เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2591: เผชิญหน้าด้วยความสงบ
ตอนที่ 2591: เผชิญหน้าด้วยความสงบ
“พวกเจ้าทุกคนเชื่อฟังนายน้อยประกายดาว ? ” เจี้ยนเฉินหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “นายน้อยประกายดาวต้องกา ารทำลายตระกูลเทียนหยวนของข้า เขาต้องการทำลายจักรวรรดิปิงเทียน พันธมิตรสี่เส้าของเจ้ามีแผนการอย่างไร ร ? ”
กงจี้ไม่พูดอะไร วูหลูเหลือบมองไปที่นางก่อนที่จะหันหลังให้เจี้ยนเฉิน มีเศษเสี้ยวที่ไม่อาจทำอะไรได้ ในสายตาและเขาก็พูดว่า “เจี้ยนเฉิน เรารู้ว่าเจ้ามีพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงหนุนหลังเจ้า แต่พระราช ชวังสวรรค์แห่งบิเชิงนั้นไม่ได้รุ่งโรจน์เหมือนในอดีต หากจ้ายังคงต่อต้านนายน้อยประกายดาว แม้แต่พระ ะราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงก็ไม่อาจทำให้เจ้าปลอดภัยได้ จะเป็การดีที่สุดหากเจ้าละทิ้งความภาคภูมิใจและยอ อมคุกเข่าให้กับนายน้อยประกายดาว ยอมรับความผิดของเจ้า เจ้าควรจะขอให้นายน้อยประกายดาวอภัยให้เจ้า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถูกต้อง เจี้ยนเฉิน คุกเข่าและก้มหัวซะ ยอมรับผิด ถ้าเจ้าทำให้ข้าพอใจ ข้าอาจจะยกโทษให้เจ้า” นายน้อยประกายดาวหัวเราะเบา ๆ เขาตื่นเต้นที่จะได้เห็นเจี้ยนเฉินคุกเข่าให้เขา
อย่างไรก็ตามนายน้อยประกายดาวหัวเราะเยาะอยู่ภายในขณะที่จิตสังหารพุ่งสูงขึ้น “เจี้ยนเฉิน เจ้าทำให้ข้ าอับอายเช่นนี้และยังสังหารบ่าวรับใช้เพียงคนเดียวของข้า ด้วยความคับแค้น ถ้าข้าไม่สังหารเจ้า ข้าจ จะไม่มีวันปล่อยเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตามหากข้าสามารถทำให้เขาอับอายก่อนที่ข้าจะสังหารเขา มันก็เป็ นเรื่องดี”
อย่างไรก็ตามนายน้อยประกายดาวไม่รู้จักเจี้ยนเฉิน เขาไม่ใช่คนที่จะคุกเข่าและขออภัย เขายอมตายในการต ต่อสู้มากกว่าจะยอมจำนน
เจี้ยนเฉินไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของนายน้อยประกายดาว เขาไม่สนใจเลย แต่เขามองไปที่วูหลูและกงจี้และ กล่าวว่า “ตระกูลเทียนหยวนของเราไม่เคยขอความเมตตากับคู่ต่อสู้ของเรา หากเจ้ารู้สึกเสียใจและสำนึกได ด้ มันก็ยังไม่สาย”
“หากไม่มีพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง ตระกูลเทียนหยวนของเจ้าก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเรา” วูหลูกล่าวอ อย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของนางดูเยาะเย้ยราวกับว่านางเย้ยหยันเจี้ยนเฉิน เนื่องจากเขายังไม่เข้าใจสถานกา ารณ์ของเขาในตอนนี้เลย
นายน้อยประกายดาวรู้สึกโกรธทันทีเมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินไม่สนใจเขา เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าเป็นอ อย่างนั้นข้าจะทำให้เจ้าดูจักรวรรดิปิงเทียนและตระกูลเทียนหยวนถูกทำลายต่อหน้าเจ้า ในขณะที่เจ้าไม่สามาร รถทำอะไรได้ ข้าสงสัยว่าเจ้าจะมีสีหน้าแบบไหนเมื่อเจ้าไม่อาจมีแรงทำอะไรได้” ในตอนนี้นายน้อยประกา ายดาวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ
