เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2243: ความโกลาหลของจักรวรรดิซี
ตอนที่ 2243: ความโกลาหลของจักรวรรดิซี
ชายชราเป็นคนที่มีพลังอย่างมาก เขาเป็นอัครสูงสุดขั้นสุดยอด ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาสามารถบอกได้ว่าเขาไร้พ่ายในจักรวรรดิโบราณอย่างอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน
มืออันใหญ่โตของเขาที่เกิดจากความควบแน่นก็สามารถทำลายตระกูลเทียนหยวนได้ แต่ก็อาจทำให้เมืองทั้งเมืองราบเป็นหน้ากลอง
จักรพรรดินีลอบถอนใจแบบลับ ๆ นางรู้ว่าชะตากรรมของตระกูลเทียนหยวนต้องกลายเป็นเศษหินแล้วตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะหนีจากชะตากรรมนี้ แม้ว่านางจะเข้าไปแทรกแซง นางก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้
อย่างไรก็ตามการกระทำของชายชราทำให้หมิงตงโกรธอย่างมาก หมิงตงจ้องไปที่ชายชราด้วยท่าทีดุร้าย เพราะจิตสังหารของเขานั้นเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เป็นการข่มขู่แต่อย่างใด
หมิงตงชี้ไปที่ชายชราและตะโกนออกมาทันทีว่า “ฆ่าเขา ! ” เสียงของเขาโกรธอย่างมาก
ชายที่ดูกับบัณฑิตเสื้อขาววัยกลางคนผู้ที่มากับหมิงตงพยักหน้าอย่างเบา ๆ เมื่อเขาได้ยินสิ่งนั้น เขาเหลือบมองชายชราอย่างไม่แยแสและโบกมืออย่างสบาย ๆ
ทันใดนั้นขอบเขตตั้งต้นที่มากพอที่จะทำให้ชายชราตัวสั่นอย่างทันที มือชายวัยกลางคนกลายเป็นแสงสีทองที่ส่องประกายและมาถึงด้านหน้าของชายชราภายในเสี้ยววินาที ภายใต้สายตาที่ตกใจของชายชรา มันก็กระทบเข้ากับร่างของเขาอย่างไร้ความปราณี
ไม่มีเสียงดังใด ๆ ตอนนี้ชายชราถูกกระแทกจนสลายเป็นผุยผงอย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเลือดหรือเนื้อของเขา ทุกอย่างหายไปภายใต้สายตาของทุกคน ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่
แม้แต่วิญญาณก็แตกสลาย
ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่เก้าถูกชายกลางคนสังหารก่อนที่เขาจะร้องออกมา
ทุกคนในตอนนี้เห็นภาพที่น่าตกใจและกลายเป็นประหลาดใจทันที ในตอนนี้รวมถึงจักพรรดินี ทุกคนมองไปที่ชายกลางคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของหมิงตงอย่างเงียบ ๆ มีความตกใจอยู่ในแววตาของพวกเขา
“เข้ามาเลย ใครก็ตามที่กล้าทำลายตระกูลเทียนหยวนของน้องชายข้า ! ”
หมิงตงไม่แม้แต่จะมองไปที่ชายชราที่แตกสลาย เขากลับจ้องไปยังผู้คนที่ตามหลังจักรพรรดินีและตะโกนออกมา จิตสังหารของเขาเพิ่มขึ้นมาก
สีหน้าของผู้คนที่ติดตามจักรพรรดินีนั้นล้วนเปลี่ยนไป พวกเขาไม่อาจทำอะไรได้ เพียงถอยเซไปด้านหลังสองสามก้าวและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ในขณะนั้นไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล้าสบประมาทหมิงตงเพราะชายกลางคนที่อยู่ข้างหลังอย่างเงียบ ๆ
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นขั้นอสงไขย แต่พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรสักคำเดียว
“แคว้นตงอันไม่ต้อนรับเจ้า ข้าจะให้เวลา 10 วินาทีในการออกไปจากที่นี่ หากพวกเขายังอยู่หลังจากนี้อีก 10 วินาที ก็ให้เขาออกไปอย่างไร้ชีวิต ลุงหมิง” หมิงตงคำราม
“เข้าใจแล้ว ! ” ชายกลางคนที่อยู่ข้างหลังเขาขานรับอย่างเฉยเมย เขาชำเลืองมองคนอย่างไม่สนใจ อย่างไรก็ตามสายตาของเขาสงบนิ่งมากจนทำให้คนเหล่านั้นตัวสั่น
“ไปเถอะ ! ” เพียงไม่กี่วินาที พวกเขาทั้งหมดก็หายไป เวลา 10 วินาทีไม่จำเป็นแม้แต่น้อย
เดิมทีกลุ่มจักรพรรดินีพร้อมที่จะสู้ตาย ดังนั้นพวกเขาจึงตกตะลึงกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
“Yu’er, w- w- who are they?” The empress asked Xi Yu secretly and carefully as she was still taken aback. Undisguised shock filled her eyes.
