของการฝืนใช้วิซขึ้นมาทีหลังหรือไม่ก็พลาดท่าถูกลูกระเบิดถล่มเข้าใส่จนบาดเจ็บขึ้นมา
“คงได้แต่หวังว่าพวกหน่วยจู่โจมจะจัดการได้ทันงั้นสินะ…”
ปึ้ง! ปึ้ง! ปึ้ง!
“เสียงนั่นดังขึ้นเรื่อยๆ แล้ว… ข้างหน้านี่เองค่ะทุกคน!”
ในขณะเดียวกันทางด้านกลุ่มของอัลเบิร์ตที่พุ่งตัวเข้าไปในป่า รีซาน่าที่ได้ยินเสียงของการระเบิดเล็กๆ ที่ดังแว่วมาจากทางด้านหน้าได้รีบร้องเตือนให้ทุกคนเตรียมความพร้อมสำหรับการต่อสู้เมื่อเธอสังเกตเห็นได้ว่าต้นตอของการโจมตีน่าจะอยู่ห่างออกไปอีกไม่ไกลสักเท่าไหร่นัก
ซึ่งถึงแม้ว่าด้านในป่าแห่งนี้จะเต็มไปด้วยรากไม้และตะไคร่น้ำแต่ว่าพาร์ทส่วนล่างที่เอริกะออกแบบมาเป็นพิเศษก็ยังสามารถที่จะช่วยประคับประคองพวกเขาให้ทรงตัวเอาไว้ได้อย่างไม่ลำบากอะไรนัก
และหลังจากที่รีซาน่าพุ่งตัวนำเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ไปอีกไม่นานสักเท่าไหร่นัก พวกเธอก็ได้พบเข้ากับกลุ่มทหารที่มีตราสัญลักษณ์สีน้ำเงินกรอบสีเหลืองสามคนกำลังยืนมุงอยู่รอบอุปกรณ์ที่มีลักษณะเหมือนกับกระบอกขนาดใหญ่ติดขาตั้งที่กำลังหันปลายด้านหนึ่งของมันเฉียงขึ้นฟ้าไปทางประตูเมืองรีมินัส
ซึ่งหนึ่งในทหารทั้งสามคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าอุปกรณ์ชิ้นนั้นได้ยืนมือไปรับลูกระเบิดที่มีลักษณะเป็นทรงวงรีอ้วนๆ คล้ายกับลูกดอกขนาดใหญ่อันเท่าท่อนแขนมาจากทหารอีกคนหนึ่งก่อนจะปล่อยมันลงไปในปากกระบอกของสิ่งที่น่าจะเป็นปืนใหญ่ขนาดเล็กอันนั้นโดยไม่สนใจพวกเด็กนักเรียนที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาเลยแม้แต่น้อย
เปรี๊ยง!!!
ในชั่วพริบตาที่นายทหารคนนั้นปล่อยลูกกระสุนลงไปในปากกระบอกปืนมันก็ได้ส่งเสียงดังลั่นเหมือนกับเสียงยิงปืนออกมาและส่งตัวลูกกระสุนลอยขึ้นฟ้าฟากหายไปในทิศทางที่มีประตูเมืองตั้งอยู่โดยที่พวกเด็กนักเรียนไม่สามารถสัมผัสถึงการใช้พลังวิซในบริเวณนี้ได้เลยแม้แต่น้อย
“…..”
และในขณะที่เหล่าเด็กนักเรียนกำลังตกตะลึงอยู่กับอาวุธที่สามารถยิงลูกระเบิดไปยังประตูเมืองที่อยู่ห่างออกไปไกลขนาดนั้นได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้วิซเพื่อกระตุ้นให้มันทำงานอยู่นั่นเอง หนึ่งในทหารที่ล้อมวงอยู่รอบๆ เครื่องยิงระเบิดก็ได้ชักดาบออกมาและพุ่งตรงสวนเข้าไปหาเหล่าเด็กนักเรียนโดยไม่พูดไม่จาจนทำให้รีซาน่าที่เห็นแบบนั้นได้ตัดสินใจที่จะพุ่งตัวสวนเข้าไปหาเขาด้วยเช่นกัน
“เดี๋ยวทหารคนนั้นฉันจัดการเองค่ะ คุณอัลเบิร์ตฝากจัดการเรื่องอาวุธนั่นด้วยนะคะ!”
