เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2592: กำลังเสริมที่ทรงพลัง
ตอนที่ 2592: กำลังเสริมที่ทรงพลัง
ด้วยเหตุนี้มีแสงวาบผ่านสายตาของผู้พิทักษ์มากมายและราชาเทพหลายคนที่ได้รับการคัดเลือกหรือเข้าร่วมด้ วยความตั้งใจของพวกเขาก็เริ่มจะหายไป พวกเขาลังเลและติดอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
อย่างไรก็ตามด้วยความลังเลนี้มีอยู่เพียงไม่กี่วินาที ก่อนที่ราชาเทพสองสามคนจะบินออกจากฝูงคน พวกเขา าป้องมือให้กับเจี้ยนเฉินและออกจากตระกูลเทียนหยวนอย่างไม่ลังเล
ผู้คนออกจากตระกูลเทียนหยวนมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากราชาเทพหลายคนแล้วยังมีเหนือเทพ, เทพและแม้แต่ขั นศักดิ์สิทธิ์
เมื่อคนเหล่านี้พูดคุยกันอย่างลับ ๆ พวกเขาได้รู้ถึงตัวตนของนายน้อยประกายดาว หลังจากคิดแล้ว พวกเ เขาก็ไม่เชื่อว่าตระกูลเทียนหยวนจะรอดพ้นจากความโกรธของนายน้อยประกายดาวได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกท ที่จะจากไป
“กวนหยุน เจ้าจะจากไปด้วยหรือ ? ” เสียงที่ขึงขังดังออกมาจากด้านหลังเจี้ยนเฉิน มันเป็นเสียงที่มาจ จากชายชราคนหนึ่ง เป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ขอบเขตตั้งต้นของตระกูลเทียนหยวน ผู้คนต่างเรียกเขาว่าผู้พิ ทักษ์ซิง
เจี้ยนเฉินรู้จักกับผู้พิทักษ์ซิง ความจริงแล้วเขาค่อนข้างประทับใจมาก เพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ท ทั้งสี่ที่หยุดเขาพร้อมกับซ่างกวนมู่เอ๋อ
ผู้พิทักษ์ทั้งสี่คือ ผู้พิทักษ์ซิง, ผู้พิทักษ์ไป่, ผู้พิทักษ์เหม่ยและผู้พิทักษ์ซือ
พวกเขาทั้งสี่ต่างก็ร่วมหัวจมท้ายกับตระกูลเทียนหยวนเสมอ จากผู้พิทักษ์ทั้งหมดที่ได้รับการคัดเลือกจ จากกลุ่มของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น พวกเขาต่างก็ทำงานหนักและรับใช้ตระกูลเทียนหยวนอย่างแท้จริง
กวงหยุนที่ผู้พิทักษ์ซิงพูดถึงก็เป็นผู้พิทักษ์ตระกูลเทียนหยวนเช่นกัน เขากำลังจะจากไป
กวงหยุนเป็นชายกลางคนร่างกายกำยำ เขามองไปยังผู้พิทักษ์ซิงและส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ ขณะที่ เขาพูดว่า “นั่นคือนายน้อยประกายดาว ลูกชายของใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า เราจะไปขัดขวางเขาได้อย่าง งไร? ผู้นำ ขออภัยด้วย” กวงหยุนป้องมือให้กับเจี้ยนเฉินอย่างขอโทษและออกไปทันทีโดยไม่หันไปมอง
พริบตาเดียวผู้พิทักษ์จากสองในแปดของตระกูลเทียนหยวนก็จากไปและทำให้คนระดับสูงหดหู่ใจทันที
ทุกคนไม่สนใจการจากไปของกวงหยุนนัก อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น แต่เขาก ก็เป็นแค่ขั้นอสงไขยสวรรค์ชั้นสวรรค์ที่ 2 เท่านั้น