เขามั่นใจแล้วว่าตระกูลเทียนหยวนต้องถูกทำลายในตอนนี้ เขาจะสามารถมองเห็นถึงความสิ้นหวังและไร้เรี่ ยวแรงบนใบหน้าของเจี้ยนเฉิน พร้อมกับความโศกเศร้าเมื่อหญิงที่เขารักต้องไปอยู่ในอ้อมแขนคนอื่น
นายน้อยประกายดาวจ้องมองไปที่ส่วนลึกของจักรวรรดิปิงเทียนและพูดเสียงดังว่า “คนของตระกูลเทียนหยวน ข้าคือนายน้อยประกายดาวจากที่ราบประกายดาว ข้าเป็นลูกคนเดียวของผู้ปกครองสูงสุดของที่ราบประกายด ดารา ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงของโลกเซียน ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า ผู้นำเจี้ยนเฉินของเจ้าทำให้ข้า าไม่พอใจและเขาได้สังหารบ่าวรับใช้ของข้า เขาไม่สนใจข้า ดังนั้นข้าจึงต้องการทำลายตระกูลเทียนหยวน อย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่ตระกูลเทียนหยวนเท่านั้น รวมถึงจักรวรรดิปิงเทียนด้วย ข้าจะกำจัดมันออกจากไปจาก กที่ราบเมฆา”
“อย่างไรก็ตามก็ข้าไม่ใช่คนบ้าเลือด เมื่อคิดว่ามีผู้บริสุทธิ์จำนวนมากในจักรวรรดิปิงเทียน ข้าจะให้เว วลาเจ้า 3 วันเพื่อหลบหนีออกจากจักรวรรดิปิงเทียน หลังจากสามวันนี้ข้าจะสังหารหมู่ในจักรวรรดิปิงเทียนแ และตระกูลเทียนหยวน จะไม่มีใครรอด”
เสียงของนายน้อยประกายดาวดังไปทั่วทั้งจักรวรรดิปิงเทียน ในตอนนี้ทุกคนในจัรวรรดิต่างตื่นตระหนกรว วมทั้งผู้คนในแคว้นตงอัน
เสียงของเขาทะลุผ่านค่ายกลป้องกันของตระกูลเทียนหยวนดังก้องอยู่บนท้องฟ้าเป็นเวลาพอควร
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินหมองลง เขาหันกลับมาและชำเลืองมองไปยังทิศทางตระกูลเทียนหยวน ก่อนที่จะมองไปที่ วูหลูและกงจี้ที่ยืนอยู่ด้านหลังนายน้อยประกายดาว ด้วยการบ่มเพาะของนายน้อยประกายดาว จึงเป็นไปไม ม่ได้ที่เสียงของเขาจะทะลวงค่ายกลป้องกันของตระกูลเทียนหยวนและเข้าไปถึงภายในได้ เขาทำได้เพราะวูห หลูและกงจี้ช่วยเขาอย่างลับ ๆ
มีร่างแว่บมาที่ด้านหลังของเจี้ยนเฉิน แปดผู้พิทักษ์ขั้นอสงไขยมาปรากฎกายที่ด้านหลังของเจี้ยนเฉินจาก กตระกูลเทียนหยวน พวกเขาทุกคนเคร่งเครียดเมื่อเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญจากพันธมิตรสี่เส้าด้วยความหวาดกล ลัว
“เจี้ยนเฉิน ! ” มีเสียงเรียกเบา ๆ จากที่ไกล ๆ ซ่างกวนมู่เอ๋อถือพิณปีศาจร่ำไห้และปรากฏอยู่ข้าง ๆ เ เจี้ยนเฉิน นางมองไปที่ผู้คนด้วยดวงตาที่น่าหลงใหลของนาง ใบหน้าของนางเย็นชา
“ฮึ่ม ทุกครั้งที่เจ้าทำตัวเป็นคนนอก เมื่อพี่หมิงตงอยู่ที่นี่ เจ้าก็สุภาพกับตระกูลเทียนหยวนของเรา ามากถึงขนาดบอกว่าเจ้าเป็นสหายที่ดีที่สุดของเรา และนานแค่ไหนที่พี่หมิงตงจากไป พันธมิตรสี่เส้า าของเจ้าจึงได้ชี้ปลายดาบมาที่ตระกูลเทียนหยวนของเรา ? เจ้ามันไร้ยางอายมากที่สุด” นูบิสยืนอยู่ด้าน นหลังเจี้ยนเฉินและตะโกน เขาถ่มน้ำลายไปทางพันธมิตรสี่เส้า
ตอนนี้เหล่าชนชั้นสูงและราชาเทพของตระกูลเทียนหยวนได้มาถึงด้านหลังของเจี้ยนเฉิน
“ผู้พิทักษ์ซือ ตระกูลเทียนหยวนกำลังเผชิญหน้ากับการทำลายล้างในครั้งนี้ ข้าไม่เคยได้ยินชื่อของนายน น้อยประกายดาวคนนี้มาก่อนเลย แต่ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ” ผู้พิ ทักษ์ฉีกล่าวอย่างลับ ๆ จากด้านหลังของเจี้ยนเฉิน ตอนนี้บรรพชน 2 คนจากพันธมิตรสี่เส้ามาอยู่ด้านหน้า าเป็นการส่วนตัวและนำผู้เชี่ยวชาญหลายคนมาด้วย ผู้พิทักษ์ฉีก็เริ่มหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว เขารู้สึก หวาดกลัว
