Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต - ตอนที่ 270
Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ ARK
สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ
••••••••••••••••••••
บทที่ 270: พบกับสาวงามอีกครั้ง
“เหอะ เจ้าจงถามเขาเองเมื่อเขามาถึง ข้าคงไม่มีเวลาที่จะบอกเล่าเรื่องไร้สาระเหล่านี้กับเจ้า!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างเย่อหยิ่ง “ส่งศิษย์ของข้าและหานหลิงเฟิงมา แล้วข้าจะออกไปโดยไม่สร้างปัญหาใดๆ!”
“ท่านอาจารย์!” เสียงหญิงสาวดังขึ้นจากระยะไกล
เทพธิดาเหมยฮวาหันไปทางต้นเสียงทันที นางเห็นฉุ่ยจิ้งและหานหลิงเฟิงเข้ามาพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าทั้งสองได้รับข่าวและมุ่งหน้ามาหานาง
โดยไม่กล่าวอะไรต่อ ร่างกายของเทพธิดาเหมยฮวาพุ่งไปอยู่ตรงหน้าของทั้งคู่ นางไม่รอให้ทั้งสองกล่าวสิ่งใดออกมา พร้อมสะบัดมือห่อหุ้มทั้งสองคนและหายไปทันที ในเวลานั้นเทพธิดาเหมยฮวาไม่ลืมที่จะเย้ยหยัน “ฮัวชิงหยุนอย่าลืมเตรียมจัดงานศพของตนเองด้วยล่ะ! หอเฉวียนจี้ที่มีประวัติยาวนานถึงหมื่นปีกำลังจะถูกทำลายในยุคสมัยของเจ้า! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะที่เย่อหยิ่ง เทพธิดาเหมยฮวาจากไปพร้อมกับหญิงสาวทั้งสองอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ทั้งสามคนจากไป อาวุโสระดับหยวนหยินขมวดคิ้วพร้อมกับถามว่า “ท่านผู้นำ เทพธิดาเหมยฮวานั้นกล่าวเรื่องจริงหรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่ นางพ่นวาจาไร้สาระเท่านั้น!” ฮัวชิงหยุนปฏิเสธทันทีพร้อมกล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือปราบปรามคนทรยศซ่งจง ถ้าหากเทพธิดาเหมยฮวากล่าวเช่นนั้น ข้าคิดว่าเขาจะมาคุกคามเราอย่างแน่นอน ออกคำสั่งให้ทั้งหมดตื่นตัวเตรียมพร้อมป้องกันทันที พร้อมด้วยเปิดการใช้งานรูปแบบการป้องกันของสำนัก!”
“ตกลง!” ทั้งหมดรับคำสั่งและบินไปประจำตำแหน่งของตนเอง ฮัวชิงหยุนนั้นเป็นผู้นำของหอเฉวียนจี้มานานหลายปี การสั่งของนางนั้นเต็มไปด้วยอำนาจและไม่มีใครกล้าขัดขืน
เมื่อทุกคนออกไปแล้ว รูปแบบการป้องกันของสำนักค่อยๆเปิดใช้งานขึ้นอย่างช้าๆ ฮัวชิงหยุนจ้องมองที่ฮัวเฉียนหวู่อย่างโกรธเคือง ก่อนที่จะส่ายหัวอย่างหมดหนทาง “จงไปเตรียมตัว!” เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น นางรีบพาทั้งสองเข้าไปในห้องโถงอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดเจนว่าฮัวชิงหยุนนั้นหงุดหงิดกับปัญหาที่ฮัวเฉียนหวู่ได้สร้างไว้ในอดีต ถ้าหากนางไม่ถูกบุตรสาวของตนเองบีบบังคับให้เข้าร่วมเหตุการณ์ในครั้งนั้น แน่นอนว่าทั้งนางและน้องชายจะไม่มีวันให้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แน่นอน ถ้าสิ่งที่เทพธิดาเหมยฮวากล่าวเป็นความจริงและสำนักเสวียนเทียนถูกทำลายไปมากกว่าครึ่ง แน่นอนว่าน้องชายที่น่าสงสารของนางจะต้องถูกปลดออกจากตำแหน่งจ้าวสำนัก อีกทั้งปัญหาเหล่านี้ยังเกิดขึ้นเพราะนาง เมื่อคิดเช่นนี้ ทำให้เทพธิดาชิงหยุนหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นอีก
ในขณะที่เทพธิดาชิงหยุนรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก เทพธิดาเหมยฮวากำลังมีความสุขอย่างมาก ในขณะที่กำลังบินอยู่นั้น มีหลายครั้งที่นางเผลอฮัมเพลงออกมา
เมื่อเห็นว่าเทพธิดาเหมยฮวามีความสุขเช่นนั้น ฉุ่ยจิ้งอดไม่ได้ที่จะถามออกไปอย่างสงสัย “ท่านอาจารย์ไม่ได้เข้าสู่การฝึกฝนแบบปิดกั้นเป็นเวลาร้อยปีงั้นหรือ? ทำไมท่านจึงออกมา?”
“อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้!” เทพธิดาหันหน้ามาด้วยใบหน้าที่โกรธจัดพร้อมตะโกนออกมา “ข้าคิดว่าข้าจะสามารถหลบหนีปัญหาเหล่านี้ได้ ถ้าหากข้าปิดกั้นตนเองไว้ ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าการที่ข้าปิดกั้นตนเองอยู่ในภูเขาเหมย ไอ้สารเลวที่มาจากตระกูลฮัวจะต้องการนำข้าไปเป็นหมากในแผน! ถ้าหากไม่ใช่เพราะข้าทำนายทุกสิ่งล่วงหน้าไว้แล้ว แน่นอนว่าภูเขาเหมยที่ข้าสร้างมากว่าร้อยปีจะต้องถูกทำลายแหลกเป็นผุยผง!”
“เอะ? เกิดอะไรขึ้น? มันเกี่ยวข้องกับคำทำนายของท่านอาจารย์เมื่อหลายสิบปีก่อนงั้นหรือ? สำนักเสวียนเทียนจะพบกับโศกนาฏกรรมจริงๆ?”
ในขณะที่เทพธิดามาถึงหอเฉวียนจี้ ทั้งฉุ่ยจิ้งและหานหลิงเฟิงนั้นอยู่ด้านนอก ในเวลานั้นนางทั้งสองจึงไม่ได้รับรู้สิ่งที่เทพธิดาเหมยฮวากล่าวไว้ในตอนแรก ดังนั้นนางจึงถามออกมาเช่นนี้
เทพธิดาเหมยฮวาอธิบาย “เจ้าเดาถูก สำนักเสวียนเทียนนั้นจะพบกับโศกนาฏกรรม หอคอยลอยฟ้าถูกทำลายและรูปแบบการป้องกันของสำนักด้วยเช่นกัน ถ้าหากข้าไม่ปรากฏตัวขึ้นมา แน่นอนว่าสำนักเสวียนเทียนจะต้องหายไป!”
“สวรรค์! เหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ ใครกันที่เราไปยั่วยุ?” ฉุ่ยจิ้งถามออกมาอย่างตกใจ หานหลิงเฟิงเช่นกัน
“เจ้ารู้จักเขาดี เขาเป็นโชคชะตาของเจ้า!” เทพธิดาเหมยฮวาเผยยิ้มออกมา
“อ่า ซ่งจง!” ฉุ่ยจิ้งอุทานออกมา “เขากลับมาแล้วงั้นหรือ? อ่า นี่เป็นปัญหาจริงๆ เขาถูกใส่ชื่อว่าเป็นสายลับของอสูรกายและจะถูกล้อมรอบทันทีเมื่อกลับมา!”