“ถ้างั้นเธอก็อย่าเข้ามาขวางทางกระสุนของฉันก็แล้วกัน!!”
ซู่มมมมมมมมม—- เคล๊ง!! โคร๊ม!!
“เอ๋—?”
รีซาน่าที่เพิ่งจะใช้ขวานศึกหวดเข้าใส่นายทหารคนที่วิ่งเข้ามาถึงกับต้องส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อทหารคนที่ว่านั้นได้เข้ามาปะทะอาวุธกับเธอตรงๆ แบบไม่มีการพลิกแพลงอะไรเลยแม้แต่น้อยจนถูกขวานศึกยักษ์และแรงช้างสารของเธอหวดจนกระเด็นกลับไปกระแทกกับต้นไม้เบื้องหลังและค่อยๆ ไถลลงไปกองอยู่ที่พื้นโดยไม่ได้ส่งเสียงร้องออกมาเลยแม้แต่น้อย
แต่ว่ารีซาน่าก็ไม่ได้มีเวลาแปลกใจมากนักเมื่อเธอจำเป็นต้องรีบใช้ไอพ่นที่เอวฉีกตัวออกไปทางด้านข้างเพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ เบื้องหลังได้เปิดฉากยิงใส่ทหารอีกสองคนที่ยังคงบรรจุกระสุนเข้าใส่ตัวอาวุธอยู่เหมือนกับไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบกายเลยแม้แต่น้อย
“ยัยยักษ์หลบออกไปแล้ว พวกนายสาดยิงเข้าไปเลย!”
“ร—รับทราบ!!”
เด็กนักเรียนอีกสามคนที่เหลือที่ได้ยินคำสั่งของอัลเบิร์ตได้แต่ลังเลเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะพากันกระหน่ำกระสุนวิซจากปืนสั้นและปืนยาวรวมไปถึงกระสุนพลังงานวิซธาตุไฟที่ถูกยิงออกมาจากก้อนคริสตัลเข้าใส่กลุ่มทหารพวกนั้นในทันที
ปัง! ปังปัง! ฟ๊าาาาาว!!
สวบ! สวบ!
“…….”
ถึงแม้ว่าทหารทั้งสองคนจะถูกระดมยิงใส่ด้วยกระสุนวิซหลากสีจนมีรูพรุนอยู่แทบจะเต็มร่างกายและมีเลือดสาดกระจายไปทั่วก็ตาม แต่ว่าพวกเขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจบาดแผลพวกนั้นเลยแม้แต่น้อยและยังคงพยายามที่จะเอื้อมมือไปหยิบเอากระสุนลูกใหม่มาบรรจุเข้าไปในเครื่องยิงลูกระเบิดอยู่ดี
ฟุ๊บ—-
แต่ว่าก่อนที่ทหารคนนั้นจะได้เอื้อมมือไปถึงกล่องที่บรรจุลูกกระสุนระเบิดเอาไว้ หนึ่งในกระสุนพลังงานวิซสีแดงก็ได้พุ่งไปตกกระทบตัวกล่องบรรจุกระสุนและระเบิดออกเป็นลูกไฟขนาดย่อมๆ ที่ลุกท่วมตัวกล่องกระสุนในพริบตา และหลังจากที่เวลาผ่านไปอีกเพียงแค่ไม่กี่วินาทีตัวกระสุนระเบิดจำนวนมากที่ถูกบรรจุเอาไว้ในกล่องก็ได้ระเบิดออกมาพร้อมๆ กันอย่างรุนแรง
ตู้มมมม!!!
“เหว—!? / ว๊าย!?”
