เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 888: เทพจุติสังหารเซียนราชา
ตอนที่ 888: เทพจุติสังหารเซียนราชา
“ไม่สงสัยเลยว่าทำไมท่านผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพถึงได้ส่งพวกเราทั้งสองมาเชิญนักรบวิญญาณทะเล 14 ดาวธรรมดาพวกนี้ไปในฐานะแขก เพราะว่าพวกเขามีปราณของผู้คุมกฎที่หายากนั้นเอง” ความคิดแบบเดียวกันปรากฎขึ้นในหัวของผู้อาวุโสในตอนนี้ สายตาที่พวกเขามองไปที่เจี้ยนเฉินและนูบิสเริ่มอ่อนลง
พวกเขาในตอนนี้เชื่อว่าผู้อาวุโสประจำศาลาได้เชิญกลุ่มของเจี้ยนเฉินไปที่ศาลาวิญญาณสวรรค์เพื่อที่จะให้พวกเจี้ยนเฉินได้เข้าร่วมศาลาและส่งพวกเขาทั้งสองมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของศาลา
เพราะว่าการที่ส่งจอมยุทธ 15 ดาวไปเท่านั้นที่จะแสดงให้เห็นว่าศาลาวิญญาณสวรรค์นั้นจริงใจในการเชิญคนที่มีปราณของผู้คุมกฎ
“ผู้คุมกฎที่เคารพ ท่านผู้อาวุโสประจำศาลาของพวกเราได้เชิญพวกท่านไปในฐานะแขก ข้าหวังว่าท่านจะกลับไปกับพวกเรา” ผู้อาวุโสป้องมือพูดกับเจี้ยนเฉินและนูบิส ใบหน้าชราของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และมองไปแต่ที่นูบิสและเจี้ยนเฉินโดยไม่เหลือบมองซี่หวังเลย
พวกเขาทั้งสามคนมองซึ่งกันและกันอย่างเคร่งเครียด นูบิสถามเจี้ยนเฉินผ่านข้อความทางจิตใจ “พวกเราทำยังไงกันดี เจี้ยนเฉิน ? “
“พวกเราไม่สามารภไปที่ศาลาวิญญาณสวรรค์กับพวกเขาได้ ! ฆ่าพวกเขาซะ ! ” เจี้ยนเฉินตอบกลับผ่านทางจิตใจในขณะที่จิตสังหารแวบอยู่ในตาของเขา
สายตาของนูบิสไร้ความปราณีและเขาไม่ลังเลอีกต่อไป จิตต่อสู้ที่ทรงพลังพุ่งออกมาจาหน้าอกของเขา และพุ่งเป้าไปที่เซียนราชาทั้งสองคนของศาลาวิญญาณสวรรค์
นูบิสไม่ใช่คู่มือของพวกเขาทั้งสองแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เขาต้องการทั้งหมดคือทำให้พวกนี้วุ่นเข้าไว้
ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินบินถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว เขาถอยกลับมาหลายร้อยเมตร ก่อนที่จะทำมือเป็นรูปผนึก เขาเงยหน้าขึ้นสูงและชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาคำรามออกมา “เทพจุติ ! “
เจี้ยนเฉินและนูบิสไม่มีแม้แต่ความสามารถที่จะหนีได้เลยต่อหน้าเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 ถึง 2 คน ทางเดียวที่เหลืออยู่คือการร่ายทักษะต้องห้ามเท่านั้น
“ท่านผู้คุมกฎ ท่านตั้งใจจะทำอะไรกันน่ะ ? ” ผู้อาวุโสทั้งสองเต็มไปด้วยความสับสนต่อการโจมตีจากนูบิส พวกเขาได้แต่ป้องกันโดยไม่ตอบโต้อะไร
