เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2121: มรดกของอัครสูงสุด
ตอนที่ 2121: มรดกของอัครสูงสุด
ตอนนี้เสี่ยวม่านเชื่อฟังเจี้ยนเฉินหมดใจ โดยปกตินางก็ทำสิ่งที่เขาบอกโดยไม่ขัดขืนอยู่แล้ว
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็ให้เสี่ยวม่านกลับเข้าไปในหอคอยอนัตตา เขาหยิบจี้ของเสี่ยวม่านและขวดหยกที่มีเลือดของนางก่อนที่เข้าไปยังชั้น 12 ของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน
ทางเข้าสู่ชั้น 12 นั้นไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว เจี้ยนเฉินรู้มานานแล้ว
ทำให้เขาต้องรีบอย่างถึงที่สุดและไม่คิดอะไรมากขณะที่มาที่ชั้น 12 อย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เขาก้าวเท้าไปที่ชั้น 12 เจี้ยนเฉินก็เห็นรูปปั้นทั้ง 4 ที่จากระยะไกล ๆ ที่ดูเหมือนจะเชื่อมฟ้ากับปฐพี เขารู้สึกตกใจมาก
นอกจากหนึ่งในนั้นที่อับแสงแล้วพวกมันทั้งหมดต่างก็ถูกโอบล้อมด้วยแสงสลัว ๆ ความกดดันอันมหาศาลของอัครสูงสุดดูเหมือนจะเปล่งประกายออกมามากพอที่จะบดขยี้ดวงดาวและข้ามฟากฟ้าไปได้ ดูเหมือนว่าจะมีการพลังแห่งการมีอยู่ของผู้มีอำนาจสูงสุดของโลก
เจี้ยนเฉินรู้ว่ารูปปั้นทั้ง 4 ถูกทิ้งไว้ที่นี่โดยบรรพชนทั้ง 4 ของลัทธิเต๋าแห่งเนปจูน
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินไม่ได้เข้าไปใกล้รูปปั้น เขายืนอยู่ที่ไกลมาก ๆ เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อรับมรดกของอัครสูงสุด แต่มาเพื่อปลุกจิตวิญญาณวัตถุ
มีราชาเทพมากมายรวมตัวกันใกล้ ๆ รูปปั้นทั้งสาม เจี้ยนเฉินไม่ต้องการที่จะดึงความสนใจ เช่นนี้เขาจะไม่เปิดเผยตัวเอง ดังนั้นเขาไม่เพียงแต่จะปกปิดพลังแห่งการมีอยู่ทั้งหมดของเขา เขายังปิดไปถึงสัมผัสวิญญาณของเขา
ทันใดนั้นดวงตาของเจี้ยนเฉินก็หรี่ลง เขาพบบุคคลที่คุ้นเคยจำนวนหนึ่งอยู่ในกลุ่มคนที่ไกล ๆ เขาถอยออกมาทันทีโดยไม่ได้แสดงเจตนาใจใด ๆ และมองออกไป เขาไม่กล้าที่จะสร้างความสนใจมากเกินไป
“มันเป็นองค์ชายห้าของจักรวรรดินภาและปรมาจารย์ชู ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะอยู่ที่นี่เช่นกัน แม้ว่าจะปลอมรูปลักษณ์และส่วนสูงของข้าแล้ว แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบนั้น ข้าไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะจำข้าได้จากร่องรอยเล็กน้อย ๆ ดูเหมือนว่าข้าต้องอยู่ให้ห่างจากที่นั่น” เจี้ยนเฉินคิดอย่างรวดเร็ว ราวกับภูตผี เขาแฝงตัวเข้าไปในป่าและกลืนเข้าไปสภาพแวดล้อมรอบ ๆ เพื่อปกปิดตัวเอง ในขณะที่เขาเดินไปอย่างเงียบ ๆ
ไม่นาน เจี้ยนเฉินก็เดินทางไปกว่า 100,000 กิโลเมตร เมื่อห่างมากพอแล้วเขาก็หยิบเอาจี้ของเสี่ยวม่านและขวดเลือดของนางออกมา เขาหยดเลือดบางส่วนลงบนจี้โดยไม่ลังเล
ไม่นานเลือดก็หยดลงไปที่จี้และถูกดูดซับไว้เงียบ ๆ มันหายเข้าไปในจี้หยกและหลังจากนั้นการปรากฏที่ลึกลับที่แม้กระทั่งเจี้ยนเฉินก็ยังไม่สัมผัสได้ก็ลอยออกมา มันซึมซับสภาพแวดล้อมรอบ ๆ
หลังจากทำอย่างนั้น เจี้ยนเฉินก็รออย่างอดทน อย่างไรก็ตามเขารอนานมาก แต่จิตวิญญาณวัตถุก็ยังไม่ตื่น
ในเวลาเดียวกัน ตาข่ายขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังงานก็ขยายตัวออกไปทั่วทุกพื้นที่ในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนและล้อมรอบทั่วทั้งสถานที่ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นกับดักกักขังอะไรก็ตามที่อยู่ในนั้น
ตาข่ายพลังงานดูเหมือนจะมีชีวิต มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาก่อนที่จะค่อย ๆ หดตัวเข้าหาศูนย์กลาง มันเล็กลงเรื่อย ๆ
“ข้าเป็นเจ้าของที่นี่ ข้าเป็นผู้กำหนดทุกอย่างที่นี่ ข้ามีพลังไม่สิ้นสุดในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เจ้าไม่อาจดักจับข้าและไม่อาจดูดซับข้าและแทนที่ข้า….” ในตอนนี้พลังจิตที่โกรธเกรี้ยวก็ตะโกนออกมาผ่านตาข่ายที่อยู่ภายใน