แรงระเบิดที่รุนแรงจนถึงกับทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนจากการที่ตัวกระสุนจำนวนมากได้ระเบิดออกมาพร้อมๆ กันนั้นได้ทำให้เหล่าเด็กนักเรียนรีบหมอบลงไปกับพื้นเพื่อปกป้องตัวเองจากแรงระเบิดกันในทันที ในขณะที่ทหารทั้งสองคนนั้นก็ถูกแรงระเบิดและเปลวไฟเผาผลาญจนหายไปในพริบตา
“…….”
กึก…
ในขณะที่เหล่าเด็กนักเรียนกำลังตกตะลึงกับพลังทำลายของอาวุธระเบิดที่ไม่จำเป็นต้องใช้วิซเพื่อกระตุ้นให้มันทำงานกันอยู่นั้น อยู่ๆ ร่างของทหารคนที่ถูกรีซาน่าฟาดจนปลิวกระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้ก็ได้ขยับตัวลุกขึ้นมาแล้วจึงออกวิ่งกะโพลกกะเผลกหายเข้าไปในป่าลึกอย่างรวดเร็ว
ซึ่งกว่าเหล่าเด็กนักเรียนจากกลุ่มดอว์นทั้งห้าคนจะสามารถตั้งสติได้นายทหารคนนั้นก็หายเข้าไปในป่าโดยไร้ซึ่งวี่แววจะให้ติดตามซะแล้วจนทำให้อัลเบิร์ตได้แต่ต้องลุกขึ้นมายืนเพื่อมองไปยังก้อนดำๆ สองก้อนที่ครั้งหนึ่งเคยมีรูปร่างเหมือนกับมนุษย์มาก่อนพร้อมเอ่ยปากพูดขึ้นมาเบาๆ
“เอาเป็นว่าวันหน้าวันหลังเห็นถ้ามีใครเห็นกล่องแบบนั้นก็พยายามอย่ายิงใส่มันก็แล้วกัน…”
“ค…ค่ะ…”
เด็กสาวผู้ที่เป็นเจ้าของกระสุนวิซธาตุไฟที่หน้าตาคล้ายกับลูกศรนั้นได้พูดพึมพำตอบอัลเบิร์ตกลับไปด้วยน้ำเสียงเหม่อลอยจนทำให้อัลเบิร์ตที่ได้ยินแบบนั้นต้องหันไปมองด้วยความเป็นห่วงและพบว่าเด็กนักเรียนหญิงคนนั้นกำลังเหม่อมองสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของทหารทั้งสองคนด้วยใบหน้าซีดเผือดโดยที่มีก้อนคริสตัลสีแดงที่เธอใช้เป็นอาวุธตกอยู่ที่พื้นข้างกายราวกับว่าเธอไม่กล้าที่จะถือมันเอาไว้อีกต่อไป
ซึ่งอัลเบิร์ตที่เห็นแบบนั้นก็ได้ตัดสินใจที่จะก้มลงไปหยิบก้อนคริสตัลขึ้นมาโยนให้กับเด็กนักเรียนชายคนที่ใช้ปืนสั้นพร้อมกับพูดสั่งให้เขาพาเด็กสาวผู้ที่ไม่อยู่ในสภาพที่จะสามารถต่อสู้ได้อีกต่อไปหลังจากที่เธอเผลอพลั้งมือสังหารคนอื่นไปโดยไม่ได้ตั้งใจให้กลับไปพักสงบสติอารมณ์ก่อนในทันที
“นายพาเธอคนนี้ไปหาที่ซ่อนพักสงบสติก่อนหรือไม่จะพากลับเมืองไปก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวที่เหลือพวกฉันจัดการเอง… รีซาน่าฝากเธอแกะรอยเจ้าคนที่วิ่งหนีไปเมื่อกี้ให้หน่อย!!”
“ค—ครับ!!”
“ข–เข้าใจแล้วค่ะ!!”