“เขาถูกล้อมแล้ว แต่ทั้งหมดไม่สามารถหยุดซ่งจงได้ อีกทั้งซ่งจงยังทำลายหอคอยลอยฟ้าจนย่อยยับ!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้หญิงสาวทั้งสองฟัง สุดท้ายนางกล่าวว่า “ข้านั้นรู้อยู่แล้วว่าตัวซวยของเจ้านั้นมีความสามารถอย่างมาก อย่างไรก็ตามข้าไม่เคยคิดว่าเขาจะมีพลังมากเช่นนี้ แม้แต่ในตอนนี้อาจารย์ของเจ้ายังต้องสุภาพกับเขาและต้องระมัดระวังอย่างมากถ้าหากจะต้องต่อสู้กัน! ฮัวอวิ๋นไม่เพียงแต่โง่เขลาที่คิดจะล้อมรอบเขา มันยังไล่ครอบครัวและซ่งจงออกจากสำนัก สวรรค์ ถ้าไม่คิดเลยว่าบนโลกนี้จะมีคนที่โง่เง่าเช่นนี้!”
“บัดซบ นักบวชฮัวอวิ๋นนั้นทำเกินไปแล้ว! ท่านอาจารย์ ท่านจะต้องมอบความยุติธรรมให้กับศิษย์พี่ซ่ง!”
“แน่นอน! เพื่อรักษาความยุติธรรมของเขา ข้ามอบหินจิตวิญญาณระดับสูงให้เขาไปมากมาย! อีกทั้งยังสอนให้เขารู้วิธีทำลายหอเฉวียนจี้! ในตอนนี้เขากำลังมาและพวกเจ้าทั้งสองจะได้พบเขา!”
สำหรับฉุ่ยจิ้งที่ได้ยินเช่นนั้น นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่น “ท่านอาจารย์! ข้าขอให้ท่านรักษาความยุติธรรมไม่ใช่การสร้างปัญหา! ข้าเพียงขอให้ท่านล้างชื่อของเขาให้พ้นมลทิน!”
สำหรับเทพธิดาเหมยฮวาที่ได้ยินเช่นนั้น นางตอบกลับอย่างไม่พอใจ “เหอะ! มันเป็นจ้าวสำนักเสวียนเทียนที่กล่าวหาว่าซ่งจงนั้นเป็นคนทรยศ เจ้าคิดว่าง่ายงั้นหรือที่ข้าจะสามารถล้างมันออกได้โดยง่าย?”
“ด้วยเหตุใด? ท่านนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าจ้าวสำนัก!” หานหลิงเฟิงกล่าวออกมาอย่างไม่ยอมรับ
เทพธิดาเหมยฮวาอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มออกมา “ฮ่าฮ่า เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว! ถ้าหากบุคคลที่แข็งแกร่งมากที่สุด มีอำนาจมากที่สุด แล้วกฏของสำนักจะมีไว้เพื่ออะไร? ฮัวอวิ๋นนั้นทำหน้าที่ตัดสินใจในฐานะจ้าวสำนัก ในฐานะอาวุโสข้ามีหน้าที่เพียงร้องขอให้ตัดสินใหม่เท่านั้น แต่ข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะยับยั้งคำสั่งเหล่านั้น!”
“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็ควรจะเรียกร้อง! ให้เหล่าอาวุโสระดับสูงเหล่านั้นมาดูแลนักบวชฮัวอวิ๋น!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว
เทพธิดาเหมยฮวากล่าวพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “เหอะ ไร้ประโยชน์! นักบวชฮัวอวิ๋นนั้นมาจากตระกูลฮัว หนึ่งในสี่ตระกูลหลักของสำนักเสวียนเทียน อาจารย์ของเจ้านั้นเป็นเพียงบุคคลหนึ่งที่ฝึกฝนอยู่ในสำนักและไม่มีสิทธิ์ที่จะขัดแย้งกับเขา แม้ว่าข้าคิดจะทำ อาวุโสระดับสูงก็ยังคงเชื่อถือฮัวอวิ๋นมากกว่า เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของสำนักเสวียนเทียน พวกเขาจะส่งคนเพื่อไปสังหารซ่งจงเพราะเกรงว่าชื่อเสียงของสำนักจะถูกทำลาย!”
