Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต - ตอนที่ 277
Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ ARK
สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ
••••••••••••••••••••
บทที่ 277: พบกับตาเฒ่าเฟิงอีกครั้ง
เมื่อได้ยินว่าสตรีวัยกลางคนแวะมาเยี่ยม แม่มดเปลือยกายรีบลุกขึ้นมาเพื่อต้อนรับนางทันที หลังจากที่แม่มดเปลือยกายเชิญให้นางเข้ามา สตรีวัยกลางคนเริ่มที่จะสร้างปัญหาให้กับแม่มดเปลือยกายด้วยคำพูดไม่กี่คำ แม่มดเทวะทั้งสี่ที่อยู่รอบๆสตรีวัยกลางคนรีบพุ่งเข้าสู่ร่างกายของแม่มดเปลือยกายอย่างรวดเร็ว
น่าสงสารที่แม่มดเปลือยกายเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับจินตันขั้นต้น แล้วนางจะสามารถต่อสู้กับผู้ฝึกตนระดับจินตันขั้นสุดท้ายอย่างแม่มดเทวะได้อย่างไร? ก่อนที่นางจะมีโอกาสส่งเสียงออกมา ร่างกายของนางได้ถูกควบคุมโดยสมบูรณ์แล้ว
ในทันทีที่นางถูกควบคุม สตรีวัยกลางคนกล่าวออกมาอย่างเย็นเฉียบ “แม่มดเปลือยกายที่รัก รู้หรือไม่ว่านายท่านของพวกเราคิดถึงเจ้ามากเพียงใด! เขาบอกให้ข้ามาบอกเจ้าว่า เจ้านั้นตายไปแล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของแม่มดเปลือยกายฉายแววหดหู่ นางต้องการร้องไห้ออกมาเพื่ออ้อนวอนขอความเมตตา แต่แม่มดเทวะไม่ปล่อยให้นางทำเช่นนั้น นางถูกระงับความรู้สึกทั้งหมดโดยสมบูรณ์
หลังจากที่ควบคุมแม่มดเปลือยกาย แม่มดเทวะกำหนดสถานที่ต่อไปคือศิษย์คนโปรดของเซือหมัว เซียนเก็กฮวย เฉาอี้
เซียนเก็กฮวย เฉาอี้เป็นสาวกอันดับหนึ่งรุ่นที่สองของสำนักพันปีศาจ ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับจินตันขั้นสมบูรณ์และสามารถทะลุผ่านเข้าสู่ระดับหยวนหยินได้ตลอดเวลา เฉาอี้นั้นชื่นชอบผู้ชายและชอบสนุกกับพวกเขาโดยไม่โจมตี บนเสื้อคลุมของเขานั้นมีดอกเก็กฮวยอยู่ นั่นจึงเป็นที่มาของฉายาเขา
ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินของสำนักพันปีศาจมีอยู่สี่คน หนึ่งในนั้นคือตาเฒ่าเฟิง นักบวชเซือหมัวและแม่มดเมฆากับวายุ นักบวชเซือหมัวและตาเฒ่าเฟิงอยู่ด้วยกัน ในส่วนของแม่มดเมฆาและวายุนั้นอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายล้วนแต่ไม่ลงรอยกันและเกิดการปะทะอยู่บ่อยครั้ง
สตรีวัยกลางคนผู้นี้นั้นอยู่ฝ่ายเดียวกับแม่มดเมฆาและวายุ แต่เซียนเก็กฮวย เฉาอี้นั้นอยู่ฝ่ายเดียวกับนักบวชเซือหมัว ดังนั้นจึงสตรีวัยกลางคนผู้นี้จึงไม่อาจจะซุ่มโจมตีเซียนเก็กฮวยเฉาอี้ได้ แน่นอนว่านางจะถูกไล่ล่าก่อนที่จะลงมือกับเขาเสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามแม่มดเปลือยกายนั้นอยู่ในฝ่ายที่เป็นกลาง ไม่เข้าร่วมกับใคร
ในอดีต ผู้คนจากฝ่ายของนักบวชเซือหมัวนั้นไม่เคยต้องกังวลเกี่ยวกับแม่มดเปลือยกาย แต่ในตอนนี้ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว ตาเฒ่าเฟิงนั้นติดกับดักของซ่งจงเข้าสู่สำนักเสวียนเทียน พ่ายแพ้ทุกสิ่งอย่างรวมถึงสูญเสียสมบัติไปมากมาย หลังจากนั้นตาเฒ่าเฟิงเข้าสู่สภาวะปีศาจเข้าสู่ร่างกายเมื่อครั้งที่ต่อสู้กับซ่งจงที่ทะเลตะวันออก พลังของเขาถูกทำลายไปมาก แม้กระทั่งในตอนนี้ตาเฒ่าเฟิงก็ยังคงไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่หลังจากการต่อสู้ในคราวนั้น ดังนั้นฝ่ายของนักบวชเซือหมัวจึงพ่ายแพ้ฝ่ายแม่มดทั้งสองอย่างราบคาบ แม่มดเปลือยกายที่ไม่เคยโดดเด่น จึงจำเป็นต้องเข้าร่วมกับฝ่ายนักบวชเซือหมัวทันทีเมื่อเข้าสู่ระดับจินตัน
