เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2182 : ขั้นสมบูรณ์แบบของจิตวิญญาณกระบี่
ตอนที่ 2182 : ขั้นสมบูรณ์แบบของจิตวิญญาณกระบี่
ตอนนั้นทั้งสามคนอดไม่ได้ที่จะเห็นแก่ตัวเมื่อวิถีดั้งเดิมพุ่งผ่านพวกเขา พวกเขาจมไปกับการทำความเข้าใจกฎ ผลก็คือไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาได้ดูดซับวิถีดั้งเดิมไปมากแค่ไหน
ในเวลาเดียวกันนั้นใกล้ ๆ กับที่ราบเหอหนิวไกลจากจุดที่เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ อยู่ พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนตั้งอยู่ราวกับสัตว์อสูรบรรพกาล
แม้ว่ามันจะผ่านมาหลายวันตั้งแต่ที่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนปิดไป แต่ไม่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญทุกคนจะออกมาจากที่นั่นแต่กลับมีเหลืออยู่ถึงสามในสิบส่วน
คนพวกนี้มารวมตัวกันตรงหน้าพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนโดยเว้นระยะห่างเอาไว้ พวกเขาใจเย็นและมองไปยังพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ พวกเขาเหมือนไม่คิดจะกลับออกไปเลย
อุกกาบาตขนาดใหญ่ลอยอยู่เหนือหัวพวกเขา บรรพชนกระบี่เดียวดายนั่งอยู่บนอุกกาบาต เขาเองก็รออยู่ที่นั่นด้วย
“ข้ามาจากตระกูลชางหยุนของที่ราบสวรรค์เดียวดาย ข้าเป็นตัวแทนของตระกูลชางหยุนโดยหวังว่าจะได้พบกับเจ้าของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน…”
“ข้ารับหน้าที่ดูแลตระกูลเทียนเหอจากที่ราบเทพกันดาร ข้าหวังว่าจะได้พบกับเจ้าของคนใหม่ของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนและทำความรู้จักเจ้าของคนใหม่…”
“เรามาจากดาวเคราะห์ม่วงเรืองรองของดาวเคราะห์ใหญ่ทั้ง 81..”
…
คำพูดคล้าย ๆ กันนี้ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง คนที่ยังอยู่ที่นั่นมาจากองค์กรใหญ่จากที่ต่าง ๆ พวกเขารู้ข่าวเรื่องเจ้าของคนใหม่ของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนว่ายังเด็กและมีรากฐานการบ่มเพาะที่ต่ำ ดังนันพวกเขาจึงอยากใช้สถานการณ์นี้ให้ความช่วยเหลือกับนาง เพื่อที่พวกเขาจะได้ผูกสัมพันธ์กับนางเอาไว้หรืออาจจะดึงนางเข้าพวก แต่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนไม่มีการตอบสนองเลยแม้แต่น้อย จิตวิญญาณวัตถุไม่ได้ตอบรับคำขอของพวกนี้ แต่พวกนี้กลับไม่ได้หงุดหงิดแต่อย่างใด พวกเขากลับรออยู่ด้านนอกอย่างใจเย็น
ชัดแล้วว่าหลังจากที่เสี่ยวม่านได้เป็นเจ้าของคนใหม่ของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน นางก็เป็นหนึ่งในคนที่คนส่วนมากในโลกเซียนต้องการในตอนนี้
ตอนนั้นพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนจู่ ๆ ก็เปล่งแสงสีฟ้าออกมา ซึ่งทำให้มันเหมือนกับมีทะเลลอยอยู่ที่มิติภายนอก ตอนที่แสงสีฟ้าครอบคลุมพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนก่อนที่จะพุ่งออกไปยังอวกาศรอบนอก