“อา ทำไมเป็นเช่นนั้น?” หานหลิงเฟิงและฉุ่ยจิ้งอุทานออกมาพร้อมกัน
เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างหมดหนทาง “ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของสำนัก! ด้วยสถานะที่เป็นสำนักที่ยิ่งใหญ่มานานกว่าสองถึงสามพันปี เรื่องเช่นนี้อื้อฉาวมากเกินไป มันไม่สำคัญว่าเราจะรายงานขึ้นไปเบื้องบนหรือไม่ แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญจะตัดสินปัญหาเหล่านี้และทำความสะอาดอย่างหมดจด!”
“ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ศิษย์พี่ซ่งต้องตายอย่างแน่นอนงั้นหรือ?” ฉุ่ยจิ้งอุทานออกมา
“ไม่จำเป็น! ฮัวอวิ๋นไม่ได้รายงานเรื่องนี้ขึ้นไป ในขณะที่สำนักพร้อมจะอยู่เคียงข้างกับเขา แต่ถ้าหากเรื่องนี้รั่วไหลออกไปอนาคตของเขาจะถูกทำลาย ตระกูลฮัวจะไม่ยอมปล่อยให้เขาทำลายชื่อเสียงของตระกูลอย่างแน่นอน ดังนั้นข้าคิดว่าซ่งจงยังคงปลอดภัยอยู่ เขาสามารถสร้างปัญหาได้มากเท่าที่เขาต้องการ! ตราบใดที่เขาไม่ทำเกินไป แน่นอนว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น!” เทพธิดาเหมยฮวายิ้มออกมา
“ท่านไม่กลัวว่าเรื่องนี้จะเกินเลยออกไปเพราะเขาทำลายหอเฉวียนจี้งั้นหรือ?” ฉุ่ยจิ้งขมวดคิ้ว
เทพธิดาเหมยฮวายิ้มออกมา “แน่นอนว่าไม่! สหายตัวน้อยนั้นแข็งแกร่ง เขาจะทำลายหอเฉวียนจี้ถึงขั้นที่บุคคลเหล่านั้นไม่อาจเงยหน้าขึ้นมาได้อีกครั้ง เมื่อพิจารณาถึงความเสียหายแล้ว ฮัวชิงหยุนจะต้องปกปิดเรื่องเหล่านี้จากเบื้องบนแน่นอน อีกทั้งข้าก็ต้องการที่จะแก้แค้นนางด้วยเช่นกัน!”
ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น ดวงตาของเทพธิดาเหมยฮวาสว่างขึ้น “ฮ่าฮ่า สหายตัวน้อยของข้านั้นไม่เคยชักช้าเลย!”
เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น นางหักองศาการบินเป็นแทยงมุมและพบกับซ่งจง ในเวลานั้นซ่งจงนั้นใช้เพียงดาบบินเท่านั้น เขาไม่ได้เผยเรือมังกรทองคำ ซึ่งมันใช้หินจิตวิญญาณของเขามากเกินไป ในตอนนี้เขาจะต้องควบคุมปริมานการใช้หินให้ดีที่สุด
หลังจากที่พวกเขาพบกัน เทพธิดาเหมยฮวาไม่เปิดโอกาสให้ซ่งจงและหานหลิงเฟิงมีโอกาสกล่าวอะไร นางหันหลังพร้อมทิ้งคำพูดไว้เพียง “เด็กน้อย ข้าได้พานางมาหาเจ้าแล้ว จงไปทำลายหอเฉวียนจี้เถิด!”
หลังจากที่นางกล่าวเช่นนั้น นางหายตัวไปพร้อมกับฉุ่ยจิ้งอย่างรวดเร็ว ฉุ่ยจิ้งบ่นออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ท่านอาจารย์ ข้าต้องการพูดกับเขา!”
