เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2147: คู่รักมาพบเจอ
ตอนที่ 2147 – คู่รักมาพบเจอ
“พรสวรรค์ของเจี้ยนเฉินนั้นยิ่งใหญ่และความก้าวหน้าของเขารวดเร็วเกินไป ในเวลาเพียงสามถึงสี่ร้อยปี เขาเติบโตขึ้นจากขอบเขตมนุษย์สู่ราชาเทพ และความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นยิ่งใหญ่มากจนเขาสามารถฆ่าสุดยอดราชาเทพจากบัลลังก์ทำเนียบราชาเทพในขณะที่เป็นเพียงราชาเทพช่วงต้น เขายังไปไม่ถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางในฐานะราชาเทพ ดังนั้นจึงมีพื้นที่มากมายสำหรับการเติบโตในอนาคต ด้วยความสามารถในการต่อสู้ในปัจจุบันของข้า ข้าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเมื่อเขาไปถึงจุดสูงสุดของราชาเทพ” ซุยหยุนหลันคิด ความรู้สึกของนางปะปนกันเป็นประกายผ่านแววตาอันเย็นชาของนาง
“ แต่ทำไมเขาต้องเป็นส่วนหนึ่งของโลกอมตะและเป็นผู้สืบทอดของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง ? เทพธิดาน้ำแข็งได้รับบาดเจ็บจากจอมปราชญ์สูงสุดแห่งนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงในอดีต แต่นางก็ยังไม่ฟื้นตัว สถานการณ์ของนางนั้นยังไม่มีใครรู้ นางไม่เคยให้ความสนใจใด ๆ กับผู้ทรยศของศาลาเทพธิดาน้ำแข็ง ในที่สุดเจี้ยนเฉินก็ยังคงเป็นศัตรูของศาลาเทพธิดาน้ำแข็งของเรา ข้าสงสัยว่าการเปิดเผยตัวตนของข้าจะเป็นการทำให้เทพธิดาหิมะให้ตกอยู่ในอันตราย การช่วยเจี้ยนเฉินเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่?…”
“เฮ้อ อะไรก็ตาม สิ่งที่โมเทียนหยุนพูดในอดีตนั้นไม่ได้ไร้ซึ่งเหตุผล ตอนนี้ศาลาเทพธิดาน้ำแข็งกำลังเผชิญกับอันตรายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งเกือบจะเผชิญหน้ากับความตาย มีอะไรให้ข้าได้ใช้ในการร้องทุกข์หรือ ? เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าศาลาเทพธิดาน้ำแข็งสามารถอยู่รอดได้หรือไม่ สิ่งความสำคัญที่สุดก็คือฝ่าบาทฟื้นฟูความแข็งแกร่งของนาง มีเพียงฝ่าบาทฟื้นความแข็งแกร่งสูงสุดของนาง เราจึงอาจจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้”
ซุยหยุนหลันถอนหายใจข้างใน ความก้าวหน้าของเจี้ยนเฉินไม่เพียงทำให้นางประหลาดใจ แต่ยังคุกคามนางและทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
ในทางกลับกัน เจี้ยนเฉินก็รู้สึกผิดหวังหลังจากรู้ว่าเจียงหยางหมิงเยว่ไม่ได้เข้าสู่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนมาพร้อมกับซุยหยุนหลัน ในตอนนี้เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงใบหน้าอันคุ้นเคยของเจียงหยางหมิงเยว่ ความทรงจำในวัยเด็กของเขาฉายอยู่ตรงหน้าเขาราวกับน้ำพุเหมือนกับว่ามันยังสดใหม่อยู่ แม้จะผ่านไปหลายศตวรรษ เขาก็ยังจำพวกมันได้เหมือนว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้
เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อเขาตั้งใจแน่วแน่ว่าว่าจะเป็นคนพิการที่ไม่สามารถฝึกฝนได้ในช่วงเยาว์วัย สถานะของเขาในตระกูลเจียงหยางก็ร่วงหล่นจากดาวที่น่าตื่นตาไปเป็นผู้ที่แม้แต่บ่าวรับใช้ทั่วไปก็เย้ยหยัน ในช่วงเวลานั้นเจียงหยางป้า พ่อของเขาเริ่มเย็นชากับเขา ในตระกูลเจียงหยาง มีเพียงพี่สาวของเขาก็คือเจียงหยางหมิงเยว่ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลเขามากที่สุดนอกเหนือจากแม่ของเขา นางดูแลเขาในรายละเอียดที่เล็กที่สุด ในขณะที่คิดทุกสิ่งเกี่ยวกับเขา
ในสายตาของหลาย ๆ คน ความสัมพันธ์นี้ในฐานะพี่น้องอาจเป็นสิ่งที่ธรรมดา อย่างไรก็ตาม สำหรับเจี้ยนเฉินผู้ซึ่งเคยมีประสบการณ์ชีวิตในฐานะเด็กกำพร้า มันทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นและทำให้เขาประทับใจ เขาจำได้และประทับใจกับมัน ดังนั้นมันจึงกลายเป็นความทรงจำที่ฝังลึกในจิตวิญญาณของเขาอย่างแน่นหนาจนเขาจะไม่มีวันลืมมัน
นับตั้งแต่เขาแยกตัวจากเจียงหยางหมิงเยว่ในทวีปเทียนหยวน เจี้ยนเฉินไม่เคยพบนางอีกเลย เขาโหยหาพี่สาวของเขา
“เจี้ยนเฉิน เจ้ามาจากทวีปเทียนหยวนใช่หรือไม่ ? ” ในขณะนี้รุยตี้ถามเจี้ยนเฉินอย่างกังวล ในขณะที่จ้องมองเขาอย่างกระตือรือร้น
แสงทอประกายส่องผ่านดวงตาของเจี้ยนเฉินทันทีเมื่อรุยตี้พูดถึงทวีปเทียนหยวน ควรมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับทวีปเทียนหยวนในโลกแห่งเซียน ดังนั้นคนตรงหน้าเขารู้ได้อย่างไร ? บางที…
“ท่านคือ ? ” เจี้ยนเฉินมองไปที่รุยตี้
“ เรา รุยตี้และสวีเย่ จากนิกายมังกรและฟินิกซ์เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลมังกรและฟีนิกซ์ที่พยัคฆ์ปีกเทวะพาสู่โลกแห่งเซียนจากทวีปสัตว์เทวะ” เอเดรียนน่าแนะนำรุยตี้และสวีเย่ให้กับเจี้ยนเฉิน
“อะไรนะ ? ท่านเป็นตระกูลมังกรและฟีนิกซ์ที่ออกจากทวีปสัตว์เทวะในอดีตงั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งเมื่อเขารู้ว่ารุยตี้และสวีเย่เป็นใคร แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็รู้สึกดีใจมากและมีความคิดอยู่ในหัวของเขาอย่างเงียบ ๆ
เขาเพิ่งกังวลเกี่ยวกับวิธีการค้นหาตระกูลของรุยจินและหงเหลียนที่ออกจากทวีปเทียนหยวนไปเมื่อหนึ่งล้านปีก่อนในโลกเซียนอันกว้างใหญ่ เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเจอคนจากนิกายมังกรและฟินิกซ์ด้วยความบังเอิญระหว่างที่เขาเดินทางไปที่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน สิ่งนี้ทำให้เขาประหลาดใจและมีความสุข เขายินดีมาก
ในเวลานี้ เอเดรียนน่าก็ยิ้มอย่างลึกลับและพูดกับเจี้ยนเฉินว่า “เจี้ยนเฉิน ดูสิว่านี่คือใคร” เมื่อนางพูด โถงศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นในมือของนางซึ่งถูกโยนขึ้นไปในอากาศอย่างนุ่มนวลโดยเอเดรียนน่า