พวกเขาไม่ฉุกคิดเกี่ยวกับเรื่องผลึกอเวจีเลย ทั้งหมดที่พวกเขาคิดคือผู้อาวุโสประจำศาลาต้องการที่จะดึงคนทั้งสองนี้ไปเข้าพวกของศาลาวิญญาณสวรรค์เพราะว่าพวกเขามีปราณของผู้คุมกฏ ดังนั้นผู้อาวุโสจึงไม่กล้าที่จะทำบุ่มบ่ามกับพวกเขาทั้งสอง
ในตอนนี้เอง แสงรอบ ๆ ก็สว่างขึ้นเรื่อย ๆ บอลแสงสีขาวนมปรากฏขึ้นในท้องฟ้าอย่างรวดเร็วและผ่านน้ำทะเลไปหาพวกผู้อาวุโส มันเปลี่ยนโลกแห่งท้องทะเลที่เคยเป็นสีฟ้ามาตลอดให้เป็นสีขาวเหมือนหิมะ
“นะ นะ นั่นมันอะไรกัน ! ? ” ผู้อาวุโสทั้งสองเงยหน้าขึ้นในขณะที่ท่าทางที่เหลือเชื่อปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขา
แม้แต่บนทวีปเทียนหยวนเอง มันยังยากที่จะเห็นใครบางคนในขั้นตอนสะสมพลังสำหรับการใช้เทพจุติ อย่าว่าแต่เผ่าพันธุ์ทะเลที่อยู่ในอาณาจักรทะเลเลย แม้แต่เซียนราชา พวกเขายังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกันทักษะเลย
การที่มีนูบิสที่ทำให้ผู้อาวุโสวุ่นวายอยู่ เจี้ยนเฉินจึงสะสมพลังสำหรับทักษะได้จนเสร็จสิ้น ผนึกในมือของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้งแล้วเขาก็พึมพำ “ข้าขอเสนอชีวิต 500 ปีของข้าเพื่อร่ายทักษะต้องห้าม เทพจุติ”
แสงสีขาวนมในท้องฟ้าระเบิดออกหลังจากที่เจี้ยนเฉินพูดจบประโยค มันสาดส่องไปทั่วทั้งอาณาเขตกว้างของอาณาจักรทะเล หลังจากนั้นไม่นาน แสงเสาใหญ่สีขาวก็ลดลงมาจากท้องฟ้าและครอบคลุมไปทั่วรัศมีหลายสิบกิโลเมตร
กฎแห่งธรรมชาติที่มีอยู่ถูกรบกวนในอาณาเขตที่ปกคลุมไปโดยแสง กฎใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นและความลึกลับก็ปรากฎขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉินอย่างชัดเจน มันทำให้เขาควบคุมทุกอย่างได้เหมือนว่ามันเป็นแขนขาของเขาเอง
ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะเป็นผู้คุมกฎสุดยอดของมิตินี้ เป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาเขตนี้
นูบิส ซี่หวังหรือแม้แต่ผู้อาวุโสจากศาลาวิญญาณสวรรค์ ทั้งหมดสูญเสียความสามารถในฐานะเซียนผู้คุมกฎหรือเซียนราชาในตอนนี้ พวกเขาไม่สามารถควบคุมพลังธรรมชาติหรือความลึกลับของมิติได้อีกต่อไป
“ทะ ที่นี่มันที่ไหนกัน จะ เจ้าทำอะไรน่ะ ? ” ผู้อาวุโสคำรามออกมา พวกเขาทั้งสองรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ทำให้สถานการณ์กลายไปเป็นแบบนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสองคนที่มีปราณของผู้คุมกฎถึงได้ต้องการเป็นศัตรูของพวกเขา
เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดอะไร เขารู้แค่ว่าเขานั้นต้องการที่จะออกไปจากอาณาเขตของศาลาวิญญาณสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องจัดการเซียนราชา 2 คนที่อยู่ตรงหน้าเขา ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีใครสามารถรับรองได้ว่าพวกเขาทั้งสองจะถูกบังคับพาไปหรือเปล่า