“เจ้าจะคุยอะไรกับเขา? ถ้าหากว่าเจ้าต้องการที่จะร่วมรักกับเขา ความโกรธของเขาก็คงจะหายไปอย่างแน่นอน แล้วเช่นนี้เขาจะสร้างความโกลาหลให้กับหอเฉวียนจี้ได้อย่างไร?” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวต่อ “อย่างไรก็ตามยังมีเวลาอีกหลายปีและเจ้าไม่จำเป็นต้องรีบร้อน!”
ใบหน้าของฉุ่ยจิ้งแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีจากสิ่งที่เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมา นางอยากจะพูดอะไรออกมาแต่ถูกเทพธิดาเหมยฮวาแทรกขึ้นมา “เอาล่ะ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดถึงอ้วนน้อย สำหรับเรื่องนี้เราไปซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งเพื่อดูการแสดงเหล่านี้ดีไหม? หอเฉวียนจี้นั้นไม่ได้พบเรื่องตื่นเต้นมานานมากแล้ว อาจารย์ของเจ้าต้องการเพลิดเพลินกับใบหน้าที่เสียขวัญของฮัวชิงหยุนไม่ไหวแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า!” สำหรับนางที่กล่าวเช่นนั้น เทพธิดาเหมยฮวาปกปิดตนเองพร้อมกับตามซ่งจงไป!”
หลังจากที่ซ่งจงรับหานหลิงเฟิงมาในอ้อมแขน เขาตกใจเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้ขอบคุณ เทพธิดาเหมยฮวาได้หายไปแล้ว
เขาหัวเราะออกมาเล็กน้อยพร้อมถามหานหลิงเฟิงอย่างอ่อนโยน “เจ้าสบายดีหรือไม่?”
“แน่นอน ข้าคิดถึงท่าน!” ในขณะที่หานหลิงเฟิงกล่าวเช่นนั้น น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองของนาง
“ข้าก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน!” ซ่งจงกอดหานหลิงเฟิงไว้พร้อมกล่าวว่า “ในตอนนี้ข้าต้องการแก้แค้นเพียงทวงคืนความยุติธรรมให้กับตนเอง เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่?”
“แน่นอน แม้ว่าท่านจะเป็นจักรพรรดิอสูรกาย ข้าก็จะติดตามท่านไปทุกที่!” หานหลิงเฟิงกล่าวออกมาอย่างเข็ดขาด
“ยอดเยี่ยม!” ซ่งจงกอดนางไว้แน่นก่อนจะกล่าวอย่างเขร่งขรึม “ข้า.. ซ่งจงขอสาบานว่าจะไม่มีวันทำให้เจ้าผิดหวัง!”
“อือ!” หานหลิงเฟิงกอดซ่งจงไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมา
“เจ้าร้องไห้ทำไม? มันไม่ดีงั้นหรือ?” ซ่งจงปลอบนาง “ข้าขอถามอะไรเจ้าสักอย่าง เจ้าเพิ่งออกมาจากหอเฉวียนจี้ใช่หรือไม่?”
“อื้อ!” หานหลิงเฟิงพยักหน้า “ท่านจะโจมตีหอเฉวียนจี้จริงๆงั้นหรือ?”
“ข้าต้องการไปดูว่าหอเฉวียนจี้มีคนที่ข้าต้องการพบหรือไม่!” ซ่งจงกล่าวออกมาอย่างเกลียดชัง “นังเพศยาฮัวเฉียนหวู่นั้นอยู่ที่หอเฉวียนจี้หรือไม่?”
“นางอยู่นี่นั่น!” หานหลิงเฟิงพยักหน้า
“ยอดเยี่ยม! ถ้าเป็นเช่นนั้นถึงเวลาที่หอเฉวียนจี้ต้องล่มลายแล้ว!”