เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1578 : ตะลึง
ตอนที่ 1578 : ตะลึง
” มันเป็นไปไม่ได้ ร่างกายเจ้าแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง ? มันแข็งยิ่งกว่าสัตว์อสูรระดับสูง” เจียงหยางซูมองไปที่ ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนด้วยความตะลึง ตอนนั้นเขาถึงกับสงสัยว่าซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนเป็นสัตว์อสูรระดับสูงที่อยู่ในร่างมนุษย์ มันจะอธิบายยังไงได้เมื่อร่างกายของซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้
เจียงหยางซูเป็นแค่เซียนผู้เชี่ยวชาญแต่เขาโตมาในตระกูลเจียงหยาง ดังนั้นเขาจึงได้ประมือกับเหล่าเซียนมากมายในวัยเด็ก เขาเริ่มเข้าใจความแข็งแกร่งของเหล่าเซียนแต่ตามที่เขารู้มา เซียนผู้คุมกฎก็ยังไม่อาจรับการโจมตีเต็มพลังของเขาได้หากพวกนั้นไม่ใช้พลังเซียน แม้แต่เซียนราชาก็ไม่อาจจะทำเช่นนี้ได้ มีแค่สัตว์อสูรเท่านั้นที่มีร่างกายที่แข็งแกร่งเช่นนี้
“ช่างเป็นร่างกายที่แข็งแกร่ง บางทีคงมีแค่ราชันเจี้ยนเฉินที่มีร่างกายที่แข็งแกร่งแบบนี้นอกจากสัตว์อสูรเวทย์” ชายแก่คนหนึ่งในฝูงคนพูดขึ้นมา เสียงเขาเต็มไปด้วยความแปลกใจ เขาเป็นเซียนจักรพรรดิ
“ข้าอาจจะมองความแข็งแกร่งของนายน้อยเกาะไม่ออก แต่แค่การโจมตีก็ตัดสินว่านายน้อยเกาะนั้นเกินกว่าที่ทุกคนคาดเอาไว้ ไม่แปลกใจเลยว่าเขาจะมาจากเกาะสามเซียน เขาแข็งแกร่งในวัยแค่เพียง 23 เขาไม่ได้แย่ไปกว่าราชันเจี้ยนเฉินในอดีตเลย” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมา เขาคือบรรพชนตระกูลโบราณและเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9
“นายน้อยเกาะผู้นี้สมกับเป็นทายาท แต่ในความเห็นข้าแล้ว มันยังมีความต่างระหว่างราชันเจี้ยนเฉินอย่างมาก ยังไงซะราชันเจี้ยนเฉินก็ได้ความแข็งแกร่งมาจากความพยายามของตัวเอง ไม่เหมือนนายน้อยเกาะและนายน้อยของตระกูลเจียงหยางที่ได้รับความแข็งแกร่งจากการสนับสนุนของครอบครัว และนายน้อยเกาะอาจจะกินลูกท้อเมฆม่วงมาแล้วในอดีต” ชายแก่อีกคนพูดต่อ
จอมยุทธหลายคนป้องมือให้กับชายแก่คนนั้นเมื่อเห็นเขา พวกนั้นต่างก็แสดงความเคารพให้กับชายแก่
ชายแก่คนนี้คือซ่างเฉียง เขาต่างจากคนอื่น ๆ ที่เป็นเซียนจักรพรรดิได้ด้วยความพยายามของตัวเอง ไม่เหมือนกับเซียนจักรพรรดิคนอื่น ๆ ที่ได้กินลูกท้อเมฆม่วงเข้าไป หลังจากที่กินลูกท้อไป ความแข็งแกร่งของเขาก็ขึ้นมาที่ชั้นสวรรค์ที่ 9 ของเซียนจักรพรรดิ
ในบรรดา 4 เผ่าพันธุ์ มันมีแค่ไม่กี่คนที่ขึ้นถึงชั้นสวรรค์ที่ 9 ของเซียนจักรพรรดิได้ นอกจากซ่างเฉียงและยาดริมแล้วก็มีพี่น้องสี่คน อาต้า, อาเอ้อ, อาซานและอาซือ
และตอนนี้ผนึกที่กันให้ก้าวข้ามไปยังขอบเขตดั้งเดิมก็หายไป มันเหมือนกับว่าเซียนจักรพรรดิทั้งหกคงจะผ่านมันไปได้
“น้องชาย เจ้ายอมรับความพ่ายแพ้หรือไม่ ? ” ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนถามขึ้นมาพร้อมกับยืนกอดอก
เจียงหยางซูฮึดฮัดแล้วพูดขึ้นมาว่า “แม้ว่าเจ้าจะเป็นนายน้อยแห่งเกาะสามเซียน แต่เจ้าก็ไม่มีสิทธิบอกว่าเจ้าดีกว่าข้า ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะยังอยู่ปกติดีได้จากทักษะต่อสู้ขั้นปฐพีของข้าหรือไม่” เจียงหยางซูคำรามออกมา พลังเซียนของเขาปะทุออกจากร่างโดยไม่มีท่าทีจะหยุดยั้ง เขาห่อหุ้มด้วยชั้นแสงสีครามที่เกิดจากพลังเซียนธาตุลมของเขา
ตอนที่เขาใช้ทักษะต่อสู้ขั้นปฐพี ลมสีม่วงก็ได้ปรากฏขึ้นมาในตระกูลเจียงหยางพัดเอาฝุ่นและทรายขึ้นไปในอากาศ
ตอนนั้นเจียงหยางป้าได้โบกมือ เพราะแบบนั้นฝุ่นและทรายในอากาศจึงหายไป ในขณะเดียวกันเขาก็มองไปที่ เจียงหยางซูและพยักหน้าด้วยความพอใจพร้อมกับคิด ” น่าประทับใจ ข้าไม่คิดว่าซูเอ๋อจะเข้าใจทักษะต่อสู้ขั้นปฐพีแล้ว”
” ลมสังหาร ! ”
หลังจากที่พุ่งเข้าไป ในที่สุดเจียงหยางซูก็ได้ใช้ทักษะต่อสู้ขั้นปฐพี ทั้งร่างเขาหลอมรวมเข้ากับลมแล้วพุ่งเข้าหา ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนด้วยความเร็วที่มากกว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษจะทำได้ พลังเซียนธาตุลมบนอาวุธเซียนนั้นก็อัดแน่นเช่นเดียวกัน
ตึก !
