เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2546 : ยอดฝีมือแห่งวิถีกระบี่
ตอนที่ 2546 : ยอดฝีมือแห่งวิถีกระบี่
หัวหน้าพิรุณที่สูงส่งในที่ราบสำราญได้กลับมาแล้ว นี่ทำให้ยอดฝีมือทั้งหมดของที่ราบสำราญต่างก็รู้สึกอึดอัดใจ สำหรับยอดฝีมือที่ต้องการจะลงมือกับจักรวรรดิเมฆทวีต่างก็ยอมทิ้งความคิดเดิมเมื่อเห็นว่าหัวหน้าพิรุณกลับมาแล้ว
ตอนนั้นพวกเขาอดไม่ได้ที่จะดีใจกับการที่พวกเขายังไม่ลงมือ ไม่งั้นแล้วพวกเขาก็ไม่อาจจะคิดได้ว่าจะมีผลกระทบแบบไหนตามมา
“ฮ่าฮ่า ลัทธิปิศาจชั้นฟ้าได้โจมตีจักรวรรดิเมฆทวีตอนที่หัวหน้าพิรุณไม่อยู่ แต่ตอนนี้นางกลับมาแล้ว มาดูกันว่าลัทธิปิศาจชั้นฟ้าจะเอาตัวรอดยังไง…” ยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นหลายคนพากันแสดงสีหน้ายินดีออกมา มันราวกับว่าพวกเขาต้องการเห็นภัยพิบัติ
“มันมีผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังลัทธิปิศาจชั้นฟ้า ตอนนี้หัวหน้าพิรุณกลับมาแล้ว ผู้อาวุโสลึกลับผู้นั้นน่าจะปรากฏตัวด้วยเช่นกัน..”
“ว่ากันว่าหัวหน้าผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าได้ฆ่าอัครสูงสุดที่อยู่ชั้นสวรรค์ที่ 4 ได้อย่างง่ายดาย หัวหน้าพิรุณ เองก็ทำแบบนั้นได้เช่นกัน ข้าสงสัยว่าใครกันที่จะแข็งแกร่งกว่ากันระหว่างหัวหน้าพิรุณกับหัวหน้าผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้า…”
ยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นหลายคนพากันคาดหวัง พวกเขาอยากเห็นการปะทะกันของหัวหน้าผู้อาวุโสกับหัวหน้าพิรุณ
พวกเขาบอกได้ว่าการต่อสู้ระหว่างกองทัพของลัทธิปิศาจชั้นฟ้ากับจักรวรรดิเมฆทวีนั้นเข้าสู่จุดดุเดือดแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างก็เสียคนไปจำนวนมาก ดังนั้นความแค้นเคืองจึงมากขึ้นไปอีก จักรวรรดิเมฆทวีไม่มีทางมองข้ามเรื่องนี้แน่ มีแค่การที่ยอดฝีมือของพวกเขากลับมาถึงจะจัดการเรื่องนี้ได้
มันมียอดฝีมือระดับสูงที่แอบพูดคุยกันและตกลงว่าจะโจมตีเมื่อหัวหน้าพิรุณและหัวหน้าผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าต่อสู้กันจนบาดเจ็บสาหัส พวกเขาจะฆ่าหัวหน้าพิรุณและเสาหลักที่ให้การสนับสนุนจักรวรรดิเมฆทวีทิ้งซะ
ด้วยการที่หัวหน้าพิรุณตายไป จักรวรรดิเมฆทวีก็ไม่ได้เป็นภัยต่อพวกเขาอีกต่อไป พวกเขาสามารถทำลายมันได้ง่าย ๆ หากพวกเขาร่วมมือกัน
“หัวหน้าพิรุณกลับมาเร็วกว่าที่ข้าคิดเอาไว้” เซิ่งหมิงเงียบไปพร้อมกับเก็บโคลนและน้ำจากเขตหวงห้าม เขาเงยหน้าขึ้นมามองไปที่ท้องฟ้าที่ปกปิดด้วยค่ายกล
เจี้ยนเฉินเองก็เครียดเพราะเขาเสียความสามารถในการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงที่โลกภายนอกไปเพราะค่ายกล แต่เขารับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่มาจากท้องฟ้า มันมากจนเกือบทำให้เขาหายใจไม่ออก