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนพากันถอนหายใจเมื่อเห็นแบบนั้น พวกเขาไม่ได้ไล่ตามพระราชวังศักดิ์สิทธิ์ไปเพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาหมดโอกาสที่จะผูกมิตรกับเจ้าของคนใหม่แล้ว
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้น ตอนนั้นมีกระบี่โบราณพุ่งออกไปและทำลายมิติ มันได้ทำลายเส้นทางที่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนผ่านไปบังคับให้พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนหยุด
ตอนนั้น บรรพชนกระบี่เดียวดายที่นั่งอยู่บนอุกกาบาตได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน เขายกกระบี่ในมือขึ้นและขวางทางพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนเอาไว้
“ เจ้าเฒ่า เจ้าขวางทางข้าอยู่ เจ้าต้องการอะไร ? ” จิตวิญญาณวัตถุของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนปรากตัวขึ้นมา เขายืนอยู่บนพระราชวงศ์ด้วยร่างเตี้ย ๆ เขาตะโกนใส่บรรพชนกระบี่เดียวดายและชี้ไปที่อีกฝ่าย
“ศพของศิษย์ข้ายังอยู่ในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน นี่คือพลังของศิษย์ข้า ส่งตัวเขามาและข้าจะกลับไปทันที” บรรพชนกระบี่เดียวดายพูดด้วยท่าทีเฉยเมย เขาโบกมือและพลังที่เป็นของกงเจิ้งก็ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าจิตวิญญาณวัตถุ
หลังจากที่รับรู้ได้ถึงพลังนั้น จิตวิญญาณวัตถุก็ฮึดฮัดออกมาด้วยท่าทีเบื่อหน่าย “นี่ศิษย์เจ้า เอาเขาไป แล้วหลีกไปให้พ้น” ตอนที่พูดนั้นเขาก็โยนศพในชุดที่ดูขาดวิ่นออกมาจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน หลังจากนั้นพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนก็พุ่งออกไปก่อนจะหายไปในจักรวาล
บรรพชนกระบี่เดียวดายมองไปที่ศพของกงเจิ้งและเผยสีหน้าเศร้าออกมา เขาชี้นิ้วไปยังหน้าผากของกงเจิ้งและใช้ทักษะลับ
ทันใดนั้นฉากตรงหน้ากงเจิ้งก็ได้แสดงขึ้นมาในความคิดของบรรพชนกระบี่เดียวดาย เขาเห็นวัตถุเทพที่ส่องแสงราวกับดวงดาวที่แทงเข้าใส่หัวของกงเจิ้งด้วยความเร็วแสง
“มีใครรู้จักชายผู้นี้บ้าง ? ” สายตาของบรรพชนกระบี่เดียวดายเย็นชาขึ้นมา เขาชี้นิ้วออกไปยังมิติที่ว่างเปล่าและใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็ปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน
“นั่นเจี้ยนเฉิน ! เขาคือเจี้ยนเฉิน ! ”
ทันใดนั้นสุดยอดราชาเทพที่ยังอยู่กับผู้อาวุโสของตนและยังไม่ออกไปก็ตะโกนออกมา
“เขาคือเจี้ยนเฉินรึ ? ชายที่ช่วยเด็กสาวในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนมาโดยตลอดรึ ? ” ตอนนั้นเองแม้แต่ผู้อาวุโสข้างกายสุดยอดราชาเทพต่างก็พากันอึ้ง พวกเขาถึงพากันผงะ
“ทิ้งเจี้ยนเฉินเอาไว้ ! ” บรรพชนกระบี่เดียวดายตะโกนออกมาด้วยความอาฆาต เขาเปลี่ยนเป็นลำแสงและไล่ตามพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนไป
….