สิ่งที่ทำให้ทุกคนผิดหวังจริง ๆ ก็คือการที่ผู้พิทักษ์ฉีจากไป
ผู้พิทักษ์ฉีนั้นเป็นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 7 เทียบเท่ากับผู้พิทักษ์ซือ
มีเพียงซูหรานและเจี้ยนเฉินเท่านั้นที่มีพลังมากกกว่าพวกเขาในตระกูล
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเจอแรงกดดันจากนายน้อยประกายดาว ผู้พิทักษ์ที่เลือกจะจากไปก็ไม่ใช่แค่ฉีฮุ่ยและ ะกวงหยุนเท่านั้น ผู้พิทักษ์อีก 2 คนก็เลือกที่จะจากตระกูลเทียนหยวนไปหลังจากที่กวงหยุนจากไปไม่นา าน
ด้วยเหตุนี้ผู้พิทักษ์ของตระกูลเทียนหยวนจึงเหลือเพียง 4 คนทันที พวกเขาคือผู้พิทักษ์ซือ, ผู้พิทักษ์ซ ซิง, ผู้พิทักษ์ไป่และผู้พิทักษ์เหม่ย
“พวกเจ้าทั้งสี่ไม่จากไปหรือ ? ” เจี้ยนเฉินมหันกลับไปมองพวกเขาทั้งสี่และถามอย่างใจเย็น
“ข้าติดหนี้บุญคุณตระกูลเทียนหยวน ข้าจะอยู่สู้เคียงข้าง แต่ข้า…ถ้าข้าตายไปแล้ว โปรดดูแลนายน้อย ด้วย ท่านผู้นำ” ผู้พิทักษ์ซือพูดอย่างไม่เกรงกลัว เขาไม่กลัวความตาย
เมื่อเขาพูดอย่างนั้น เขาก็ส่งโถงศักดิ์สิทธิ์ให้เจี้ยนเฉิน มองพูดอย่างจริงจัง “นายน้อยของตระกูลข้ าอยู่ในนั้น”
เจี้ยนเฉินมองไปที่ผู้พิทักษ์ซือชั่วขณะหนึ่ง เขาไม่ตอบกลับ เขามองไปที่ผู้พิทักษ์ซิง, ผู้พิทักษ์ไป่และ ะผู้พิทักษ์เหม่ย
ผู้พิทักษ์เหม่ยหัวเราะคิกคัก นางหาวและบิดขี้เกียจอย่างสบาย ๆ ทำให้นางมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก นางมอง ไปที่เจี้ยนเฉินอย่างเจ้าชู้และหัวเราะคิกคัก “ข้ามั่นใจในตัวผู้นำ ข้าเชื่อว่าผู้นำมีความสามารถในก การพาเราผ่านพ้นไปจากวิกฤตินี้ ถ้าข้ากลายเป็นผู้พิทักษ์ที่ผ่านความเป็นความตายกับตระกูลแล้ว ผู้นำจะ ะไม่ลืมพวกเราอย่างแน่นอน เมื่อตระกูลเทียนหยวนได้ครองที่ราบ”
“เราเชื่อในตัวผู้นำเช่นกัน ! ” ผู้พิทักษ์ซิงและผู้พิทักษ์ไป่ก็กล่าวอย่างตื่นเต้นเช่นกัน อย่างไรก็ตา ามพวกเขาไม่อาจสงบใจลงได้ พวกเขาไม่สามารถสงบได้เท่ากับผู้พิทักษ์เหม่ย
“ผู้พิทักษ์เหม่ย ตระกูลเทียนหยวนจะรอดจากวิกฤตินี้ได้จริงหรือ ? เราสนับสนุนเพราะสิ่งที่เจ้าพูด แ แต่ท้ายที่สุดเราคงไม่ได้กลายเป็นซากศพใช่หรือไม่ ? ” ผู้พิทักษ์ซิงและผู้พิทักษ์ไป่ถามอย่างระมัดระวัง