ในขณะเดียวกันกับที่ทางฝั่งรีซาน่าและอัลเบิร์ตเพิ่งจะจัดการกับหน่วยยิงลูกระเบิดของศัตรูได้สำเร็จนั้น ทางด้านเนลที่กำลังต่อสู้กับสองในสี่ของกลุ่มทหารที่เป็นผู้ติดตามของชายหูแมวผมสีม่วงเองก็เพิ่งจะใช้ดาบคมเดียวของเขากระแทกทหารคนหนึ่งที่ใช้ดาบมือเดียวเป็นอาวุธจนปลิวกระเด็นออกไป เป็นโอกาสให้ตัวเองได้ใช้ท่าไม้ตายประจำตัวเพื่อเร่งการปิดฉากในทันที
“เสร็จฉันล่ะ!! เชน เบิร์ส!!”
ตู้มตู้มตู้มตู้มตู้มตู้มตู้มตู้ม!!
ถึงแม้ว่าทหารทั้งสองคนที่เป็นคู่ต่อสู้ของเนลนั้นจะพยายามแยกตัวออกจากกันเพื่อหลบหลีกแรงระเบิดแล้วก็ตาม แต่ว่าก็มีพวกเขาก็ยังคงถูกแรงระเบิดที่แผ่กระจายเป็นวงกว้างเข้าไปอย่างจังจนปลิวกระเด็นไปกับพื้นและมีเปลวไฟลุกติดตามเสื้อผ้าเป็นบางจุด
“……..”
“…หา?”
เนลที่เพิ่งจะใช้ท่าไม้ตายของเขาเพื่อจัดการกับทหารทั้งสองคนนั้นได้แต่หลุดเสียงร้องออกมาด้วยความประหลาดใจเมื่อทหารคนที่ใช้ดาบสองมือเป็นอาวุธนั้นค่อยๆ ยันตัวเองให้ลุกขึ้นมายืนและเดินเข้ามาหาเขาอีกครั้งหนึ่งโดยที่ไม่สนใจเสื้อผ้าของตัวเองที่กำลังถูกเปลวไฟเผาผลาญอยู่เป็นบางส่วนเลยแม้แต่น้อย
ตู้ม!! ผลัก!! ผั่วะ!!
“……”
“คนพวกนี้มันอะไรกันครับเนี่ย!? นี่พวกเขาไม่รู้สึกเจ็บปวดกันเลยหรือยังไงกันครับ!?”
ในขณะเดียวกันทางด้านของคอนแนลที่กำลังรับมือกับทหารอีกสองคนที่เหลือเองก็ได้แต่ต้องหันไปตะโกนถามเนลด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกัน เมื่อทหารทั้งสองคนที่เขารับมืออยู่ไม่ได้มีท่าทีว่าจะสนใจบาดแผลของตัวเองเลยแม้แต่น้อยและยังคงพยายามที่จะยันตัวเองให้ลุกขึ้นมายืนเพื่อพุ่งเข้ามาโจมตีต่อหลังจากที่โดนวิชาโล่ระเบิดของเขาเข้าไปแล้วถึงสองสามครั้งด้วยกันจนทำให้เนลที่รู้สึกแปลกใจไม่แพ้กันได้แต่ต้องตะโกนตอบกลับมาด้วยความสับสนพร้อมกับลองลั่นกระสุนออกจากอาวุธของเขาเข้าใส่ทหารทั้งสองคนอีกครั้งหนึ่ง
“นายหันมาถามฉันแล้วฉันจะรู้มั้ยล่ะหะ!? แต่ที่มั่นใจได้ก็คือว่าพวกมันคงจะไม่ได้เป็นแค่ทหารธรรมดาๆ ของแพนเทร่าแล้วแน่ๆ ล่ะ!”
ปัง! ปัง! สวบ!!