“จิตวิญญาณกระบี่ขั้นสมบูรณ์แบบ ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าข้าทำให้จิตวิญญาณกระบี่เข้าถึงขึ้นสมบูรณ์แบบได้เร็วแบบนี้” เจี้ยนเฉินลืมตาขึ้นมาช้า ๆ สายตาของเขาไม่อาจจะปกปิดความยินดีที่มีได้
หลายปีก่อน เขาทำให้จิตวิญญาณกระบี่ขึ้นมาถึงขั้นความสำเร็จขั้นกลางได้ในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนซึ่งทำให้ร่างบรรพกาลของเขาขึ้นไปถึงขั้นที่ 12 และทำให้เขากลายเป็นราชาเทพ
ตอนแรกเขาเชื่อว่ามันคงใช้เวลายนาวนานกว่าจะทะลวงผ่านอีกครั้งและเข้าถึงขั้นสมบูรณ์แบบของจิตวิญญาณกระบี่
แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าแค่ไม่กี่ปีเขากลับทะลวงผ่านขึ้นรมาอีกครั้งด้วยเส้นทางแห่งกระบี่และขึ้นมาถึงขั้นสมบูรณ์แบบของจิตวิญญาณกระบี่ได้ มันราวกับฝันเป็นจริง
ไม่ใช่แค่ขั้นสมบูรณ์แบบของจิตวิญญาณกระบี่นั้นเพียงพอที่เจี้ยนเฉินจะอัดแน่นปราณกระบี่ลึกซึ้งเส้นที่สี่ขึ้นมา แม้แต่ร่างบรรพกาลของเขาก็ก้าวหน้าขึ้นมาถึงความสำเร็จขั้นกลางด้วย
ขั้น 13 ของร่างบรรพกาลคือความสำเร็จขั้นกลางและขั้นต่อจากนี้ 14 จนถึง 18 ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จขั้นกลาง
เหนือจากขั้น 18 ขึ้นไปคือขั้นสมบูรณ์แบบของร่างบรรพกาล ในประวัติศาสตร์แล้วไม่มีใครขึ้นถึงขั้นนั้นมาก่อน
“ทรัพยากรในการบ่มเพาะตอนนี้ข้ามีมากมาย ข้ามีเหรียญผลึกแห่งไฟอยู่หลายสิบล้านอัน, สมบัติสวรรค์ขั้นเทพ 2 อันที่ไม่รู้ว่าอยู่ขั้นไหนจากแหวนมิติของอัครสูงสุด, ของที่ได้มาจากสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์และทรัพยากรจากแหวนมิติของสุดยอดราชาเทพ ทรัพยากรพวกนี้น่าจะเพียงพอที่ข้าจะขึ้นไปถึงขั้นที่ 13 ของร่างบรรพกาลได้…” เจี้ยนเฉินตื่นเต้น เขาเก็บเหรียญผลึกแห่งไฟมากว่าร้อยล้านอันในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน แม้แต่หลังจากที่เขายกมันให้กับพี่สาวของเขา แต่มันก็ยังเหลืออยู่อีกหลายสิบล้านอัน
“เจี้ยนเฉิน ในที่สุดเจ้าก็ตื่น” เสียงของไคยะดังขึ้นมาด้านหลัง
เจี้ยนเฉินสลัดความคิดที่มีในหัวเมื่อได้ยินเสียงนี้ เขาหันกลับไปมองและพบว่าไคยะกับหญิงชรานั้นตื่นขึ้นมาแล้ว พวกนางยืนอยู่ใกล้ ๆ และมองมาที่เขา
“ข้าทำความเข้าใจนานแค่ไหนกัน ? ” เจี้ยนเฉินถามก่อนจะมองไปที่ไคยะ เขาพบว่าไคยะขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของราชาเทพช่วงกลางแล้ว
ความก้าวหน้าของไคยะทำให้เจี้ยนเฉินแปลกใจอย่างมาก ยังไงซะตอนที่ไคยะบ่มเพาะอยู่ในตระกูลเทียนหยวนก่อนหน้านี้ ความเร็วในการพัฒนาของนางก็น่าตกใจ มันบอกได้ว่าไคยะพัฒนาขึ้นมาจากขอบเขตดั้งเดิมมาเป็นเหนือเทพได้ในคราวเดียว
แต่เขาก็พบว่าความเร็วในการบ่มเพาะของไคยะกลับลดลงมาอย่างมากหลังจากที่ขึ้นเป็นราชาเทพซึ่งทำให้เขากังวล
ไคยะมองไปที่หญิงชราตรงหน้า ก่อนจะบอกกับเจี้ยนเฉินว่า “ข้าตื่นขึ้นมาคนแรก หากนับตอนที่ข้าตื่นขึ้นมา เจ้าก็ทำความเข้าใจมาได้ 1 เดือนแล้ว”
“เด็กน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าจะโชคทีที่ได้พบกับบางอย่างที่ล้ำค่าพอ ๆ กับวิถีดั้งเดิม แม้แต่ข้าก็ได้ผลดีจากเจ้า ไม่ใช่แค่ข้าฟื้นฟูการบาดเจ็บทั้งหมดจากวิถีดั้งเดิมนี้ แต่ความเข้าใจกฎของข้าก็ลึกซึ้งขึ้นไปด้วย” หญิงชรามองไปยัง เจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าซับซ้อน