ทันใดนั้นห้องโถงศักดิ์สิทธิ์ก็ขยายตัวขึ้นในอากาศกลายเป็นความกว้างยาวหลายร้อยเมตรในครั้งเดียว ด้วยเสียงทุ้มลึก มันตกลงบนพื้นอย่างนุ่มนวลและเตะฝุ่นลอยขึ้นมา
เจี้ยนเฉินมองไปที่โถงอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยความสับสนและความอยากรู้อยากเห็น เขาไม่รู้ว่าเอเดรียนน่าวางแผนอะไรไว้
ในขณะนี้ประตูโถงศักดิ์สิทธิ์เปิดออกอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสีม่วงพร้อมกับพิณก็เดินออกมา นางสวยมาก นางเหมือนกับเทพธิดา
เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะแข็งกลายเป็นหิน เมื่อเขาเห็นผู้หญิงคนนั้น ทันใดนั้นเขาก็ตัวแข็งทื่อเพราะความไม่อยากจะเชื่อปรากฏอยู่บนใบหน้าที่หล่อเหลาและมั่นใจของเขา
“มู่เอ๋อ ! ” แต่ในวินาทีต่อมา เจี้ยนเฉินก็ร้องออกมาทันที เขาพุ่งเข้าหาด้วยอารมณ์และสวมกอดซ่างกวนมู่เอ๋อไว้แน่น
“เจี้ยนเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่” ซ่างกวนมู่เอ๋อก็พยายามดิ้นรนเพื่อรักษาความสงบของนางเมื่อนางเห็นเจี้ยนเฉิน นางร่าเริงในขณะที่นางยิ้มจาง ๆ นางเก็บพิณปิศาจร่ำไห้ออกไปแล้วกอดเจี้ยนเฉินเบา ๆ โดยศีรษะของนางแนบกับหน้าอกของเขา
ในขณะที่พูดในสิ่งที่ต้องการ การห่างหายไปทำให้ปวดใจยิ่งขึ้น หลังจากถูกแยกจากกันเป็นเวลาหลายสิบปี เจี้ยนเฉินและซ่างกวนมู่เอ๋อก็ได้แต่เป็นห่วงความปลอดภัยของกันและกันในโลกเซียนที่อันตราย ตอนนี้พวกเขากลับมาเจอกันอีกครั้ง ความรู้สึกที่อดกลั้นไว้มันได้พลันปะทุขึ้นราวกับน้ำพุร้อน
“เจ้าเป็นอย่างไรในลัทธิเต๋าเสียงศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันยากลำบากหรือไม่ …” เจี้ยนเฉินพูดเบา ๆ ในขณะที่เสียงของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
“น้องชาย มีเด็กคนหนึ่งที่ชื่อจุนกงที่แอบชอบน้องสะใภ้ ท่านควรระวังเขา เขาไม่ได้อ่อนแอ เช่นเดียวกันเขาเป็นสุดยอดราชาเทพและเขามีวัตถุเทพ” หมิงตง ผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้างและกินยาระดับเทพเพื่อรักษาตัวก็พลันพูดกับเจี้ยนเฉิน
“จุนกง ? ” เจี้ยนเฉินพึมพำในขณะที่เขามองดูไปที่ซ่างกวนมู่เอ๋อเขากำลังตั้งคำถามกับนาง
“อาจารย์ของจุนกงเป็นหนึ่งในสี่บรรพชนของลัทธิเต๋าเสียงศักดิ์สิทธิ์ เขายังเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในทุกภูมิภาค ที่ผ่านมาเขาสนใจข้ามานานแล้ว เมื่อข้ามาที่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนครั้งนี้ จุนกงถูกส่งมาโดยบรรพบุรุษเพื่อปกป้องข้า…” ซ่างกวนมู่เอ๋อบอกกับเจี้ยนเฉินเกี่ยวกับเรื่องของจุนกง โดยไม่ปิดบังอะไรเลย
“น้องชาย อย่าหาว่าข้าไม่เตือน เด็กคนนั้นที่ชื่อจุนกงต้องการจะฆ่าเจ้า” หมิงตงกล่าวขณะที่เขากำลังฟื้นฟู