“……”
กระสุนที่เนลลั่นออกไปนั้นได้พุ่งทะลุต้นขาของทหารที่ใช้ดาบสองมืออย่างแม่นยำจนอีกฝ่ายถึงกับล้มกลิ้งลงไปกับพื้น แต่ว่าหลังจากนั้นเนลก็ถึงกับต้องเบ้ปากเมื่อทหารคนที่ใช้ดาบสองมือคนนั้นยังคงพยายามยันตัวเองขึ้นมาจากพื้นอีกครั้งและเดินลากขาเข้ามาโจมตีเขาด้วยอาวุธในมือโดยที่ไม่สนใจรูบนขาของตัวเองที่มีเลือดไหลทะลักออกมาเลยแม้แต่น้อย
ส่วนทางด้านคอนแนลเองก็ได้แต่ต้องรีบร้องห้ามทหารพวกนั้นออกมาเมื่อเขาได้พบว่าแขนของทหารคนที่ถูกโล่ระเบิดของเขาเข้าไปเมื่อสักครู่นี้ได้หันไปในทิศทางที่ไม่ควรจะหันได้เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
“พวกคุณหยุดก่อนเถอะครับ! สภาพร่างกายแบบนั้นถ้ายังจะฝืนสู้ต่อไปเดี๋ยวจะได้ตายเอาจริงๆ นะครับ!!”
“…..”
ถึงแม้ว่าทหารทั้งสี่คนจะได้ยินแบบนั้นเข้าไปแล้วแต่ว่าพวกเขาที่ไม่ได้สนใจสภาพร่างกายตัวเองเลยแม้แต่น้อยนั้นก็ยังคงนิ่งเงียบไม่ได้พูดตอบอะไรกลับมาอีกทั้งยังคงพยายามลากร่างกายของตัวเองไปเบื้องหน้าเพื่อที่จะได้โจมตีเด็กนักเรียนทั้งสองคนต่อไปจนทำให้ทั้งเนลและคอนแนลที่ไม่ได้อยากจะลงมือสังหารใครได้แต่ต้องพยายามเดินถอยกลับไปทีละก้าวสองก้าวเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะที่อาจจะทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บหนักขึ้นไปอีก
ในขณะที่ทางด้านเนลและคอนแนลกำลังพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกับศัตรูอยู่นั้น ทางด้านนากาที่ประดาบดูเชิงกับคู่ต่อสู้ของเขาหรือก็คือชายหนุ่มหูแมวผู้ที่เหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าของการโจมตีในครั้งนี้มาได้สักพักจนได้พบว่าคู่ต่อสู้ของเขาไม่ได้เก่งกาจเรื่องการต่อสู้อะไรมากนัก นากาจึงได้ตัดสินใจที่จะใช้ถุงมือของเขายิงใบมีดติดโซ่เข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามในทันที
ครึกๆๆๆๆๆๆ ฉึก!
“โอ๊ย—!?”
ชายหนุ่มหูแมวผมสีม่วงที่ถูกใบมีดติดโซ่ของนากาปักเข้าที่ข้อมือจังๆ ได้หลุดเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดในขณะที่ดาบในมือของเขาเองก็ปลิวกระเด็นไปทางด้านหลังไกลหลายเมตร
ซึ่งนากาที่เห็นว่าการโจมตีของตนประสบผลสำเร็จอีกทั้งยังสามารถปลดอาวุธของคู่ต่อสู้ได้อีกด้วยก็ได้รีบใช้จังหวะนี้การในยื่นข้อเสนอให้อีกฝ่ายยอมแพ้ในทันที
“คุณไม่มีอาวุธแล้วนะครับ เพราะงั้นช่วยหยุดสู้แล้วก็มาคุยกันดีๆ ก่อนเถอะครับ!!”