ผู้พิทักษ์ซือพยักหน้า เขาขึงขังอย่างมาก เขาไม่แม้แต่จะตอบกลับ
“ตระกูลเทียนหยวนอาจต้องจบสิ้นในคราวนี้ ผู้พิทักษ์ซือ หนีไปจากตระกูลเทียนหยวนกันเถอะ” ผู้พิทักษ์ ฉีกล่าว
ผู้พิทักษ์ซือตอบหลังจากครุ่นคิดอยู่นานว่า”มันเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจในครั้งนี้ ข้าเชื่อในตัวผู นำ ข้าเชื่อในตระกูลเทียนหยวน”
“ข้ารู้ว่าเจี้ยนเฉินมีหลายสิ่งที่พึ่งพาได้ แต่สถานการณ์ตอนนี้เทียบกับอดีตไม่ได้ ภูเขาประกายดาวไ ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง แต่สถานะของเขายิ่งใหญ่กว่านายน้อยประกายดาวหรือไม่ ? ” ผู้พิทักษ์ฉีตอบ เมื่อเห็นว่าผู้พิทักษ์ซือยังคงลังเล เขาก็ตัดสินใจและพูดว่า”อย่างไรก็ตาม เจ้าจะอย ยู่ก็ได้ แต่ข้าจะจากไปแล้ว การอยู่ที่นี่แม้ว่าเจ้าจะรู้ว่ามันคือความตาย มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลา าด ข้าไม่อาจตายเพราะผลประโยชน์บางอย่างจากตระกูลเทียนหยวนได้”
จากนั้น ผู้พิทักษ์ฉีก็บินจากไปทันที เขาอยู่ห่างจากเจี้ยนเฉินพอสมควร แล้วเขาก็กล่าวว่า “ข้า ฉีฮุ่ ย ขอออกจากตระกูลเทียนหยวนอย่างเป็นทางการ แม้ว่าตระกูลเทียนหยวนจะทำให้นายน้อยไม่พอใจ แต่ข้า ฉีฮุ ย ก็ไม่เคยไม่แสดงความไม่เคารพท่าน ข้าหวังว่าท่านจะปล่อยข้าไปในครั้งนี้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าไปได้ ข้าปล่อยเจ้า”นายน้อยประกายดาวหัวเราะลั่น
ฉีฮุ่ยดีใจกับสิ่งนี้ ท้ายที่สุดเขาก็เลิกกังวล เขาพูดเสียงดังว่า “ท่านเป็นคนตรงไปตรงมาและชอบธรรม ม ข้า ฉีฮุ่ย ชื่นชมนัก” จากนั้นฉีฮุ่ยก็พุ่งออกไปและหายไปในพริบตา
การจากไปของผู้พิทักษ์ฉีส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ที่อยู่ในระดับสูงของตระกูลเทียนหยวน ท้ายที่สุดเข ขาก็เป็นหนึ่งในสองผู้พิทักษ์ที่ทรงพลังที่สุดที่พวกเขาได้คัดเลือกมา ตอนนี้เขาได้ออกจากตระกูลเทียน นหยวนอย่างไม่ลังเล สมาชิกระดับสูงต่างก็รู้สึกหนักใจ
“ผู้พิทักษ์ฉี ผู้พิทักษ์ฉี เขา…เฮ้อ….” ผู้พิทักษ์บางคนที่อยู่ด้านหลังของเจี้ยนเฉินต่างก็มีสีหน้า ย่ำแย่อย่างมาก พวกเขาถอนหายใจอย่างหดหู่ ขณะที่ดวงตาของพวกเขาหลายคนกระพริบด้วยความไม่แน่ใจ
“ฮึ่ม ๆ เจ้าทุกคนต่างก็กลัวตาย แม้ว่าเจ้าจะไปถึงขอบเขตตั้งต้นแล้ว ความสำเร็จในอนาคตของเจ้าก็มีจำกัด อย่างมาก” ฉิงยี่หยวนยืนอยู่ด้านหน้าในชุดสีฟ้าของนางและพูดอย่างเย็นชา
“นั่นไม่ใช่ปัญหา” เจี้ยนเฉินยังคงสงบนิ่ง เขาไม่ได้แสดงอารมณ์เชิงลบใด ๆ เลย “สำหรับองค์กรใด ๆ ที่จะ ะเติบโต พวกเขาต้องผ่านความท้าทายที่อันตรายมากมาย สิ่งที่ตระกูลเทียนหยวนนของเราเผชิญในครั้งนี้ถ ถือเป็นหายนะครั้งใหญ่ แต่ถ้าเราสามารถผ่านไปได้ เราจะลุกยืนขึ้นได้อย่างแน่นอน ถ้าเราทำไม่ได้ ตระ ะกูลเทียนก็จะหายไป”
เจี้ยนเฉินมองย้อนกลับไปยังคนข้างหลังและพูดว่า”ถ้าเจ้าไม่เต็มใจที่จะอยู่ด้านหลังและต่อสู้เคียงข้างเ เรา เจ้าสามารถออกไปได้ในตอนนี้ ข้าไม่โทษเจ้า”