“หยูเอ๋อ ขะ-ขะ-เขาเป็นใคร ? ” จักรพรรดินีถามซีหยูอย่างลับๆและระมัดระวัง ตอนนี้นางตกใจมาก มีอาการตกใจอยู่เต็มสายตาของนาง
ซีหยูรู้อยู่แล้วว่าชายกลางคนที่หมิงตงเรียกว่าลุงหมิงนั้นทรงพลังอย่างมาก ดังนั้นนางจึงเตรียมรับผลสำหรับเรื่องนี้ ทำให้นางดูสงบมากในตอนนี้ ทันใดนั้นนางก็ดึงจักรพรรดินีไปทางหมิงตงและแนะนำว่า “เสด็จแม่ นี่คือหมิงตง เป็นพี่ชายของผู้นำเจี้ยนเฉิน”
ซีหยูและหมิงตงคุ้นเคยกันเป็นอย่างมาก ดังนั้นแม้ว่าหมิงตงจะแสดงพลังที่น่าตกใจ แต่นางก็ยังทำตัวปกติกับเขา
อย่างไรก็ตามจักรพรรดินีพยายามอย่างมากที่จะควบคุมตัวเองให้อยู่ในความสงบเช่นเดียวกับซีหยู นางป้องมือให้กับหมิงตงอย่างระมัดระวังและขอบคุณ “เป็นผู้กล้าหมิงตง ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ เราสองคนไม่อาจแสดงความขอบคุณได้มากไปกว่านี้แล้ว”
จักรพรรดินีสามารถบอกได้ทันทีว่าชายกลางคนที่ทรงพลังนี้ติดตามหมิงตง นางถึงไม่ลังเลที่จะขอบคุณหมิงตง
นางพยายามคาดเดาว่าภูมิหลังของหมิงตงนั้นใหญ่โตเพียงใดจนทำให้ขั้นบรรพกาลที่ทรงพลังขนาดนี้มาคุ้มกันเขา และขั้นบรรพกาลนี้ก็ทำตามคำสั่งของเขาทั้งหมด
“คนที่ควรขอบคุณควรจะเป็นข้า ข้าต้องขอบคุณจักรพรรดิและจักรพรรดินีที่ดูแลตระกูลเทียนหยวนมาหลายปี ไม่อย่างนั้นตระกูลของน้องชายข้าจะต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจนถึงตอนนี้” หมิงตงยิ้มให้กับจักพรรดินีอย่างถ่อมตน เขาไม่ได้วางท่าใด ๆ เมื่อเขาเผชิญหน้ากับแม่ของซีหยู
หลังจากนั้นกลุ่มจักรพรรดินี, ซีหยูและหมิงตงก็กลับไปยังตระกูลเทียนหยวน พวกเขารวมตัวกันอยู่ในห้องเพื่อพูดคุย
“เสด็จแม่ บอกข้าว่ามันเกิดอะไรขึ้นในวังหลวง และทำไมเสด็จพ่อถึงไม่มาล่ะ ? “ซีหยูถามอย่างร้อนรนก่อนที่ทุกคนจะนั่ง
จักรพรรดินีเริ่มหดหู่ จากนั้นนางก็ถอนหายใจเบา ๆ “มีบางอย่างเกิดขึ้นกับจักรวรรดิซี ตั้งแต่ที่พ่อของเจ้าเข้าไปยังพื้นที่ต้องห้าม เขาก็ไม่เคยปรากฏตัวออกมาอีกเลย แต่บรรพชนจักรพรรดิที่เคยฝึกอยู่ที่นั่นมาโดยตลอดและไม่เคยให้ความสนใจเรื่องของจักรวรรดิได้เข้ามาควบคุมจักรวรรดิอีกครั้ง โดยการนำจักรวรรดิซีเข้าร่วมกับจักรวรรดิเทียน”
