เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2601: การนองเลือดในสามองค์กร
ตอนที่ 2601: การนองเลือดในสามองค์กร
บรรพชนสายลมพลิ้ว, กงจี้, วูหลูและเจียงเฟิงหยุน จากพันธมิตรสี่เส้าพร้อมกับผู้ทรยศของพันธมิตรชอบธรรมเหลาม่านเ เทียนและเหอยี่เต๋า
ทุกคนเป็นบุคคลในตำนานบนที่ราบเมฆา พวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะที่หลาย ๆ คนไม่อาจพบเจอได้ตลอดทั้งชีวิต การกระทำใด ด ๆ ของพวกเขาอาจส่งผลต่อที่ราบเมฆาทั้งหมด
พวกเขาทั้งหกเป็นอัครสูงสุดเป็นตัวแทนผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงในที่ราบเมฆาทั้งหมด พวกเขาทั้งหมดยืนอยู่ในค่ายกลป้อง งกันขณะจ้องออกไปด้านนอก มีร่องรอยของความกังวลที่แทบไม่เคยปรากฏบนใบหน้าของพวกเขามาก่อน
“เห้อ ตอนนี่เรามาถึงวาระแล้ว หากเราไม่ได้รับการเสริมกำลังจากที่อื่น เป็นไปไม่ได้ที่พันธมิตรสี่เส้าของเราจะรอ อดไปได้ กงจี้, วูหลู เจ้าพอใจกับสิ่งนี้หรือไม่ ? ” บรรพชนสายลมพลิ้วถอนหายใจและพูดด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง เสียงข ของเขาเต็มไปด้วยคำตำหนิ
เขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกงจี้และวูหลู ตอนนี้ทุกอย่างได้ดำเนินไปแล้ว ทั้งหมดนี้เพราะสองคนนี้
บรรพชนสายลมพลิ้วไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเหลาม่านเทียนและเหอยี่เต๋า แม้ว่าครั้งหนึ่งพวกเขาจะเคยเป็นศัตรูมาก่ อนและมีความแค้นมากมาย พวกเขาเลยจุดที่จะคืนดีหรืออภัยให้กัน แต่พันธมิตรสี่เส้ายังต้องการทั้งสองคนนี้ในตอนน นี้
“สายลมพลิ้ว มันเกิดขึ้นไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงอีกต่อไป พวกเราไม่รู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นเชื้อสายนักรบวิญญ ญาณและเชื้อสายนักรบวิญญาณจะเป็นดั่งเล่าลือเรื่องความแข็งแกร่งของพวกเขา เพียงแค่ขั้นบรรพกาล 3 คน มันก็น่ากลัว วเกินไปแล้ว” กงจี้กล่าวอย่างไร้อารมณ์ นางมองออกไปไกล ไปยังที่มีเชื้อสายนักรบวิญญาณอยู่บนอวกาศรอบนอก พร้อมกับ บความกลัวและยำเกรงปรากฏขึ้นจากส่วนลึกของสายตาของเขา
ไม่ใช่แค่นาง ในความจริงผู้เชี่ยวชาญระดับสูงทั้งหมดบนที่ราบเมฆาเริ่มหวาดกลัวกับความสามารถในการต่อสู้ของเชื้อสาย ยนักรบวิญญาณ
ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 สามารถสังหารอัครสูงสุดได้อย่างง่ายดาย มันสังหารไปสองคนในเวลาสั้น ๆ เรื่องนี้มัน นน่าตกใจเกินไปอย่างมาก
พวกเขาจะไม่เชื่อเลยหากมันไม่ได้เกิดตรงหน้าพวกเขา
“นายน้อยประกายดาว ท่านก็ได้เห็นด้วยตัวเองว่าพันธมิตรสี่เส้าไม่อาจต่อสู้ได้อีกต่อไป เพราะเชื้อสายนักรบวิญญาณเ เข้ามาข้องเกี่ยว ตอนนี้เราต้องพึ่งพาท่าน” กงจี้มองไปที่นายน้อยประกายดาวและอ้อนวอน
บรรพชนสายลมพลิ้ว, เจียงเฟิงหยุน, วูหลู, เหอยี่เต๋าและเหลาม่านเทียน ต่างก็มีมองไปที่นายน้อยประกายดาว แท้ จริงแล้วพันธมิตรสี่เส้าของพวกเขาได้สูญเสียการเป็นฝ่ายที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ เชื้อสายนักรบวิญญาณเพ พียงอย่างเดียวก็ทำให้เกิดปัญหามากแล้ว ยังมีตงวู่หมิง, โจวซีเตาและเลี่ยหยานหวูจิจากพันธมิตรชอบธรรมอีก