แม้ว่าทุกอย่างจะดูยุ่งยาก แต่การได้พบกับเซียนเก็กฮวยนั้นไม่ยากเกินไป เพื่อที่จะจัดการกับศิษย์คนโปรดของสำนัก แม่มดเทวะไม่กล้าที่จะประมาทหรือมองข้ามฝีมือของเขา นอกเหนือจากแม่มดเทวะที่เข้าควบคุมร่างกายของผู้อื่นอยู่ แม่มดอีกห้าเข้าสู่ร่างกายของแม่มดเปลือยกายทันที หลังจากนี้คือการไปพบกับเซียนเก็กฮวยเฉาอี้อย่างเดียว!
เมื่อเซียนเก็กฮวยเฉาอี้ได้ยินว่าแม่มดเปลือยกายมาเยี่ยมเยือน เขาไม่ปฏิเสธนางและต้อนรับนางอย่างสุภาพ
แม่มดเปลือยกายจัดการเหล่าผู้พิทักษ์ที่อยู่บริเวณหน้าถ้ำของเซียนเก็กฮวยเฉาอี้จนหมดสิ้น ในขณะที่กำลังเดินเข้าถ้ำ ด้วยเส้นทางที่แคบและเล็ก ทั้งหมดเริ่มต่อสู้กับเซียนเก็กฮวยทันที แม้ว่าเซียนเก็กฮวยจะมีประสบการณ์การต่อสู้ที่มากมาย แต่เขาก็ยังติดกับของเหล่าแม่มดอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม เซียนเก็กฮวยนั้นเป็นถึงสาวกคนสำคัญของสำนัก ด้วยระดับจินตันขั้นสมบูรณ์ ทำให้เหล่าแม่มดเทวะใช้เวลาปราบปรามเขาอยู่ร่วมชั่วโมง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเซียนเก็กฮวยก็ไม่อาจรอดพ้นแม่มดเทวะไปได้
ด้วยสถานะของเซียนเก็กฮวย แผนการทุกอย่างจะง่ายขึ้นอย่างมาก ด้วยความช่วยเหลือของเขาทำให้ผู้ฝึกตนระดับจินตันทั้งหมดถูกควบคุมไว้ได้โดยแม่มดเทวะ ท้ายที่สุดแล้วผู้ฝึกตนชุดคลุมสีแดงและสีขาวได้ถูกสังหารทิ้งเพื่อให้แม่มดเทวะไปควบคุมคนอื่นๆ
ในขณะที่แผนการเคลื่อนไหวไปอย่างราบรื่น แม่มดเทวะไม่ได้เร่งรีบดำเนินการจนให้ใครสงสัย ทั้งหมดใช้เวลาสองวันเพื่อควบคุมผู้ฝึกตนระดับจินตันทั้งเก้า
หลังจากนั้นแม่มดทั้งเก้าส่งสัญญาณให้กับซ่งจง ทั้งหมดเชื่อมต่อกันผ่านสัมผัสวิญญาณ ทั้งหมดรีบแจ้งความสำเร็จของตนเองทันที
แน่นอนว่าซ่งจงร่าเริงอย่างมากเมื่อได้รับข่าว เขารีบออกจากถ้ำอย่างไม่ลังเล พร้อมกับมุ่งหน้าไปที่สำนักพันปีศาจอย่างไม่ปกปิดตัวตน
สำนักพันปีศาจตรวจจับซ่งจงได้อย่างง่ายดาย จากนั้นทั้งหมดได้เปิดการแจ้งเตือนระดับสูงสุดทันที
กลุ่มแรกที่เข้ามาขัดขวางซ่งจงเป็นทีมเล็กๆเพียงสี่สิบคน มีผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิยี่สิบคนและเหล่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นกลาง พวกเขามาพร้อมกับอุปกรณ์วิเศษ ผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิพุ่งเข้าหาซ่งจงพร้อมตะโกนออกมา “บอกมาว่าเจ้าเป็นใคร ไม่เช่นนั้นพวกเราจะสังหารเจ้าเดี๋ยวนี้!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ซ่งจงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับส่งสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หลากสีออกไปทันที ในเวลานั้นเขากล่าวออกมาอย่างบ้าคลั่ง “พวกเจ้าคิดจะขวางทางข้างั้นหรือ? งั้นพวกเจ้าทั้งหมดก็จงไปตายซะ!”
ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดได้พุ่งเข้าไปหาทุกคนอย่างรวดเร็ว ซ่งจงนั้นอยู่ในระดับจินตันซึ่งความเร็วของเขานั้นหลบหนีการโจมตีเหล่านั้นได้อย่างสบายๆ สายฟ้าของเขาพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างจบสิ้นในทันที การสะบัดมือเพียงครั้งเดียวของเขา ทำให้เหล่าผู้พิทักษ์ล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากความเร็วของเขาที่โจมตีก่อนที่จะกล่าวอะไร ซึ่งเช่นนี้มันจึงไม่แตกต่างจากการลอบโจมตี เหล่าสาวกของสำนักพันปีศาจไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลบหนี เหล่าสาวกระดับต่ำเสียชีวิตทันทีกว่ายี่สิบคน แม้แต่อุปกรณ์วิเศษอย่างๆนั้นก็ถูกทำลายโดยสมบูรณ์
ในขณะที่เหล่าสาวกพวกนี้กำลังต้องการหยุดซ่งจง มีผู้อื่นที่เห็นเหตุการณ์นี้และเข้ามาดูใกล้ๆ ทั้งหมดเห็นการโจมตีที่น่าเกรงขามของซ่งจง ผู้ที่อ่อนแอไม่มีใครกล้าที่จะเข้าร่วมการต่อสู้นี้ ในส่วนผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งนั้นรีบเข้าสู่การต่อสู้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ซ่งจงได้สร้างการระเบิดด้วยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ราวกับว่าเขานั้นได้เคาะรังแตนโดยสมบูรณ์ แสงดาบปรากฏออกมาจากทั่วทุกสารทิศ ผู้คนนับหมื่นกำลังแห่กันออกมาหาเขา
เนื่องจากผู้ฝึกตนชั่วร้ายมักจะต่อสู้กันอยู่เสมอ พวกเขามันตายตกไปจำนวนมากและเหล่าสาวกมักจะตายกันตั้งแต่อยู่ในระดับต่ำ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีผู้ฝึกตนระดับสูงมากเพียงพอ สำนักพันปีศาจจึงต้องเร่งการเพิ่มประชากรอยู่เสมอ สำนักพันปีศาจมีสาวกระดับต่ำจำนวนมาก ซึ่งมากกว่าสำนักเสวียนเทียนสิบเท่า แต่ทว่าสาวกระดับสูงนั้นอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน เห็นได้ชัดว่าเหล่าสาวกระดับล่างนั้นต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝูงตั๊กแตนเช่นนี้ ซ่งจงไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “อย่าคิดว่าข้าจะเกรงกลัวจำนวนเหล่านี้ บุรุษลัทธิเต๋าผู้นี้จะแสดงให้พวกเจ้าเห็นว่าพยัคฆ์วิ่งเข้าใส่ฝูงแกะนั้นเป็นอย่างไร!”
เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น มือของซ่งจงไม่ได้หยุดนิ่ง เขาขว้างปาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ออกไปอย่างอิสระ
หลังจากนั้นเกิดการระเบิดของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์รัศมีกว่าหมื่นฟุต สาวกของสำนักพันปีศาจตายตกไปราวกับสายน้ำและถ้ำต่างๆได้ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว
ซ่งจงนั้นอยู่ในระดับผู้ฝึกตนระดับจินตัน แน่นอนว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของเขาในตอนนี้แข็งแกร่งอย่างมาก ซึ่งมันเทียบเท่ากับพลังของผู้ฝึกตนระดับจินตันขั้นสมบูรณ์ เมื่อเขาใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หยินหยางแห่งธาตุทั้งห้า มันแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาอยู่ในระดับปฐมภูมิถึงสิบเท่า ซึ่งพลังของมันเทียบเท่ากับยันต์ที่ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินสร้างขึ้น
ในขณะที่เหล่าสาวกของสำนักพันปีศาจมีจำนวนมาก ส่วนใหญ่ของพวกเขาล้วนแต่อยู่ในระดับปฐมภูมิหรือต่ำกว่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หยินหยางแห่งธาตุทั้งห้า แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับจินตันยังไม่อาจต้านทานได้ แน่นอนว่าในตอนนี้ทุกคนรู้สึกหดหู่และหมดหนทาง ทุกคนที่อ่อนแอถูกเป่าให้กลายเป็นผุยผงอย่างรวดเร็ว
ผู้ฝึกตนระดับจินตันในตอนนี้ ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าใกล้ซ่งจง เมื่อทั้งหมดได้เห็นพลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาใช้พลังทุกอย่างที่มีเพื่อหลบหนีความตาย ไม่ต้องกล่าวถึงวิธีการที่จะตอบโต้ เพียงแค่หนีให้พ้นก็ถือว่ายากเย็นอย่างยิ่ง ดังนั้นในตอนนี้ซ่งจงยังคงปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ซ่งจงแทบจะกลายเป็นอมตะทันที ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หลากสีสันได้กระจายออกไปเต็มบริเวณที่เขาเหยียบย่างเข้าไป สำนักพันปีศาจถูกทำลายย่อยยับในทุกพื้นที่ที่ซ่งจงเข้าไปเยี่ยมเยือน ในตอนนี้เขาทำลายสำนักพันปีศาจไปมากกว่าหนึ่งพันลี้และไม่มีผู้ใดออกมาเพื่อหยุดเขาเลย!
สำหรับเหล่าสาวกของสำนักพันปีศาจ ทั้งหมดโกรธจนแทบจะตายอยู่ตรงนั้น อย่างไรก็ตามทุกสิ่งนั้นไร้ประโยชน์อย่างช่วยไม่ได้ สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หยินหยางแห่งธาตุทั้งห้าที่ถูกสร้างโดยผู้ฝึกตนระดับจินตันนั้นแข็งแกร่งเกินไป ผู้ฝึกตนสายฟ้าที่อยู่ในสำนักพันปีศาจก็ไม่อาจต้านทานสิ่งนี้ได้ แน่นอนว่าการปรับแต่งสายฟ้าในแต่ละครั้งนั้นนับได้ว่าเป็นสมบัติอย่างแท้จริง แต่สำหรับซ่งจงที่มีหอคอยสายฟ้าอยู่นั้น มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเขา สายฟ้าที่เขาครอบครองอยู่นั้นมหาศาลเกินกว่าจะนับได้ ดังนั้นเขาจึงโยนมันออกไปอย่างอิสระเมื่อต้องการใช้มัน
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบุคคลที่บ้าคลั่งและร่ำรวย แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับจินตันทั้งหลายยังไม่กล้าที่จะประมาทเมื่อต้องเข้าใกล้เขา
สวรรค์ นับว่ายังมีความโชคดีเพราะสำนักพันปีศาจนั้นยังมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ หลังจากที่ซ่งจงคร่าชีวิตเหล่าสาวกมากมายอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาได้ออกมามีบทบาททันที ทั้งหมดมาด้วยเมฆาสีดำซึ่งเป็นสมบัติวิเศษ ทั้งหมดปรากฏออกมาเพื่อป้องกันการโจมตีของซ่งจง
ซ่งจงตกใจและหันไปมองอย่างรวดเร็ว ในตอนท้ายเขารู้ได้ทันทีว่าบุคคลผู้นั้นเป็นคนที่เขานั้นรู้จักเป็นอย่างดี ..ตาเฒ่าเฟิง!