เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2548 : เก็บวิญญาณสัตว์อสูร
ตอนที่ 2548 : เก็บวิญญาณสัตว์อสูร
เจี้ยนเฉินใจหายวูบ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก แต่การที่เซิ่งหมิงลนลานแบบนี้ก็ทำให้เขารู้ว่าสถานการณ์ด้านนอกนั้นไม่ดีนัก
ไม่นานเจี้ยนเฉินก็ก้าวขึ้นไปบนสะพานเชื่อมสวรรค์ตามเซิ่งหมิงไป
สะพานเชื่อมสวรรค์นี้โดดเด่น พลังแห่งวิถีโคจรอยู่ภายในสะพานซึ่งทำให้มันยื่นผ่านค่ายกลรอบเขตหวงห้ามไปได้ มันเงียบงันและไม่ได้ทำให้วิญญาณจักรพรรดิแมลงด้านนอกตื่นขึ้น
“ช้าก่อน ! ”
ทันทีที่เจี้ยนเฉินขึ้นมาบนสะพานเชื่อมสวรรค์ เขาก็ถูกหยุดโดยเซิ่งหมิง ทั้งสองคนยังคงอยู่ในเขตหวงห้าม พวกเขายังไม่ผ่านค่ายกลออกไป
เซิ่งหมิงมองออกไปมิติภายนอกเขตหวงห้ามด้วยตาที่เป็นประกาย เขามองไปรอบ ๆ ราวกับมองหาจักรพรรดิแมลงมิติ สีหน้าเขาเคร่งเครียดอย่างมาก
“หัวหน้าผู้อาวุโส มีเรื่องอะไรกัน ? ” เจี้ยนเฉินถามขึ้นมา เขาเองก็เครียดไปด้วยซึ่งทำให้เขาไม่อาจจะลดการป้องกันได้เลย เขาถึงกับเตรียมพร้อมที่จะสู้
หัวหน้าผู้อาวุโสไม่ได้ตอบกลับ เขามองไปยังมิติตรงหน้าด้วยตาที่สั่นไหว เขาพึมพำกับตัวเองว่า “ข้าหวังว่ามันจะยังมีเวลาอยู่”
หลังจากนั้นหัวหน้าผู้อาวุโสก็มองไปที่เจี้ยนเฉิน สายตาของเขาส่องประกายและพูดออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นายท่านได้ให้หน้ากากกับเจ้าในอดีต ใส่มันซะ”
เจี้ยนเฉินสับสนแต่เขาไม่ได้ถามอะไรออกมา เขาได้เอาหน้ากากออกมาใส่ในทันที
“เจี้ยนเฉิน ตั้งใจฟังไว้ สิ่งที่เจ้าต้องทำต่อไปอาจจะอันตรายอย่างมาก แต่มันก็ถือว่าส่งผลดีต่อเจ้าอย่างมากเช่นกัน” หัวหน้าผู้อาวุโสเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “การพาเจ้าเข้ามาในเขตหวงห้ามนั้นไม่ใช่ความคิดของข้าแต่เป็นคำขอของนายท่าน แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้มายังที่ราบสำราญในครั้งนี้ แต่เราก็จะส่งคนไปติดต่อเจ้าที่ที่ราบเมฆาเมื่อลัทธิปิศาจชั้นฟ้าโจมตีจักรวรรดิเมฆทวี”
“เหตุผลที่แท้จริงที่พาเจ้ามาที่นี่ก็คือวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติด้านนอกนั่น แมลงมิตินั่นเป็นสัตว์อสูรมิติ ตั้งแต่ที่มันกำเนิดขึ้นมา สายพันธุ์ของมันก็รู้ว่าจะใช้กฎมิติยังไงและจักรพรรดิแมลงมิติก็สามารถใช้กฎมิติในระดับที่สูงส่ง เมื่อเจ้าเข้าใจกฎมิติของวิญญาณจักรพรรดิแมลงมิติก็จะส่งผลดีต่อเจ้าอย่างมาก”