จิตใจของเจี้ยนเฉินหลอมรวมกับสภาพแวดล้อมอย่างสมบูรณ์ เขาควบคุมกฎได้โดยแค่ความคิด เขาชี้นิ้วออกไป ละมิติที่อยู่ตรงหน้าเขาก็พลิ้วไหวเหมือนน้ำ คลื่นพลังสองสายพุ่งไปที่เซียนราชาทั้งสองคน
“พวกเขาต้องการจะฆ่าพวกเรา ! ” ผู้อาวุโสทั้งสองร้องออกมา พวกเขาไม่สนใจว่าเจี้ยนเฉินและนูบิสจะเป็นผู้คุมกฎอีกต่อไปเมื่อชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นพวกเขาทั้งคู่จึงชักอาวุธขึ้นมาเพื่อต่อต้าน
อาวุธของทั้งคู่เป็นหอกสามง่ามเช่นเดียวกัน พวกเขาเหวี่ยงหอกสามง่าม พุ่งออกไปเป็นพลังงานเหมือนคลื่นสองเสี้ยวเพื่อป้องกันคลื่นพลังที่พุ่งเข้ามา
คลื่นพลังนั้นสร้างมาจากพลังงานของกฎในโลกเสมือนนี้ พวกมันกลืนกินคลื่นพลังงานทั้งสองและทะลุหน้าอกของผู้อาวุโสไปอย่างรวดเร็ว
หน้าอกของผู้อาวุโสย่อยสลายหายไปเผยให้เห็นรูขนาดเท่าชามข้าว บาดแผลจากกฎของโลกเสมือนนี้ไม่ได้ทำให้เลือดออกแต่พวกมันก็ไม่สามารถฟื้นฟูได้เช่นเดียวกัน
ผู้อาวุโสทั้งสองครางออกมาอย่างเจ็บปวดในขณะที่เขามองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความตกใจ พวกเขารู้สึกว่าพวกเขากลัวเหลือในเกินในตอนนี้
“พวกเราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ พวกเราต้องหนีเดี๋ยวนี้” ผู้อาวุโสคำรามออกมา หลังจากนั้น เขาก็ก็ตั้งใจจะถอยกลับ ผู้อาวุโสอีกคนก็ไม่ลังเลเช่นกันและพุ่งไปอีกทิศทางหนึ่ง
“เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะสามารถทำลายโลกเสมือนนี้ได้ พวกเจ้าไม่สามารถหนีไปไหนได้โดยที่ข้าไม่ได้อนุญาต” ผู้อาวุโสทั้งสองได้ยินเสียงเย็นชาของเจี้ยนเฉิน
“พวกเราไม่ได้ทำอะไรพวกเจ้าเลยนะ ! ทำไมพวกเจ้าถึงต้องการที่จะฆ่าพวกเรา ! ? ” ผู้อาวุโสถามออกมาเสียงดัง
“เจ้าได้มายั่วยุพวกเราตั้งแต่วินาทีที่เจ้าบอกให้พวกเราไปที่ศาลาวิญญาณสวรรค์แล้ว ข้ารู้ว่าถ้าพวกเราตอบปฏิเสธไป พวกเจ้าคงจะบังคับพวกเราไปแน่” ทั้งคู่ได้ยินเสียงตอบของเจี้ยนเฉิน
ผู้อาวุโสทั้งสองไม่ได้พูดอะไรเพราะว่าพวกเขาตั้งใจว่าจะทำอย่างนั้น คำสั่งของผู้อาวุโสประจำศาลาคือให้พวกเขาพาคนทั้งสามนี้กลับไป ถ้าพวกเขาทั้งสามปฏิเสธ ก็ให้ใช้กำลังพากลับไปได้เลยเพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ
มันเป็นเพียงแค่ปฏิกิริยาของทั้งสามนั้นไวเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้ก็เท่านั้น
สายตาของเจี้ยนเฉินไร้ความปราณีขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเห็นท่าทางของพวกผู้อาวุโส จิตสังหารพุ่งพวยขึ้นในใจของเขาในขณะที่เขาพึมพำออกมา “ทำลาย ! “