“ข้าไม่มั่นใจว่าเราจะรอดหรือไม่ ? คราวนี้เราเผชิญหน้ากับนายน้อยประกายดาว อย่างไรก็ตามข้าไม่รู้สึก กกลัวใด ๆ เพราะผู้นำ แต่ข้ารู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่มากมายกำลังก่อตัวขึ้น ข้าเชื่อว่าผู้นำต้อง มีไพ่ลับที่เขายังไม่ได้เผยออกมา” ผู้พิทักษ์เหม่ยตอบ นางมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวังและพูดต่อ “ท ที่สำคัญที่สุด ไม่มีคนใกล้ชิดผู้นำแม้แต่คนเดียวที่จากไป พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่ ผู้นำเห็นคุณค่ากับ สหายและครอบครัวมากที่สุด เหตุใดเขาจึงจะปล่อยให้คนเหล่านี้ตายที่นี่ ? ”
ผู้พิทักษ์ซิงและผู้พิทักษ์ไป่เริ่มคิดได้ จากความไม่สงบของเขาก็กลายเป็นสงบทันที
“เยี่ยม ! เยี่ยม ! เยี่ยม ! ” เจี้ยนเฉินพูดย้ำ แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าทำไมพวกเขาทั้งสี่ถึงอยู่ข้างเ เขา บางทีพวกเขาอาจจะต้องการอยู่รอดกับตระกูลอย่างแท้จริงหรือบางทีพวกเขาก็แค่ต้องการแสดงให้เห็น แต่ มันก็เกินพอแล้วในเวลานี้
คนที่เหลืออยู่หมายถึงได้ลบหลู่นายน้อยประกายดาวทั้งหมด !
หลังจากนั้นก็มีอพยพผู้คนจำนวนมากจากตระกูลเทียนหยวนและจักรวรรดิปิงเทียน ผู้คนที่ยิ่งใหญ่พอ ๆ กับผ ผู้พิทักษ์และคนปกติเหมือนทหารหรือคนรับใช้ต่างก็ออกจากตระกูล ในเวลาครึ่งวันสั้น ๆ ผู้คนในตระกูล เทียนหยวนก็หายไปกว่าหนึ่งในสาม
ทั่วทั้งจักรวรรดิจักรปิงเทียน เมืองทุกเมืองเลือกที่จะออกไปอย่างรวดเร็ว ค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะสั้น ที่ตั้งไว้ในจักรวรรดิปิงเทียนสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง เมื่อผู้บ่มเพาะต่างก็ดาหน้าเข้ามาจนมืดฟ้ามัว วดิน
“ผู้นำ เราจะให้พวกเขาจากไปจริงหรือ ? หากพวกเขาอยู่ต่อมันอาจช่วยเราได้” ผู้หนิงคนหนึ่งเดินออก กมาจากฝูงคนด้านหลังเจี้ยนเฉิน นางสวมเสื้อสบาย ๆ และถือแส้ไว้ในมือ
นางคือเจิงจิงหยวน เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิมจากโลกเซียนที่ถูกทิ้งในอดีต นางมาโลกเซียนพร้อมก กับจิตวิญญาณราชันย์ เฉินเจี้ยนและเจี้ยนเฉิน นางอยู่มาตั้งแต่การก่อตั้งตระกูลเทียนหยวนและเป็นหนึ่งใ ในคนที่เก่าแก่ที่สุดของสมาชิกระดับสูง
ตอนนี้ เจิงจิงหยวนกลายเป็นเทพด้วยความช่วยเหลือจากสมบัติสวรรค์ต่าง ๆ แม้ว่าความแข็งแกร่งนี้แทบไม่อาจ จเป็นอะไรได้ในตระกูลเทียนหยวนตอนนี้ แต่ความเร็วในการก้าวหน้าของนางก็ถือว่าที่ดีที่สุดเช่นกัน
หลังจากที่ มีเพียงผู้นำเล็ก ๆ เท่านั้นที่เป็นอัจฉริยะที่แท้จริง
“มันไม่ใช่ปัญหา การปล่อยให้พวกเขาไปเป็นการช่วยลดการบาดเจ็บล้มตายอย่างไม่จำเป็นเมื่อเราสู้” เจี้ยน นเฉินกล่าว
อีกด้านหนึ่งนายน้อยประกายดาวลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยใบหน้าที่หมองหม่น เขาอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก เขาพ พบว่าแม้จะเขาจะทำตามเป้าหมายสำเร็จและทำให้ตระกูลเทียนหยวนเสียผู้คนไปกว่าสองในสาม แต่เขาก็ยังไม ม่เห็นเจี้ยนเฉินออกอาการใด ๆ
