เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2197 : การตายของขอบเขตตั้งต้น (1)
ตอนที่ 2197 : การตายของขอบเขตตั้งต้น (1)
ตูม !
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับกระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ได้ปะทะกับฝ่ามือโลกาวินาศอย่างรุนแรง ปราณกระบี่อันแหลมคมและเจิดจ้าราวกับดวงดาวได้สะท้อนออกมา
นี่คือการปะทะกันของขอบเขตตั้งต้น พลังบรรพกาลอันแข็งแกร่งได้ปะทะกับทักษะต่อสู้ระดับเทพซึ่งทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ กฎแห่งกระบี่และกฎแห่งการสังหารได้ปะทะกันพร้อมกับพลังบรรพกาลและพลังงานดั้งเดิมได้เข้าห้ำหั่นกัน ที่นั่นราวกับมีพลุไฟปะทุออกมา
คลื่นพลังงานอันน่ากลัวนี้ได้ทำให้มิติรอบข้างสั่นไหว ด้วยพลังทำลายล้างนี้ มันได้กดมิติของโลกจิ๋วให้สั่นไหวไปทั่วทุกทิศทาง
คลื่นพลังงานได้ผลักเจี้ยนเฉินให้ถอยกลับมา เขาปกป้องตัวเองด้วยแสงจากกฎแห่งกระบี่ เขาได้ใช้การป้องกันของร่างบรรพกาลออกมาจนถึงขีดสุด เขาได้ฟันกระบี่ออกไปอย่างต่อเนื่องเพื่อตัดพลังงานที่เข้ามาให้เป็นชิ้น ๆ ทุกการโจมตีนั้นจะมีแสงราวกับดวงดาวสะท้อนออกมา
ในอีกด้านบรรพชนของตระกูลนักรบโลหิตก็สีหน้าหม่นลง ร่างกายของเขาไม่อาจจะทนรับพายุพลังงานที่รุนแรงแบบนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องถอยกลับไปเช่นกัน
พวกเขาได้ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ในการโจมตีครั้งนี้โดยไม่ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย ผลก็คือทั้งสองยากที่จะประคองตัวเองได้ภายใต้คลื่นพลังงานที่รุนแรงเช่นนี้
“ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่า นายน้อยเจียงหยางจะเป็นปัญหาถึงเพียงนี้ พลังที่เขาใช้มันแปลกซึ่งข้าไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน รวมกับวัตถุเทพที่เขามีแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะฆ่าเขา อย่างมากก็คงทำให้ทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บสาหัส” บรรพชนคิด ตอนนั้นเขารู้สึกผิดขึ้นมา เขาสบถตัวเองกับการลงมือหุนหันโดยไม่ได้ประเมินความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ให้ดีก่อน
ตอนที่เขาคิดแบบนั้น ใจของเขาก็เต้นรัว สายตาเขาถึงกับหรี่ลงและมองไปด้านหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พายุพลังงานอันรุนแรงนั้นยังไม่สลายไป มันทำให้มิติสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง มันทำให้พื้นที่ตรงหน้าเขากลายเป็นภาพพร่ามัว แม้แต่ด้วยสายตาของเขา เขาก็ไม่อาจจะมองทะลุอะไรได้ การรับรู้วิญญาณของเขาก็ได้รับผลกระทบไปด้วย
ตอนนั้นได้มีปราณกระบี่ได้ปะทุออกมา ลำแสงได้พุ่งออกมาจากพายุพลังงาน กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ได้ฉีกพายุพลังงานออกพร้อมกับปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งเปลี่ยนเป็นลำแสงสีขาวแทงเข้าใส่บรรพชนด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
สายตาของบรรพชนยังคงเยือกเย็น สีหน้าเขาเย็นชาพร้อมกับเกราะสีแดงเลือดได้ปรากฏขึ้นมาห่อหุ้มตัวเขาไว้ กระบี่ได้ปรากฏขึ้นมาในมือเขาสะท้อนความเย็นชาออกมา กฎแห่งการสังหารได้มารวมตัวกันพร้อมกับที่เขาได้ฟันเข้าใส่เจี้ยนเฉินด้วยพลังที่น่ากลัว
ฉัวะ !
กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ได้แทงทะลุเกราะของบรรพชนในคราวเดียวพร้อมกับสะท้อนแสงดาวออกอมา มันแทงเข้าไปในอกของบรรพชนด้วยปราณกระบี่ที่แหลมคมและพลังบรรพกาลที่แผ่เข้าไปในบาดแผลลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ปลายกระบี่ได้โผล่มาจากที่หลังของบรรพชนพร้อมกับเลือดของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นได้หยดออกมาจากปลายกระบี่
ในเวลาเดียวกันนั้นกระบี่ของบรรพชนก็ได้แทงเข้าใส่ร่างกายของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยังคงดูเฉยชา สายตาเขายังสะท้อนความเย็นชาออกมา พลังบรรพกาลได้โคจรอยู่ในตัวเขาอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเส้นพลังมากมายที่ปะทุออกมาจากเม็ดพลังบรรพกาล มันราวกับม้าป่าที่คลั่งวิ่งไปทั่วตัวเขา ส่วนมากได้ไปรวมตัวกันที่ตำแหน่งบาดแผลหลอมรวมเข้ากับเลือด, เนื้อและกระดูกที่นั่น
เขาได้ใช้การป้องกันของร่างบรรพกาลขั้นที่ 13 จนถึงขีดสุดซึ่งทำให้ร่างกายของเขาเข้าถึงภาวะที่แข็งแกร่งที่สุดได้ เขาไม่ได้กลัวการโจมตีใด ๆ รวมกับพลังบรรพกาลมหาศาลแล้ว ตำแหน่งบาดแผลที่เขาได้รับไม่ว่าจะเป็นเลือด, เนื้อ, เส้นเอ็นหรือกระดูกต่างก็แข็งแกร่งอย่างมาก
ทันทีที่กระบี่ของบรรพชนได้แทงเข้าใส่อกของเจี้ยนเฉิน เขาก็พบกับแรงต้านมหาศาล มันยากขึ้นเรื่อย ๆ กับการผลักกระบี่เข้าไปในร่างของเจี้ยนเฉิน สุดท้ายแล้วอาวุธนั้นก็หยุดนิ่งระหว่างซี่โครงสองซี่และไม่อาจจะแทงเข้าไปได้ต่ออีก
บรรพชนอดไม่ได้ที่จะตะลึง ตาเขาเบิกกว้างและมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยท่าทีเหลือเชื่อ เขาตกตะลึง
เป็นธรรมดาที่เขาจะบอกได้ว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้มีสมบัติป้องกันแต่อย่างใดตามที่เขาเห็น กระบี่ของเขาไม่อาจจะแทงเจี้ยนเฉินต่อได้เพราะร่างกายของเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งเกินไป มันแข็งแกร่งจนจนน่าตกใจ แค่ความแข็งแกร่งของร่างกายเพียงอย่างเดียวก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฆ่าเจี้ยนเฉินด้วยอาวุธเซียนระดับสูงสุด
หากเขาไม่อาจจะฆ่าศัตรูได้ มันก็มีแค่จุดจบของตระกูลนักรบโลหิตที่รอเขาอยู่
จู่ ๆ สีหน้าของบรรพชนก็แน่นิ่งไป เขามองไปที่เจี้ยนเฉินและอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมา เขาตะโกนออกมา – “ ข้ารู้แล้ว ! เจ้าไม่ใช่นายน้อยเจียงหยาง ! ชื่อเจ้าเป็นชื่อปลอม ตัวตนก็ปลอม แม้แต่หน้าตาเองก็ปลอม ! เจ้าคือเจี้ยนเฉินที่บรรพชนกระบี่เดียวดายและราชาเผิงสีฟ้าต้องการตัว”
“ไม่ผิดแน่ ไม่ผิดแน่ เจ้าคือเจี้ยนเฉิน เจ้ามีร่างกายที่แข็งแก่รงและแปลกแต่กลับมีพลังงานที่รุนแรง เจ้าเข้าใจกฎแห่งกระบี่และเจ้าได้ใช้วัตถุเทพที่ส่องประกายแสงดาว ทุกข้อนี้ต่างก็เข้ากับคำอธิบายในใบประกาศจับของเจ้า”
หลังจากที่เดาตัวตนของเจี้ยนเฉินออก สีหน้าหม่นหมองของบรรพชนก็หายไป เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า เจี้ยนเฉิน ใครจะไปรู้ว่ามีกี่คนที่ตามล่าเจ้า แต่เป็นข้าเองที่พบเจ้าที่นี่ มันเป็นพรจากสวรรค์”
บรรพชนดีใจขึ้นมา นายน้อยเจียงหยางจริง ๆ แล้วคือเจี้ยนเฉิน ไม่ใช่แค่มันไม่ต้องกังวลเรื่องการแก้แค้นจากคนที่หนุนหลังนายน้อยเจียงหยาง แต่เขายังรายงานร่องรอยของเจี้ยนเฉินให้กับบรรพชนกระบี่เดียวดายและราชาเผิงสีฟ้าได้ ซึ่งทำให้ทั้งสองติดหนี้บุญคุณเขา
ด้วยหนี้บุญคุณกับพวกระดับสูงทั้งสองนี้ มันก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะหาเรื่องตระกูลเขาอีกต่อไป แม้แต่ทั้งบนดาวเคราะห์นี้
จากนั้นแม้แต่ผู้ปกครองดาวก็ต้องเคารพและนอบน้อมต่อพวกเขา
นี่เพราะทั้งบรรพชนกระบี่เดียวดายและราชาเผิงสีฟ้าต่างก็เป็นคนที่น่ากลัวจนถือได้ว่าไร้เทียมทานบนดาวเคราะห์เทียนหมิง