“ข้าได้พาเจ้ามาด้วยในครั้งนี้ก็เพื่อเอาวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติ เพื่อให้จักรพรรดิแมลงมิติเข้าไปในวิญญาณของเจ้า เพื่อเจ้าจะได้ดูดซับความเข้าใจกฎมิติของมัน”
คำพูดของหัวหน้าผู้อาวุโสนั้นน่าตกใจ แค่ไม่กี่คำก็ทำให้เจี้ยนเฉินตะลึง
“หัวหน้าผู้อาวุโส ท่านว่ายังไงนะ ? ท่านต้องการให้ข้าดูดซับวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติงั้นหรือ ? ” สีหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปทันที เขาพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “หัวหน้าผู้อาวุโส แม้ว่าจักรพรรดิแมลงมิติจะเหลือแค่วิญญาณแต่มันก็ยังมีความแข็งแกร่งอย่างมาก มันสามารถโจมตีได้ นี่ไม่ต้องพูดถึงการใช้กฎมิติที่สมบูรณ์ของมันเลย แม้ว่ามันจะเหลือแค่วิญญาณ แต่ต่อให้เป็นอัครสูงสุดทั่วไปก็ไม่อาจจะจัดการมันได้ นี่ไม่ต้องนับความจริงที่ว่าข้าต้องให้มันเข้ามาในวิญญาณของข้า ข้าอาจจะทำไม่ได้”
เจี้ยนเฉินไม่ได้มั่นใจในเรื่องนี้เลย วิญญาณของคนนั้นเปราะบางอย่างมาก หากเขาใช้วิญญาณเพียงลำพัง เขาอาจจะล้มเหลวในการจัดการกับคนที่ระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าเขา แต่นี่เขาต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณสัตว์อสูรที่น่ากลัวซึ่งเขาไม่อาจจะเอาชนะมันได้แม้ว่าจะใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มีก็ตาม
เขาได้เห็นจักรพรรดิแมลงมิติฆ่าราชาเทพของจักรวรรดิเมฆทวีไป วิญญาณสัตว์อสูรนคั้นแน่นอนว่าฆ่ายอดฝีมืออสงไขยได้ง่าย ๆ แม้แต่ยอดฝีมือบรรพกาลก็ยังต้องพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของมัน
“ไม่ต้องกังวล เมื่ออาจารย์ต้องการให้เจ้าลงมือทำเช่นนี้ เป็นธรรมดาที่เขาจะเชื่อว่าเจ้ามีความสามารถในการดูดซับวิญญาณสัตว์อสูร แม้ว่าเจ้าจะไม่อาจดูดซับมันได้แต่เจ้าก็จะไม่ตกอยู่ในอันตราย อย่างน้อย ๆ จักรพรรดิแมลงมิติก็ไม่อาจจะทำลายวิญญาณของเจ้าได้ อาจารย์บอกว่าวิญญาณของเจ้านั้นค่อนข้างพิเศษ”
“เจี้ยนเฉิน โชคมาพร้อมกับความเสี่ยง ยิ่งเสี่ยงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโชคมากเท่านั้น เจ้าคิดว่ายังไง ? หากเจ้าไม่คิดจะรับความเสี่ยง ข้าก็จะพาเจ้าออกไปเดี๋ยวนี้” เซิ่งหมิงมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“วิญญาณของข้าพิเศษรึ ? ” เจี้ยนเฉินคิดถึงวิญญาณของตัวเอง วิญญาณของเขาต่างจากคนอื่นจริง นี่ไม่ต้องนับความจริงที่ว่าส่วนหนึ่งของมันหายไป แต่มันยังหลอมรวมกับพลังบรรพกาลได้ มันได้เปลี่ยนแปลงไปนานแล้วซึ่งทำให้มันต่างจากวิญญาณของผู้บ่มเพาะทั่วไป