ความหวังของพวกเขาตอนนี้คือนายน้อยประกายดาว
…
“อย่างที่เจ้าคิดเอาไว้ เราสังหารอัครสูงสุดไป 2 คนแล้ว ศิษย์น้องแปดรับศพไป” จื้อเจี้ยนหัวเราะและสะบัดกระบี่ ของเขา ศพของเจิ้งหู่ลอยไปยังภูเขานักรบวิญญาณ
ข่ายวิญญาณนักรบบนภูเขานักรบวิญญาณลวงตาได้หยุดทำงาน เจี้ยนเฉินจับไปที่ศพของเจิ้งหู่ด้วยมือเดียว เมื่อเขาสั มผัสได้ถึงพลังงานที่น่ากลัวอยู่ภายในเขาก็แอบดีใจ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้รับศพของอัครสูงสุดคนที่สองได้ ในเร็ว ๆ นี้ ความแข็งแกร่งของกล้วยไม้กลืนกินอมตะจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
“นี่แหวนมิติของพวกเขา ศิษย์พี่ ข้าจะเอาแหวนมิติให้ท่านจัดการ” เจี้ยนเฉินถอดแหวนมิติของกูหลีและเจิ้งหู่อ ออกและมอบให้
“อัครสูงสุดปกติอาจไม่มีอะไรให้เราสนใจได้ เจ้าห้าอาจจะได้ประโยชน์มากกว่า เจ้าต้องการหรือไม่ ? ” หุนเจิ้ง, จื้อเ เจี้ยนและเยว่เฉา ก้าวเข้ามาในภูเขาวิญญาณนักรบ พวกเขาไม่ได้มองไปที่แหวนมิติเลย เขาส่งต่อแหวนไปยังหยุนซื่อ อติง, ซูฉี,ไป่หรูเฟิงและฉิงฉาน
“ได้ ข้าจะไม่เกรงใจ” หยุนซื่อติงหยักหน้า เขารับแหวนมิติและตรวจสอบด้านใน “มีเหรียญผลึกหลากสีมากมาย ข้าจะเอ อาเหรียญผลึกและวัสดุศักดิ์สิทธิ์บางส่วนไป พวกเจ้า 4 คนเอาส่วนที่เหลือไปแบ่งกัน
หลังจากพูด ซูฉี, ไป่หรูเฟิงและฉิงฉาน ต่างก็เอาสิ่งที่พวกเขาต้องการไปและเหลือบางสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการให้กับ บเจี้ยนเฉิน
สิ่งของของอัครสูงสุดทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 5 ส่วน
เจี้ยนเฉินไม่ได้มองสิ่งที่เหลืออยู่ เขาเก็บแหวนมิติทั้งสองไว้ทันที
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นพันธมิตรชอบธรรมของเราอาจจะเหลือเพียงชื่อ” ผู้เฒ่าเทียนซาน, ตงวู่หมิง, , โจวซีเตาและเลี่ยหยานหวูจิเข้ามาใกล้ภูเขาวิญญาณนักรบพวกเขาทั้งหมดต่างป้องมือให้
แม้ว่าคนที่ทรงพลังที่สุดของภูเขานักรบวิญญาณจะเป็นแค่ขั้นบรรพกาล แต่พวกเขาก็ไม่กล้าดูถูกเลย พวกเขาปฏิบัติต ต่อพวกเขาอย่างระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
ทันใดนั้น พลังจิตที่ทรงพลังก็ปรากฏขึ้นบนที่ราบเมฆาและดึงดูดความสนใจของเจี้ยนเฉิน
ตอนนี้เจี้ยนเฉินอยู่อวกาศรอบนอกและที่ราบเมฆาก็ลอยอยู่บนอวกาศ ดังนั้นเขาจึงสามารถเห็นภูมิภาคทั้งห้าได้อย่าง งชัดเจน เขาพบว่ามีการต่อสู้ที่รุนแรงในภาคตะวันออก, เหนือและกลาง คลื่นพลังนั้นกวาดออกไปจนมองเห็นได้ด้วยตา าเปล่า พร้อมกับพายุที่ทำให้เกิดหายนะอย่างรุนแรง
เจี้ยนเฉินสามารถบอกได้เพียงแว่บเดียวว่าการต่อสู้ในภาคเหนือนั้นเป็นส่วนของเผ่าเทพที่ร่วงหล่นอยู่
“เจ้าโจมตีเผ่าเทพที่ร่วงหล่น ? ” เจี้ยนเฉินถาม มีแสงวาบผ่านสายตาของเขา
“เผ่าเทพที่ร่วงหล่น, สำนักเต๋าฉุกเฉินและสำนักปฐพีสะเทือนทรยศต่อพันธมิตรชอบธรรม เป็นเรื่องปกติที่เราจะไม่ไว้ ชีวิตของพวกเขา” เลี่ยหยานหวูจิกัดฟันพูด
“ถูกต้องแล้ว เหลาม่านเทียน, เหอยี่เต๋า ต้องจ่ายค่าตอบแทนในการทรยศ พวกเราจะต้องจัดการเผ่าเทพที่ร่วงหล่น, สำนักเต๋าฉุกเฉินและสำนักปฐพีสะเทือน เราจะสังหารพวกเขาทั้งหมดและไม่ปล่อยให้ใครมีชีวิตรอด” โจวซีเตาพูดและเขา าเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