“หัวหน้าผู้อาวุโส ! ” เจี้ยนเฉินมองไปที่เซิ่งหมิง เขารู้สึกสังหรณ์ใจแย่ ๆ ขึ้นมา ด้วยการกลับมาของหัวหน้าพิรุณ เขาไม่อาจจะทำอะไรได้ต่อหน้าคนแบบนั้น
ยิ่งกว่านั้นเขาก็รู้ว่าเมื่อหัวหน้าพิรุณกลับมา พลังของค่ายกลที่นี่ก็จะถูกใช้ออกมาอย่างเต็มที่ ตอนนั้นไม่ใช่แค่โถงศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าจะถูกสยบ แต่แม้แต่สะพานเชื่อมสวรรค์ก็ไม่อาจจะผ่านค่ายกลออกไปได้
ทั้งสะพานเชื่อมสวรรค์และโถงศักดิ์สิทธิ์จะใช้กับค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิตได้ก็ต่อเมื่อไม่มีอัครสูงสุดคอยสนับสนุนมัน
แต่หัวหน้าผู้อาวุโสยังคงใจเย็นได้ราวกับ่วาเขามั่นใจว่าต้องทำสำเร็จ เขาพูดขึ้นมา “ไม่ต้องกังวล การกลับมาของหัวหน้าพิรุณอยู่ในการคาดการณ์ของข้า ยังไงซะนางก็เป็นหนึ่งในยอดฝีมือไม่กี่คนที่เข้าใจกฎมิติ เป็นธรรมดาที่นางจะกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นนี้”
เจี้ยนเฉินใจเต้นรัว “หัวหน้าผู้อาวุโส ผู้อาวุโสโมเทียนหยุนจะมาหรือไม่ ? ”
ตามความเห็นของเจี้ยนเฉินแล้ว โมเทียนหยุนสามารถรับมือกับหัวหน้าพิรุณได้ ตามที่เขาเข้าใจเกี่ยวกับลัทธิปิศาจชั้นฟ้า แม้ว่าพวกนั้นจะมีราชาเทพและอสงไขยมากมายแต่ก็อ่อนแอกกว่ากองกำลังชั้นนำต่าง ๆ ในเรื่องยอดฝีมือบรรพกาล
สำหรับอัครสูงสุดแล้ว มันมีแค่โมเทียนหยุนเพียงคนเดียวเท่านั้น
ลัทธิปิศาจชั้นฟ้าไม่เหมือนจักรวรรดิเมฆทวีที่รับยอดฝีมือภายนอกเข้ามาได้มากมาย ภายในลัทธิปิศาจชั้นฟ้านั้นมีอันดับตั้งแต่ขอบเขตดั้งเดิมจนไปถึงบรรพกาล ทั้งหมดต่างก็เป็นคนของลัทธิ พวกเขาอาจจะเข้าใจกฎต่างกันไป แต่พวกเขาต่างก็ฝึกฝนทักษะปิศาจ
“หากนายท่านลงมือได้ ทำไมเราถึงต้องยื้อไว้นานเช่นนี้ ? นายท่านนั้นมีเรื่องสำคัญกว่าต้องไปจัดการ เขาไม่อาจจะมาที่นี่ได้” เซิ่งหมิงพูดขึ้น เขามองไปที่ท้องฟ้าก่อนที่จะละสายตากลับมา เขาได้ทำการเก็บน้ำและโคลนต่อไป
“เจ้ากล้าดียังไงถึงได้มาขโมยกล้วยไม้ห้าธาตุของข้า ! ลัทธิปิศาจชั้นฟ้า เจ้ามันบังอาจยิ่งนัก ! ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาบนท้องฟ้า มันคือเสียงของสตรีอันไพเราะ แต่มันกลับแฝงไปด้วยความเย็นชาและหงุดหงิดไม่รู้จบ มันดังไปทั่วเขตทั้งห้าของที่ราบสำราญ แค่เสียงนี้เพียงลำพังก็ทำให้พื้นดินสั่นไหวเล็กน้อยได้
หัวหน้าพิรุณกลับมาแล้ว นางยืนอยู่บนอากาศภายในห่าฝน นางได้ใช้ค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิตครอบคลุมทั้งที่ราบสำราญเอาไว้ นางใช้ค่ายกลเพื่อผนึกมิติทั้งหมดที่นั่น
ตอนนั้นที่ราบสำราญเหมือนกับกลายเป็นโลกที่แยกออกไป มันตัดขาดจากโลกภายนอก แม้แต่ค่ายกลเคลื่อนย้ายภายนอกก็ไม่อาจจะทำงานได้