“ได้ ข้าจะทำ หัวหน้าผู้อาวุโสบอกข้ามาว่าข้าควรทำยังไง” สุดท้ายเจี้ยนเฉินก็ตัดสินใจที่จะตกลง หากเขาสามารถดูดซับวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติได้และดูดซับความเข้าใจกฎมิติของมันได้ มันจะส่งผลดีต่อเขาอย่างมาก
แน่นอนว่ามันอันตรายอย่างมากเช่นกัน ยังไงซะสนามรบในวิญญาณก็สามารถนำไปสู่จุดจบได้หากประมาทแม้แต่เพียงเล็กน้อยก็ตาม
เซิ่งหมิงยินดีขึ้นมา “หากเจ้าต้องการจัดการกับจักรพรรดิแมลงมิติ เราต้องอยู่ในค่ายกลนี้ เพราะหัวหน้าพิรุณได้กักขังจักรพรรดิแมลงมิติเอาไว้และจำกัดการเคลื่อนไหวของมัน พื้นที่ภายในค่ายกลจึงเป็นที่ซึ่งมันไม่อาจจะเข้ามาได้ จักรพรรดิแมลงมิติไม่อาจจะโจมตีเราจากที่นี่ได้”
หลังจากนั้นเซิ่งหมิงก็ได้เอาขวดหยกออกมาและโรยผงขาวใส่ตัวเจี้ยนเฉิน “นี่คือผงที่ทำมาจากศพของแมลงมิติ หากเจ้ามีมันกับตัว จักรพรรดิแมลงมิติอาจจะคิดว่าเจ้าเป็นคนของพวกมัน สัตว์อสูรมิติไม่ได้มีความฉลาดมากนัก นี่ไม่ต้องพูดถึงการที่มันเป็นแค่วิญญาณในตอนนี้ โดยพื้นฐานแล้วความฉลาดของมันถูกหัวหน้าพิรุณดึงออกไปหมดแล้ว สัญชาติญาณที่เหลืออยู่ไม่เพียงพอที่จะแยกแยะได้ว่าเจ้าเป็นใคร”
“ใช้หน้ากากของเจ้าปกปิดพลังเอาไว้ เพื่อที่เจ้าจะได้มีพลังแบบแมลงมิติ สัตว์อสูรมิตินั้นรับรู้พลังได้เป็นอย่างดี ทักษะปกปิดหลายอย่างไม่อาจจะปกปิดจากการรับรู้ของมันได้ แต่หน้ากากของนายท่านนั้นทำได้”
“เมื่อวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติรับรู้ได้ถึงพลังของคนในเผ่า สัญชาติญาณของมันก็จะเข้าครอบงำ มันจะเข้ามาในร่างเจ้าเพื่อยึดร่างของเจ้า จากนั้นจะเกิดการต่อสู้ระหว่างเจ้ากับวิญญาณสัตว์อสูรแต่เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าได้เตรียมบางอย่างมาแล้ว เจ้าแค่ต้องยื้อจักรพรรดิแมลงมิตินั่นไว้สักพัก เมื่อเราออกจากที่นี่แล้ว ข้าจะช่วยเจ้าจัดการกับวิญญาณสัตว์อสูรนั่น”
เซิ่งหมิงค่อนข้างเร่งรีบ เขารู้ว่าตอนนี้เวลากระชั้นชิดอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่เปิดโอกาสให้เจี้ยนเฉินได้ถาม เขาได้เอายาออกมาจากแหวนมิติและส่งมันเข้าไปในปากของเจี้ยนเฉิน แล้วรีบพูดขึ้นมา “นี่คือยาวิญญาณด้านชา มันจะทำให้วิญญาณด้านชา อาจารย์บอกว่าวิญญาณของเจ้าค่อนข้างพิเศษ ดังนั้นยาอาจจะไม่ได้ส่งผลมากนัก อมมันไว้ในปาก เมื่อวิญญาณสัตว์อสูรเข้ามาในหัวเจ้าแล้วก็จงกินยานั่นทันที”