มีพลังจิตโบราณภายในตาข่ายพลังงาน มันต่อต้านการหดตัวของตาข่ายอย่างหนักเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้มันเหมือนกับนักโทษที่ติดอยู่ที่นั่นด้วยความเหนียวแน่นของตาข่าย
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อไหร่ที่ตาข่ายหดลง พลังจิตส่วนโบราณส่วนหนึ่งก็จะถูกหลอมรวมเข้ากับตาข่ายและกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน
“ในฐานะที่เป็นจิตวิญญาณวัตถุของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ข้าอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน ข้าตั้งกฏที่นี่ เจ้าไม่อาจแทนที่ข้าได้ เจ้าจะไม่ประสบความสำเร็จ….” จิตวิญญาณโบราณขัดขืนอย่างต่อเนื่องพลางตะโกนออกมา
“ปรากฏสายเลือดของเจ้านาย ข้ารู้สึกถึงการมีอยู่ของสายเลือดเจ้านายอีกครั้ง เป็นทายาทเพียงคนเดียวของสายเลือดนั้น ดังนั้นสายเลือดนี้จึงไม่อาจจบลงที่นี่ได้ บัดซบ ข้าจะไม่ให้เจ้าทำสำเร็จ ข้าจะไม่ให้เจ้าทำสำเร็จ….” จิตสำนึกโบราณยิ่งพูดยิ่งแย่ลง ภายใต้การต่อสู้อย่างสิ้นหวังของตาข่ายก็ขยายตัว แต่ก็ยังล้มเหลวในการทะลวงตาข่าย
บนชั้น 12 เจี้ยนเฉินเดินทางไปอีกหลายล้านกิโลเมตรเพื่อไปยังสถานที่ใหม่และหยดเลือดของเสี่ยวม่านลงบนจี้หยกอีกครั้ง
“แปลก ทำไมถึงไม่มีการตอบกลับ ? จากสิ่งที่้ข้าได้รู้มาจากจื่อหยุน จิตวิญญาณของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนนั้นตื่นขึ้นมาหลังจากที่รับรู้ถึงสายเลือดของเสี่ยวม่าน ไม่ มันไม่ถูกต้อง ทำไมตอนนี้ถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น? มันอาจจะเหมือนกับที่ข้าเดา จิตวิญญาณวัตถุอาจจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่และกลับไปนอนหลับหลังจากที่ตื่นมาครั้งที่แล้ว ? ” เจี้ยนเฉินสับสน
ทันใดนั้นดวงตาของเจี้ยนเฉินก็หรี่ลง เขาหันหน้าไปมองจากที่ไกลสุดสายตาของเขาและดูเหมือนจะมองไปถึงรูปปั้นทั้งสี่ ขณะที่เขารู้สึกประหลาดใจและสงสัย
เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงการปรากฏตัวของกฏที่ยิ่งใหญ่ที่มีความกว้างนับล้านกิโลเมตร ดูเหมือนมันจะบดขยี้สวรรค์และทำลายกฏของโลกจนไม่อาจเสถียรต่อไปได้
“มรดกอัครสูงสุด ? ” ความคิดนี้แว่บเข้ามาในหัวของเจี้ยนเฉิน หลังจากที่คิดอยู่เล็กน้อยเขาก็เลิกปลุกจิตวิญญาณวัตถุในตอนนี้ เขาบินไปที่รูปปั้นทั้งสี่
ด้วยความเร็วของเจี้ยนเฉิน เขาเดินทางไปได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้เข้าไปใกล้เกินไปและซ่อนอยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร เขาใช้สายตาที่เหนือกว่าของเขาเพื่อมองไปยังสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
1 ใน 4 รูปปั้นส่องสว่างเจิดจ้าราวกับแสงดวงอาทิตย์ มันพุ่งออกมาจากหน้าผากของรูปปั้น
เกิดความวุ่นวายขึ้น มันทำให้ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ยืนขึ้นและจ้องมองไปยังราชาเทพที่ปกคลุมไปด้วยแสงสว่าง มีความชื่นชม, อิจฉา, ตกใจอยู่เต็มไปด้วยสายตาของพวกเขา
เมื่อเจี้ยนเฉินเห็นสิ่งนี้จากที่ไกล ๆ หลายสิบกิโลเมตร ใบหน้าของเขาค่อนข้างน่าเกลียด เพราะคนที่ถูกห่อหุ้มในแสงนั้นเป็นองค์ชายห้าของจักรวรรดินภา !
“องค์ชายห้า ! จริง ๆ แล้วมันเป็นองค์ชายห้า….”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยม องค์ชายห้ามีวาสนาได้รับมรดกของอัครสูงสุด…”
องค์รักษ์ที่เหลืออยู่และปรมาจารย์ชูที่อยู่ข้างองค์ชายห้าต่างก็ตะโกนออกมาอย่างดีใจ พวกเขาพยายามข่มความตื่นเต้นเอาไว้
ที่รอบ ๆ หยุนซินและราชาเทพที่เหลืออยู่ของครอบครัวหยุนทั้งห้านั้นมีสีหน้าที่หลากหลาย องค์ชายห้าเป็นหนึ่งในคนที่มีความสามารถที่ดีที่สุดในจักรวรรดินภา แต่ในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนนั้นมีคนที่มีความสามารถดีที่สุดมารวมกัน มันน่าตกใจอย่างมาก ตอนนี้เขาได้รับการยอมรับจากมรดกของอัครสูงสุดจริงๆ มันน่าตกใจมากสำหรับพวกเขา