เสียงหนักหน่วงดังขึ้น ทักษะต่อสู้ขั้นปฐพีของเจียงหยางซูปะทะกับตัวซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนและระเบิดคลื่นพลังอันแข็งแกร่งออกมา เจียงหยางซูพบว่าคลื่นพลังนี้ยากที่เซียนผู้เชี่ยวชาญจะทนได้ ดังนั้นเขาจึงรีบถอยกลับมาพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเซียว
มันค่อนข้างยากที่เขาจะใช้ทักษะต่อสู้ขั้นปฐพีที่แข็งแกร่งเช่นนี้
แต่เจียงหยางซูไม่ได้สนใจตัวเอง เขามองไปด้านหน้า สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกระหาย เขาอยากเห็นว่า ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนได้รับบาดเจ็บเพราะการโจมตีนี้ ถ้าซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนบาดเจ็บแม้แต่เพียงเล็กน้อยย งั้นลูกท้อเมฆม่วงก็จะตกเป็นของเขาตามที่ตกลงไว้ก่อนหน้านี้
แต่เจียงหยางซูกลับต้องตะลึง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนยังคงไร้รอยขีดข่วนเมื่อรับทักษะต่อสู้ขั้นปฐพีไป แม้แต่การโจมตีที่แรงที่สุดของเจียงหยางซูก็ไม่อาจจะทิ้งรอยไว้บนตัวซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนได้
“เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นไปไม่ได้ เจ้าโกง เจ้าต้องโกงแน่นอน” เจียงหยางซูคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่ยอมรับความจริง นายน้อยเกาะนั้นแก่กว่าเขาแค่ 3-4 ปี แต่กลับมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวเช่นนี้ เขาไม่อาจจะทำอะไรร่างกายอีกฝ่ายได้ ซึ่งทำให้เขาที่ซึ่งมักจะหยิ่งทะนงและทำตัวสูงส่งกว่าใครนั้นต้องตกตะลึงอย่างมาก
“ลูกท้อเมฆม่วง ใช่ มันต้องเป็นลูกท้อเมฆม่วง เจ้าต้องกินมันไปแล้วซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม่เจ้าถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้ นี่มันไม่ยุติธรรม หากข้ามีลูกท้อเมฆม่วง เจ้าก็ไม่มีทางเป็นคู่มือของข้าได้” เจียงหยางซู ตะโกนขึ้นมา ตอนนั้นเองเขารู้สึกอิจฉาจนใบหน้ากลายเป็นสีเขียว ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกไม่พอใจกับน้าของตนมากกว่าเดิมพร้อมกับคิด “ท่านน้าของข้าลำเอียง เขาให้ลูกท้อนี้กับคนนอกแต่กลับไม่ให้ข้า”
“ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยน มันไม่มีอะไรต้องพอใจ เจ้านะแต่เจ้าได้รับความแข็งแกร่งมาจากลูกท้อเมฆม่วง ไม่งั้นแล้วเจ้าคงไม่มีทางเป็นคู่มือของข้าได้” เจียงหยางซู ยอมแพ้อย่างไม่เต็มใจ เขายังคงมีท่าทีหยิ่งทะนงทั้ง ๆ ที่สถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เขาไม่รู้จักการยอมแพ้
ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนไม่ได้โกรธ “น้องชาย ทำไมเจ้าไม่คิดว่าเจ้าจะอยู่ระดับนี้ได้รึไม่หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูล ? หากพวกเขาใช้สมบัติไปกับคนอื่นแทน พวกเขาก็จะขึ้นมาถึงระดับเจ้าได้ ข้าต้องยอมรับว่าข้าแข็งแกร่งได้ทุกวันนี้เพราะลูกท้อเมฆม่วงและสมบัติสวรรค์อื่น ๆ แต่แล้วยังไง ? มันไม่มีอะไรต้องมาทำตัวยะโส”
“เจ้า….” เจียงหยางซูพูดไม่ออก ใบหน้าของเขาซีดเผือด เขามักจะหยิ่งทะนงและมองว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นรวมถึงยังดูถูกคนอื่นที่อายุพอ ๆ กัน แต่ความสำเร็จที่เขาภูมิใจนี้ไม่ต่างจากที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนอธิบายไว้เลยและเขาก็ไม่รู้ว่าจะโต้เถียงมันยังไง