“และพ่อของเจ้าก็ทำให้เกิดการนองเลือดในจักรวรรดิซีเพื่อแก้แค้นให้กับเจ้าในอดีต เขาสังหารคนสำคัญของกลุ่มและองค์กรขนาดใหญ่ต่าง ๆ จำนวนมาก ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มขุ่นเคืองกับราชวงศ์มานานแล้ว หากราชวงศ์ของเรายังคงแข็งแกร่ง พวกเขาก็จะไม่กล้าทำอะไร แต่เนื่องจากบรรพชนเข้าควบคุมจักรวรรดิและระดมกองกำลังส่วนใหญ่ของจักรวรรดิเพื่อทำสงคราม จักรวรรดิถึงถูกกลวงจากภายใน คนเหล่านี้ซึ่งไม่พอใจราชวงศ์ของเรามานาน ก็ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อล้มล้างราชวงศ์ของเรา”
“เพราะนิกายแยกสวรรค์ที่นำกลุ่มพวกเขาและองค์กรทั้งหมดที่มีความคับแค้นใจกับราชวงศ์ของเรารวมตัวกันและมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับเรา เนื่องจากบรรพชนจักรพรรดิไม่ได้อยู่ในภาคเหนือ ครอบครัวของเราจึงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ดังนั้นเราจึงถูกบังคับให้ต้องล่าถอยอย่างต่อเนื่องเพื่อต้านทานความวุ่นวายของนิกายแยกสวรรค์….”
“เสด็จแม่ เสด็จพ่อกำลังตกอยู่ในอันตรายหรือไม่ ? ไม่อย่างนั้นทำไมเขาต้องไปที่เขตต้องห้ามและไม่ปรากฏตัว ? ” ซีหยูไม่สนใจเรื่องความวุ่นวายของจักรวรรดิซี นางเป็นห่วงพ่อของนางเป็นที่สุด
“ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับไซหยุน หากเจ้าบอกว่าเขาตกอยู่ในอันตรายก็ไม่สมเหตุสมผลเพราะทุกคนที่เขตต้องห้ามนั้นเป็นผู้อาวุโสของตระกูลซีของเรา ยิ่งไปกว่านั้นปู่ของเจ้าก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน พวกเขาจะเล่นงานครอบครัวตัวเองได้อย่างไร ? ” จักรพรรดินีส่ายหน้าของนางด้วยความกังวลเต็มใบหน้าของนาง นางไม่อยากจะเชื่อเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด
“ไม่ เสด็จแม่ ข้าต้องกลับไป เสด็จพ่ออาจจะตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ ข้าต้องไปช่วยเขา” ซีหยูพูดอย่างหนักแน่น นางผ่านความยากลำบากมากมายกว่าจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ดังนั้นนางไม่ยอมให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพ่อของนางในตอนนี้
“หยูเอ๋อ ไม่มีอะไรที่เจ้าทำได้เมื่อเจ้ากลับ ตอนนี้วังหลวงนั้นยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว มันถูกพิชิตภายใต้การนำของบรรพชนนิกายแยกสวรรค์ บรรพชนนิกายแยกสวรรค์อยู่ในขั้นบรรพกาลและไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพ่อและปู่ของเจ้า เว้นแต่ว่าจะเป็นบรรพชนจักรพรรดิกลับมา ไม่มีใครในราชวงศ์ของเราเป็นคู่ต่อสู้กับบรรพชนนิกายแยกสวรรค์ได้ ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ต้องห้ามของวังหลวงก็ได้รับการคุ้มครองโดยค่ายกลที่มีประสิทธิภาพ เจ้าไม่อาจเข้าไปได้”