เสื้อของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 สองคนละลายหายไปทันที มันกลายเป็นฝุ่นผงก่อนที่จะหายไป
ไม่นานหลังจากนั้น เนื้อของพวกเขาก็หลุดออกมา มันแตกเหมือนเครื่องดินเผาแล้วหลุดออกมา รอยแตกนี้ปกคลุมไปทั่วทุกตารางนิ้วของร่างกาย เลือดสด ๆ ไหลออกมาและย้อมพวกเขาเป็นสีแดงไปหมด
ความทุกข์ทรมานทำให้พวกเขาทั้งสองคนร้องโหยหวนออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ พลังงานปริมาณไหลรั่วออกมาจากร่างกายของพวกเขาและเกิดเป็นชั้นเกราะเพื่อต่อต้านการรุกเข้ามาของพลังงานลึกลับ
“บ้าเอ้ย นี่มันคือบ้าอะไรกัน ! ? “
“พวกเราอยู่ต่อไม่ได้แล้ว ! พวกเราต้องไปเดี๋ยวนี้ ! “
ความคิดที่จะถอยหนีเกิดขึ้นในใจของผู้อาวุโสหลังจากที่ได้เจอกับโลกเสมือนและพลังงานแปลก ๆ พวกเขาไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่นานกว่านี้และรีบที่จะหนีไป
เจี้ยนเฉินไม่ปล่อยให้พวกเขาหนีไป เขาชี้นิ้วออกมาและคลื่นพลังงานอีกสองคลื่นของมิติก็เกิดขึ้นมาจากกฎในโลกเสมือนนี้ คลื่นพลังงานถูกยิงออกไปทั้งคู่ด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
ตอนที่พวกผู้อาวุโสตั้งใจจะหลบมัน มิติรอบรอบก็ถูกพันธนาการ ทำให้พวกเขาขยับไม่ได้ทันที
พรวด ! กฎของพลังงานนี้ได้พุ่งผ่านกลางหว่างคิ้วของพวกเขาไปและทำให้วิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาได้รับบาดเจ็บ
ผู้อาวุโสทั้งสองได้รับความเจ็บปวดอย่างทุกข์ทรมานเพราะว่าวิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาได้รับบาดเจ็บ พวกเขาร้องโหยหวนออกมาอย่างควบคุมไม่ได้และเสียงของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ยังไม่ตายอีกหรือ” เจี้ยนเฉินถูกอาบไปด้วยแสงสีขาวสว่าง เขาเหมือนพระเจ้าที่ลงมาจุติ เป็นการมีอยู่ที่ศักดิ์สิทธิ์ เขาขยับมือขวาเพียงเล็กน้อย และคลื่นพลังงานอีกสองคลื่นก็ได้พุ่งทะลุไปที่วิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาอีกครั้ง
ผู้อาวุโสทั้งสองกุมหัวในขณะที่พวกเขาบิดทุรนทุรายไปที่พื้น วิญญาณดั้งเดิมของเซียนราชานั้นทรงพลังมาก แม้จะรับการจู่โจมอย่างรุนแรงไปถึง 2 ครั้ง วิญญาณของพวกเขาก็ยังไม่หายไป อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นอ่อนแอลงอย่างมาก
ในตอนนี้เอง ฝ่ามือใหญ่ได้ควบแน่นทันทีเหนือพวกเขา พวกเขารู้สึกเหมือนกับมีฟ้าผ่าลงมาอย่างรุนแรงและบดขยี้หัวของพวกเขา
ผู้อาวุโสทั้งสองหยุดโหยหวน หัวของพวกเขาแตกกระจายและเลือดของพวกเขาก็ออกมาจากทวารทั้งเจ็ด ตาของพวกเขาดูไร้ชีวิต