นี่เป็นเพราะเจี้ยนเฉินยังคงสงบอยู่ตลอดเวลา เขาไม่ได้มีอารมณ์ใด ๆ เขาไม่หวั่นไหวและยังนิ่งเฉยราวก กับภูเขา ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรอยู่ในสายตาของเขา
ด้วยเหตุผลนี้นายน้อยประกายดาวจึงรู้สึกว่าที่เขาทำมามันไม่ได้ผล มันทำให้เขาไม่พอใจ
“ฮึ่มม ! ทำลายตระกูลเทียนหยวน ข้าต้องการให้เจี้ยนเฉินและซ่างกวนมู่เอ๋อมีชีวิตอยู่ก่อน” นายน้อยประ ะกายดาวส่งเสียงอย่างเย็นชา เขาไม่อดทนรออีกต่อไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนกับว่าทุกสิ่งที่เขาทำไปนั้นไ ไร้จุดหมายเมื่อดูจากท่าทีของเจี้ยนเฉิน
“เราจะรอ 3 วันไม่ใช่หรือ ? นะ-นี่เพียงผ่านไปครึ่งวันเท่านั้น” วูหลูพูด
“เราไม่รออีกแล้ว” นายน้อยประกายดาวพูดอย่างเย็นชา
“ได้” วูหลูไม่พูดอะไรอีก เขาเดินมาจากด้านหลังนายน้อยประกายดาวและพลังแห่งการมีอยู่ของเขาก็สูง งขึ้น การจ้องมองของเขาเย็นชามาก
คราวนี้ เขาวางแผนที่จะจัดการด้วยตัวเองเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อฟังของเขาที่มีต่อนายน้อยประกาย ดาว
“นายน้อยประกายดาว เจ้าไม่ได้บอกว่าให้เวลา 3 วันไม่ใช่หรือ มันยังไม่ผ่านไปแม้แต่วันเดียวเลยนะ ลู กชายของใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าเป็นคนที่มักจะผิดคำพูดเช่นนั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินใช้พลังนักรบวิญญ ญาณอย่างลับ ๆ เขาใช้พลังเพื่อติดต่อภูเขาวิญญาณนักรบ
นายน้อยประกายดาวไม่ตอบ วูหลูก็พร้อมที่จะต่อสู้ เพียงแค่ความคิด ท้องฟ้าเหหนือแคว้นตงอันก็เพิ่มข ขึ้น พายุลูกใหญ่ปรากฏและพลังทำล้ายล้างก็เพิ่มสูงขึ้นจนทำให้มิติบิดเบี้ยว
เพราะวูหลูเป็นอัครสูงสุด เขาไม่จำเป็นต้องขยับนิ้วแม้แต่นิ้วเดียวเพื่อทำลายจักรวรรดิ เขาเพียงแค่ย ยืนอยู่เฉย ๆ และควบคุมพลังงานและกฎรอบ ๆ ด้วยความตั้งใจที่น่ากลัวของเขาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเข้าปะทะกับเจตจำนงของวูหลูจากระยะไกลอย่างรุนแรง
วูหลูแค่นเสียงและอดไม่ได้ที่จะเซถอยหลัง พลังงานที่ทำให้แคว้นตงอันก็ตกอยู่ในสภาพที่ผิดปกติก่อ อนหน้านี้ก็กระจายหายไปจนหมดสิ้น
การโจมตีที่รุนแรงนี้ทำให้วูหลูถูกรั้งไว้โดยผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอีก 2 คนที่เหลือ
ในเวลาเดียวกัน ก็มีคนปรากฏขึ้นมาบนอากาศ พวกเขามาอย่างเงียบ ๆ ยืนอยู่เหนือท้องฟ้ารากับว่าพวกเขาเ เป็นส่วนหนึ่งของโลก ท่ามกลางแรงกดดันระหว่างเจี้ยนเฉินและนายน้อยประกายดาว