“หึ…หึหึหึ…”
ชายหนุ่มผมสีม่วงที่ได้ยินของเสนอของนากาได้หัวเราะออกมาเบาๆ ในขณะที่ทางด้านคอนแนลและเนลที่ได้ยินคำพูดของนากาด้วยเช่นกันก็ได้รีบถอยมายืนรวมกลุ่มกับเขาเพื่อดูท่าทีว่ากลุ่มคนเบื้องหน้าคิดที่จะทำอย่างไรต่อ
“หยุดงั้นหรอ… คนอย่างฉันคงไม่มีสิทธิที่จะหยุดแบบที่เธอพูดขึ้นมาหรอกนะ… เพราะฉันเองก็มีเหตุผลที่จะต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จเหมือนกัน…”
คำพูดของชายหนุ่มหูแมวได้ทำให้เนลขมวดคิ้วเล็กน้อยและตัดสินใจที่จะเล็งดาบปืนของเขาเข้าใส่กลุ่มคนเบื้องหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหนักกันไปแล้วแทบจะทุกคนพร้อมกับกัดฟันพูดขึ้นมา
“ถ้างั้นก็คงจะไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ สินะ…”
“ด—เดี๋ยวก่อนสิเนล! สภาพของพวกเขาไม่พร้อมที่จะสู้ต่อแล้วนะ ถ้าเกิดนายยิงออกไปเดี๋ยวพวกเขาก็ได้ตายเข้าจริงๆ หรอก!!”
“นี่นายยังจะพูดแบบนั้นอีกหรือไงนากา!? กับคนที่ต่อให้บาดเจ็บหนักขนาดนั้นแต่ก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้แบบนั้นน่ะต่อให้จะพูดอะไรไปพวกเขาก็ไม่คิดจะรับฟังกันทั้งนั้นนั่นล่ะ!!”
“แต่ถ้าพวกเราพยายามจะคุยกันดีๆ สักหน่อยมันก็น่าจะตกลงหาทางออกกันได้ไม่ใช่หรือไง!?”
นากาที่ได้คำพูดของเนลได้ชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเดินไปขวางหน้าดาบปืนของเนลเอาไว้พร้อมกับพูดเถียงขึ้นมา ซึ่งการกระทำของนากานั้นก็ได้ทำให้เนลได้แต่ขึ้นเสียงกลับไปเพราะคิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มผมดำเพื่อนใหม่ของเขาจะมัวแต่มองโลกในแง่ดีแถมยังดื้อด้านได้ขนาดนี้
“นี่นาย—”
“ทั้งสองคนหยุดทะเลาะกันก่อนเถอะครับ!!”
คอนแนลที่เห็นว่าเพื่อนๆ ของเขาทั้งสองคนทำท่าทางเหมือนกับว่าจะทะเลาะกันจนยืดยาวได้รีบพูดห้ามปราบทั้งสองคนออกมาจนทำให้ชายหนุ่มหูแมวที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพวกเขาได้แต่ต้องเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมาด้วยความเอ็นดู
“หึหึ… พวกเธอนี่เป็นเด็กดีกันจังเลยนะ… ถ้าเกิดว่าหลังจากนี้ลูกๆ ของฉันได้มีโอกาสเป็นเพื่อนกับพวกเธอก็คงจะดีนะ… แต่ว่าสำหรับตอนนี้ทางฉันเองก็คงจะยอมหยุดหรือว่าถอยออกไปจากตรงนี้ไม่ได้เหมือนกัน…”
เสียงหัวเราะเบาๆ ของชายหนุ่มหูแมวผมสีม่วงนั้นได้ทำให้เด็กๆ ทั้งสามคนหยุดเถียงกันในทันทีและหันกลับไปมองเขาด้วยความสงสัยก่อนจะพบว่าชายหนุ่มหูแมวได้ปลดชุดผ้าคลุมที่เขาสวมใส่อยู่ออกไปแล้วจนเผยให้เห็นหลอดแก้วบรรจุก้อนคริสตัลวิซหลายสิบหลอดที่เขาห้อยติดเอาไว้เต็มร่างกายในขณะที่ในมือของเขาเองก็ได้ถือกระบอกแก้วอีกอันหนึ่งที่มีสายพลังงานเชื่อมติดกับหลอดแก้วอันอื่นเอาไว้
“น—นั่นมันอุปกรณ์จุดระเบิดพลังวิซ… แถมยังปริมาณมากขนาดนั้น—”
ปังปัง!!