ชัดแล้วว่าหัวหน้าพิรุณทำแบบนี้ก็เพื่อขังลัทธิปิศาจชั้นฟ้าเอาไว้ในที่ราบสำราญและกันไม่ให้พวกนั้นหนีได้ การกระทำของลัทธิปิศาจชั้นฟ้านั้นทำให้นางหงุดหงิด
“นี่คือการหลอมรวมกฎมิติกับค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิต หัวหน้าพิรุณผนึกทั้งที่ราบสำราญเอาไว้” ในเวลาเดียวกันสีหน้าของตัวตนโบราณและบรรพชนต่าง ๆ ทั่วที่ราบสำราญก็เปลี่ยนไป
“บัดซบ หัวหน้าพิรุณทำเกินไปหน่อยแล้ว นางคิดว่าที่ราบสำราญเป็นของนางรึ ? นางกลับสร้างค่ายกลที่แข็งแกร่งแบบนี้ออกมาโดยไม่ส่งสัญญาณเตือนใด ๆ เลยแม้แต่น้อยและปิดทั้งที่ราบเอาไว้…” ตัวตนโบราณหลายคนพากันหงุดหงิด บางคนถึงกับตัวสั่น
ตอนนั้นลำแสงหนึ่งได้พุ่งออกมาจากมิติภายนอก มันเปล่งแสงสว่างจ้าให้ความสว่างกับมิติอันมืดมิดและทำให้ดวงดาวนั้นดูหม่นหมองไปในพริบตา
ลำแสงนี้รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ มันตัดผ่านระยะกว่าพันล้านกิโลเมตรได้ในพริบตา มันเหมือนกับก้าวข้ามขีดจำกัดมิติและเวลาได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วแสง มันได้ปรากฏขึ้นที่ด้านนอกที่ราบสำราญได้ในพริบตา กระบี่เล่มหนึ่งลอยอยู่ในลำแสงนั้น มันได้ฟันเข้าใส่ค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิตบนที่ราบสำราญด้วยพลังของกฎแห่งกระบี่
การโจมตีนี้น่ากลัวอย่างมาก เมื่อมันฟาดฟันลงมาโลกก็ตกสู่ความมืดมิด มิติได้แตกออกพร้อมกับแสงทั้งหมดได้หายไป
เสียงฮึดฮัดอันเย็นชาดังขึ้นมาจากภายในค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิต หัวหน้าพิรุณได้พุ่งออกมา ชั้นเมฆหนาห่อหุ้มรอบตัวเนางพร้อมกับพลังของนางที่ปะทุออกมาจนทำให้จักรวาลสั่นไหว
กระบี่ยาวบางราวกับกิ่งไม้ได้ปรากฏขึ้นในมือของหัวหน้าพิรุณ นางได้แทงออกไปในทันที
กระบี่ได้หลอมรวมกับมิติรอบข้าง มันเคลื่อนที่ได้ดั่งสายฟ้า มันได้เข้าปะทะกับกระบี่ในทันที
ตูม !
การปะทะนี้น่าตกตะลึง มันรุนแรงอย่างมาก มิติโดยรอบพังลงจนเกิดรูกว้างหลายร้อยเมตรขึ้นมาดูดกลืนทุกอย่างที่นั่น
กระบี่ที่พุ่งมาจากอวกาศภายนอกเหมือนจะรับมือกับหัวหน้าพิรุณได้
“หัวหน้าพิรุณพบกับคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อแล้ว ใครกัน ? ใช่หัวหน้าผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าหรือไม่ ? ”
“ไม่ เขาได้มีพลังปิศาจเลยแม้แต่น้อย มันคือพลังของกฎแห่งกระบี่ล้วน ๆ เขาไม่มีทางเป็นผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าได้..”
“ช่างเป็นกฎแห่งกระบี่อันแข็งแกร่ง แค่พลังในการโจมตีเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะฆ่าเราได้ เขาแข็งแกร่งจริง ๆ…”
…….
ยอดฝีมือบนที่ราบสำราญต่างก็พูดกันออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ตาของพวกเขาเป็นประกายขึ้นมาและมองดูการต่อสู้ที่อวกาศรอบนอกอย่างตกตะลึง