การโจมตีจากฝ่ามือได้ทำลายวิญญาณดั้งเดิมที่บาดเจ็บรุนแรงของเขาไปอย่างหมดจด
นี่เป็นจุดจบของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 ที่ถูกสังหารโดยเทพจุติของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินหยุดใช้ทักษะหลังจากการตายของพวกเขา แสงสีขาวนมที่เปล่งประกายออกไปรอบ ๆ ได้สลายไปอย่างช้า ๆ และทุกอย่างก็กลับสู่สภาพปกติ
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเจี้ยนเฉินไร้สีเลือด มันยากมากที่เขาจะต้านทานการเสียอายุขัยไป 500 ปีในทีเดียว เขาอ่อนแอลงอย่างมากและหมดพลังงาน เขายากที่แม้แต่จะขยับนิ้วได้ จากนั้นเขาก็ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
นูบิสโผล่ขึ้นมาที่ข้างข้างเขาในพริบตาและคว้าเอาร่างที่กำลังร่วงหล่นของเขาเอาไว้ เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างเคร่งเครียดแล้วพูด “เจ้าเสียอายุขัยไปอีก 500 ปีแล้ว รวมกับครั้งก่อนเท่ากับว่าเจ้าเสียอายุขัยไปรวม 1,000 ปีแล้ว”
เจี้ยนเฉินยิ้มออกมา “ไม่ใช่ปัญหาหรอก ตราบใดที่พวกเรากำจัดทั้งสองคนนี้ไปได้ การเสียอายุขัยไปเล็กน้อยอย่างนี้ก็ไม่เป็นไร เมื่อข้าพัฒนาการไปขั้นต่อไปได้แล้ว ข้าก็จะได้อายุขัยเพิ่มมาอีก 3,000 ปี มันค่อนข้างที่จะโชคดีที่ผู้อาวุโสทั้งสองไม่สามารถใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนได้ ไม่เช่นนั้น การสังหารพวกเขาคงไม่เป็นเรื่องง่ายแน่”
“พวกเราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้กันเถอะ พวกเราต้องหนี ข้ามั่นใจว่าจอมยุทธจากศาลาวิญญาณสวรรค์ต้องมามากกว่านี้แน่ในเวลาไม่ช้านี้” นูบิสพูดอย่างเคร่งเครียด หลังจากนั้น เขาก็มาถึงที่หน้าศพของผู้อาวุโสทั้งสองและเอาแหวนมิติของพวกเขาไปเพียงแค่โบกมือเดียว เขาจากไปโดยแบกเจี้ยนเฉินเอาไว้ที่หลัง
“ซี่หวัง เจ้าจ้องบ้าอะไรอยู่ ? เร็วเข้า” นูบิสไม่ลืมที่จะเตือนนูบิสในขณะที่เขาเดินผ่านซี่หวังไป
ซี่หวังกระตุกและกลับมาได้สติ เขาตัวสั่นขณะจ้องไปที่ศพของผู้อาวุโสทั้งสอง ความตกใจที่อยู่ในใจของเขาเพิ่มขึ้นไปจนถึงขีดสูงสุด เขาพูดไม่ออก
ไม่คิดเลยว่าเจี้ยนเฉินคนที่อ่อนแอกว่านูบิสจะมีความสามารถที่น่ากลัวแบบนี้ เขาไม่เคยจินตนาการว่าเจี้ยนเฉินจะสังหารจอมยุทธ 15 ดาวได้ด้วยตัวของเขาเองในเวลาอันสั้นนี้ นี่ทำให้เขาตกตะลึง
ผู้อาวุโสประจำศาลานั่งอยู่อย่างอดทนที่โถงใหญ่ซึ่งอยู่ที่ศูนย์กลางของอาณาเขตและรอฟังข่าวอยู่
ในตอนนั้นเอง ผู้อาวุโสยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและร้องออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ “บ้าเอ้ย ผู้อาวุโสทั้งสองที่ข้าส่งไปถูกสังหารแล้ว”
Related