“อั๊ก….”
“ทำอะไรของนายน่ะเนล!!”
เสียงปืนที่ดังขึ้นมาพร้อมๆ กับที่ชายหนุ่มหูแมวได้ทรุดตัวลงไปนั้นได้ทำให้นากาหันไปตวาดใส่เนลผู้ที่เป็นเจ้าของการโจมตีเมื่อสักครู่ในทันที ซึ่งเนลถูกนากาหันมาตวาดใส่แบบนั้นก็ได้แต่ต้องรีบพูดอธิบายออกมา
“ก็ช่วยชีวิตของเขาไง!! ถ้าถูกฉันยิงใส่น่ะต่อให้บาดเจ็บหนักแต่ก็ยังพอจะรักษาได้ แต่ถ้าหมอนั่นได้มีโอกาสระเบิดตัวเองไปแล้วนายจะมีปัญญาจะชุบชีวิตเขาขึ้นมาได้หรือไงหะ!?”
“ทั้งสองคนหยุดเถียงกันได้แล้วครับ! เขายังไม่ได้หมดสติไปนะครับ!!”
คอนแนลที่จับจ้องชายหนุ่มผมสีม่วงได้รีบร้องตะโกนออกมาเมื่อเขาได้พบว่าชายหนุ่มผมสีม่วงนั้นได้ถูกทหารคนหนึ่งในหน่วยของเขาช่วยพยุงตัวขึ้นมาและเริ่มต้นทำการรวบรวมพลังวิซเพื่อจุดชนวนระเบิดที่ถูกมัดติดเอาไว้เต็มตัวของเขาจนกระบอกบรรจุคริสตัลวิซพวกนั้นส่องแสงสว่างจ้าออกมาอีกทั้งทหารอีกสามคนที่อยู่ด้านหลังเองก็เริ่มที่จะมีแสงสว่างสีต่างๆ ลอดผ่านเครื่องแต่งกายออกมาเช่นเดียวกัน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้านั้นก็ทำให้เนลได้แต่ร้องลั่นออกมาในทันที
“รีบหนีเร็ว!!”
“แต่ว่า—”
“ไม่มีแต่แล้วครับนากา!! ต่อให้นายจะใช้มีดโซ่นั่นยิงอุปกรณ์จุดชนวนทิ้งไปแต่เดี๋ยววิซที่ถูกรวบรวมเอาไว้แล้วมันก็จะยังคงระเบิดออกมาอยู่ดีนั่นล่ะครับ!!”
“นี่นายอยากจะตายไปกับหมอนั่นด้วยหรือไงหะ!? รีบไปกันได้แล้ว!!”
เนลที่ในตอนแรกได้รีบวิ่งหนีไปก่อนนั้นได้แต่ต้องรีบวิ่งกลับมาพยายามช่วยคอนแนลลากตัวนากาให้หนีไปด้วยกันจนทำให้ชายหนุ่มหูแมวที่เห็นแบบนั้นได้แต่ต้องเผยรอยยิ้มเศร้าๆ ออกมา เพราะว่าที่จริงแล้วตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากจะต้องให้มีผู้เคราะห์ร้ายเป็นเด็กนักเรียนแบบนี้สักเท่าไหร่นักแต่ว่าเขาเองก็จำเป็นที่จะต้องทำมันเพื่อให้ลูกๆ ของเขาได้มีโอกาสรอดชีวิตออกมาจากนรกที่ชื่อว่ากราวิทัสนั่นเหมือนกัน
“ต้องขอโทษพวกเธอทั้งสามคนด้วยนะแต่ว่าฉันจำเป็นจะต้องทำมัน… ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้ล่ะคราวดิน่า… ดูแลตัวเองกันด้วยนะ รากูน่า… เรเกียน่า…”
วี๊—–
“ไม่ทันแล้ว— รีบหมอบลงเร็ว!!!”