คราวนี้การทรยศอย่างกะทันหันทำให้พวกเขาทั้งหมดเกือบตายกันหมด เพราะอย่างนี้พวกเขาจึงเกลียดคนทรยศทั้งสามอย่างม มาก
“ท่านผู้เฒ่า บาดแผลของท่านเป็นอย่างไรบ้าง ? ” เจี้ยนเฉินมองไปที่ผู้เฒ่าเทียนซานขณะที่เขาขมวดคิ้วแน่น
“ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ข้าระงับคำสาปไว้ชั่วคราว ไปจัดการกับองค์กรทั้งสามก่อน” ผู้เฒ่าเทียนซานโบกมือและพูดอย่า างอ่อนแรง
“งั้นก็ไปกัน เราจะจัดการกับเผ่าเทพที่ร่วงหล่น, สำนักเต๋าฉุกเฉินและสำนักปฐพีสะเทือนก่อน คราวนี้เราไม่จำเป็น นต้องมีเมตตา” เจี้ยนเฉินบินไปทางทิศเหนือทันที เขาไม่อดกลั้นเลย ท่าทีของเขานั้นกระตือรือร้นยิ่งกว่าพันธมิตรชอบธ ธรรมเสียอีกในการทำลายทั้งสามองค์กร
“สำนักเต๋าฉุกเฉิน, สำนักปฐพีสะเทือนและเผ่าเทพที่ร่วงหล่น ทั้งหมดได้รับการปกป้องจากค่ายกลที่ทรงพลัง เหล่าอา าวุโสใหญ่ของเราไม่อาจทะลวงมันไปได้ เราจำเป็นต้องไปทำด้วยตัวเอง” ตงวู่หมิงมองไปทางสามองค์กรแต่ละที่และพูดก กับเลี่ยหยานหวูจิและโจวซีเตา
หลังจากนั้นทั้งสามก็แยกออกจากกันไปยังทั้งสามองค์กร
ในเวลาเดียวกัน เด็กน้อยคนหนึ่งที่อยู่บนหลังคาโรงเตี๊ยมในเมืองหลวงของจักรวรรดิตะวันโลหิต ถ้าเจีั้ยนเฉินอยูํ่ที่ นี่เขาจะจำเด็กน้อยคนนี้ได้แน่นอน เขาเป็นคนที่เขาเคยเจอในพรรคกระดูกโอฬาร
ดูผ่าน ๆ เขาจะเหมือนแค่เด็กธรรมดา ๆ แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้
“ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าอาจต้องการใช้บุตรบุญธรรมของเขาเพื่อจัดการกับเจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตามเขาประเมิณความสาม มารถของบุตรบุญธรรมของเขามากเกินไป เว้นแต่ว่าเขาจะใช้กองกำลังของที่ราบประกายดาวหรือลงมือด้วยตัวเอง การที่จะให ห้บุตรบุญธรรมของเขาจัดการกับเจี้ยนเฉินมันก็แค่ฝันของคนโง่เท่านั้น”
“อย่างไรก็ตามหากเขาสอดมือเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยตัวเอง เขาก็จะมีส่วนร่วมอย่างมาก และตามธรรมชาติของใต้เท้าประกาย ยดาวทั้งเก้าคงไม่มีความกล้าขนาดนั้น หรือเผชิญหน้ากับหอคอยอนัตตาที่เป็นความลับสวรรค์และเผชิญหน้ากับความจริง. ….ฮิฮิ นับประสาอะไรกับความตายสำหรับเขา แต่คนอย่างจอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิตก็ถูกลากเข้ามาในเรื่องนี้ด้วย ก การทำลายของปราชญ์อนัตตานั้นไม่มีใครกล้าเทียบได้ ข้าไม่อยากจะคิดเลยว่าปราชญ์อนัตตาจะที่โกรธเกรี้ยวจะน่ากลัวเ เพียงใด”
ผลไม้ปรากฏในมือของเด็กไร้หัวใจ เขากินผลไม้ขณะที่เขาให้ความสนใจกับการหลั่งไหลของผู้คนอย่างไม่หยุดบนท้องถน นน เขาพึมพำ “เพราะเจี้ยนเฉินเป็นผลไม้วิถี เขาต้องตายในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตามเขาไม่อาจตายบนที่ราบเมฆาได้” ท ทันใดนั้นเด็กไร้หัวใจก็มองไปที่อวกาศ การจ้องมองของเขาดูเหมือนจะมองไปยังที่ห่างไกลและลึกในอวกาศได้
“แม้แต่นกตัวนั้นก็มา ที่ราบเมฆาดูเหมือนจะมีชีวิตชีวามากขึ้นเรื่อย ๆ…” เด็กไร้หัวใจยิ้มอย่างอ่อนโยน ขณะที่เข ขาสนใจเรื่องทั้งหมดมากขึ้นเรื่อย ๆ